“บิดาของเด็กคือแม่ทัพหลิน”

หลังจากซูมู่เก๋อออกจากบ้านหลังนั้นและกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลซู นางก็หยิบตัวอย่างเลือดของแม่ทัพหลินออกมาและผสมกับเลือดของทารกในครรภ์และตัวยาบางชนิดลงไปปฏิกิริยาทางการแพทย์พิสูจน์แล้วว่าบิดาของเด็กในท้องของมี่เอ๋อร์คือแม่ทัพหลิน

ขณะตรวจร่างกายของมี่เอ๋อร์ ซูมู่เก๋อไม่ได้พบเพียงฝ่าเท้าของนางเท่านั้นแต่ยังพบว่าเล็บเท้าของนางเป็นสีดําอีกด้วย นี่ไม่ใช่อาการของโรคทางเพศ แต่มันคือการได้รับพิษ

หลังจากผ่าเปิดเส้นเลือดที่เท้าของมี่เอ่อร์แล้ว นางก็ไม่พบเลือดไหลจากแผลนั้น ต้องเป็นพิษที่ทําให้เลือดแข็งตัว

ซูมู่เก๋อขมวดคิ้วและค้นหาหนังสือทางการแพทย์เก่าๆออกมาจากกล่อง

หนังสือเล่มนี้ข้าได้รับมาจากเซี่ยโฮวซีเพื่อแสดงความขอบคุณ

มันเป็นบันทึกสมุนไพรทุกชนิดที่สามารถใช้เป็นยาได้ นางจําได้ว่าการกินกลีบดอกจากดอกไม้ชนิดหนึ่งอาจทําให้เลือดแข็งตัวได้

“ข้าเจอมันแล้ว! ดอกซู่เฉิง!”

มันมีบันทึกไว้ในหนังสือว่าดอกซู่เฉิงเติบโตในที่มืด ชื้นและสถานที่ที่มีหมอกหนาซึ่งเป็นช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปีและบานเพียงครั้งเดียวในรอบทศวรรษ กลีบดอกมีพิษ หากใช้เกินขนาดมันอาจทําให้เลือดแข็งตัวในเวลาอันสั้นและถึงขั้นเสียชีวิตได้

“ในที่มืด ชื่นและมีหมอกหนาหนานปัน!”

มันมีบันทึกไว้ในหนังสืออีกว่าดอกไม้ดังกล่าวไม่เคยปรากฏในแคว้นฉู่เพราะสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมที่ดอกซู่เฉิงจะเติบโตได้

“แม้ว่ากลีบดอกซู่เฉิงจะมีพิษ แต่ก้านช่อดอกสามารถล้างพิษได้ ตราบใดที่หาก้านช่อดอกของดอกไม้นี้มา แม่ทัพหลินก็สามารถรักษาให้หายได้เ”

หลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้ว ซูมู่เก๋อก็เรียกเยว่รู่เข้ามา

“ให้ข้าช่วยอะไรท่านดีเจ้าค่ะ คุณหนู?”

“นําสิ่งนี้ไปมอบให้นายหญิงหลินด้วยตัวเอง จําไว้ว่าอย่ามอบมันให้คนอื่นเด็ดขาด”

เยว่รู่รับซองจดหมายมาและพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “คุณหนูเจ้าค่ะ ไม่ต้องกังวล ข้าจะมอบมันให้กับนายหญิงแม่ทัพหลินด้วยตัวข้า”

เนื่องจากกลีบดอกซู่เฉิงมีพิษ พ่อค้ายาเมืองหนานบันแทบจะไม่ขายพวกมันให้กับแคว้นฉู่ ไม่ต้องพูดถึงเมืองหลวงซึ่งอยู่ห่างไกลพรมแดนระหว่างทั้งสองแคว้นเลย ดังนั้น มันจึงไม่สามารถซื้อจากร้านขายยาทั่วไปได้ อย่างไรก็ตาม หากคฤหาสน์แม่ทัพต้องการมัน มันง่ายมากที่จะหามาได้

อย่างแน่นอน ภายในสองวัน นางหลินส่งข้อความมาว่าได้ยามาแล้วและขอให้นางไปที่คฤหาสน์แม่ทัพหลิน

ซูมู่เก๋อเตรียมชุดเครื่องมือแพทย์ของนางและขึ้นรถม้าตรงไปทันที

หลังจากมาถึงคฤหาสน์แม่ทัพ ซูมู่เก๋อก็ถูกนําไปที่ห้องโถงใหญ่

นางหลินสวมชุดสีแดงเข้ม ผมปักด้วยปืนหยก ดูค่อนข้างซีดและเหลือง

“นายหญิง คุณหนูซูมาถึงแล้วเจ้าค่ะ”

นางหลินตื่นตัวขึ้นมาทันทีและเงยหน้าขึ้นมองไปที่ซูมู่เก๋อดูสดชื่นขึ้นมาก

“คุณหนูซู”

ซูมู่เก๋อก้าวเข้าไปหานางเพื่อแสดงความเคารพ แต่ก่อนที่นางจะโค้งคํานับ นางก็ถูกนางหลินรั้งไว้

“คุณหนูซู ท่านสามารถรักษาท่านแม่ทัพได้จริงหรือ?”

ซูมู่เก๋อมองไปที่นางหลินผู้กระตือรือร้นและพยักหน้าเล็กน้อย “ด้วยก้านช่อดอกซู่เฉิง โอกาสในการรักษาตัวท่านแม่ทัพจึงมีมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมากเจ้าค่ะ”

“เยี่ยมมาก เข้ามา เอามันเข้ามา”

จากนั้นสาวใช้ที่อยู่ด้านนอกก็นํากล่องไม้เคลือบเงาเข้ามา

นางหลินส่งมันให้กับซูมู่เก๋อ ผู้เปิดกล่องและพบก้านดอกซู่เฉิงสองก้านวางเรียงกัน

ก้านดอกซู่เฉิงได้ผ่านกระบวนการทําให้แห้งแล้ว นางจึงสามารถนํามาบดผสมกับยาตัวอื่นได้เลย

หลังจากปรุงยาเสร็จแล้ว นางก็ให้ท่านแม่ทัพดื่มยานั้น

ซูมู่เก๋อเขียนใบสั่งยาสองฉบับให้กับนางหลิน “ใบแรกนี้สําหรับวันพรุ่งนี้และใบที่สองสําหรับสามวันถัดไป หลังจากนั้น ข้าจะมาตรวจให้คําปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับท่านแม่ทัพหลินเจ้าค่ะ”

“ได้ ขอบคุณ คุณหนูซู”

ตราบใดที่พิษของดอกซูเฉิงได้ถูกล้างออกไป โรคทางเพศของแม่ทัพหลินก็จะหายขาด อย่างน้อยเขาก็สามารถอยู่รอดได้ภายใต้การรักษาของนาง

ทันทีที่ซูมู่เก๋อออกไปนอกคฤหาสน์แม่ทัพหลิน นางก็เห็นร่างที่คุ้นเคยวิ่งตรงเข้าหานาง

“คุณหนู มีบางอย่างเกิดขึ้นเจ้าค่ะ!” เยารูรีบวิ่งออกมาจากคฤหาสน์หลินเพื่อมองหา ซูมู่เก๋อพลางหอบหายใจอ้าปากสูดอากาศอย่างหนัก

ซูมู่เก๋อถึงนางเข้าหาแล้วถาม “เกิดอะไรขึ้น?”

“ข้าก็ไม่แน่ใจเจ้าค่ะ หลังจากที่ท่านออกมา พี่เหมยฮัวก็มาหาข้าและบอกว่านายหญิงไม่สบาย ข้าไม่กล้ารอและรีบวิ่งออกมาหาคุณหนูทันทีเจ้าค่ะ”

เมื่อได้ยินคําพูดของนาง ซูมู่เก๋อก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “นางจะป่วยโดยไม่มีเหตุผลได้อย่างไร?”

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันเจ้าค่ะ พี่เหมยฮัวขอให้ข้ารีบนําความมาส่งให้คุณหนูว่านายหญิงป่วยหนัก!”

เหมยฮัว มีบุคลิกที่มั่นคง ไม่มีทางที่นางจะพูดเกินจริง สถานการณ์ของนางจ้าวจะต้องแย่มากแน่

“กลับบ้าน”

“เจ้าค่ะ”

ซูมู่เก๋อกังวลมากจนนางไม่ได้สังเกตเห็นความเย็นชาในดวงตาของคนขับรถม้า

ซูมู่เก๋อขึ้นรถม้าไปกับเยว่รู่และตรงกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลซู

วันนี้นางจ้าวรู้สึกหดหู่ มันจึงเป็นไปได้ว่านางอาจรู้สึกไม่สบาย แต่ก็แปลกที่จู่ๆ นางก็ป่วยหนัก

มันเป็นไปได้หรือไม่ที่นางอันกระทําการอะไรบางอย่างลับหลัง?

เมื่อนึกถึงนางอัน ซูมู่เก๋อก็รู้สึกกังวลมาก

รถม้ากําลังเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว ในตอนแรก ซูมู่เก๋อไม่ทันได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติจนกระทั่งรถม้าวิ่งเร็วจนเกือบร่างกระเด็นออกนอกตัวรถ

นางเอื้อมมือไปยกม่านรถม้าขึ้นและพบว่าสถานที่นั่นเงียบมาก

แม้ว่าซูมู่เก๋อจะไม่ได้อยู่บนถนนที่พลุกพล่านในเมืองหลวง มันไม่น่าจะเงียบและร้างได้ขนาดนี้ แปลกมาก!

“หยุดรถ!” ซูมู่เก๋อตะโกนสั่งคนขับรถ

แต่คนขับรถม้ากลับยกเชือกบังคับขึ้นและกระตุกเชือกพร้อมตีแส้ใส่ม้าที่กําลังวิ่งอย่างดุเดือดราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคําสั่งของนาง

หลังจากนั้นซูมู่เก๋อก็พบว่าคนขับรถม้าไม่ใช่คนเดียวกับที่ไปรับนางมา!

“ฉิบหายล่ะ!”

ซูมู่เก๋อดึงปินปักผมออกมาและแทงไปที่ด้านหลังของคนขับรถม้า ถีบลงจากรถม้า

“โอ้ย!”

คนขับรถม้าส่งเสียงร้องและกลิ้งตกจากรถม้า

ซูมู่เก๋อคว้าบังเหียนและควบคุมม้าไว้ แต่มันวิ่งเร็วเกินที่จะหยุดได้ในทันที

“คุณหนู ระวัง!” เยว่รู่ร้องเตือน

ซูมู่เก๋อมองไปข้างหน้าและเห็นหินก้อนใหญ่ขวางอยู่ข้างหน้า ถ้าพุ่งไปแบบนี้ พวกเขาถ้าไม่ตายก็พิการแน่!

“ข้าจะบังคับสายบังเหียนไว้ และเจ้าก็กระโดดลงไปเมื่อข้านับถึงสาม”

“แต่ แล้วท่านล่ะเจ้าค่ะ คุณหนู?”

ซูมู่เก๋อกดริมฝีปากของนางแน่น “ข้าจะตามเจ้าไปทีหลัง หนึ่ง สอง สาม!”

“แต่ คุณหนู ท่าน…”

“ไม่ต้องสนใจข้า ไป!”

“อ้า!”

เยว่รู่กระโดดพุ่งหน้าออกไป กลิ้งไปมาบนพื้นหลายรอบจนกระทั่งนางหยุดได้เอง

ซูมู่เก๋อคลายบังเหียนและกระโดดออกจากรถม้า

ต่อจากนั้นในทันที รถม้าทั้งคันก็พุ่งเข้าชนกับก้อนหินใหญ่

“ปัง!”

ซูมู่เก๋อรู้สึกว่าร่างกายของนางลอยอยู่ในอากาศชั่วขณะและสายตาของนางก็หมุนตลอดเวลา หลังจากที่เท้านางแตะลงพื้น นางก็ได้กลิ่น เป็นกลิ่นที่ทั้งคุ้นเคยและแปลกประหลาด

นางเงยหน้าขึ้นและเห็นคางที่สมบูรณ์แบบของเซี่ยโฮวโม่

นางสะดุ้ง รีบกําจัดมือของเขาออกและก้าวห่างออกไป

เซี่ยโฮวโม่ก็ปล่อยตัวนาง

ซูมู่เก๋อมองย้อนกลับไปและพบว่ากะโหลกศีรษะของม้าแตก ก้อนหินเต็มไปด้วยเนื้อสมองและเลือดสดๆ รถม้าก็แตกหลุดออกจากกัน ถ้าตอนนั้นนางยังอยู่บนรถม้า ผลที่ตามมาคงแทบจะดูไม่ได้เลย

เซี่ยโฮวโม่ช่วยนางไว้

“ขอบคุณที่พระองค์ทรงช่วยหม่อมฉันไว้เพค่ะ ฝ่าบาท” ซูมู่เก๋อคํานับเซี่ยโฮวโม่ด้วยการแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ

“ข้าจะจําความรู้สึกนี้ไว้”

“……..”

ซูมู่เก๋อพูดไม่ออกและทําได้เพียงแค่เปลี่ยนหัวข้อสนทนา “มีคนต้องการฆ่าหม่อมฉัน”

ตงหลินรีบรุดเข้ามา “ฝ่าบาท คนขับรถม้าตายแล้วพะย่ะค่ะ”

“ท่านเห็นสาวใช้ของข้าหรือไม่?” เมื่อคิดได้ว่าเยว่รู่กระโดดลงไปด้วยความเร็วสูงขนาดนั้น นางก็กังวลเกี่ยวกับอาการของนาง

“คุณหนู ข้าสบายดี”

เยว่รู่เดินโซเซมาหานางโดยได้รับความช่วยเหลือจากโจวฉิว นางข้อเท้าแพลงและข้อศอกถลอก โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรง

“ตงหลิน ส่งคุณหนูซูกลับ” เซี่ยโฮวโม่กล่าวเบาๆ

“พะย่ะค่ะ”

ซูมู่เก๋อมองไปที่เซี่ยโฮวโม่ “ชายคนนั้นกล้าก่ออาชญากรรมในที่สาธารณะ มันช่างน่าต่ำช้ามาก ฝ่าบาท โปรดหาผู้กระทําความผิดและทําให้เกิดความสงบสุขในเมืองหลวงด้วยเถิดเพคะ” เนื่องจากเซี่ยโฮวโม่เป็นผู้สั่งการขององครักษ์ในวังหลวง นางจึงใช้เหตุผลนั้นเพื่อที่จะพูดทุกอย่างเช่นนั้น

นางรู้ดีว่าคนขับรถม้าจะต้องถูกบงการโดยใครบางคนที่ต้องการให้นางตาย และมันอาจเกี่ยวข้องกับอาการป่วยของแม่ทัพหลิน เนื่องจากนางไม่มีผู้หนุนหลังในเมืองหลวง นางและคนรอบตัวนางทั้งหมดจะตกอยู่ในอันตรายหากผู้กระทําความผิดไม่ยอมปล่อยนางไป

จนถึงตอนนี้ ซูมู่เก๋อตระหนักดีถึงความยากลําบากในการมีชีวิตอยู่หรือแม้แต่การเอาชีวิตรอดในเมืองหลวงที่วุ่นวายแห่งนี้โดยไม่มีใครคอยสนับสนุนนาง!

ซูมู่เก๋อเหลือบมองเซี่ยโฮวโม่อย่างรวดเร็ว ชายคนนี้อันตรายเกินไป นางควรจะคิดให้ดีอีกครั้งดีกว่า!

เซี่ยโฮวโม่ก็หันกลับมาสบตากับนางและพบว่าซูมู่เก๋ออยู่ในความสับสน

“ตงหลิน ส่งคุณหนูซูกลับคฤหาสน์”

“พะย่ะค่ะ”

มันไม่น่าแปลกใจเลยที่ซูมู่เก๋อไม่ได้รับคําตอบจากเซี่ยโฮวโม่ อย่าไรถึงจะทําให้ราชาแห่งจินที่มีอํานาจทางทหารอันยิ่งใหญ่ ทําตามคําสั่งง่ายๆ เพียงไม่กี่คํา?

“หม่อมฉันขอทูลลาเพค่ะ ฝ่าบาท”

ตงหลินหารถม้าที่ไม่ได้เด่นและช่วยซูมู่เก๋อและเยว่รู่ขึ้นรถ

จนกระทั่งรถม้าลับจากสายตาไป เซี่ยโฮวโม่เดินไปที่ม้าที่ชินกับหินจนหัวแบะ แล้วดึงลูกดอกดาวสีดําออกมาจากสะโพกม้า มันมีขนาดเท่าหัวแม่มือ

โจวฉิ่วรู้สึกหนาวสั่นอย่างฉับพลัน “มันเป็นอาวุธลับของนักฆ่ามืออาชีพทั่วไปใช้กัน ฝ่าบาท…หม่อมฉันกลัวว่าคุณหนูซูจะตกเป็นเป้าหมาย”

เซี่ยโฮวโม่หมุนลูดดอกรูปดาวในมือเบาๆด้วยท่าทางที่น่ากลัว “ส่งคนตามคุ้มครองนางอย่างลับๆสองคน นางไม่สามารถตายตอนนี้ได้”

“รับบัญชา!”

บนรถม้า เยว่รู่ซึ่งนั่งข้างซูมู่เก๋อไม่สามารถซ่อนอาการสั่นอย่างไม่รู้ตัวได้

ซูมู่เก๋อพบว่านางกลัวมากจึงเอื้อมมือไปจับมือนางบีบเบาๆ “กลัวเหรอ?”

เยว่รู่กัดฟันข่มอาการสั่นและพยักหน้า “คุณหนู นั่นคือราชาแห่งจินหรือเจ้าค่ะ? เขาเป็นคนช่วยท่าน?”

ซูมู่เก๋อพยักหน้า “ใช่ ต้องขอบคุณเขาในครั้งนี้”

“ข้ากลัวแทบตาย ขอบคุณพระพุทธองค์ที่คุณหนูปลอดภัย ใครเป็นคนทําเรื่องชั่วช้านี้? เขาสมควรได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง!”

แม่ทัพหลินเป็นแม่ทัพที่มีอํานาจทางทหารมากมาย นางกลัวว่าการรักษาของนางต่อแม่ทัพหลินจะต้องขัดขวางแผนการของใครบางคนเป็นแน่

“หลังจากกลับถึงคฤหาสน์เจ้าต้องเก็บมันเป็นความลับ เข้าใจหรือไม่?

เยว่รู่พยักหน้า “ข้าทราบเจ้าค่ะ ข้าสงสัยว่าตอนนี้นายหญิงจะเป็นอย่างไร”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ซูมู่เก๋อก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากล่าช้าไปมาก นางก็กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของนางจ้าว

นางปรารถนาให้เรื่องนั้นเป็นเหมยฮัวทําโวยวาย!