ภายใต้การปกปิดของท้องฟ้าสีดำ จั๋วฝานลอบเร้นเหมือนแมว และไปถึงสวนภายใน

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาถึงหยุด

เขาหยิบเอาแผนที่ออกมาอีกครั้ง เพ่งมองแผนที่ซ้ำแล้วซ้ำอีก”มีบางคนเปลี่ยนมัน!”

สวนภายในมีค่ายกลระดับห้า ค่ายกลป้องกันการสับเปลี่ยน มันส่งผลต่อทุกมุมของสวน

ตามคำอธิบายของแผนที่ หมู่ตึกฮัวอวี่จะเปลี่ยนการป้องกันเดือนละครั้ง มากจนแม้แต่ศิษย์ก็ยังไม่รู้อะไรมาก!

แต่ฉินไช่ชิงคือเจ้าหมู่ตึกและรู้เรื่องนี้ดี

ตอนนี้ที่เขาอยู่นี่ จั๋วฝานจึงเห็นว่ามีการสับเปลี่ยน ตำแหน่งที่เขียนไว้บนแผนที่ไม่มีอีก ตอนนี้เขาถูกบังคับให้ต้องค้นหาคลังสมบัติไปทั่วทุกที่

“บัดซบ!”

จั๋วฝานสบถขณะก้าวเดินพลางลอบปล่อยทารกโลหิตออกมา

ซวบ

ทารกโลหิตพุ่งผ่านห้องว่างเปล่าทีละห้องจนกระทั่งรู้สึกถึงพลังรุนแรง จั๋วฝานหรี่ตา[ยอดฝีมือระดับนภา!]และทำให้ทารกโลหิตหายไป

ในห้องที่มีเตียง โต๊ะกับเก้าอี้ ตะเกียงแผ่แสงสีเหลืองอ่อนบนโต๊ะ จั๋วฝานจำชายชราที่กำลังนั่งสมาธิอยู่บนเตียงได้ว่าเขาคือผู้อาวุโสแปดของเซี่ยเทียนหยาง เจี้ยนซุยเฟิง

ประตูส่งเสียงและเซี่ยเทียนหยางก็เข้ามาในสภาพเหงื่อท่วมตัว หอบหายใจขณะทรุดตัวบนเก้าอี้

เจี้ยนซุยเฟิงลืมตาและมองเซี่ยเทียนหยาง”เทียนหยาง ดึกดื่นแล้วเจ้าก็ยังฝึกหนัก อีกไม่นานเจ้าคงแซงหน้าพี่ชายของเจ้าแล้ว”

“ฮึ่ม ท่านพ่อมักบอกว่าพี่ใหญ่คืออัจฉริยะในรอบล้านปี ไม่แม้แต่ผู้บ่มเพาะระดับเซียนที่สามารถเอาชนะเขาได้ ข้าจะไปเทียบได้ไง?”

เซี่ยเทียนหยางเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้”ข้าพอใจแล้วตราบเท่าที่แซงหน้าเด็กนั่นได้”

เจี้ยนซุยเฟิงยิ้ม”เจ้าหมายถึง…สัตว์ประหลาดจั๋วฝาน?”

“ใช่!”

ดวงตาของเซี่ยเทียนหยางแสดงความเศร้า”ผู้อาวุโสแปด ความเสียใจเดียวในชีวิตข้าคืคอข้าไร้อำนาจในเมืองชิงหมิงเพราะข้าฝึกหนักไม่พอ ข้าจำต้องทิ้งหนิงเอ๋อร์ตอนที่นางต้องการข้าสุด!ข้าหวังว่าครั้งหน้าจะเป็นข้าที่ปกป้องนางได้ ไม่ใช่จั๋วฝาน!”

เจี้ยนซุยเฟิงถอนหายใจ”เทียนหยาง เจ้ามีพรสวรรค์และท่านเจ้าตำหนักก็จะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าแต่งงานกับบุตรสาวตระกูลระดับสอง’

“ข้ารู้ …”

เซี่ยเทียนหยางหัวเราะออกมา”มีเรื่องหนึ่งที่เด็กบัดซบนั่นสอนข้า และข้าก็คิดว่ามันถูก ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เจ้าไม่สามารถทำได้ ท่านเอาแต่บอกว่าโหยวกุ่ยฉีร้ายกาจแค่ไหน แต่สุดท้ายเขาก็จบลงในเงื้อมมือของจั๋วฝานไม่ใช่หรือ?ขอแค่มีพลังพอ ข้าก็จะกำหนดคู่ครองข้าได้ และท่านพ่อก็จะไม่มีวันหยุดข้าได้!”

เซี่ยเทียนหยางเดินออกห้องไป

“เทียนหยาง เจ้าจะไปไหน?”

“ฝึก!”

เซี่ยเทียนหยางตอบอย่างมุ่งมั่น”เก้ากระบวนท่าของวิชากระบี่เรา ข้าเข้าใจแค่สี่ ข้าจะฝึกกระบวนท่าที่ห้า!”

“อะไรนะ เจ้าเข้าใจกระบวนท่าที่สี่แล้ว?!”

เจี้ยนซุยเฟิงมองเซี่ยเทียนหยางเดินออกไปอย่างภาคภูมิใจ”การได้เห็นจั๋วฝานต่อสู้ต้องสร้างแรงกระตุ้นให้เขา ถ้าเขายังเอาแต่ฝึกแบบนี้ อีกไม่นานเขาคงเป็นยอดฝีมือระดับนภา ฮ่าๆๆ..”

ทารกโลหิตบินกลับ ขณะที่จั๋วฝานส่ายหัว[ไม่คิดเลยว่าเซี่ยเทียนหยางจะมองข้าเป็นคู่แข่ง ดี ด้วยพลังของเขา ข้าจะสบายใจได้เมื่อรู้ว่าเขาสามารถปกป้องหนิงเอ๋อร์ได้!]

จั๋วฝานย้ายทารกโลหิตไปห้องอื่น แต่มันเป็นแค่ห้องว่าง

จากแผนที่ คลังสมบัติมักย้ายไปใกล้กับห้องของเจ้าหมู่ตึกฮัวอวี่ มันไม่ได้อยู่ใกล้กับห้องเปล่านี้ [แต่ ห้องนางจะไปอยู่ไหนได้?]

“แม่นางตานตาน จูบข้าหน่อยสิ สักครั้งก็พอ!”

“นายน้อยหยาน ได้โปรดอย่า..”

“เพ้ย คู่หมั้นเจ้า หลินเทียนอวี่โดนเด็กนั่นทำให้พิการไปแล้ว เขาไม่สามารถทำให้เจ้ามีความสุขได้ ให้ข้าทำหน้าที่นั้นแทนมันเถอะ”

เขาพลันได้ยินสองเสียงและขยับทารกโลหิตเข้าห้อง หวังฟังเบาะแสบางอย่าง

แต่จั๋วฝานตกใจตอนทารกโลหิตเข้าไป[ข้ากระทืบเจ้าระยำนี่ไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาแทบหายดี วังราชาเม็ดยานั้นสมกับชื่อเสียจริง ถึงกับรักษาเจ้าระยำนี่ได้ในเวลาแค่สามวัน]

มีเพียงนักหลอมโอสถระดับเจ็ดถึงทำแบบนั้นได้

พอหายดี ความมักมากก็มันก็กำเริบ ตอนนี้มันอยู่บนเตียง จับมือเสี่ยวตานตานไม่ยอมปล่อย

[ฮึ่ม คู่บัดซบ พวกเจ้ามันไม่มีค่าให้ข้าเสียเวลาด้วย!]จั๋วฝานแค่นเสียง

หยานฟู่กระชากเสี่ยวตานตานขึ้นเตียงและคร่อมนาง”ฮี่ๆๆ สาวงาม คืนนี้จงอยู่กับข้าเสียเถอะ”

“ไม่!นายน้อยหยาน หญิงของหมู่ตึกฮัวอวี่จะมอบกายตัวเองให้สามีเฉพาะคืนแต่งงานเท่านั้น”

“หมู่ตึกฮัวอวี่อะไร?อีกไม่ช้ามันจะเป็นของวังราชาเม็ดยาแล้ว!”ดวงตาของหยานฟู่แสดงความโหดร้ายขณะที่มองเสี่ยวตานตานด้วยความสงสัย”หรือเจ้าปักใจกับคู่หมั้นพิการของเจ้า?”

“มะ-ไม่!”เสี่ยวตานตานกรีดร้อง

“งั้นเจ้าจะรออะไรอีก?มาเสพสุขกัน”หยานฟู่เริ่มใช้วิชามือมารรอบตัวเสี่ยวตานตานที่ไร้การป้องกัน”นายน้อยหยาน อย่านะเจ้าค่ะ!ข้าต้องไปเคารพอาจารย์ข้าทุกเย็น!”

[เคารพ?]

ไม่ใช่ว่าอาจารย์นางคือเจ้าหมู่ตึกมู่ตาน?นั่นหมายความว่าการติดตามนางจะพาเขาไปใกล้คลังสมบัติขึ้น

จั๋วฝานหยุดคิดและหัวใจก็ระเบิดความโกรธตอนเห็นหยานฟู่กำลังจะเอาเปรียบเสี่ยวตานตาน

[บัดซบ!ไสหัวไป เจ้าสารเลว!อย่าทำลายแผนข้า นางยังต้องไปเยี่ยมอาจารย์ของนาง!]

ทารกโลหิตเข้าตัวหยานฟู่ในชั่วพริบตา

หยานฟู่คลายมือที่จับกุม จากนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดท้อง ด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว เขาล้มฟุบลงกับพื้น!

เสี่ยวตานตานยังตัวสั่นแม้กระทั่งหลังเขาล้ม นางวางเขาบนเตียง คลุมตัวเขาด้วยผ้าห่ม จากนั้นก็ออกไปหลังปาดน้ำตา

บางทีอาจเพราะความกลัว นางจึงไม่ถามว่าทำไมหยานฟู่ถึงหมดสติและออกไป

จั๋วฝานแค่นเสียงขณะส่งทารกโลหิตตามนางไป

หยานฟู่เป็นคนสำคัญ เขาไม่อยากกระตุ้นความโกรธของราชาเม็ดยาอสูรเพราะเจ้าหมอนี่ ดังนั้น เขาจึงแค่ให้ทารกโลหิตดูดเลือดหยานฟู่จนทำให้เขาหมดสติไป

จั๋วฝานติดตามเสี่ยวตานตานไป ไม่ใช่ก็ถึงอาคารขนาดใหญ่ ตะเกียงหลายดวงส่องสว่างและกลิ่นหอมของผู้หญิงก็ล่องลอยไปไกลนับร้อยเมตร

ทารกโลหิตติดตามเสี่ยวตานตานที่เร่งไปเคาะประตู

จั๋วฝานตกใจและส่งทารกโลหิตเข้าไปข้างใน เขาไม่ได้พบแค่ผู้หญิง แต่ยังพบผู้ชาย

นางกล้ามากและแม้จะมีผ้าคลุมหน้าอกด้วยผ้าบาง ๆ แผ่นหลังนางก็ยังเปิดโล่ง ดวงตาสำส่อนของนางจับจ้องชายคนนั้น

เขาคือชายวัยกลางคน ด้วยสายตาที่จับจ้องหน้าอกของนางอย่างเร่าร้อน!

[นี่คือเจ็ดตระกูลใหญ่?มันดีกว่าที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นหอนางโลม ทำไมทุกที่ที่ข้าไป มันถึงลงเอยด้วยเรื่องพรรค์นี้กัน?]

จั๋วฝานส่ายหัวและถอนหายใจ แต่เขาก็ยังเป็นผู้ชายและอดถ้ำมองไม่ได้

“ผู้อาวุโสหลิน ท่านรักข้าไหม?”นางหัวเราะคิกคัก

ชายผู้นั้นผงกหัว น้ำลายไหลออกมา”ข้ารักเจ้าสุดหัวใจ มู่ตาน ข้า หลินจื่อเทียนรักเจ้าและยอมตายได้เพื่อเจ้า ข้าแค่หวังว่ามู่ตานคนนั้นจะยอมให้ข้าได้เห็นเรือนร่างแสนงดงามสักนิด!”

เขาเอื้อมมือไปที่ผ้าของนาง แต่เจ้าหมู่ตึกมุ่ตานกลับหลบ”ผู้อาวุโสหลิน ท่านต้องทำให้ข้าเป็นของท่านก่อนท่านถึงเปลื้องผ้าข้าได้!’

“ข้าจะทำให้เจ้าเป็นของข้า!’หลินจื่อเทียนโดนความมักมากเอาชนะ ราวกับเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงมาก่อนในชีวิต

เจ้าหมู่ตึกมู่ตานกลอกตา”งั้น ท่านจะยอมรับเงื่อนไขแต่งงานของข้าไหม?”

“อือ…”

หลินจื่อเทียนขมวดคิ้ว”มู่ตาน อย่าทำให้ข้าลำบากนักเลย เจ็ดตระกูลใหญ่ทั้งหมดรู้ถึงความร้ายกาจของราชาเม็ดยาอสูรดี การขอให้ข้าเผชิญหน้ากับเขาเท่ากับการเอาชีวิตข้า’

“ฮึ่ม หลินจื่อเทียน ไหนคำรักทั้งหมดที่ท่านกล่าวอ้าง?ไหนท่านบอกว่าตายเพื่อข้าได้?’

“ข้าเต็มใจตายเพื่อเจ้า ไม่ใช่ตายแบบไร้ค่า”

“ผู้ชายทั้งหมดก็ขี้โกหกเหมือนกัน ไสหัวไป!”ความโกรธของเจ้าหมู่ตึกมู่ตานทะยานและนางก็คำรามด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น

หลินจื่อเทียนส่ายหัว ค่อย ๆ ออกไป ตอนเขาไปถึงประตู เขาถอนหายใจ”มู่ตาน ข้ารู้สถานการณ์ของหมู่ตึกฮัวอวี่ดี และรู้ว่าเจ้าคิดอะไร แต่หมู่ตึกฮัวอวี่นั้นไร้ความหวัง ไม่มีใครเต็มใจตอแยวังราชาเม็ดยาเพื่อเจ้า ถ้าเจาไม่มีที่ปลอดภัยให้หัน จงมาหาข้าที่ป่าไขว่ฮัว”

หลินจื่อเทียนออกไป ทั้งเจ้าหมู่ตึกมู่ตานให้นั่งน้ำตาไหลริน