บทที่ 24 เกือบเบี้ยวนัด!

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 24 เกือบเบี้ยวนัด!

บทที่ 24 เกือบเบี้ยวนัด!

ถังหว่านเคยกล่าวว่าความมีไหวพริบของโจวอี้นั้นน่าทึ่ง

“พูดถึงคน เมื่อคุณเห็นคน พูดถึงผี เมื่อคุณเห็นผี และพูดถึงหยินหยางเมื่อคุณเห็นคน แต่ไม่ใช่ผี”

หากเขาไปอยู่โลกภายนอกกับเธอ เขาคงจะหลงไปกับแสงสีเสียงจากโลกภายนอกแน่

ข้อเท็จจริงนี้พิสูจน์ว่าเธอพูดถูก

หลี่ฟางผู้เป็นเพื่อนบ้านถูกชะตากับโจวอี้มาก และเต็มใจที่จะเชิญเขาไปที่บ้าน ตอนนี้ร่างกายของชายหนุ่มเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้ง เห็นได้ชัดว่าเขาออกไปดื่มกับเพื่อน!

เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าโจวอี้ที่เพิ่งมาถึงเมืองจินหลิงได้เริ่มติดต่อและปรับตัวให้เข้ากับชีวิตภายนอกด้วยวิธีการของเขา

แต่เธอไม่ชอบ

เธอเป็นดาราที่อยู่ท่ามกลางสปอตไลต์ และต้องเปิดเผยต่อสาธารณชนเธอจึงหวังที่จะรักษาความเป็นตัวตนและความมั่นคงในชีวิตส่วนตัว เธอกลัวด้วยซ้ำว่าโจวอี้จะเผยความสัมพันธ์ของพวกเขาไปทุกที่ และกลัวว่ามันจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของลูกสาว

“คุณพูดเรื่องอะไร? ผมแค่ไปดื่มกับเพื่อน ๆ ตามปกติ ไม่ได้ไปเที่ยวสักหน่อย” โจวอี้มองถังหว่านด้วยสีหน้าเย็นชา เขาอารมณ์เสียเล็กน้อย ถังหว่านในความทรงจำของเขาไม่ใช่ผู้หญิงที่เย็นชาและดุร้ายแบบนี้

ถังหว่านได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเย้ยหยัน

“ลืมมันไปเถอะ บอกแล้วว่าไม่สำคัญหรอก ผมไปกินหม้อไฟและดื่มกับเพื่อน ๆ ผู้เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รู้ไหมว่าทำไม? นั่นก็เพราะพวกเขาทำงานที่นี่ และสามารถคุ้มครองความปลอดภัยของเราได้” โจวอี้อธิบาย

ถังหว่านได้ยินเช่นนั้นก็โล่งใจเล็กน้อย เธอกลัวจริง ๆ ว่าโจวอี้ที่เพิ่งมาสู่โลกภายนอกนี้จะแยกแยะไม่ได้ระหว่างความดีและความชั่วของผู้อื่น

สำหรับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในวิลล่า เธอชอบพวกเขามาก เพราะพวกเขาไม่เพียงสามารถคุ้มครองความปลอดภัยของเธอและลูกสาวเท่านั้น แต่ยังปกป้องความเป็นส่วนตัวของเธออีกด้วย และคอยป้องกันไม่ให้นักข่าวซุบซิบเหล่านั้นเข้ามาในบริเวณวิลล่าเพื่อแอบถ่ายรูปเธอกับลูกสาว

“ดื่มกับใครก็บอกมาสิ” ถังหว่านพ่นลมและหันหลังกลับ

“คุณ…” โจวอี้ทำท่าจะพูดอะไรต่อ ทว่าท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

แม้เขาจะไม่ชอบทัศนคติของถังหว่าน แต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้เธอยังคงไม่พอใจเขาอยู่!

ผู้ชายดี ๆ จะไม่ทะเลาะกับผู้หญิง

โจวอี้ส่ายหัวและดึงการ์ดออกมาเพื่อเปิดเข้าไปในบ้าน

“เดี๋ยว…”

ถังหว่านเดินออกมาจากประตูอีกครั้ง และพูดอย่างเย็นชาว่า “ขอเบอร์มือถือของคุณหน่อย”

โจวอี้ชะงักไปชั่วขณะ และนึกขึ้นมาได้ว่าเขาเองก็ไม่มีเบอร์มือถือของถังหว่าน

เวรแล้ว!

ฉันบอกว่าต่อจากนี้ฉันจะดูแลคนอื่น แต่ฉันไม่ได้ทิ้งข้อมูลติดต่อไว้!

ชายหนุ่มนึกอายเล็กน้อย เขารีบหยิบมือถือออกมาแล้วพูดว่า “บอกเบอร์มือถือของคุณมา แล้วผมจะโทรหาคุณ”

ถังหว่านไม่ต้องการมอบเบอร์มือถือให้โจวอี้ แต่เมื่อพิจารณาว่าพวกเขามีลูกสาวด้วยกันแล้ว เธอคงต้องบอกหมายเลขโทรศัพท์ของเธอให้กับโจวอี้

“โทรมาสิ!” ถังหว่านพูดอย่างโกรธเคืองเมื่อเห็นโจวอี้ยังคงถือโทรศัพท์มือถือไว้และไม่ยอมกดโทรออก

“แค่ก…! โทรศัพท์ผมแบตหมด!” โจวอี้เกาศีรษะด้วยความอับอาย

“งั้นก็บอกเบอร์มือถือของคุณมา!”

“ผมจำไม่ได้…”

“นี่คุณ…!”

ถังหว่านโกรธจัด เธอหันหลังกลับและจากไปทันที

โจวอี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับเข้าไปในบ้านตัวเอง และตามหาที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ

เมื่อโทรศัพท์มือถือเปิดขึ้นมาได้ เขาก็เห็นการแจ้งเตือนจากข้อความมากมาย!

หวงไห่เทา?

มันมีมากกว่าสามสิบสายที่ไม่ได้รับ และ SMS มากกว่าสิบข้อความ!

โจวอี้จำได้ว่าเขาเคยสัญญาว่าวันนี้จะไปที่คฤหาสน์ตระกูลหวงเพื่อรักษาผู้อาวุโสหวง ทว่าวันนี้เขาได้ใช้เวลาหนึ่งวันในสวนสัตว์กับลูกสาว และตอนเย็นก็ได้จัดการพวกอันธพาล ก่อนจะไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ทีมรักษาความปลอดภัย

“ตอนนี้เพิ่งสี่ทุ่ม หวังว่าคงยังไม่นอนกันนะ!”

โจวอี้หัวเราะพลางถอดสายชาร์จออก จากนั้นก็คว้าเสื้อคลุมของเขาแล้วรีบออกไปทันที และเมื่อออกจากบ้าน เขาก็โทรหาหวงไห่เทาไปด้วย

คฤหาสน์ตระกูลหวง

หวงเฉินไห่กำลังงีบหลับอยู่ในห้อง

ขณะที่ในลานบ้าน หวงไห่เทากำลังเตรียมตัวที่จะไปส่งหยางเฉิงโซและเฉินเจียนหรงด้วยสีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูก

พวกเขารอทั้งวันแต่ก็ไม่เห็นโจวอี้ ครั้งลองโทรหาก็พบว่าโจวอี้ปิดโทรศัพท์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการส่งข้อความ ไม่มีแม้แต่การตอบกลับ และพวกเขาก็นั่งรอจนรากงอก!

ติ๊ด!

โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นกะทันหัน

หวงไห่เทาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่โทรเข้ามา เขาก็ถึงกับตะลึง

เขากดปุ่มรับสายและตะโกนอย่างโกรธเคืองว่า “สนุกไหมโจวอี้?! คุณรู้ไหมว่าเรารอคุณตั้งแต่เช้า และเรารอคุณมาทั้งวัน!”

“คุณพูดแบบนี้ก็ไม่ถูก!”

“ทำไม?”

“ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”

“ห้าทุ่ม”

“ใช่! ตอนนี้เพิ่งจะห้าทุ่ม แล้วคุณพูดได้ยังไงว่ารอทั้งวัน? นอกจากนี้ ให้ผมถามคุณอีกอย่าง! วันนี้คุณหวงกินยาแผนโบราณหรือเปล่า?” โจวอี้ถาม

“กิน!”

“ดี กินยาจีนตอนเช้า แล้วการรักษาตอนกลางคืนจะได้ผลดีกว่า” โจวอี้รู้สึกผิดเล็กน้อย แต่เขาคิดว่าเขาสามารถแถกลับไปได้ จึงกล่าวว่า “บอกที่อยู่มา แล้วผมจะไปที่นั่นทันที”

“ตอนนี้?” ความโกรธของหวงไห่เทาจางลงไปมาก

“ก็ใช่น่ะสิ ผมเป็นพ่อคน และผมต้องคอยดูแลลูกสาวที่มีค่า ผมไม่ค่อยมีเวลามากพอที่จะไปรักษาคนอื่น อย่ามัวเสียเวลาเลย บอกที่อยู่มา แล้วผมจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”

“…”

หวงไห่เทาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบอกที่อยู่ของตัวเองกับโจวอี้

วันนี้เขาได้ถามหยางเฉิงโซผู้เป็นถึงปราชญ์แพทย์แผนจีน โดยหวังว่าอีกฝ่ายจะรักษาอาการป่วยของปู่เขาได้ ทว่าอีกฝ่ายบอกเขาว่าโจวอี้ได้รับปากที่จะรักษาเคสนี้แล้ว อีกฝ่ายจึงไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจการรักษาของโจวอี้ได้ และนั่นทำให้เขาหดหู่ใจ

“โจวอี้กำลังมา?” หยางเฉิงโซถามขึ้นมาทันที

“อืม!” หวงไห่เทาพยักหน้า

“งั้นก็รอ!”

หยางเฉิงโซมาจากเหยียนจิงเพื่อพบโจวอี้ เขาต้องการทราบว่าโจวอี้ได้เรียนรู้เทคนิคการฝังเข็มและมือที่สัมผัสกระดูกมาจากที่ใด

ไม่นานนัก โจวอี้ก็มาถึงคฤหาสน์ของตระกูลหวง และพบว่าทุกคนกำลังรอเขาอยู่

“คุณดื่มมาเหรอ?” หวงไห่เทาถามขึ้นทันที คิ้วของเขายับย่นเป็นปม

“ผมไม่ชอบดื่มเหล้า เพราะมือของผมจะสั่นเวลารักษาคนไข้ด้วยการฝังเข็ม” โจวอี้ได้แก้ตัวได้ไวราวกับปลาไหล

“ถ้าคุณไม่ใช่คนติดเหล้า แล้วคุณไปไหนมา?!” หวงไห่เทาไม่เชื่อ

โจวอี้รู้แล้วว่าเขาคิดผิด จึงยิ้มและไม่โต้แย้งใด ๆ จากนั้นสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หยางเฉิงโซ

เขาเคยเจอกันมาก่อน พูดให้ถูกก็คือเขาเคยเห็นรูปถ่ายของกันและกัน รูปนั้นถูกแขวนไว้ที่ผนังข้างห้องหลักซึ่งอยู่ที่ภูเขาชางหลาง

“สวัสดีครับ คุณหยาง” โจวอี้ยิ้มและกล่าวทักทาย

“คุณรู้จักผม?” หยางเฉิงโซถามด้วยความประหลาดใจ

“ผมเคยเห็นคุณตอนเด็ก ตอนนี้คุณโตขึ้นมาก” โจวอี้กล่าว

“…”

หยางเฉิงโซวได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับชะงัก คนผู้นี้มีอายุเท่าไหร่กัน ถึงได้บอกว่าเฝ้าดูเขาเติบโตขึ้นมาจนป่านนี้?

โจวอี้รู้ว่าคำพูดผิด ๆ ของตัวเองเพิ่งหลุดออกไป จึงรีบกล่าวเสริมว่า “มีรูปของคุณอยู่ที่ผนังบ้านของผม ผมจึงเคยเห็นรูปถ่ายตอนเด็กของคุณ”