ตอนที่ 48 พี่จะอยู่ตรงนี้เสมอ
ตอนที่ 48 พี่จะอยู่ตรงนี้เสมอ
สิ้นเสียง หลินเซี่ยดึงแขนหลินเยี่ยน และทั้งสามคนกำลังจะออกไป
“เดี๋ยวก่อน” แน่นอนว่าเถ้าแก่ร่างท้วมรีบหยุดพวกเขาด้วยความตื่นตระหนก
เขาบอกได้ว่าชายเพิ่งเข้ามาไม่ใช่คนใจกว้าง ด้วยความน่าเกรงขามของอีกฝ่าย มีเพียงไม่กี่คนในเทศมณฑลที่สามารถมีรัศมีเช่นนี้
ตัวตนของเขาจะต้องไม่ธรรมดา
เขาฝืนยิ้มและพยายามเกลี้ยกล่อม “หลินเยี่ยนทำงานในร้านของผมมาหลายเดือนแล้ว ไม่เห็นต้องทำให้กลายเป็นเรื่องยุ่งยากเลย ผมดุหล่อนก็เพื่อที่หล่อนจะได้ไม่ทำพลาดอีก และเราจะไม่หักค่าอาหารของลูกค้าจากเงินค่าจ้างของหล่อนแล้ว ทำเหมือนว่าเรื่องวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเถอะนะ ทำงานให้ดีต่อไป แล้วเราจะจ่ายค่าจ้างให้ในวันที่ยี่สิบเก้า”
หลินเซี่ยตัดสินใจแทนหลินเยี่ยนทันที “ไม่จำเป็นค่ะ หล่อนจะไม่ทำงานที่นี่อีกแล้ว”
“สาวน้อย เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นความผิดของผมเอง ผมใจร้อนเกินไปหน่อย อย่าทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยนะ ถ้าหลินเยี่ยนไม่อยากทำงานที่นี่อีกแล้ว ผมจะให้ค่าจ้างหล่อนตอนนี้และไม่รั้งหล่อนไว้ ร้านอาหารเล็ก ๆ ของผมไม่ได้ขายดี และคงมีเงินค่าจ้างให้หลินเยี่ยนไม่มาก อย่ารายงานถึงกระทรวงแรงงานเลยนะ”
“ถ้างั้นคุณต้องขอโทษน้องสาวฉันก่อน” แน่นอนว่าหลินเซี่ยไม่ได้วางแผนที่จะไปกระทรวงแรงงานจริง ๆ
เถ้าแก่ร่างท้วมมองชายร่างสูงทรงพลังและหญิงสาวที่ดุร้ายตรงหน้า เขาทำได้เพียงต้องทำตามที่อีกฝ่ายบอก “หลินเยี่ยน ขอโทษ ฉันอารมณ์ร้อนไปหน่อย อย่าถือโทษกันเลยนะ”
“จ่ายค่าจ้างมาด้วยค่ะ” หลินเซี่ยแบมือให้เถ้าแก่
เถ้าแก่ร่างท้วมยังคงปฏิเสธที่จะยอมแพ้ เขามองหลินเยี่ยนและพูดว่า “เราจะได้พักยาวอีกไม่กี่วัน สองวันนี้เป็นช่วงที่มีลูกค้าแน่นร้าน และเราก็ขาดแคลนคน ทำไมหล่อนไม่อยู่ทำต่ออีกสักหน่อยล่ะ”
หลินเยี่ยนไม่สามารถตัดสินอะไรได้ แต่หลินเซี่ยตั้งใจแน่วแน่แล้ว “ลาออกแล้ว ก็แค่จ่ายเงินค่าจ้างมาค่ะ”
หลินเยี่ยนก้มศีรษะลงและคว้าเสื้อของอีกฝ่ายพลางกล่าวเสียงเบา “ทำไมไม่ให้ฉันทำต่อล่ะ ถ้ากลับไปตอนนี้ คุณย่าต้องดุฉันแน่ ๆ”
หลินเซี่ยจ้องมองด้วยความโกรธ “แล้วจะกลัวย่าไปทำไม? พี่อยู่นี่แล้ว ไม่ต้องห่วงนะ ดูมือของตัวเองสิ บวมเป่งหนักขนาดนี้ เธอทนทุกข์ทรมานอยู่ที่นี่มานานแล้ว หยุดทำเถอะ แล้วกลับบ้านไปพักผ่อน”
หลินเซี่ยรู้สึกเจ็บปวดหัวใจเมื่อเห็นมือของหลินเยี่ยนที่ถูกน้ำแข็งกัดและมีบาดแผลเต็มไปหมด
เธอยืนยันให้หลินเยี่ยนลาออก และบอกว่าเธอจะสนับสนุนเอง หลินเยี่ยนจึงมีความกล้ามากขึ้นและพยักหน้ารับ
“ปกติได้รับค่าจ้างเท่าไหร่? อย่าให้เขาเอาเปรียบจ่ายน้อยลงนะ”
หลินเยี่ยนตอบ “วันละหนึ่งหยวนห้าเหมา เดือนละสี่สิบห้าหยวน แต่ยังเหลืออีกสามวันกว่าจะครบเดือน”
หลินเซี่ยจับมือหลินเยี่ยนและจ้องมองเถ้าแก่ตาเขม็ง “จ่ายมาเร็วเข้าค่ะ อย่าลีลานักเลย”
เถ้าแก่ร่างท้วมเดินไปยังโต๊ะเก็บเงินอย่างช่วยไม่ได้
“ฉันจะจ่ายให้สี่สิบห้าหยวน คิดเสียว่าทำเต็มเดือน”
เถ้าแก่ร่างท้วมกลัวว่าหลินเซี่ยและเฉินเจียเหอจะไปพบกับน้าเขยของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงเพิ่มเงินค่าจ้างให้ครบเดือนเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะ
หลินเยี่ยนรับเงินมาและนำเก็บลงกระเป๋า
“หอพักอยู่ไหน ไปเก็บข้าวของซะ”
หลินเซี่ยอยู่ด้านข้างเพื่อปกป้องอีกฝ่ายพลางถามว่า “กล้ากลับไปคนเดียวหรือเปล่า? อยากให้พี่ไปด้วยไหม?”
“ฉันไปเองได้ค่ะ พี่เก็บเงินไว้ให้ฉันหน่อย” หลินเยี่ยนกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันหากเงินอยู่กับตัว หล่อนจึงส่งให้หลินเซี่ย
“งั้นพี่จะกลับไปร้านตัดผมก่อน ถ้าเก็บของเสร็จแล้วก็มาหาพี่ที่ร้าน”
“ค่ะ”
หลินเซี่ยกลับมาทำงานในร้านตัดผม ข้าวของที่เฉินเจียเหอซื้อมาถูกนำมาวางไว้ในร้าน
เขาเข้ามานั่งในร้านอีกครั้งและรอเธอเลิกงาน
หลินเยี่ยนเดินกลับเข้ามาพร้อมผ้าปูที่นอนบนหลัง ก่อนที่เฉินเจียเหอจะช่วยถือให้
“เอาล่ะ เราไปกินข้าวกันก่อนเถอะ”
เฉินเจียเหอพาพวกเขาไปกินบะหมี่ผักที่แผงลอยขายอาหารริมทาง
เห็นได้ชัดว่าร้านตัดผมวันนี้มีลูกค้าน้อยมาก เถ้าแก่เนี้ยจึงดูแลลูกค้าได้ทั่วถึง หลินเซี่ยจำคำพูดของเฉินเจียเหอที่บอกว่าจะพาไปโรงอาบน้ำ เธอจึงนำเสื้อผ้ามาเปลี่ยนด้วย
เฉินเจียเหอบอกตำแหน่งของโรงอาบน้ำให้เธอฟัง
เธอกับหลินเยี่ยนจึงไปโรงอาบน้ำด้วยกัน
เธอถามเฉินเจียเหอว่าเขาจะไปด้วยกันไหม แต่เฉินเจียเหอบอกว่าเขาอาบน้ำที่บ้านน้าชายแล้ว
น้าสะใภ้ไม่อยู่บ้าน และน้าชายต้องทำงานกะกลางคืนในวันนี้ ตอนที่ไปพักผ่อนที่บ้านน้าชาย เฉินเจียเหอจึงถือโอกาสอาบน้ำที่นั่น
แม้ว่าโรงอาบน้ำในเทศมณฑลจะเรียบง่ายและไม่มีความเป็นส่วนตัว แต่ก็มีท่อน้ำร้อนเพียงพอที่จะชำระล้างร่างกายได้อย่างราบรื่น
ผมของหลินเยี่ยนยาวมาก ทั้งยังแห้งกรอบและแตกปลาย
หลินเซี่ยมองดูอีกฝ่ายซักผ้าด้วยความยากลำบาก
หลังออกจากโรงอาบน้ำ หลินเซี่ยก็พูดขึ้นว่า “เสี่ยวเยี่ยน ให้พี่ตัดผมให้นะ เพื่อเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ”
“หือ? ตัดผม?”
“เธอเลิกมัดผมได้แล้ว ใบหน้าของเธอเหมาะกับผมสั้นมากกว่า มัดผมแบบนี้มันดูเชยไปหน่อย”
สิ่งสำคัญคือสุขภาพผมของหล่อนไม่ดีเลย ไม่เพียงหวีได้ยากเท่านั้น แต่มันยังส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมดูแย่
หล่อนมักจะไว้ผมหางม้าต่ำ เดินหลังค่อม และสวมเสื้อผ้าเชย ๆ เมื่อมองจากด้านหลังก็ดูเหมือนผู้หญิงที่แต่งงานมีลูกแล้ว และไร้ซึ่งความรู้สึกอ่อนเยาว์โดยสิ้นเชิง
หลินเซี่ยเห็นหล่อนนิ่งไปจึงถามว่า “จะตัดไหม?”
“ตัดก็ได้ค่ะ”
ได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงการเปลี่ยนทรงผม หลินเยี่ยนจึงรู้สึกอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเหมือนกัน
ปกติหล่อนทำงานในร้านอาหาร และมักจะเห็นหญิงสาวแต่งตัวสวยออกจากร้านตัดผมฝั่งตรงข้ามเสมอ แต่หล่อนแทบไม่ได้ตัดผมตัวเองด้วยซ้ำ เพราะคุณย่าบอกว่าหล่อนสามารถขายผมได้ หล่อนจึงรอให้มันยาวก่อนจึงจะตัดมัน
ใกล้ถึงปีใหม่แล้ว หลินเยี่ยนอยากดูดีเช่นกัน แต่ก็ลังเลเมื่อคิดว่าอาจถูกคุณย่าดุ
หล่อนกระซิบบอกหลินเซี่ย “พี่ ถ้างั้นตัดให้ถึงโคนผมเลยนะ”
หลินเซี่ยเผยยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกว่าพี่
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความประทับใจของหลินเยี่ยนที่มีต่อหลินเซี่ยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และหล่อนก็พยายามเชื่อใจอีกฝ่ายให้มากขึ้น
“ทำไมต้องตัดถึงโคนผมล่ะ? สั้นเกินไปก็ดูไม่ดีนะ”
หลินเยี่ยนพูดอย่างจริงจังว่า “มันจะได้ไม่สูญเปล่าไง ผมที่ตัดออกมาเอาไปขายเป็นเงินได้”
หลินเซี่ยรู้สึกกังวลเล็กน้อยหลังจากรับฟัง เธอจับมือเด็กสาวพลางยิ้มบาง “เสี่ยวเยี่ยน ผมของเธอขายไม่ได้ราคาหรอกนะ เดี๋ยวพี่ช่วยเรื่องเงินในอนาคตเอง”
“ก็คุณย่าบอกมาแบบนี้” หลินเยี่ยนอธิบายด้วยความเขินอาย
รับฟังสิ่งนี้ หลินเซี่ยก็โกรธมากและพูดอย่างดุเดือดว่า “เธอกับแม่ยืนหยัดเพื่อตัวเองกว่านี้ไม่ได้เหรอ? ทำไมถึงต้องกลัวคุณย่าขนาดนั้นด้วย?”
หลินเยี่ยนก้มศีรษะลง
หลินเซี่ยถอนหายใจและกระซิบถาม “ทั้งสองคนยอมจำนนแบบนี้มาหลายปีแล้วเหรอ?”
หลินเยี่ยนตอบกลับคำเบา “ตั้งแต่ที่พ่อจากไป พี่ชายคนโตก็หายไปไหนไม่รู้ คุณย่าและอารองจึงเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้ายในครอบครัว”
หลินเซี่ยรู้สึกทุกข์ใจ คุณพ่อผู้เป็นเสาหลักได้จากไปแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเด็กกำพร้าและหญิงม่าย
ทั้งยังไม่รู้ด้วยว่าหลินจินซานอยู่ที่ไหน
เธอกอดหลินเยี่ยนและลูบศีรษะอีกฝ่ายแผ่วเบา “พี่จะอยู่ตรงนี้เสมอนะ”
คำพูดของหลินเซี่ยคล้ายกับมีพลังในการปลอบประโลมใจ ทำให้หลินเยี่ยนพลันกลับมามีความหวังที่จะใช้ชีวิตในอนาคตอีกครั้ง
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ขอให้ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีนะหลินเยี่ยน ตอนนี้มีพี่สาวคอยช่วยเหลือแล้ว
ไหหม่า(海馬)