ตอนที่ 61 หลับใหลในอ้อมกอดของกันและกัน

ในเวลานั้น เย่เข่อเอ๋อเองก็กำลังนอนหลับอยู่บนหมอนสีชมพูใบใหญ่ ใบหน้าของเธอแดงก่ำคล้ายกับคนเมา และเวลานี้แม้ผิวหนังทั่วทั้งร่าง ก็ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มไปแล้วเช่นกัน

ศรีษะที่มีผมสีดำขลับสยายอยู่นั้น กำลังสะบัดไปมาอยู่บนหมอนใบใหญ่ เผยให้เห็นดวงหน้าที่งดงามอย่างไร้ที่ติ

เย่เข่อเอ๋อช่างเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้างดงามยิ่งนัก เป็นความงดงามที่แฝงไว้ซึ่งความน่ารัก ซุกซุน และไร้เดียงสา สมกับวัยที่อ่อนเยาว์ของเธอ

ส่วนเย่ชิงเฉิงผู้เป็นพี่สาวนั้น ก็งดงามประหนึ่งเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ และเป็นความงดงามที่ทำให้ผู้พบเห็นไม่กล้าอาจเอื้อม

ในขณะที่เย่เข่อเอ๋อนั้นเหมือนดอกไม้ไฟ ที่ทำให้โลกใบนี้สวยงามมากยิ่งขึ้น แต่น่าเสียดายที่หญิงสาวช่างเจรจามากเกินไปในความคิดของหลินหนาน..

เขาจ้องมองเย่เข่อเอ๋อที่กำลังนอนหลับไหล ประหนึ่งปีศาจน้อยที่หมดฤทธิ์เดช ขนตายาวคู่นั้นขยับขึ้นลงดูขี้เล่น และน่ารักอย่างมาก

แต่ทันทีที่หลินหนานเอื้อมมือออกไปสัมผัสกับข้อมือของเย่เข่อเอ๋อนั้น เขาก็สัมผัสได้ถึงไอร้อนที่พวยพุ่งออกมาจากร่างของเธอ เวลานี้ร่างกายของเย่เข่อเอ๋อไม่ต่างจากภูเขาไฟเร่าร้อน!

หลังจากที่หลินหนานสัมผัสร่างกายของเธอ เย่เข่อเอ๋อก็ดิ้นกระสับกระส่ายไปมาอยู่บนเตียง..

“เฮ้อ.. มัวแต่วุ่นอยู่กับตาแก่หัวดื้อนั่น ป่านนี้พิษคงจะซึมเข้าไปถึงเส้นประสาทแล้วสินะ!” หลินหนานพึมพำออกมาด้วยความรู้สึกกังวลใจ

หากไม่ใช่เพราะพ่อบ้านฉู่มัวแต่ขัดขวางเขาเช่นนี้ พิษคงจะไม่แพร่กระจายไปได้มากมายขนาดนี้แน่!

การที่ร่างกายของมนุษย์ได้รับสารเสพติดที่มีฤทธิ์รุนแรงเข้าไปเป็นจำนวนมากนั้น จะส่งผลต่อจิตวิญญาณที่รุนแรงมาก และหากสารเสพติดแพร่กระจายเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลางเมื่อใด จะทำให้คนผู้นั้นสูญสิ้นการควบคุมร่างกายได้ในทันที

พูดง่ายๆก็คือว่า.. คนผู้นั้นจะกลายเป็นตุ๊กตาที่สูญเสียการคิดไคร่ครวญ และจะทำทุกอย่างไปตามแรงปรารถนากับสัญชาติญาณเท่านั้น!

หลินหนานยังจำได้ว่า ครั้งหนึ่งภารกิจพิเศษที่หน่วยมังกรซ่อนกายของเขาได้รับมอบหมายให้ไปทำนั้น ก็เกี่ยวข้องกับเรื่องยาพวกนี้เช่นกัน..

องค์กรปีศาจในประเทศเล็กๆแห่งหนึ่งของสหภาพยุโรป (EU) ก็ได้เคยใช้สารเสพติดที่มีฤทธิ์ต่อประสาทคล้ายๆกันนี้ ควบคุมสมาชิกในองค์กรของตนเอง

หากผู้ใดได้สูดดมเข้าไป ก็จะกลายเป็นคนคลุ้มคลั่งและขี้หงุดหงิด แต่จะส่งผลดีมากต่อสภาพร่างกาย ส่วนจิตใจนั้นก็จะค่อยๆสูญเสียการควบคุมไป

หัวหน้าขององค์กรปีศาจนี้ จะทำการสั่งงานด้วยการย้ำคำสั่งซ้ำๆลงไปในใจของผู้เสพยา เพื่อเปลี่ยนคนธรรมดาทั่วไปให้กลายเป็นเครื่องมือสังหาร แม้กระทั่งสั่งให้คนผู้นั้นฆ่าตัวตายด้วยก็ได้

และด้วยวิธีการที่ชั่วช้าสามานย์นี้ องค์การปีศาจได้สร้างปัญหามากมายให้กับประเทศเล็กๆนั้น และยังสร้างความหวาดระแวงให้กับชาวบ้านทั่วไปอีกด้วย

จนกระทั่งถึงตอนนี้ หลินหนานยังคงจดจดโศกนาฏกรรมในการต่อสู้ครั้งนั้นได้ไม่ลืม และสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวก็ไม่ใช่อำนาจอิทธิพลของอีกฝ่าย แต่เป็นเครื่องมือมนุษย์ขององค์กรนี้ต่างหาก

คนเหล่านี้ถูกควบคุมจิตวิญญาณด้วยสารเสพติด จนแทบจะเรียกว่ามนุษย์ไม่ได้ แต่เรียกว่าซอมบี้น่าจะใกล้เคียงกว่า เพราะคนเหล่านี้ไร้ซึ่งความรู้สึก พวกเขาจะไม่เจ็บปวดแม้ร่างกายจะถูกทำร้าย ต่อให้หักแขนหรือขา พวกเขาก็พร้อมที่จะกระโดดเข้ากัดหรือทำร้ายผู้คน ขอเพียงยังมีลมหายใจ

แต่แน่นอนว่า ‘ซอมบี้’ กลุ่มนี้แทบไม่มีความหมายเมื่ออยู่ต่อหน้าหน่วยมังกรซ่อนกาย เพราะหน่วยนี้ล้วนแล้วแต่เป็นทีมทหารรับจ้างที่มีความสามารถด้านการต่อสู้สูง และมีอาวุธครบครัน!

ครั้งนั้น สมาชิกในหน่วยมังกรซ่อนกาย ต้องทำการต่อสู้ไม่ต่างจากการต่อสู้กับเหล่าอสูรกายในเกม ซึ่งต้องต่อสู้กันไปด่านแล้วด่านเล่ากว่าที่จะเจอตัวบอส และปรากฏว่า หัวหน้าขององค์กรปีศาจนี้ กลับเป็นเพียงแค่ชายร่างแคระ แต่มีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนายามากนั่นเอง

และครั้งนั้น หน่วยมังกรซ่อนกายของเขาก็ได้รับเงินค่าจ้างเป็นจำนวนมากมาย!

แม้ว่ายาที่เย่เข่อเอ๋อได้รับเข้าไปในร่างกายเวลานี้จะแตกต่างจากยาพวกนั้น แต่ก็มีฤทธิ์คล้ายกัน เพราะพัฒนามาจากยาชนิดเดียวกัน

หลินหนานไม่มียาแก้พิษ มีเพียงแค่เข็มเงินเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกลำบากใจ!

ด้วยวิชาเก้าเข็มเปิดนภาที่หลินหนานร่ำเรียนมานั้น แน่นอนว่าย่อมมีวิธีที่จะฝังเข็มเพื่อขจัดพิษในร่างกายมนุษย์ได้

แต่หากจะให้การฝังเข็มขจัดพิษได้ผลดียิ่งขึ้นนั้น ก็จะต้องใช้การฝังเข็มร่วมกับเทียนชี่ภายในร่างกายของหลินหนาน จะทำให้ผลที่ได้ดีขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า

เพียงแต่ว่า.. วันนี้หลินหนานได้ใช้พลังปราณภายในร่างไปมากมายแล้ว!

เริ่มตั้งแต่มีเรื่องกับอันธพาลที่ถนนหวู่หลงตั้งแต่เช้า จัดการกับลูกหนี้ในตอนบ่าย ตอนเย็นยังมีเรื่องกับอีกหลายคนในโกลเดนพาเลซคลับ มิหนำซ้ำวันนี้เขายังได้ใช้พลังปราณมากมายไปกับการรักษาชายชราที่ป่วยสาหัสอีก..

และเวลานี้.. จุดตันเถียนของหลินหนานก็เหลือพลังชี่อยู่อีกไม่มากนัก และหากฝืนที่จะใช้ต่อไป ย่อมไม่เป็นผลดีต่อตัวเขามากนัก!

“เฮ้อ!! ใครให้เธอเป็นน้องเมียของฉันล่ะ!”

หลินหนานได้แต่บ่นพึมพำออกมา แต่ก็ตัดสินใจหยิบเข็มเงินออกมาถือไว้ทันที

ฉึก..

ฉึก..

ฉึก..

เข็มเงินหลายเล่มถูกปักไปที่จุดฝังเข็มสำหรับขจัดพิษบนร่างของเย่เข่อเอ๋อ จากนั้นหลินหนานก็ได้แนบฝ่ามือของตนลงไปบนท้องน้อยของเธอ ก่อนจะเดินลมปราณในร่างของตนถ่ายเทลงไปยังร่างของเย่เข่อเอ๋อ พลังปราณเป็นประกายประหนึ่งเส้นไหม ค่อยๆไหลจากร่างของหลินหนาน ผ่านฝ่ามือของเขาเข้าสู่ร่างของเย่เข่อเอ๋อในทันที

ภายใต้การควบคุมของหลินหนาน พลังชี่ลี้ลับอบอุ่นค่อยๆ เคลื่อนไปตามเส้นลมปราณภายในร่างของเย่เข่อเอ๋อ และค่อยๆขับพิษภายในออกสู่ผิวหนัง

กระบวนการขับพิษในครั้งนี้ นับเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ของหลินหนาน และเวลานี้ใบหน้าของเขาก็เริ่มซีดเผือด และเหงื่อก็ไหลท่วมตัว..

หลินหนานรู้ว่าเวลานี้พลังปราณภายในร่างของเขาใกล้จะเหือดแห้งแล้ว แต่เนื่องจากการขับพิษกำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ หากเขาหยุดในตอนนี้ พิษทั้งหมดก็จะไหลกลับเข้าสู่ร่างของเย่เข่อเอ๋อ และหากเป็นเช่นนั้น ย่อมต้องเป็นอันตรายต่อร่างกายของเธออย่างมาก

เรียกได้ว่า.. ลูกธนูที่ง้างแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องยิงออกไป!

“อ๊าก…”

หลินหนานร้องคำรามออกมา และพยายามที่จะรีดเค้นพลังปราณทั้งหมดในจุดตันเถียนออกมา และในที่สุดแสงสว่างสีขาวของพลังปราณเฮือกสุดท้าย ก็ไหลเข้าสู่ร่างของเย่เข่อเอ๋อ จากนั้น หลินหนานจึงรีบดึงเข็มเงินออกจากร่างของเธออย่างรวดเร็ว..

จากนั้น หลินหนานก็รีบจับร่างของเย่เข่อเอ๋นั่งคว่ำหน้า และมีเลือดสีม่วงคล้ำไหลออกมา จนกระทั่งเห็นว่าเลือดได้เปลี่ยนเป็นสีแดงเช่นเดียวกับเลือดปกติแล้ว เขาจึงได้ทำการสกัดจุดห้ามเลือดในร่างกายให้หยุดไหล

หลังจากนั้น หลินหนานก็ได้ใช้ผ้าขนหนูในอ่างที่พ่อบ้านฉู่ยกมา ค่อยๆเช็ดทำความสะอาดร่างกายให้กับเย่เข่อเอ๋อ

เวลานี้พิษในร่างของเย่เข่อเอ๋อได้ถูกขับออกจนหมดแล้ว และตอนนี้เธอก็อยู่ในสภาพหลับไหล และหลับลึก อุณหภูมิภายในร่างกายเริ่มกลับเป็นปกติ แม้แต่ผิวหนังที่เคยเป็นสีแดงเข้ม ก็ค่อยๆจางลงไปเรื่อยๆ

หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้ว สภาพของหลินหนานเวลานี้ก็ไม่ต่างจากวัวที่กำลังหอบ และเปียกโชกราวกับปลาที่เพิ่งหนีน้ำมา

และเมื่อหลินหนานลุกขึ้นยืนเพื่อยืดเส้นยืดสาย เขาก็เริ่มรู้สึกวิงเวียนศรีษะ และหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม

จากนั้น หลินหนานก็รู้สึกว่าจู่ๆ ภาพที่เห็นก็มืดสนิท ก่อนจะเป็นลมหมดสติ และล้มลงไปนอนอยู่บนเตียงข้างกายเย่เข่อเอ๋อ..

สภาพของคนทั้งคู่เวลานี้ อยู่ใกล้ชิดกันมากจนดูราวกับว่ากำลังนอนกอดกัน และหลับไหลไปด้วยกัน!

……

หลังจากนั้นราวหนึ่งชั่วโมง รถเฟอรารี่สีแดงก็ขับมาจอดอยู่หน้าคฤหาสน์ตระกูลเย่..

เย่ชิงเฉิงที่เหนื่อยจากการทำงานหนัก ต้องลงมาเปิดประตู และขับรถเข้าไปในบ้านเอง เดิมทีเธอตั้งใจว่าคืนนี้จะนอนที่บริษัท แต่เพราะพรุ่งนี้มีประชุมสำคัญแต่เช้า เธอจึงตัดสินใจกลับมานอนที่บ้านแทน..

แต่เมื่อเย่ชิงเฉิงก้าวลงมาจากรถ เธอก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เพราะปกติพ่อบ้านฉู่จะต้องมารอเปิดประตูให้เธอเสมอ

“วันนี้ลุงฉู่หายไปไหน?”

และด้วยความสงสัย เย่ชิงเฉิงจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที!
******

ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ

เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า

เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า

หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในผืนพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล

หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จำต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับ สังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย

แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!