“หลานเสี่ยวถาง ชุดนี้ของเธอ…” หูซิ่วจูมองไปที่ลูกสาวบุญธรรมที่อยู่ด้านหน้า รู้สึกว่าไม่ได้เจอกันแค่หนึ่งเดิน หลานเสี่ยวถางเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ที่แท้ตอนที่เรียนมหาลัย หลานเสี่ยวถางสดใสมีน้ำมีนวล แต่ว่าเป็นเพราะสองปีหลังไม่แต่งเนื้อแต่งตัว บวกกับสวมใส่เสื้อผ้าที่ขี้เหร่ ดังนั้นดูแล้วเหมือนกับคนอายุ 30
แต่ว่าหลานเสี่ยวถางในตอนนี้ ราวกับกลับไปสู่รูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ที่สุดในตอนเริ่มต้น แถมสวยกว่าตอนนั้นเยอะเลย!
เดิมทีรูปร่างที่เหมือนคุณป้าในความทรงจำของพวกเขา ภายใต้กระโปรงหางปลา รูปร่างนูนเว้า แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันเห็นแล้วเลือดก็สูบฉีด
แต่ว่ากระโปรงสีฟ้าน้ำทะเลและเพชรสีขาวให้ความรู้สึกบริสุทธิ์และโปร่งใสราวกับทะเลและคลื่นหิมะ ดูสูงส่งสง่างาม ราวกับนางเงือกแสนสวยที่เดินออกมาจากทะเลลึก
“คุณพ่อคุณแม่คะ หนูบอกว่าหนูจะมา ก็ไม่มีทางผิดคำพูดแน่ค่ะ” หลานเสี่ยวถางพูดอย่างเฉยชา
หลานไห่ฮว๋ามองดูหลานเสี่ยวถาง จากนั้นก็พูดขึ้น “ผู้ชายคนนั้นซื้อหรือว่าเช่าให้เธอหล่ะ?”
“เรื่องนี้แตกต่างกันมากหรือคะ?” หลานเสี่ยวถางพูด “หนูไปแต่งหน้าแต่งตัวที่VERSEมา”
หูซิ่วจูได้ยินก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “VERSE?!” นั่นคือช่วงที่ครอบครัวหลานรุ่งเรือง สามารถไปที่นั่นได้เพียงปีละสองหรือสามครั้งเท่านั้น!
“ดูท่าแล้วผู้ชายคนนั้นของเธอมีเบื้องหลังอยู่บ้าง” หลานไห่ฮว๋ามองไปรอบ ๆ “วันนี้เขาไม่มาหรือ?”
หลานเสี่ยวถางส่ายหน้า “เขาไม่ได้มา เพราะว่าเขาค่อนข้างลึกลับถ่อมตัว ไม่ชอบเข้าร่วมงานแบบนี้”
หลานไห่ฮว๋ายังอยากพูดอะไรต่อ แต่เวลานี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาสวมใส่ชุดสูทสีเงิน ต่างหูเพชร ดูสูงศักดิ์และเป็นกันเอง
เขาเดินมาด้านข้างหลานเสี่ยวถาง ฝ่ามือพาดลงบนบ่าของเธอ “เสี่ยวถาง คุณพอใจกับเสื้อผ้าหน้าผมที่ผมทำเพื่อคุณไหมครับ?
หูซิ่วจูเห็นฟู่สีเกอ เธอตกตะลึง จากนั้นดวงตาก็เปล่างประกาย “คุณฟู่ เสื้อผ้าหน้าผมของเสี่ยวหลานคุณเป็นคนทำหรือคะ?”
“แน่นอนครับ!” ฟู่สีเกอยักคิ้ว “เธอคือเพื่อนของพรรคพวกของผม พรรคพวกผมขอร้องมา ผมจะไม่ทำตามได้ยังไงครับ?”
สายตาของหลานไห่ฮว๋าที่มองหลานเสี่ยวถางเปลี่ยนไปในทันที “ที่แท้คุณฟู่กับเสี่ยวถางคือเพื่อนกัน งั้นต่อไปมาเที่ยวบ้านตระกูลหลานบ่อย ๆ นะครับ!”
คนอื่นไม่รู้จักฟู่สีเกอ แต่ว่าเขาจะไม่ชัดเจนได้ยังไง?
ลูกชายคนเดียวของเจ้าของลึกลับของห่วงโซ่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและเสื้อผ้า แต่ว่าตอนที่เขาอยู่ที่คาสิโน มีคนหาเรื่องคุณชายผู้นี้ที่ดูจะเจรจาพูดคุยกันได้ง่าย แต่ว่าภายหลัง…
ตอนนี้คิดดูแล้วก็ยังรู้สึกตื่นตระหนกอยู่
ในเมื่อผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังหลานเสี่ยวถางกับฟู่สีเกอมีความเกี่ยวข้องกัน งั้นบอกได้เพียงอย่างเดียวคือ ผู้ชายคนนั้นจะต้องอยู่ระดับเดียวกับฟู่สีเกออย่างแน่นอน!
ดูท่าแล้ว แผนที่จะมอบหลานเสี่ยวถางให้กับประธานซวี คงต้องเลื่อนกำหนดออกไปก่อน ประเด็นแรก ประธานซวีก็ยังมีลูกชายอีกคน เธอแต่งงานไปไม่รู้ว่าจะได้ส่วนแบ่งเท่าไหร่
ประเด็นที่สอง ถ้าหากส่งตัวเธอไป แล้วขัดใจคนที่อยู่เบื้องหลังหลานเสี่ยวถาง ไม่คุ้มค่ากับการสูญเสีย อีกอย่างถ้าหากหลานเสี่ยวถางมุมานะกุมผู้ชายคนนั้นไว้ได้อยู่หมัด…
คิดได้ถึงตรงนี้ หลานไห่ฮว๋าดวงตาเป็นประกาย
“ครับ ผมมาที่นี่ชั่วคราวก็เพราะมีธุระอย่างอื่น ผมไปก่อนนะครับ!” ฟู่สีเกอพูด แล้วยักคิ้วให้หลานเสี่ยวถาง จากนั้นก็เดินเข้าไปในงาน
“เสี่ยวถาง!” หูซิ่วจูรีบเปลี่ยนคำเรียกทันทีี “วันนี้เป็นวันเกิดของนายท่านแห่งตระกูลจริง เธอไปอวยพรท่านกับพวกเรา”
หลายปีมานี้ หลานเสี่ยวถางเคยชินกับท่าทางแบบนี้ของหูซิ่วจูตั้งนานแล้ว เธอพยักหน้า “ค่ะ”
ทั้งสามเดินเข้าไปหานายท่านแห่งตระกูลจิน หลานไห่ฮว๋านำภาพวาดที่เตรียมไว้ตั้งนานแล้วยัดใส่มือหลานเสี่ยวถาง “เดี๋ยวเดินเข้าไป ปากหวาน ๆ หน่อยนะ!”
สือเพ่ยหลินวันนี้พาเฉินจื่อโร่วมาด้วยกัน แต่ว่าเพิ่งมาถึงก็ถูกคุณพ่อเรียกไปพูดคุยกับนายท่านตระกูลจินด้วยกัน เพิ่งจะคุยกันได้ครู่หนึ่ง ก็เห็นสือมูเฉินเดินเข้ามา
สือมูเฉินส่งมอบของขวัญ สือเพ่ยหลินพูดคุยกับเขาสองสามประโยค แล้วกำลังจะเดินออกไป เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นทั้งสามคนเดินมาทางนี้
สือเพ่ยหลินตกตะลึง สายตาจ้องมองไปที่หลานเสี่ยวถาง
ในสายตาของเขาเปล่งประกายความน่าเหลือเชื่อ ราวกับอยากรู้ว่าตัวเองมองผิดไปหรือไม่ ดังนั้นจึงตั้งใจกะพริบตา
หลานเสี่ยวถางแถบจะมองไม่เห็นเขา เธอเดินตามคู่สามีภรรยาตระกูลหลานไปที่ด้านข้างของพวกเขา จากนั้นก็ส่งมอบของขวัญที่เตรียมเอาไว้แล้วยิ้มกับนายท่านตระกูลจิน “นายท่านจินคะ ไม่ได้เจอท่านนานแล้วนะคะ! นี่คือของขวัญที่คุณย่าขอให้หนูนำมาให้ท่าน แต่สุขภาพของคุณย่าไม่ค่อยดีนักจึงไม่ได้มาด้วย จึงให้หนูส่งมอบคำอวยพรแทน ขอให้นายท่านจินพรมีโชคลาภกว้างขวางราวกับทะเลจีนตะวันออก และอายุขัยนั้นยาวนานเท่ากับจงหนานซาน!”
นายท่านจินมองไปทางหลานเสี่ยวถาง แล้วอดยิ้มไม่ได้ “ไม่ได้เจอเสี่ยวถางนานแล้ว โตขนาดนี้แล้ว แถมยังสวยขนาดนี้! ต่อไปมีโอกาส ก็มาเที่ยวที่นี่บ่อย ๆ นะ วันนั้นเยว่ฉียังพูดถึงหนูด้วย บอกว่าเคยเล่นด้วยกันตอนเด็ก ๆ!”
“ค่ะ หนูก็คิดถึงเยว่ฉีมาก ถ้าหนูมีเวลาจะต้องมาแน่นอนค่ะ!” หลานเสี่ยวถางพูด
หลานไห่ฮว๋าร้อนรนเข้ามาพูดคุยกับนายท่านจิน
หลานเสี่ยวถางถูกผลักไปด้านข้าง จึงมองไปทางสือเพ่ยหลินโดยไม่ได้ตั้งใจ
เขาเห็นแบบนั้น ตัวแข็งนิดหน่อย แล้วรีบเคลื่อนสายตาออกจากหลานเสี่ยวถาง
ถึงจะไม่ได้มองเธอ แต่เขาก็ยังคงเห็นภาพเมื่อสักครู่อยู่
พูดจาสำรวมไพเราะ รูปร่างที่เหี่ยวเฉาในความทรงจำของเขา เวลานี้เมื่อสวมใส่ชุดกระโปรงหางปลา ดูวิจิตรงดงาม เทียบกับเฉินจื่อโร่ว ดูไม่ด้อยไปกว่ากัน
เธอศัลยกรรมแล้วหรือ? ไม่น่าจะใช่ นี่เพิ่งผ่านไปไม่นาน ศัลยกรรมจะต้องมีช่วงฟื้นฟูไม่ใช่หรือ?
จู่ ๆ สือเพ่ยหลินพบว่า เขาลืมตอนที่เจอกับหลานเสี่ยวถังครั้งแรกไปแล้ว
ในความทรงจำมีความทรงจำเลือนลาง ตอนนั้นที่เขาได้พบเธอ เคยคิดว่าหาภรรยาแบบนี้ก็พอแล้ว มีน้ำมีนวล สดใส ง่ายต่อการควบคุม
ดังนั้นเดิมทีเธอก็เป็นแบบนี้? เพียงแต่เธอไม่แต่งหน้าแต่งตัว ทำให้ความประทับใจของเธอที่เขามี ค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นความรังเกียจในช่วงหลัง
ในตอนนี้เอง เฉินจื่อโร่วเดินเข้ามาหาเขา เธอยื่นมือออกมาคล้องแขนของสือเพ่ยเฉิน น้ำเสียงออดอ้ออน “พี่เพ่ยหลิน เหม่อลอยอะไรอยู่?”
“ไม่มีอะไร” สือเพ่ยหลินดึงสติกลับ ไม่รู้ว่าจิตใจเป็นอะไร รู้ว่าหลานเสี่ยวถางอยู่ด้านข้าง ดังนั้นน้ำเสียงที่พูดกับเฉินจื่อโร่วจึงอ่อนโยนมากกว่าเดิม “โร่วโร่ว เห็นขนมที่ตัวเองอยากกินหรือยัง? ฉันพาเธอไปไหม?”
“ฉันกลัวอ้วน!” เฉินจื่อโร่วพูดออดอ้อน
“ไม่อ้วน รูปร่างของเธอสวยที่สุดในใจของฉันแล้ว!” ในตอนที่สือเพ่ยหลินพูด ในหัวของเขาไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ปรากฏภาพของหลานเสี่ยวถางขึ้น “นางเงือก” คำพูดนี้ติดอยู่ที่ลิ้น ถูกเขากดทับลง
เขาโอบเฉินจื่อโร่วแล้วพูด “ยิ่งไปกว่านั้นเธอดูแลร่างกายตัวเองให้ดี เธอยังจะต้องแต่งงานแล้วมีลูกกับฉัน!”
เสียงของเขาไม่เบา หลานเสี่ยวถางที่อยู่ด้านข้างได้ยินอย่างชัดเจน
เดิมทีเธอคิดว่าได้เจอพวกเขาอีกครั้ง ได้เห็นพวกเขาพลอดรักกันจะรู้สึกเจ็บปวด แต่ว่าเวลานี้กลับสงบมากอย่างไม่คาดคิด
เธอรู้ดีว่าเธอค่อย ๆ ปล่อยวางลงแล้ว
เพียงแต่เพราะว่าเรื่องที่พวกเขาเคยทำ คุณย่ายังนอนป่วยอยู่บนเตียง ดังนั้นเธอไม่ปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน!
“ก็ได้ค่ะ งั้นพวกเราไปกินกันเถอะ!” เฉินจื่อโร่วยิ้มอย่างมีความสุข เธอเคลื่อนสายตาถึงได้เห็นคนที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหน้า
หญิงสาวไม่ได้มองพวกเขา ใบหน้าด้านข้าง ทำให้เธอรู้สึกคุ้นตา
แต่ว่ารูปร่างมีออร่าแบบนี้ ถ้าเธอเคยเจอก็น่าจะมีความทรงจำอยู่บ้างสิ?
เฉินจื่อโร่วมองอยู่ครู่หนึ่ง สายตาค่อยข้างระมัดระวัง เพียงแต่ว่าสือเพ่ยหลินลากเธอออกไปอย่างเร็ว พาเธอเดินไปบริเวณจุดพักผ่อน ดังนั้นเธอจึงจำหลานเสี่ยวถางไม่ได้
หลานเสี่ยวถางไม่ได้มองทั้งคู่ แต่ยืนอยู่ด้านข้าง แล้วตั้งใจฟังหลานไห่ฮว๋าพูดคุยกับนายท่านจิน
ไม่พูดไม่ได้ว่าคนอย่างหลานไห่ฮว๋าถึงแม้จะเย่อหยิ่ง แต่ประจบสอพอก็เก่งอยู่เหมือนกัน เพียงไม่นานก็หยอกล้อนายท่านจริงจนหัวเราะคิกคัก แถมยังพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือโครงการในอนาคต สามารถมาหาเขาได้
ในตอนนี้เอง คุณผู้หญิงท่านหนึ่งพาเด็กสาววัยรุ่นเดินเข้ามา
คุณผู้หญิงเดินมาหยุดอยู่หน้าสือมูชิงกับเริ่นเหม่ยเฟิ่ง
“คุณน้าชาย! คุณน้าหญิง!” เด็กสาวปล่อยมือสาวมีอายุ แล้วพุ่งตรงมาทางเริ่นเหม่ยเฟิ่ง “ไม่ได้เจอกันนานเลยค่ะ คิดถึงคุณน้ามาก ๆ!”
“หย่าหยุน!” เริ่นเหม่ยเฟิ่งลูบหัวทางหย่าหยุนอย่างอ่อนโยน “พี่เพ่ยหลินบอกว่าหนูจะมางาน รอหนูอยู่นานแล้ว!”
“จริงหรือคะ? พี่เพ่ยหลินล่ะคะ?” ทางหย่าหยุนถามขึ้น
“เขาอยู่ที่จุดพักผ่อนด้านนู้น” เริ่นเหม่ยเฟิงพูด แล้วหันไปพูดกับคุณผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างทางหย่าหยุน “พี่สอง ไม่ได้เจอกันนานนะคะ”
ทางหย่าหยุนกำลังจะไปหาสือเพ่ยหลิน แต่เมื่อหันหน้าไปก็เห็นสือมูเฉินที่ยืนอยู่ด้านข้าง เธออึ้งนิดหน่อย จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างเกรงใจ “คุณน้าหญิงคะ ท่านนี้คือ?”
เริ่นเหม่ยเฟิงพูด “นี่คือคุณอาเล็กของเพ่ยหลิน หนูลืมแล้วหรือ? ตอนหนูดยังเด็กเคยเจอกันแล้ว”
“คุณอาเล็ก?” ทางหย่าหยุนมองดูคนที่ถ่อมตัวเป็นกันเองท่ามกลางฝูงชน แต่สือมูเฉินกลับมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ รู้สึกว่าเพียงครู่เดียวหัวใจก็เต้นแรงขึ้น เธอพูดอย่างเขินอาย “หนูจำได้ค่ะ เพียงแต่ไม่ได้เจอกันนาน คิดไม่ถึงว่าคุณอาเล็กจะหล่อขนาดนี้แล้ว!”
พูดจบเธอก็เดินไปข้างหน้าสือมูเฉิน เธอเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนอย่างเฉียบขาด “คุณอาเล็กคะ หนูชื่อหย่าหยุน”
“อืม สวัสดี” สือมูเฉินพยักหน้าอย่างเฉยชา
หลานเสี่ยวถางมองไปที่ทั้งคู้ สายตาประหลาดใจ ดูท่าแล้วสามีของเธอยั่วยวนดอกไม้อีกแล้ว ทางหย่าหยุนคนนี้เธอไม่เคยเจอมาก่อน แต่ว่าเคยได้ยินคนพูดถึง เป็นลูกพี่ลูกน้องห่าง ๆ ของสือเพ่ยหลิน นับดูแล้วสามารถพูดได้ว่าไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดใด ๆ กับสือมูเฉินทั้งสิ้น
ทางหย่าหยุนพูด “คุณอาเล็กคะ หนูจำได้ว่าตอนเด็ก คุณอาเคยพาหนูกับพี่เพ่ยหลินไปสวนสนุกตอนช่วงตรุษจีน!
“ใช่หรือ?” สือมูเฉินพูด “ฉันความจำไม่ค่อยดี ลืมไปแล้ว”
ทางหย่าหยุนรู้สึกเสียหน้านิดหน่อย แต่ว่าก็ยังคงพูดต่อ “คุณอาเล็กคะ ไม่รู้ว่าพี่เพ่ยหลินทำอะไรอยู่ พวกเราไปหาเขาด้วยกันเถอะค่ะ?”
“เธอไปคนเดียวเถิดด ด้านนี้ฉันยังมีธุระที่ต้องทำอีก” สือมูเฉินปฏิเสธเธออย่างไร้เยื่อใย
พูดจบเขาก็มองไปทางหลานเสี่ยวถถาง แล้วยักคิ้วให้อย่างตั้งใจ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หลังจากที่เขาตั้งใจปฏิเสธดอกไม้ แล้วขอความดีความชอบจากเธอ?
หลานเสี่ยวถางรู้สึกตลก แต่ว่ากลับมีความรู้สึกหวาน ๆ อย่างหนึ่ง มันเพิ่มขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ มันทำให้ร่างกายและจิตใจอบอุ่นในทันที