บทที่ 29 สะดุดใจผู้ชายเจ้าชู้

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

“หลานเสี่ยวถาง ชุดนี้ของเธอ…” หูซิ่วจูมองไปที่ลูกสาวบุญธรรมที่อยู่ด้านหน้า รู้สึกว่าไม่ได้เจอกันแค่หนึ่งเดิน หลานเสี่ยวถางเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

ที่แท้ตอนที่เรียนมหาลัย หลานเสี่ยวถางสดใสมีน้ำมีนวล แต่ว่าเป็นเพราะสองปีหลังไม่แต่งเนื้อแต่งตัว บวกกับสวมใส่เสื้อผ้าที่ขี้เหร่ ดังนั้นดูแล้วเหมือนกับคนอายุ 30

แต่ว่าหลานเสี่ยวถางในตอนนี้ ราวกับกลับไปสู่รูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ที่สุดในตอนเริ่มต้น แถมสวยกว่าตอนนั้นเยอะเลย!

เดิมทีรูปร่างที่เหมือนคุณป้าในความทรงจำของพวกเขา ภายใต้กระโปรงหางปลา รูปร่างนูนเว้า แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันเห็นแล้วเลือดก็สูบฉีด

แต่ว่ากระโปรงสีฟ้าน้ำทะเลและเพชรสีขาวให้ความรู้สึกบริสุทธิ์และโปร่งใสราวกับทะเลและคลื่นหิมะ ดูสูงส่งสง่างาม ราวกับนางเงือกแสนสวยที่เดินออกมาจากทะเลลึก

“คุณพ่อคุณแม่คะ หนูบอกว่าหนูจะมา ก็ไม่มีทางผิดคำพูดแน่ค่ะ” หลานเสี่ยวถางพูดอย่างเฉยชา

หลานไห่ฮว๋ามองดูหลานเสี่ยวถาง จากนั้นก็พูดขึ้น “ผู้ชายคนนั้นซื้อหรือว่าเช่าให้เธอหล่ะ?”

“เรื่องนี้แตกต่างกันมากหรือคะ?” หลานเสี่ยวถางพูด “หนูไปแต่งหน้าแต่งตัวที่VERSEมา”

หูซิ่วจูได้ยินก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “VERSE?!” นั่นคือช่วงที่ครอบครัวหลานรุ่งเรือง สามารถไปที่นั่นได้เพียงปีละสองหรือสามครั้งเท่านั้น!

“ดูท่าแล้วผู้ชายคนนั้นของเธอมีเบื้องหลังอยู่บ้าง” หลานไห่ฮว๋ามองไปรอบ ๆ “วันนี้เขาไม่มาหรือ?”

หลานเสี่ยวถางส่ายหน้า “เขาไม่ได้มา เพราะว่าเขาค่อนข้างลึกลับถ่อมตัว ไม่ชอบเข้าร่วมงานแบบนี้”

หลานไห่ฮว๋ายังอยากพูดอะไรต่อ แต่เวลานี้มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาสวมใส่ชุดสูทสีเงิน ต่างหูเพชร ดูสูงศักดิ์และเป็นกันเอง

เขาเดินมาด้านข้างหลานเสี่ยวถาง ฝ่ามือพาดลงบนบ่าของเธอ “เสี่ยวถาง คุณพอใจกับเสื้อผ้าหน้าผมที่ผมทำเพื่อคุณไหมครับ?

หูซิ่วจูเห็นฟู่สีเกอ เธอตกตะลึง จากนั้นดวงตาก็เปล่างประกาย “คุณฟู่ เสื้อผ้าหน้าผมของเสี่ยวหลานคุณเป็นคนทำหรือคะ?”

“แน่นอนครับ!” ฟู่สีเกอยักคิ้ว “เธอคือเพื่อนของพรรคพวกของผม พรรคพวกผมขอร้องมา ผมจะไม่ทำตามได้ยังไงครับ?”

สายตาของหลานไห่ฮว๋าที่มองหลานเสี่ยวถางเปลี่ยนไปในทันที “ที่แท้คุณฟู่กับเสี่ยวถางคือเพื่อนกัน งั้นต่อไปมาเที่ยวบ้านตระกูลหลานบ่อย ๆ นะครับ!”

คนอื่นไม่รู้จักฟู่สีเกอ แต่ว่าเขาจะไม่ชัดเจนได้ยังไง?

ลูกชายคนเดียวของเจ้าของลึกลับของห่วงโซ่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและเสื้อผ้า แต่ว่าตอนที่เขาอยู่ที่คาสิโน มีคนหาเรื่องคุณชายผู้นี้ที่ดูจะเจรจาพูดคุยกันได้ง่าย แต่ว่าภายหลัง…

ตอนนี้คิดดูแล้วก็ยังรู้สึกตื่นตระหนกอยู่

ในเมื่อผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังหลานเสี่ยวถางกับฟู่สีเกอมีความเกี่ยวข้องกัน งั้นบอกได้เพียงอย่างเดียวคือ ผู้ชายคนนั้นจะต้องอยู่ระดับเดียวกับฟู่สีเกออย่างแน่นอน!

ดูท่าแล้ว แผนที่จะมอบหลานเสี่ยวถางให้กับประธานซวี คงต้องเลื่อนกำหนดออกไปก่อน ประเด็นแรก ประธานซวีก็ยังมีลูกชายอีกคน เธอแต่งงานไปไม่รู้ว่าจะได้ส่วนแบ่งเท่าไหร่

ประเด็นที่สอง ถ้าหากส่งตัวเธอไป แล้วขัดใจคนที่อยู่เบื้องหลังหลานเสี่ยวถาง ไม่คุ้มค่ากับการสูญเสีย อีกอย่างถ้าหากหลานเสี่ยวถางมุมานะกุมผู้ชายคนนั้นไว้ได้อยู่หมัด…

คิดได้ถึงตรงนี้ หลานไห่ฮว๋าดวงตาเป็นประกาย

“ครับ ผมมาที่นี่ชั่วคราวก็เพราะมีธุระอย่างอื่น ผมไปก่อนนะครับ!” ฟู่สีเกอพูด แล้วยักคิ้วให้หลานเสี่ยวถาง จากนั้นก็เดินเข้าไปในงาน

“เสี่ยวถาง!” หูซิ่วจูรีบเปลี่ยนคำเรียกทันทีี “วันนี้เป็นวันเกิดของนายท่านแห่งตระกูลจริง เธอไปอวยพรท่านกับพวกเรา”

หลายปีมานี้ หลานเสี่ยวถางเคยชินกับท่าทางแบบนี้ของหูซิ่วจูตั้งนานแล้ว เธอพยักหน้า “ค่ะ”

ทั้งสามเดินเข้าไปหานายท่านแห่งตระกูลจิน หลานไห่ฮว๋านำภาพวาดที่เตรียมไว้ตั้งนานแล้วยัดใส่มือหลานเสี่ยวถาง “เดี๋ยวเดินเข้าไป ปากหวาน ๆ หน่อยนะ!”

สือเพ่ยหลินวันนี้พาเฉินจื่อโร่วมาด้วยกัน แต่ว่าเพิ่งมาถึงก็ถูกคุณพ่อเรียกไปพูดคุยกับนายท่านตระกูลจินด้วยกัน เพิ่งจะคุยกันได้ครู่หนึ่ง ก็เห็นสือมูเฉินเดินเข้ามา

สือมูเฉินส่งมอบของขวัญ สือเพ่ยหลินพูดคุยกับเขาสองสามประโยค แล้วกำลังจะเดินออกไป เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นทั้งสามคนเดินมาทางนี้

สือเพ่ยหลินตกตะลึง สายตาจ้องมองไปที่หลานเสี่ยวถาง

ในสายตาของเขาเปล่งประกายความน่าเหลือเชื่อ ราวกับอยากรู้ว่าตัวเองมองผิดไปหรือไม่ ดังนั้นจึงตั้งใจกะพริบตา

หลานเสี่ยวถางแถบจะมองไม่เห็นเขา เธอเดินตามคู่สามีภรรยาตระกูลหลานไปที่ด้านข้างของพวกเขา จากนั้นก็ส่งมอบของขวัญที่เตรียมเอาไว้แล้วยิ้มกับนายท่านตระกูลจิน “นายท่านจินคะ ไม่ได้เจอท่านนานแล้วนะคะ! นี่คือของขวัญที่คุณย่าขอให้หนูนำมาให้ท่าน แต่สุขภาพของคุณย่าไม่ค่อยดีนักจึงไม่ได้มาด้วย จึงให้หนูส่งมอบคำอวยพรแทน ขอให้นายท่านจินพรมีโชคลาภกว้างขวางราวกับทะเลจีนตะวันออก และอายุขัยนั้นยาวนานเท่ากับจงหนานซาน!”

นายท่านจินมองไปทางหลานเสี่ยวถาง แล้วอดยิ้มไม่ได้ “ไม่ได้เจอเสี่ยวถางนานแล้ว โตขนาดนี้แล้ว แถมยังสวยขนาดนี้! ต่อไปมีโอกาส ก็มาเที่ยวที่นี่บ่อย ๆ นะ วันนั้นเยว่ฉียังพูดถึงหนูด้วย บอกว่าเคยเล่นด้วยกันตอนเด็ก ๆ!”

“ค่ะ หนูก็คิดถึงเยว่ฉีมาก ถ้าหนูมีเวลาจะต้องมาแน่นอนค่ะ!” หลานเสี่ยวถางพูด

หลานไห่ฮว๋าร้อนรนเข้ามาพูดคุยกับนายท่านจิน

หลานเสี่ยวถางถูกผลักไปด้านข้าง จึงมองไปทางสือเพ่ยหลินโดยไม่ได้ตั้งใจ

เขาเห็นแบบนั้น ตัวแข็งนิดหน่อย แล้วรีบเคลื่อนสายตาออกจากหลานเสี่ยวถาง

ถึงจะไม่ได้มองเธอ แต่เขาก็ยังคงเห็นภาพเมื่อสักครู่อยู่

พูดจาสำรวมไพเราะ รูปร่างที่เหี่ยวเฉาในความทรงจำของเขา เวลานี้เมื่อสวมใส่ชุดกระโปรงหางปลา ดูวิจิตรงดงาม เทียบกับเฉินจื่อโร่ว ดูไม่ด้อยไปกว่ากัน

เธอศัลยกรรมแล้วหรือ? ไม่น่าจะใช่ นี่เพิ่งผ่านไปไม่นาน ศัลยกรรมจะต้องมีช่วงฟื้นฟูไม่ใช่หรือ?

จู่ ๆ สือเพ่ยหลินพบว่า เขาลืมตอนที่เจอกับหลานเสี่ยวถังครั้งแรกไปแล้ว

ในความทรงจำมีความทรงจำเลือนลาง ตอนนั้นที่เขาได้พบเธอ เคยคิดว่าหาภรรยาแบบนี้ก็พอแล้ว มีน้ำมีนวล สดใส ง่ายต่อการควบคุม

ดังนั้นเดิมทีเธอก็เป็นแบบนี้? เพียงแต่เธอไม่แต่งหน้าแต่งตัว ทำให้ความประทับใจของเธอที่เขามี ค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นความรังเกียจในช่วงหลัง

ในตอนนี้เอง เฉินจื่อโร่วเดินเข้ามาหาเขา เธอยื่นมือออกมาคล้องแขนของสือเพ่ยเฉิน น้ำเสียงออดอ้ออน “พี่เพ่ยหลิน เหม่อลอยอะไรอยู่?”

“ไม่มีอะไร” สือเพ่ยหลินดึงสติกลับ ไม่รู้ว่าจิตใจเป็นอะไร รู้ว่าหลานเสี่ยวถางอยู่ด้านข้าง ดังนั้นน้ำเสียงที่พูดกับเฉินจื่อโร่วจึงอ่อนโยนมากกว่าเดิม “โร่วโร่ว เห็นขนมที่ตัวเองอยากกินหรือยัง? ฉันพาเธอไปไหม?”

“ฉันกลัวอ้วน!” เฉินจื่อโร่วพูดออดอ้อน

“ไม่อ้วน รูปร่างของเธอสวยที่สุดในใจของฉันแล้ว!” ในตอนที่สือเพ่ยหลินพูด ในหัวของเขาไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ปรากฏภาพของหลานเสี่ยวถางขึ้น “นางเงือก” คำพูดนี้ติดอยู่ที่ลิ้น ถูกเขากดทับลง

เขาโอบเฉินจื่อโร่วแล้วพูด “ยิ่งไปกว่านั้นเธอดูแลร่างกายตัวเองให้ดี เธอยังจะต้องแต่งงานแล้วมีลูกกับฉัน!”

เสียงของเขาไม่เบา หลานเสี่ยวถางที่อยู่ด้านข้างได้ยินอย่างชัดเจน

เดิมทีเธอคิดว่าได้เจอพวกเขาอีกครั้ง ได้เห็นพวกเขาพลอดรักกันจะรู้สึกเจ็บปวด แต่ว่าเวลานี้กลับสงบมากอย่างไม่คาดคิด

เธอรู้ดีว่าเธอค่อย ๆ ปล่อยวางลงแล้ว

เพียงแต่เพราะว่าเรื่องที่พวกเขาเคยทำ คุณย่ายังนอนป่วยอยู่บนเตียง ดังนั้นเธอไม่ปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน!

“ก็ได้ค่ะ งั้นพวกเราไปกินกันเถอะ!” เฉินจื่อโร่วยิ้มอย่างมีความสุข เธอเคลื่อนสายตาถึงได้เห็นคนที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหน้า

หญิงสาวไม่ได้มองพวกเขา ใบหน้าด้านข้าง ทำให้เธอรู้สึกคุ้นตา

แต่ว่ารูปร่างมีออร่าแบบนี้ ถ้าเธอเคยเจอก็น่าจะมีความทรงจำอยู่บ้างสิ?

เฉินจื่อโร่วมองอยู่ครู่หนึ่ง สายตาค่อยข้างระมัดระวัง เพียงแต่ว่าสือเพ่ยหลินลากเธอออกไปอย่างเร็ว พาเธอเดินไปบริเวณจุดพักผ่อน ดังนั้นเธอจึงจำหลานเสี่ยวถางไม่ได้

หลานเสี่ยวถางไม่ได้มองทั้งคู่ แต่ยืนอยู่ด้านข้าง แล้วตั้งใจฟังหลานไห่ฮว๋าพูดคุยกับนายท่านจิน

ไม่พูดไม่ได้ว่าคนอย่างหลานไห่ฮว๋าถึงแม้จะเย่อหยิ่ง แต่ประจบสอพอก็เก่งอยู่เหมือนกัน เพียงไม่นานก็หยอกล้อนายท่านจริงจนหัวเราะคิกคัก แถมยังพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือโครงการในอนาคต สามารถมาหาเขาได้

ในตอนนี้เอง คุณผู้หญิงท่านหนึ่งพาเด็กสาววัยรุ่นเดินเข้ามา

คุณผู้หญิงเดินมาหยุดอยู่หน้าสือมูชิงกับเริ่นเหม่ยเฟิ่ง

“คุณน้าชาย! คุณน้าหญิง!” เด็กสาวปล่อยมือสาวมีอายุ แล้วพุ่งตรงมาทางเริ่นเหม่ยเฟิ่ง “ไม่ได้เจอกันนานเลยค่ะ คิดถึงคุณน้ามาก ๆ!”

“หย่าหยุน!” เริ่นเหม่ยเฟิ่งลูบหัวทางหย่าหยุนอย่างอ่อนโยน “พี่เพ่ยหลินบอกว่าหนูจะมางาน รอหนูอยู่นานแล้ว!”

“จริงหรือคะ? พี่เพ่ยหลินล่ะคะ?” ทางหย่าหยุนถามขึ้น

“เขาอยู่ที่จุดพักผ่อนด้านนู้น” เริ่นเหม่ยเฟิงพูด แล้วหันไปพูดกับคุณผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างทางหย่าหยุน “พี่สอง ไม่ได้เจอกันนานนะคะ”

ทางหย่าหยุนกำลังจะไปหาสือเพ่ยหลิน แต่เมื่อหันหน้าไปก็เห็นสือมูเฉินที่ยืนอยู่ด้านข้าง เธออึ้งนิดหน่อย จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างเกรงใจ “คุณน้าหญิงคะ ท่านนี้คือ?”

เริ่นเหม่ยเฟิงพูด “นี่คือคุณอาเล็กของเพ่ยหลิน หนูลืมแล้วหรือ? ตอนหนูดยังเด็กเคยเจอกันแล้ว”

“คุณอาเล็ก?” ทางหย่าหยุนมองดูคนที่ถ่อมตัวเป็นกันเองท่ามกลางฝูงชน แต่สือมูเฉินกลับมีความโดดเด่นเป็นพิเศษ รู้สึกว่าเพียงครู่เดียวหัวใจก็เต้นแรงขึ้น เธอพูดอย่างเขินอาย “หนูจำได้ค่ะ เพียงแต่ไม่ได้เจอกันนาน คิดไม่ถึงว่าคุณอาเล็กจะหล่อขนาดนี้แล้ว!”

พูดจบเธอก็เดินไปข้างหน้าสือมูเฉิน เธอเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนอย่างเฉียบขาด “คุณอาเล็กคะ หนูชื่อหย่าหยุน”

“อืม สวัสดี” สือมูเฉินพยักหน้าอย่างเฉยชา

หลานเสี่ยวถางมองไปที่ทั้งคู้ สายตาประหลาดใจ ดูท่าแล้วสามีของเธอยั่วยวนดอกไม้อีกแล้ว ทางหย่าหยุนคนนี้เธอไม่เคยเจอมาก่อน แต่ว่าเคยได้ยินคนพูดถึง เป็นลูกพี่ลูกน้องห่าง ๆ ของสือเพ่ยหลิน นับดูแล้วสามารถพูดได้ว่าไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดใด ๆ กับสือมูเฉินทั้งสิ้น

ทางหย่าหยุนพูด “คุณอาเล็กคะ หนูจำได้ว่าตอนเด็ก คุณอาเคยพาหนูกับพี่เพ่ยหลินไปสวนสนุกตอนช่วงตรุษจีน!

“ใช่หรือ?” สือมูเฉินพูด “ฉันความจำไม่ค่อยดี ลืมไปแล้ว”

ทางหย่าหยุนรู้สึกเสียหน้านิดหน่อย แต่ว่าก็ยังคงพูดต่อ “คุณอาเล็กคะ ไม่รู้ว่าพี่เพ่ยหลินทำอะไรอยู่ พวกเราไปหาเขาด้วยกันเถอะค่ะ?”

“เธอไปคนเดียวเถิดด ด้านนี้ฉันยังมีธุระที่ต้องทำอีก” สือมูเฉินปฏิเสธเธออย่างไร้เยื่อใย

พูดจบเขาก็มองไปทางหลานเสี่ยวถถาง แล้วยักคิ้วให้อย่างตั้งใจ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง หลังจากที่เขาตั้งใจปฏิเสธดอกไม้ แล้วขอความดีความชอบจากเธอ?

หลานเสี่ยวถางรู้สึกตลก แต่ว่ากลับมีความรู้สึกหวาน ๆ อย่างหนึ่ง มันเพิ่มขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ มันทำให้ร่างกายและจิตใจอบอุ่นในทันที