บทที่ 45 เรื่องเศร้าของซ่างเปีย

คิงดราก้อน

จูเจียนเฉียงงงเป็นไก่ตาแตก โดยที่ไม่กล้าขยับเลย

ในตอนนั้นเอง เซียวหยางก้าวขึ้นมา ก่อนจะเตะ จนสุนัขทิเบตันที่หนักหลายร้อยกิโลกระเด็นไป

อิ๋งๆ ……สุนัขทิเบตันนอนร้องครวญครางอยู่ที่พื้น

ซ่างเปียอึ้งไป คนคนนี้กล้ามาทำร้ายสุนัขที่ตัวเองรัก!

เขาเองก็ไม่ได้โง่ เลยรู้ได้ทันทีว่าเซียวหยางนั้นมีของ ถึงได้เตะสุนัขทิเบตันกระเด็นไปโดยที่มีไม่กี่คนที่ได้เห็น

แต่เขาเป็นถึงหัวโจกของภาคใต้เมือง คนที่มีเรื่องกับเขานั้น เหมือนการรนหาที่ตายชัดๆ

หรือจะพูดได้ว่า พวกพ้องของเขาสิบกว่าคนนั้น กลัวไอ้คนคนนี้งั้นเหรอ

ซ่างเปียเรียกลูกน้องมารวมตัวเมื่อครู่ ก็ได้ยินเซียวหยางพูด

“คนเหล่านี้ไม่พอหรอก เอาลูกน้องคุณมาให้หมดเลยดีกว่า!”

ซ่างเปียมองเซียวหยางสักพัก ไอ้คนคนนี้ กล้าไม่เบาเลย

ซ่างเปียสะบัดมือ “ให้ตายเถอะ คุณนี่มันรนหาที่ตายเอง แล้วอย่ามาโทษว่าฉันร้ายนะ พวกพ้อง ออกมาให้หมด!”

เพียงไม่นาน ข้างๆ ยุ้งฉางกับโรงงาน ก็มีคนออกมาสิบกว่าคน

คนเหล่านี้ถือของเอาไว้ในมือทุกคน ไม่ว่าจะเป็น ท่อเหล็ก ค้อนเหล็ก หรือไม้เบสบอล คนเหล่านั้นก็เข้ามาล้อมเซียวหยางกับจูเจียนเฉียงเอาไว้

จูเจียนเฉียงกลืนน้ำลายด้วยความขมขื่น พลางมองเซียวหยางด้วยแววตาขอความช่วยเหลือ

ให้ตายเถอะ เขาเพิ่งฝึกกับเซียวหยางมาไม่กี่วันเอง ก็ต้องมาเจอเรื่องยากแล้ว เขายังไม่ได้เรียนรู้อะไรอีกมากเลย

เซียวหยางยืนอย่างมั่นใจ พลางกวาดตามองใบหน้าของทุกคนด้วยความอาฆาต

ในตอนนี้ คนที่ถือท่อเหล็ก ก่อนจะนำเข้ามาตีหัวของเซียวหยาง เพียงแต่เมื่อเขายกท่อเหล็กขึ้นมา เซียวหยางก็เตะไปเต็มแรง

คนคนนั้นถูกเตะจนกระเด็นออกไปทันที จากนั้นก็ชนชายร่างกำยำถึงจะหยุดลง

ท่อเหล็กนั้นตกอยู่ในมือของเซียวหยางทันที เซียวหยางมองสักพัก จากนั้นก็หัวเราะอย่างเย็นชา ก่อนจะปรี่เข้าไปในกลุ่มคนนั้นทันที

ร่างกายของเซียวหยาง เหมือนกับงู เพราะมันสามารถแทรกเข้าไปในกลุ่มคนเหล่านั้นได้ทันที

ท่อเหล็กผ่านไป จนมีคนที่ล้มลงที่พื้น พลางเอามือกุมหัว แล้วก็มีเลือดไหลลงมา

คนที่ถือค้อนเหล็กเอาไว้เลือกที่จะสู้กับเซียวหยาง พลางยกค้อนเหล็กตีลงไปอย่างเต็มแรง

เมื่อมีเสียงดังขึ้น ค้อนเหล็กก็ร่วงลงกับพื้น ชายร่างกำยำเลยร้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด กรามแตก จนเรือนร่างเสียความรู้สึกไปแล้ว

จากนั้น ก็ถูกเซียวหยางใช้ท่อเหล็กตีจนล้มลง

เซียวหยางใช้แรงจริงขึ้นมา ท่อเหล็กในมือ เหมือนดาบที่พร้อมฆ่าฟัน ที่เหวี่ยงไปมา รอบทิศทาง

ทั้งเจ็ดคน ถูกท่อเหล็กทำร้ายจนล้มลง ทั้งขา แขน กระดูกต่างก็หักกันหมด

จัดการเหล่านักเลงพวกนี้ เซียวหยางโยนท่อเหล็กที่เต็มไปด้วยเลือดลงพื้น ก่อนจะปัดมือ แล้วเดินไปหาซ่างเปียกับชายร่างกำยำที่ปกป้องเขาอยู่

ซ่างเปียทำอะไรไม่ถูก พลางรู้สึกหนาวเข้ากระดูก

เขาอยู่ในภาคใต้เมืองมาตั้งหลายปี เคยเจอคนที่ร้ายกาจขนาดนี้เสียเมื่อไหร่

มือดีสิบกว่าคน ถูกทำให้ล้มลงในเวลาเพียงไม่นาน แถมยังมีสุนัขทิเบตันที่ตัวเองรัก กำลังนอนอยู่ที่พื้นด้วยเหมือนกัน น้ำลายฟูมปาก โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

คนคนนี้ ร้ายมากเหลือเกิน

เมื่อเห็นเซียวหยางเดินมาหาตัวเองด้วยความอาฆาต ซ่างเปียก็รู้สึกว่าขาอ่อนลง ก่อนจะผลักคนที่อยู่รอบๆ ออกไป แล้วพูดอย่างเย็นชา

“พวกคุณยังอึ้งอะไรอยู่ เข้าไปตีมัน เร็วเข้า!”

เมื่อลูกน้องทางด้านหลังเห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตของเซียวหยาง จะกล้าเข้าไปทำร้ายได้อย่างไร ถ้าเข้าไปก็เหมือนการเอาชีวิตไปทิ้ง ดังนั้นเลยวิ่งกระเจิง

เซียวหยางไม่ให้พวกเขาในการหนีเลย เขาปรี่เข้าไปใกล้ในทันที ก่อนจะใช้พลังหมัด ก็จัดการคนเหล่านี้ได้ทันที

ตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ก็มาอยู่ตรงหน้าซ่างเปียแล้ว

ซ่างเปียตกใจเป็นอย่างมาก พลางพูดด้วยความตะกุกตะกัก

“พวกพ้อง ฉัน……ฉันผิดไปแล้ว ไว้ชีวิต……ฉันหน่อยเถอะ ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปหน่อย!”

เซียวหยางยิ้มมุมปากขึ้นมา จากนั้นความอาฆาตก็หายไปในทันที ก่อนจะหันตัวไปโบกมือพลางพูดทางด้านหลัง

“จูเจียนเฉียง ให้คุณจัดการคนคนนี้ก็แล้วกัน”

จูเจียนเฉียงยังอึ้งอยู่ตรงนั้น แววตาก็นิ่งไป

ฉากเมื่อครู่ สำหรับเขามันสะเทือนใจเป็นอย่างมาก เพราะมันเหมือนฉากในหนังฮอลิวูดเลย

เมื่อได้ยินเซียวหยางเรียกตัวเอง เขาก็มีสติกลับมา ก่อนจะรีบวิ่งไปช้าๆ

ระหว่างทางมีแต่คนที่ล้มลงอยู่บนพื้น พลางร้องโอดครวญ เอามือกุมหัว และร้องด้วยความปวดร้าว

ให้ตายเถอะ อาจารย์เท่ระเบิดเลยจริงๆ

ในตอนนี้ ความเคารพที่จูเจียนเฉียงมีต่อเซียวหยางนั้น มันมากจนบรรยายไม่ได้ มันเพิ่มขึ้นมาอย่างล้นหลามเลยทีเดียว

เขาวิ่งมาอยู่ข้างๆ เซียวหยาง ก่อนจะพูดด้วยความเคารพเป็นอย่างมาก

“อาจารย์ ส่งคนคนนี้มาให้ฉันจัดการก็ได้ คุณกลับไปพักบนรถเถอะ”

เซียวหยางพยักหน้า เอามือไพล่หลัง ก่อนจะสาวเท้าก้าวเดินไปทางประตู

เมื่อเดินมาที่หน้าประตู ยามที่เย่อหยิ่งไม่กล้าขยับเลยแม้แต่น้อย ไม้ในมือก็สั่นไหว จะโยนก็ไม่ จะไม่โยนก็ไม่ใช่

เซียวหยางไม่ได้มองเขาเลย ก่อนจะเดินกลับเข้าไปนั่งในรถอย่างสบายอารมณ์

ในตอนนั้น คนที่สามารถยืนอยู่ในสวนได้ ก็เหลือเพียงซ่างเปียที่เป็นหัวโจกของภาคใต้เมือง กับพี่เจียนเฉียงของบริษัทหยุนซู

จูเจียนเฉียงยิ้มมุมปากร้ายๆ ขึ้นมา จากนั้นก็ยื่นมือมาตบหน้าของซ่างเปีย

“ซ่างเปียใช่ไหม กล้าปล่อยหมามากัดฉัน คุณกัดต่อสิ ให้ตายเถอะ!ไอ้กระจอก กล้ามาเทียบกับฉัน ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเลยน่ะ?”

“เมื่อครู่เก่งมากไม่ใช่เหรอ ความกล้านั้นมันไปไหนหมดแล้ว?คนเมื่อครู่เป็นอาจารย์ของฉัน จากนี้ก็มองให้ออกหน่อย เข้าใจไหม?”

ซ่างเปียโตขนาดนี้แล้วแต่ยังไม่เคยถูกกดขี่ขนาดนี้เลย แต่มันจะทำอะไรได้ล่ะ

ใครให้เซียวหยางมาสนับสนุนเขาล่ะ การกระทำของคนคนนี้ เขาอีกสิบคนก็ยังเทียบเป็นศัตรูไม่ได้

ซ่างเปียเลยทำได้เพียงยอมรับว่าซวยแล้ว เลยก้มหน้า ก่อนจะพูดด้วยความไม่ยินยอม

“คุณเก่ง ฉันยอมแล้ว”

จูเจียนเฉียงเย่อหยิ่งเป็นอย่างมาก จนเกือบจะพอใจในคำตอบนี้

ขณะที่ซ่างเปียคิดว่าจะหลีกไปได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ จูเจียนเฉียงจะกำหมัด แล้วต่อยลงไป ที่เขาอย่างเต็มแรง ลงบนจมูกของเขา

“เหอะ ฉันรู้ว่าคุณไม่ยอมหรอก จะบอกคุณให้นะ ฉันจะตีจนฟันร่วงเต็มฟื้นได้เลย คุณเชื่อไหมล่ะ?”

จมูกของซ่างเปียนั้นเหมือนกับย้อมสีเลย ก่อนจะรีบพยักหน้า “ฉันเชื่อๆ !”

“นี่ยังไม่เท่าไหร่ รีบคืนเงินมา ล้านหนึ่ง ถ้าขาดไปแม้แต่นิดเดียว พี่เจียนเฉียงก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรนะ!”

ซ่างเปียด่าอยู่ในใจ ให้ตายเถอะ อวดดีเสียจนเกินขอบเขตไปหมดแล้ว

แต่ว่าก็ทำอะไรไม่ได้ คนในห้องนั้นต้องก้มหน้าลงทั้งหมด เลยทำได้เพียงไปตึกสำนักงานเพื่อโอนเงิน

เมื่อทำทุกอย่างเสร็จ จูเจียนเฉียงก็หันตัวไปมองเซียวหยางที่อยู่ในรถ

เซียวหยางพยักหน้าด้วยความเต็มใจ จูเจียนเฉียงมีความสุขจนหุบปากไม่ลง จากนั้นจึงกลับขึ้นไปบนรถ

“อาจารย์ เมื่อครู่ท่าของคุณมันเท่มากเลย จะสอนฉันเมื่อไหร่ดีล่ะ?”

เซียวหยางยิ้มเบาๆ พลางพูด “เรียนพื้นฐานให้ดีก่อนถึงจะเรียนต่อไปได้ ไม่อย่างนั้นมันก็จะทำท่าได้ แต่ใช้อะไรไม่ได้เลย”

จูเจียนเฉียงถูมือไปมา ก่อนจะพยักหน้า “แหะๆ ได้เลย ฉันจะเชื่อฟังอาจารย์”

จูเจียนเฉียงสาบานในใจ ตั้งแต่วันนี้ ไม่ว่าอาจารย์จะทำอะไร เขาก็อยากจะมีผู้นำที่ดี และทำตัวดีต่อหน้าอาจารย์