หลานเสี่ยวถางสูดหายใจเข้าลึก ๆ “คุณพ่อคะ หนูก็มีบัตรเชิญค่ะ เพื่อนของหนูให้มา คุณพ่อวางใจได้ งานเลี้ยงวันเกิดในวันนี้ หนูไปแน่นอนค่ะ”
“เธอก็มีบัตรเชิญหรือ?” หลานไห่ฮว๋าเริ่มไตร่ตรอง บัตรเชิญนี้ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถมีได้ เขามีบัตรเชิญสองใบเป็นเพราะมิตรภาพระหว่างนายท่านแห่งตระกูลจินกับคุณแม่ของเขา ถ้าหากหลานเสี่ยวถางไปงาน แม้กระทั่งหูซิ่วจูก็ไปร่วมงานไม่ได้ บัตรเชิญใบนี้หลานเสี่ยวถางได้มันมาจากไหน?
“ใช่ค่ะ เพื่อนหนูให้หนูมา หนูไปเข้าร่วมงานตรงเวลาแน่นอนค่ะ คุณพ่อวางใจเถอะค่ะ” หลานเสี่ยวถางเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า มีสือมูเฉินอยู่ แผนการของหลานไห่ฮว๋าไม่มีทางสำเร็จแน่นอน
“เธอเปลี่ยนผู้ชายคนใหม่อีกแล้วหรือ?” หลานไห่ฮว๋าพูดลองเชิง “ไม่ใช่ผู้ชายคนก่อน?”
ไม่คาดคิดว่าเขาจะพูดแบบนี้….หลานเสี่ยวถางรู้สึกหัวใจสั่น ขมขื่นอย่างบอกไม่ถูก เธอตอบกลับ “ใช่เขาค่ะ”
“เขาไม่มีเงินไม่ใช่หรือ? จะมีบัตรเชิญได้ยังไง?” หลานไห่ฮว๋ายังคงสงสัย “เธอมีอะไรปิดบังพวกเราอยู่ใช่ไหม?”
“ไม่มีค่ะ เขาทำงานอะไรหนูก็ไม่ทราบ สรุปคือหนูไปงานแน่นอนค่ะ เดี๋ยวเจอกันนะคะ!” หลานเสี่ยวถางพูดจบก็วางสายโทรศัพท์
ผ่านไปไม่นาน รถของสือมูเฉินจอดลงด้านหน้าเธอ หลานเสี่ยวถางเปิดประตูรถ แล้วขึ้นไปนั่ง
“อยากจะคุยกับผมเรื่องอะไร?” สือมูเฉินช่วยเธอรัดเข็มขัดนิรภัย
“เรื่องที่บ้านของฉัน…” หลานเสี่ยวถางรู้สึกว่าพูดเรื่องแบบนั้นของที่บ้านออกมา ก็รู้สึกอับอายขายขี้หน้า แต่ว่าเธอก็ยังเล่าต้นสายปลายเหตุออกมา จากนั้นก็พูดขึ้น “พวกเขายังอยากจะให้ฉันแต่งงานกับประธานซวี ถือโอกาสกวาดโกยเงินก้อนหนึ่ง”
“ดูท่าแล้ว พวกเขาคิดว่าผมเทียบกับประทานซวีคนนั้นไม่ได้?” สือมูเฉินสตาร์ทรถ “เสี่ยวถาง คุณวางใจได้ ต่อไปพวกเขาจะไม่มีทางเอ่ยข้อเสนอแนะที่โง่เขลาแบบนี้อีก”
หลานเสี่ยวถางโล่งใจ ดวงตาสดใสถามขึ้น “มูเฉิน คุณจะทำยังไง?”
“ความลับ” สือมูเฉินพูดแล้วยิ้มมุมปาก “วางใจได้ สามีของคุณไม่มีทางขายคุณแน่นอน”
ในไม่ช้า ทั้งสองก็มาถึงแฟชั่นคลับ สือมูเฉินจูงมือหลานเสี่ยวถางเดินเข้าไป มีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาต้อนรับในทันที “อาเฉิน ไม่ได้เจอกันนานแล้วนะ ลืมน้องชายคนนี้ไปแล้วใช่ไหม?”
พูดจบ เขาก็มองไปทางหลานเสี่ยวถางที่อยู่ด้านข้างสือมูเฉิน ในดวงตาเปล่งประกายความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาในทันที “หืม? คิดไม่ถึงว่าจะพาผู้หญิงมาด้วย?”
“อืม ภรรยาฉันเอง” สือมูเฉินพูดอย่างเป็นธรรมชาติ “เสี่ยวถาง นี่คือเพื่อนรักของผมฟู่สีเกอ ปกติไม่ค่อยจริงจังกับอะไร ชอบพูดประโลมไปทั่ว คำพูดของเขา คุณไม่ต้องใส่ใจมากนัก”
“มีใครเขาพูดแบบนี้กัน?” ฟู่สีเกอชกหน้าอกของสือมูเฉิน
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลานเสี่ยวถาง!” หลานเสี่ยวถางยิ้มกับฟู่สีเกอ
“เดี๋ยวก่อนนะ!” ฟู่สีเกอมองดูหลานเสี่ยวถาง แล้วพูดกับสือมูเฉิน “อาเฉิน เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ เธอคือภรรยาของนาย? นายแต่งงานแล้วหรือ? จริงหรือ?!”
“ต้องให้ฉันเอาทะเบียนสมรสออกมาให้ดูไหม?” สือมูเฉินพูด
“เชี่ย!” ฟู่สีเกอผลักสือมูเฉิน “นายแต่งงานตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกฉัน? ยังเห็นฉันเป็นคนกันเองไหม?!”
รอยยิ้มเปล่งประกายในดวงตาของสือมูเฉิน “สีเกอ ท่าทางของนายแบบนี้ ภรรยาของฉันจะเข้าใจผิดว่าพวกเรามีความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติต่อกัน”
“ไสหัวไป ใครมีความสัมพันธ์ไม่ปกติกับนาย?!” ฟู่สีเกอกระโดดถอยหลังก้าวหนึ่ง “ข้ายังคงชอบผู้หญิง นายไม่ใช่รสนิยมของฉัน ฉันกลืนไม่ลง! แต่ว่าพูดจริงนะ นายแต่งงานก็ไม่บอกพวกเรา อยากจะมีชีวิตอยู่อีกไหม?!”
“รายละเอียด เดี๋ยวค่อยอธิบายให้ฟังทีหลัง สำหรับงานแต่ง ถึงเวลาที่เหมาะสมจะเชิญพวกนายทุกคนแน่นอน” สือมูเฉินพูด “วันนี้ที่มาที่นี่เพราะฉันจะพาเสี่ยวถางไปงานเลี้ยง ฉันส่งมอบเธอให้กับนาย แต่งตัวเธอให้สวย ๆ หน่อยล่ะ”
“วางใจได้ เพื่อนของนาย สำหรับเรื่องนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน ถึงจะเป็นพี่เฟิ่งฉันก็สามารถทำให้ใบหน้าของเธองดงามราวดอกไม้ได้!” ฟู่สีเกอเห็นดวงตาของสือมูเฉินเคร่งขรึม จึงรีบพูดแก้ต่าง “ยิ่งไปกว่านั้น พี่สะใภ้หน้าตาดูสดใสขนาดนี้ แค่มองดูก็รู้แล้วว่าหน้าดั้งเดิม เดี๋ยวพอพาลงมาด้านล่าง นายอย่าบอกว่าจำภรรยาของตัวเองไม่ได้นะ!”
สือมูเฉินพยักหน้า แล้วพูดมาดคุณชาย “อืม ฉันมีงานที่ยังต้องทำ หาห้องรับรองเงียบ ๆ ให้ฉันสักห้อง”
“ได้ นายคือคุณชาย!” ฟู่สีเกอพูดขึ้น จากนั้นก็หันไปสั่งผู้จัดการที่อยู่ที่ห้องโถง “จัดแจงห้องรับรองปลอดบุหรี่ห้องหนึ่ง”
จากนั้นเขาก็มองไปที่เสี่ยวถางอย่างกระตุ้งกระติ้ง “คนสวย สามีของเธอไม่เอาเธอแล้ว ไปกับฉันเถอะ!”
หลานเสี่ยวถางอดที่จะหัวเราะไม่ได้ เธออิจฉาสือมูเฉินเป็นอย่างมากที่มีเพื่อนแบบนี้ ผ่อนคลายมีความสุข ไม่ขัดข้องใจสักนิด นี่คือรูปแบบของเพื่อนที่แท้จริง
แฟชั่นคลับนี้หลานเสี่ยวถางได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว เป็นแฟชั่นคลับที่ไฮเทคที่สุดในหนิงเฉิง เมื่อก่อนตอนที่ตระกูลหลานยังมีเงินทองอยู่ แม้แต่หลานเล่อซินก็เคยมาที่นี่แค่เพียงครั้งสองครั้ง มาที่นี่ก็ต่อเมื่อมีงานสำคัญของตระกูล
แถมได้ยินว่าเจ้าของที่อยู่เบื้องหลังคลับนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและเสื้อผ้าทั้งหมด ปกติเป็นคนถ่อมตัว ไม่ชอบออกกล้อง ถือว่าเป็นคนร่ำรวยที่ปกปิดสถานะของตัวเอง
คิดไม่ถึงว่าสือมูเฉินกับฟู่สีเกอที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นเพื่อนรักกัน และก็ไม่รู้ว่าฟู่สีเกอเป็นเจ้าของที่อยู่เบื้องหลังของที่นี่หรือเปล่า?
ยังมีเรื่องวันนั้นอีก ที่สือมูเฉินมองของขวัญให้เธอ ที่ให้สือเพ่ยหลินกับเฉินจื่อโร่วอับอายขายขี้หน้า หลาย ๆ เรื่องราวแสดงออกอย่างชัดเจนว่าสือมูเฉินไม่ได้ธรรมดาขนาดนั้น
เขายิ่งมีลับลมคมใน ยิ่งดีเลิศ เธอกลับยิ่งสงสัย ทำไมเขาถึงได้เลือกเธอ?
เป็นเพราะหลานเล่อซินหรือ? ตอนแรกหลานเล่อซินมีการหมั้นกับเขา แต่จู่ ๆ กลับหายตัวไป ตอนนี้เขาแต่งงานกับน้องบุญธรรมของหลานเล่อซิน จะไม่มีความขุ่นเคืองแม้แต่น้อยเลยหรือ?
“คนสวย ทำสปาไปก่อนนะ ผมไปเลือกชุดราตรีกับเครื่องประดับให้คุณ” ฟู่สีเกอส่งมอบหลานเสี่ยวถางให้กับช่างเสริมสวย
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” หลานเสี่ยวถางยิ้มให้กับฟู่สีเกอ
“คุณผู้หญิงคะ คุณชื่ออะไรคะ?” ช่างเสริมสวยพูด
“ฉันแซ่หลานค่ะ”
“คุณหลานคะ คุณรู้จักผู้จัดการใหญ่ของพวกเราหรือคะ? ” ช่างเสริมสวยถาม
“ค่ะ” หลานเสี่ยวถางพยักหน้า
“ผู้จัดการใหญ่ไม่ค่อยมาที่ร้าน น้อยคนมากที่จะสามารถเชิญเขามาได้” ช่างเสริมสวยอิจฉา “เดี๋ยวฉันทำสปาให้คุณเสร็จ ผู้จัดการใหญ่จะพาคุณไปแต่งหน้าทำผม เมื่อก่อนคนที่เคยเจอผู้จัดการใหญ่ พูดกันเป็นเสียงเดียวว่าเขามีมือมหัศจรรย์ เป็นมือที่แปลกประหลาดสามารถเปลี่ยนจากดีเป็นร้าย แน่นอนว่าคุณหลานพื้นฐานหน้าตาดี เข้าร่วมงานเลี้ยงผู้คนจะต้องตกตะลึงกันทั่วงานแน่ค่ะ”
หลานเสี่ยวถางยิ้ม “มหัศจรรย์ขนาดนั้นเลยหรือคะ? ”
“ใช่ค่ะ” ช่างเสริมสวยพูด “เมื่อก่อนตอนที่ดารารุ่นใหญ่หนีตานหย่าได้รับตุ๊กตาทอง ก็เชิญผู้จัดการใหญ่ของพวกเราค่ะ”
เดิมทีหลานเสี่ยวถางมีท่าทีสงสัย แต่ตอนนี้อดที่จะตั้งหน้าตั้งตารอไม่ไหวแล้ว
ฝีมือของช่างเสริมสวยดีมาก ตอนที่บำรุงรักษาทั่วร่างกาย หลานเสี่ยวถางได้นอนหลับไป ในตอนที่ตื่นขึ้นมา ช่างเสริมสวยก็พูดขึ้น “คุณหลานคะ ผู้จัดการใหญ่รออยู่ที่ห้องข้างๆ แล้วค่ะ ฉันนำทางคุณไปค่ะ”
เวลาหนึ่งชั่วโมง สือมูเฉินใช้เวลาไปกับอีเมลและโทรศัพท์ จนกระทั่ง เสียงเคาะประตูของห้องรับรองดังขึ้น เขาเคาะแป้นพิมพ์ไปด้วย ออกคำสั่งไปด้วย “เข้ามา”
หลานเสี่ยวถางรู้สึกเป็นกังวลนิดหน่อย เธออดไม่ได้ที่จะหันไปมองฟู่สีเกอที่อยู่ด้านหลัง ภายใต้สายตามั่นใจของเขา เธอหมุนลูกบิดประตู แล้วผลักประตูออก
สือมูเฉินรู้สึกได้ว่าประตูถูกเปิดออก แต่กลับไม่มีเสียงคนพูดอยู่เป็นเวลานาน จึงเงยหน้าขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์
เมื่อได้เห็นคนที่ยืนอยู่ด้านหน้าประตู ก็อึ้งไปครู่หนึ่ง
หลานเสี่ยวถางเห็นใบหน้าของสือมูเฉินไม่ได้แสดงออกอะไร ใจเธอหวั่นไหวมากกว่าเดิม ไม่รู้ว่าตัวเองในสภาพนี้สวยหรือไม่สวย เธอกังวลจนจิกกระโปรง
สือมูเฉินมองหลานเสี่ยวถางสองวินาที แล้วจึงพับหน้าจอคอมลง และเดินไปทางหลานเสี่ยวถาง
มองดูเขาที่ไม่ส่งเสียงเดินเข้ามาทีละก้าว หลานเสี่ยงถางกังวลยิ่งกว่าเดิม เหมือนทหารที่รอรับการตรวจพล
“เสี่ยวถาง” สือมูเฉินยืนอยู่ด้านหน้าหลานเสี่ยวถาง ยื่นมือออกไปจัดแจงไรผมที่ถูกฟู่สีเกอม้วนเป็นลอนอยู่ตรงหน้าผาก
“คะ? ” หลานเสี่ยวถางเงยหน้ามองเขา อยากจะมองดูอะไรบางอย่างในสายตาของเขา
แต่เขากลับไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น เขาหันข้าง โน้มตัวลงมาเข้าใกล้ใบหูของเธอ
เสียงต่ำมีสเน่ห์ดึงดูดราวกับเสียงเชลโลบรรเลงช้า ๆ ในงานเลี้ยง “สวยมาก ผมชอบมาก”
หลานเสี่ยวถางได้ยินเสียงเต้นของหัวใจได้อย่างชัดเจน เต้นแรงมากราวกับกำลังตีกลองอยู่
“เห้ย พวกนายสองคนพลอดรักกัน ควรจะพิจารณาถึงความรู้สึกของฮีโร่หน่อยไหม? ” เสียงหรือไม่พอใจของฟู่สีเกอ ดังมาจากด้านหลัง “พี่ชาย ฉันหลังขดหลังแข็งมาทั้งวัน เปลี่ยนภรรยาของนายให้สวยขนาดนี้ เข็ดเอวเข็ดหลังเข็ดบ่า ไม่มีคนช่วยฉันนวดหน่อย! แม้กระทั่งคำพูดดีดีก็ยังไม่มีเลย! ”
“คุณฟู่คะ ขอบคุณคุณมากจริงๆค่ะ!” หลานเสี่ยวถาง พูดอย่างจริงจัง
“ อย่าเรียกผมห่างเหินขนาดนั้น เรียกผม ว่าสุดหล่อฟู่ก็พอแล้วครับ! ” ฟู่สีเกอพูดขึ้น แล้ววางมือบนบ่าของสือมูเฉิน จากนั้นก็ถามหลานเสี่ยวถาง “ มาดูกันหน่อยครับ ผมกับสามีของคุณ ใครหล่อกว่ากัน? ”
“แน่นอน! ” ฟู่สีเกอพูดอย่างลำพองใจ “ ตอนนั้นผมกับอาเฉินตอนมัธยมอยู่ห้องเดียวกัน เด็กผู้หญิงในห้องชอบผมมากกว่าเขาเยอะมากๆ ”
“ แต่ว่าทำไม ฉันรู้สึกว่ามูเฉินหล่อกว่าคุณคะ? ” หลานเสี่ยวถางกะพริบตา
ฟู่สีเกอพูดจุกอก “เห้ย สายตาของคุณมีปัญหาใช่ไหม? ที่ร้านผมมีคอนแทคเลน คุณลองใส่แล้วลองมองใหม่อีกครั้ง ”
“ พอแล้วฉั นกับเสี่ยวถางจะต้องไปร่วมงานเลี้ยงอีก ” สือมูเฉินพูด “ วันนี้ขอบคุณมาก เปลี่ยนวันไว้ไปทานข้าวด้วยกัน เรียกชิงเจ๋อกับพรรคพวกไปด้วย ”
“ ตกลง ไปเหอะ มีเพศตรงข้ามก็ไม่สนใจคนอื่น! ” ฟู่สีเกอพูดแล้ว หยิบกุญแจรถออกมา “ สุดหล่ออย่างฉันก็จะออกไปลั้นลาแล้ว ไปหาคนนวดให้สักหน่อย”
ตอนที่สือมูเฉินกับหลานเสี่ยวถาง มาถึงประตูใหญ่คฤหาสน์ตระกูลจิน งานเลี้ยงวันเกิดเพิ่งจะเริ่มขึ้น
เขายื่นบัตรเชิญออกไปสองใบ พาหลานเสียวถางเดินเข้าไปในห้องโถง ภายใต้สายตาประหลาดใจและตกตะลึงของผู้คนโดยรอบ
ในตอนที่เดินเข้าประตูไป หลานเสี่ยวถางเรียกสือมูเฉินเอาไว้ “มูเฉิน คุณเคยพูดไว้ไม่ใช่หรือคะ ว่าความสัมพันธ์ของพวกเรายังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผย? ”
สือมูเฉินหันมามองเธอ “ คุณเข้าไปคนเดียวได้ไหม? ”
“ ได้ค่ะ ” หลานเสียวถางรู้ดี ไม่ว่าสถานการณ์อะไร สำหรับเธอแล้วเป็นการฝึกฝนทั้งนั้น สิ่งที่เธอต้องทำก็คือคว้าโอกาสไว้ทุกครั้ง เพื่อให้ตนเองเข้มแข็งขึ้น
“ตกลงครับ” สือมูเฉินพูด แล้วช่วยเธอดึงคอเสื้อของชุดราตรีขึ้น “วางใจได้ จากวันนี้ไป พ่อแม่บุญธรรมของคุณจะไม่มีทางมอบคุณให้กับใครอีก”
“อืม” หลานเสี่ยวถางพยักหน้า แล้วเดินตามสือมูเฉินเข้าไปในห้องโถง
เวลานี้ห้องโถงเต็มไปด้วยหญิงโฉมงาม สองปีมานี้ตระกูลจินพัฒนาไปได้ไม่เลว ทุกคนล้อมรอบนายท่านแห่งตระกูลจินอยู่ ส่งมอบคำอวยพรและของขวัญให้ ดังนั้นไม่ค่อยมีคนสนใจที่ทางประตูห้องโถง
หลานเสี่ยวถางเข้าไป ก็เห็นสามีภรรยาตระกูลหลานชะเง้อมองไปทางประตูอยู่ ทั้งคู่เห็นเธอ ในสายตาปรากฏความคาดไม่ถึงขึ้น แล้วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
คำพูดของนักเขียน : เดากันว่าภายหลังสือเพ่ยหลินเห็นเสี่ยวถางแล้วจะมีปฏิกิริยาอย่างไร? พบกันพรุ่งนี้!