ตอนที่ 36 ติดคุก

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

“ว่าอย่างไรนะ!” ฉินเต๋อเจานึกว่าตัวเองเมาจนฟังผิดไป “จิงจ้าวอิ่นเจ้าบ้าไปแล้วหรืออย่างไร อยู่ดีๆ ถึงกล้าบุกมาจับตัวฮูหยินโหวซึ่งมีบรรดาศักดิ์ที่จวนจงหย่งโหวของข้าเช่นนี้!”

“ศพของสาวใช้ติดตามทั้งห้าของนายหญิงใหญ่ที่โดนฮูหยินขายไปถูกพบที่ป่าช้านอกเมืองขอรับ พ่อแม่ของสาวใช้พวกนั้นยืนยันและรับศพไปแล้ว จิงจ้าวอิ่นจึงส่งคนมาจับตัวฮูหยินที่จวนโหวขอรับ พวกบ่าวกำลังตามหาท่านโหวให้ทั่วรอให้ท่านโหวกลับไปตัดสินขอรับ!” ผู้ติดตามทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

ฉินเต๋อเจาที่กำลังเมามายตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน แววตาคมกริบตวาดอย่างโมโห “ก็แค่ฆ่าบ่าวรับใช้ตายไปไม่กี่คน จิงจ้าวอิ่นเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไรถึงคิดจะเป็นศัตรูกับข้า”

“ไม่ใช่ขอรับท่านโหว สาวใช้พวกนั้นถูกยกเลิกฐานะทาสกลายเป็นชาวบ้านธรรมดาแล้วขอรับ ฮูหยินโดนข้อหาฆ่าคนตาย จิงจ้าวอิ่นจึงจะมาจับตัวไปขอรับ! ท่านโหวรีบกลับไปที่จวนเถิดขอรับ!” ผู้ติดตามเหงื่อซึมแทบจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว

ฉินเต๋อเจาสร่างเมาไปเกือบครึ่ง จวนเจิ้นกั๋วกงเป็นบ้าอันใด สาวใช้ติดตามเป็นชาวบ้านธรรมดาเนี่ยนะ ฉินเต๋อเจาอยู่มาครึ่งชีวิตแล้วแต่ก็ไม่เคยได้ยินว่าสาวใช้ติดตามตระกูลไหนเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาเลย!

“กลับจวน!”

ผู้ติดตามรีบคว้าเสื้อคลุมขนหนูสีเทามาคลุมให้ฉินเต๋อเจาจากนั้นประคองเขาลงไปด้านล่าง

ออกมาจากโรงเหล้า ฉินเต๋อเจาเตรียมจะก้าวขึ้นรถม้า ก็เห็นรถม้าของซือหม่าเยี่ยน ญาติผู้พี่ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ตรวจการราชสำนักจอดอยู่หน้ารถม้าของตน ซื่อหม่าเยี่ยนแหวกม่านมองดูฉินเต๋อเจา

ฉินเต๋อเจารีบคาราวะ “ญาติผู้พี่…”

สีหน้าของซือหม่าเยี่ยนไม่สบอารมณ์นัก “คดีฆ่าคนตายที่ฮูหยินมีส่วนเกี่ยวข้องส่งมาถึงสำนักตรวจการตั้งแต่ครึ่งชั่วยามก่อน เต๋อเจายังมีอารมณ์มานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นี่อีกหรือ”

ฉินเต๋าเจาขนลุกซู่ ยืดตัวตรงในทันที “เต๋อเจากำลังจะกลับจวนขอรับ!”

“ตอนนี้ฮ่องเต้ไม่พอพระทัยในตระกูลขุนนางสูงศักดิ์อยู่แล้ว เต๋อเจาฟังคำข้าหน่อยเถิด ให้ฮูหยินโหวรีบตามคนของจวนว่าการจิงจ้าวอิ่นไปให้คำสารภาพกับทางการ จงอย่าได้ใช้บารมีของจวนจงหย่งโหวต่อต้านจิงจ้าวอิ่นเด็ดขาด! ตอนนี้เรื่องที่แม่เลี้ยง และลูกชายของจวนโหวไม่ลงรอยกันแพร่สะพัดไปทั่วแล้ว ลูกของภรรยาเอกอย่างฉินหล่างขอสละตำแหน่งซื่อจื่อจนได้รับคำชมเชยจากฮ่องเต้ ไม่แน่ฮ่องเต้อาจส่งคนไปตรวจสอบเรื่องจวนของเจ้าด้วยตัวเอง ถ้าถึงตอนนั้น…ฮ่องเต้อาจยึดตำแหน่งโหวของเจ้าคืนก็เป็นได้! จงจำไว้…”

ลมหนาวพัดผ่าน ฉินเต๋อเจาเย็นเยือกไปทั้งร่าง

“ขอบพระคุณญาติผู้พี่ที่กล่าวเตือนขอรับ!” ท่าทีของฉินเต๋อเจานอบน้อมเป็นอย่างมาก

ซือหม่าเยี่ยนถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองไปทางฉินเต๋อเจาพลางส่ายศีรษะ “ใกล้สิ้นปีแล้ว บอกให้ฮูหยินโหวสงบเสงี่ยมหน่อย อย่าหาเรื่องวุ่นวายมาให้เจ้า!”

กล่าวจบ ซือหม่าเยี่ยน ผู้ช่วยผู้ตรวจการราชสำนักก็ลดม่านลง ส่งให้คนบังคับม้าขี่ม้ากลับจวน

ฉินเต๋อเจารีบสั่งให้คนรถกลับจวนทันที

ตั้งแต่ที่เจี่ยงซื่อปล่อยให้บุตรสาวทำร้ายไป๋จิ่นซิ่วที่เพิ่งแต่งเข้าจวนจงหย่งโหว จวนจงหย่งโหวก็เหมือนจะเจอแต่เรื่องไม่ดี ตอนนี้ฉินเต๋อเจาเริ่มโกรธแค้นเจี่ยงซื่อแล้ว

หน้าจวนจงหย่งโหวรายล้อมไปด้วยชาวบ้านที่มาดูเรื่องคึกครื้น และคนของจวนว่าการจิงจ้าวอิ่น ประตูจวนปิดสนิท

ฉินเต๋อเจาต้องการหลบหลีกคนพวกนั้นจึงสั่งให้คนจอดรถม้าที่ตรงมุมประตู เขาเดินหน้าตึงเข้าไปในจวน พอเข้าไปก็ได้ยินเสียงตบตีด่าทอบ่าวใช้ว่าไม่ได้เรื่องของเจี่ยงซื่อดังมาจากในห้อง เส้นเลือดของเขาปูดขึ้น ถลกชายชุดเดินเข้าไปด้านใน

“ท่านโหว…”

อู๋หมัวมัวเห็นฉินเต๋อเจาเดินเข้ามาก็รีบย่อกายทำความเคารพ

ฉินเต๋อเจาถลาเข้าไปยึดหวายที่เจี่ยงซื่อใช้หวดตีสาวใช้ เงื้อมือขึ้นฟาดลงไปที่ใบหน้าของเจี่ยงซื่อฉาดใหญ่จนนางถลาล้มลงบนเก้าอี้นวม “เจ้ามันหญิงอำมหิตที่ดีแต่ก่อเรื่อง ก่อเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ยังมีหน้ามาตบตีบ่าวไพร่อยู่อีก!”

อู๋หมัวมัวและบรรดาสาวใช้ตกใจจนรีบคุกเข่ากันเป็นพัลวัน ก้มหน้างุดไม่กล้าเงยหน้ามอง

เจี่ยงซื่อกุมใบหน้าเอาไว้ เบิกตาโพลงมองไปยังฉินเต๋อเจาที่กำลังเกรี้ยวกราด เดิมทีนางโมโหมากแต่เมื่อนึกถึงคนของจิงจ้าวอิ่นที่รอจับตัวนางอยู่นอกจวนก็รีบคุกเข่าลงแทบเท้าจงหย่งโหว

“ท่านโหว! ท่านโหวต้องช่วยข้านะเจ้าคะ! จวนเจิ้นกั๋วกงจงใจใส่ร้ายข้า เมื่อวานตอนข้าไปที่จวนพวกนางยังบอกอยู่เลยว่าสัญญาทาสของสาวใช้พวกนั้นอยู่ที่ไป๋จิ่นซิ่ว แต่พริบตาเดียวเหตุใดพวกมันจึงกลายเป็นชาวบ้านธรรมดาไปได้! จวนกั๋วกงต้องการเอาชีวิตของข้า ท่านโหวต้องช่วยข้านะเจ้าคะ!”

ฉินเต๋อเจาเลิกคิ้วขึ้น สงบลงในทันที เขาฉุกคิดอยู่ครู่หนึ่งแววตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น

“เจ้าว่า…เมื่อวานพวกนางบอกว่าสัญญาทาสของสาวใช้พวกนั้นอยู่ที่ไป๋จิ่นซิ่วอย่างนั้นหรือ”

“เรื่องจริงเจ้าค่ะ หากข้าโกหก ขอให้ร่างของข้าโดนม้าฉีกแยกร่างเป็นห้าส่วนเลยเจ้าค่ะ! หากไม่เชื่อ…ท่านโหวถามอู๋หมัวมัวดูก็ได้เจ้าคะ” เจี่ยงซื่อกอดขาของฉินเต๋อเจาเอาไว้ ร้องไห้ออกมาอย่างไร้ภาพลักษณ์ของกุลสตรี

อู๋หมัวมัวที่ตัวสั่นเป็นลูกนกก้มศีรษะแนบพื้น “ท่านโหว เมื่อวานบ่าวไปรับตัวนายหญิงใหญ่ที่จวนเจิ้นกั๋วกงกับฮูหยิน หวังจะเจรจาเรื่องการย้ายออกจากจวนของซื่อจื่อ! แต่คุณหนูสามตระกูลไป๋นั่นกลับบอกว่าที่นายหญิงใหญ่ยอมโดนคุณหนูของเราฟาดที่ศีรษะก็เพราะต้องการปูทางให้ซื่อจื่อย้ายออกจากจวนเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่ไป๋ยังกล่าวอีกว่าสัญญาทาสของสาวใช้ติดตามห้าคนนั่นยังอยู่ที่นายหญิงใหญ่ ไม่รู้ว่าคนค้าทาสคนไหนกล้ารับซื้อตัวสาวใช้ทั้งๆ ที่ไม่มีสัญญาทาส! เรื่องพวกนี้ล้วนเป็นความจริงทั้งหมดเจ้าค่ะ!”

จวนเจิ้นกั๋วกง…ฉินเต๋อเจากัดฟันกรอด สายตาดุดันจนคนหวาดกลัว อู๋หมัวมัวตกใจจนไม่กล้าเงยหน้า

ฉินเต๋อเจาหลับตาลง สร่างเมาเป็นปลิดทิ้ง “เจ้าไปกับคนของจิงเจ้าอิ่งก่อน ข้าจะกำชับคนให้ช่วยดูแล ไม่ให้เจ้าโดนรังแกแน่นอน! แต่หากวันนี้เจ้าไม่ไป…จะเดือนร้อนจวนจงหย่งโหวทั้งตระกูลรวมถึงลูกชายของเจ้าด้วย”

ได้ยินคำกล่าวของฉินเต๋อเจา เจี่ยงซื่อทรุดลงบนพื้นอย่างหมดแรง สีหน้าซีดเผือด

เรื่องที่จวนจงหย่งโหวโกลาหลวุ่นวาย ฮูหยินโหวโดนจับเข้าคุกถูกรายงานให้จวนเจิ้นกั๋วกงทราบทันทีในคืนนั้นโดยหมัวมัวผู้ดูแลจวนจงหย่งโหวซึ่งไป๋ชิงเหยียนเป็นคนสั่งให้นางแฝงกายเข้าไปในจวนจงหย่งโหว

เรื่องเป็นไปตามที่ไป๋ชิงเหยียนคาดการณ์ไว้ นางจึงไม่รู้สึกยินดีอันใดมากนัก

ก่อนที่ไป๋ชิงเหยียนจะพักผ่อน ชุนเถาเข้ามารายงานอย่างอึกอักว่า อิ๋นซวงสาวใช้ที่ไป๋ชิงเหยียนให้คอยตามดูชุนเหยียนรายงานว่าวันนี้ชุนเหยียนไปพบบ่าวรับใช้ชายคนหนึ่งที่เรือนหน้า

“เมื่อเห็นบ่าวชายคนนั้นออกจากจวนไป อิ๋นซวงที่ไม่รู้ความก็ลอบตามไปด้วย ปรากฏดันเห็นว่าบ่าวผู้นั้นกระซิบอันใดอยู่กับบ่าวของเหลียงอ๋องอยู่ที่ประตูหลังของจวนเหลียงอ๋อง แล้วจู่ๆ นางก็พรวดพราดเข้าไปซัดหมัดใส่บ่าวผู้นั้นจนสลบเหมือดแล้วลากกลับมาที่จวนเจ้าค่ะ เมื่อครู่นางเอาคนไปทิ้งไว้กับองครักษ์หลูผิงแล้วก็กลับมาที่เรือนชิงฮุยด้วยท่าทางมีความสุข ขอลูกอมถั่วจากข้าเป็นรางวัลเจ้าค่ะ…” ชุนเถาเล่าอย่างไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี

ไป๋ชิงเหยียนนั่งอยู่หน้ากระจก เดิมทีจากที่โมโหอยู่ก็ขบขันจนหัวเราะออกมาในทันที “ปีนี้อิ๋นซวงอายุสิบสี่แล้วใช่หรือไม่”

“เรียนคุณหนู สิบสี่แล้วเจ้าค่ะ คุณหนูยังจำได้…” ชุนเถาหยิบหวีหยกสีขาวมาหวีผมให้ไป๋ชิงเหยียน

ตอนที่เสิ่นชิงจู๋พาอิ๋นซวงกลับมาที่จวนนางเพิ่งสิบขวบ ไม่เพียงแค่ร่างกายผอมโซแต่ยังดูไม่ค่อยฉลาดอีกด้วย แต่นางมีพละกำลังที่ดี นางโดนพ่อแม่ขายเพราะกินจุมากเกินไปที่บ้านไม่มีปัญญาเลี้ยง

อิ๋นซวงติดตามเสิ่นชิงจู๋มาหลายปี ไม่รู้ว่าฝีมือของนางเป็นเช่นไรบ้าง

“พรุ่งนี้เจ้าไปบอกฉินหมัวมัวให้ย้ายอิ๋นซวงมาที่เรือนชิงฮุย ให้ชุนซิ่งช่วยสอนกฎระเบียบให้แก่นาง ต่อไปให้นางอยู่ที่เรือนชิงฮุย” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

ชุนเถาขยับปาก อยากเอ่ยขอร้องแทนชุนเหยียนเพราะเห็นแก่มิตรภาพที่นางสองคนโตมาด้วยกัน “คุณหนูใหญ่ ชุนเหยียนนาง…”

“ไม่ต้องสนใจนาง สั่งให้คนจับตาดูไว้ก็พอ”