บทที่ 27 จูบผม ไม่อย่างงั้น

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

ในรถ สือเพ่ยหลินกำลังจะถึงจุดสำคัญ ท่วงท่ายิ่งอยู่ยิ่งเร็วขึ้น เฉินจื่อโร่วที่อยู่ใต้เรือนร่างของเขาร้องครางไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าทั้งสองกำลังจะถึงจุดสูงสุด

และในเวลานี้เอง จู่ ๆ ก็มีแสงวาบผ่านฟิล์มสีดำ แสงสาดส่องเข้ามาในรถ สือเพ่ยหลินตกตะลึง น้ำแตกออกอย่างควบคุมไม่ได้

เฉินจื่อโร่วร้องครางออกมา จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ถึงบางอย่าง แล้วมองแสงที่สาดส่องเข้ามาอย่างตกใจ

ทั้งคู่งงงวยไปหมด จนกระทั่งเสียงเคาะกระจกดังขึ้น

ราวกับเมื่อครู่มีคนใช้ไมโครโฟนตะโกนอะไรบางอย่าง แต่ว่าทั้งสองเคลิบเคลิ้มมากไปหน่อย จึงได้ยินไม่ชัดเจน

เรื่องแบบนี้ถูกใครรบกวน เป็นใครก็ต้องโมโห แล้วคนอย่างสือเพ่ยหลินที่ชีวิตหรูหรามาตั้งแต่เด็ก ที่เมืองหนิงเฉิงนี้ แทบจะเดินกร่าง

เขาไม่สนใจใด ๆ ทั้งสิ้น เขาลดกระจกลง แล้วพูดตะคอกใส่คนที่อยู่ด้านนอก “มึงเป็นบ้าหรือวะ?!”

เขาตะคอกจบ ถึงได้พบว่าด้านนอกเป็นทหารที่ติดอาวุธอยู่ ปากกระบอกปืนที่เย็นเฉียบ กำลังจ่ออยู่ที่หัวของเขา

เขาตกใจจนสมองอื้อ จากนั้นก็เรียกสติกลับมา แล้วค่อย ๆ พูดขึ้นอย่างระมัดระวัง “ทุกท่านครับ เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ?”

เฉินจื่อโร่วได้ยินน้ำเสียงแปลก ๆ ของสือเพ่ยหลิน จึงจัดแจงกระโปรงของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้นก็ลุกขึ้นยื่นหน้าออกไปมอง

ตอนนี้เอง “พี่ชายซุบซิบ” แบกกล้องมาใกล้ ๆ แล้วถ่ายภาพทั้งสองคนอย่างบ้าคลั่ง

เจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้นำพูดขึ้น “พวกเราได้รับสายรายงานและรูปถ่ายจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม บอกว่าในรถของคุณแอบลักลอบครอบครองยาเสพติด ขอเชิญออกมาจากรถแล้วรับการตรวจค้นในตอนนี้ด้วย!”

สือเพ่ยหลินขมวดคิ้ว “ยาเสพติดอะไร? ผมคือสือเพ่ยหลิน พวกคุณเข้าใจผิดแล้วหรือเปล่า?”

“ที่แท้ก็คือคุณสือ แต่ว่ายังไงก็ต้องรบกวนคุณแสดงบัตรประชาชนด้วยครับ” เจ้าหน้าที่พูด “ผู้หญิงคนนี้มาจากไนต์คลับไหน? รบกวนแสดงบัตรทำงานและบัตรประชาชนออกมาด้วยครับ”

ไนต์คลับ?! เฉินจื่อโร่วรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรง เธออยากจะแก้ต่าง แต่ว่าจู่ ๆ ก็นึกบางอย่างออก ถ้าหากเธอบอกสถานะออกมา ถูกสือมูชิงรู้เรื่องที่เธอกับสือเพ่ยหลินถูกจับ เกรงว่าเธออยากจะแต่งงานเข้าตระกูลสือก็จะยากยิ่งกว่าเดิม

ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงก้มหน้า “ฉันไม่ได้พกมาด้วย”

“งั้นรบกวนไปสถานีตำรวจกับพวกเราหน่อยครับ” เจ้าหน้าที่ดูบัตรประจำตัวของสือเพ่ยหลินแล้วพูดขึ้น “เพียงแต่ ในเมื่อพวกเราได้รับรายงานแล้ว เช่นนั้นขั้นตอนก็จำเป็นต้องทำให้เสร็จสิ้น ดังนั้นต้องขอตรวจสอบในรถหน่อยครับ หวังว่าคุณสือจะเข้าใจการทำงานของพวกเรานะครับ”

“ทราบครับ” สือเพ่ยหลินอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก แต่ว่าTimes Groupยังไงก็เป็นบริษัทธุรกิจ ตั้งแต่สมัยโบราณนักธุรกิจไม่สู้รบกับข้าราชการ เขาจึงทำได้เพียงรีบรัดเข็มขัดกางเกงของตัวเองแล้วลงจากรถ

เจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธหลายคนตรวจสอบภายใน แม้แต่ของเหลวขุ่นบนที่นั่งข้างคนขับก็ไม่ละเว้น

แน่นอนว่า ของเหลวขุ่นก็ถูกบันทึกเข้ากล้องของพี่ชายซุบซิบเช่นกัน

“ในรถไม่มียาเสพติด แต่ว่าคุณผู้หญิงท่านนี้ต้องไปสถานีตำรวจกับพวกเราเพื่อได้รับการตรวจสอบ” เจ้าหน้าที่พูด แล้วมองไปทางเฉินจื่อโร่ว “ขึ้นรถ!”

“พี่เพ่ยหลิน…” เฉินจื่อโร่วที่เดิมทีขาอ่อนอยู่แล้ว บวกกับเรื่องที่จะถูกพาไปสถานีตำรวจ เธอตกใจจนหน้าซีดขาว

“โร่วโร่วไม่ต้องกลัว ฉันจะหาวิธีช่วยเธอ” สือเพ่ยหลินพูดกับเจ้าหน้าที่ “ขอถามหน่อยครับคุณตำรวจ ผมสามารถประกันตัวเธอได้ไหมครับ?”

เจ้าหน้าที่ตำรวจพยักหน้า “ได้ แต่ต้องหลังจาก 24 ชั่วโมง”

“พี่เพ่ยหลิน…” เฉินจื่อโร่วคิดภาพที่ตัวเองต้องอยู่ที่สถานีตำรวจหนึ่งวันหนึ่งคืนเพียงคนเดียว ก็ร้องออกมาอย่างหมดหวัง

“โร่วโร่ว เธออดทนหน่อย รอฉัน…” สือเพ่ยหลินหมดหนทาง ทำได้เพียงมองดูเฉินจื่อโร่วถูกพาตัวไป

ในเวลานี้ หลานเสี่ยวถางที่นั่งอยู่ตรงหัวเตียงมองดูเวลา พบว่าเวลานี้ห่างจากเวลาที่สือมูเฉินโทรมาผ่านไปประมาณ 20 นาทีแล้ว จึงได้เปิดดูเวยป๋อ

ตอนที่เห็นเนื้อหาบนเวยป๋อ หลานเสี่ยวถางอดไม่ได้ที่จะตกใจ เธอกะพริบตา เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้มองผิดไป

“รถของคุณชายTimes Groupสั่นอยู่กลางถนน ฝ่ายหญิงกลับเป็นสาวบริการจากบางแห่ง”

“ผู้หญิงกลางคืนเสื้อคอ V ยั่วยวนคุณชายTimes Group หวังว่าจะได้เลื่อนขั้นเป็นเน็ตไอดอล”

ผู้หญิงกลางคืน? สาวบริการ? หลานเสี่ยวถางรู้สึกงุนงงนิดหน่อย หรือว่าสือเพ่ยหลินทิ้งเฉินจื่อโร่ว แล้วไปมีชู้อีกแล้ว?

เพียงแต่เมื่อเธอมองดูภาพด้านบน กลับมองออกในทันที คนที่เป็นสาวนั่งแท่นคนนั้น ก็คือเฉินจื่อโร่วไม่ใช่หรือ?!

งั้นก็หมายความว่า เธอกับสือเพ่ยหลินมีอะไรกันบนรถ จากนั้นก็ถูกคนถ่ายรูปไว้ที่ถนน?

คิดได้ถึงเมื่อสักครู่ที่สือมูเฉินบอกว่าจะให้ของขวัญเธอ หลานเสี่ยวถางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิกคัก ดังนั้นคนที่เป็นคนแจ้งข่าวก็คือสือมูเฉิน?

เขาทำเรื่องร้ายกาจขนาดนี้ได้?

เพียงแต่ว่า ทำไมถึงได้รู้สึกดีใจขนาดนี้นะ!

หลานเสี่ยวถางรู้สึกดีใจ เธอถือโทรศัพท์มือถือไว้ แล้วเริ่มดูคอมเม้นด้านบน

เป็นไปอย่างที่คิด ทุกคนกำลังด่าทอสือเพ่ยหลินว่าควบคุมส่วนล่างของตัวเองไม่ได้ ไร้เยียงอาย ด่าเฉินจื่อโร่วที่หน้าด้าน เพื่อได้ยกระดับตัวเอง อะไรก็ทำได้ทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเคยนอนมาแล้วกี่คน

หลานเสี่ยวถางดูคอมเม้นไม่หยุด ก็ได้ยินเสียงดังมาจากประตู

เธอวางโทรศัพท์ลง ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปที่ประตูห้องนอน สือมูเฉินเปลี่ยนรองเท้าแล้วเดินเข้ามา

เขามองดูรอยยิ้มมุมปากของหลานเสี่ยวถาง จึงอดไม่ได้ที่จะยักคิ้ว “เสี่ยวถาง ของขวัญที่สามีของคุณมอบให้ คุณชอบไหม?”

“ชอบ!” หลานเสี่ยวถางเดินเข้ามาอย่างเร็ว แล้วยิ้มกับสือมูเฉิน “มูเฉิน เรื่องนี้คุณเป็นคนคิดจริงหรือ? ได้ใจจริง ๆ!”

“ใช่ ผมเป็นคนคิด อยากให้ภรรยายิ้ม” สือมูเฉินปลดเนกไทไปด้วยพูดไปด้วย “เพียงแต่ว่า เรื่องนี้ก็ต้องให้พวกเขาร่วมมือด้วยไม่ใช่หรือ? อย่างมากผมก็แค่หลังจากแจ้งรายงานก็ให้นักข่าวไปที่นั่น ไม่ได้ถึงกับวางยาพวกเขาสองคน”

หลานเสี่ยวถางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “มูเฉิน ฉันพบว่าคุณที่ฉันรู้จักเมื่อก่อน เหมือนว่าจะไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคุณ”

เขาเลิกคิ้ว “ทำไม ตอนนี้พบว่าผมไม่เหมือนก่อน รู้สึกเสียใจที่แต่งงานกับผมหรือ?”

หลานเสี่ยวถางส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ” เธอพูดอย่างจริงจัง “มูเฉิน ขอบคุณนะคะ!”

“ผมแค่ลงโทษพวกเขาเพื่อคุณ เฉินจื่อโร่วคนนั้นถูกตำรวจพาตัวไป ถึงสือเพ่ยหลินจะประกันตัว แต่ก็ต้องกักขังไว้คืนหนึ่่ง” สือมูเฉินก้มหน้ามองหลานเสี่ยวถาง “สำหรับในอนาคตคุณอยากจะแก้แค้นยังไง ผมยกให้คุณทั้งหมด มากสุดผมแค่คอยสนับสนุนคุณอยู่เบื้องหลัง”

“ค่ะ” จู่ ๆ หลานเสี่ยวถางอยากจะยื่นแขนออกไปกอดสือมูเฉิน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเขาถอดเสื้อเชิ้ตออกแล้ว ท่อนบนเปลือยเปล่า เผยให้เห็นกล้ามเนื้อกำยำที่สวยงาม

“คุณถอดเสื้อออกตั้งแต่เมื่อไหร่?” ถึงแม้ทั้งสองจะมีระยะห่างติดลบมากกว่าหนึ่งครั้ง แต่ว่าหลานเสี่ยวถางเห็นเรือนร่างของสือมูเฉิน ก็อดไม่ได้ที่จะแก้มแดง หัวใจก็เริ่มเต้นเร็วขึ้น

“ผมไม่ชอบความอึดอัด อยู่ที่บ้านก็ปล่อยตัวตามสบายหน่อย” สือมูเฉินพูด แล้วเริ่มปลดเข็มขัด

“พอแล้ว พอแล้ว ไม่ต้องถอดแล้ว…” หลานเสี่ยวถางโบกมือ

“ไม่ถอดแล้วจะอาบน้ำยังไง?” สือมูเฉินเลิกคิ้ว “หรือว่า คุณจะช่วยผมถอด?”

เขาพูดอย่างยั่วยวน “วันนี้ผมช่วยคุณ คุณยังไม่ได้ตอบแทนฉัน งั้นก็ช่วยผมอาบน้ำแล้วกัน!”

“ฉัน…” หลานเสี่ยวถางหัวใจเต้นแรง เบนหน้าไปทางอื่น นิ้วมือเริ่มจับชุดนอนโดยไม่รู้ตัว

“เสี่ยวถาง คุณไม่รู้หรอกว่าท่าทางของคุณแบบนี้ ยิ่งยั่วยวนให้ผู้ชายทำผิด?” สือมูเฉินเข้าใกล้เธอ ลมหายใจร้อนผ่าวกระทบหน้าผากของเสี่ยวถาง “จูบผม ไม่อย่างงั้นผมจะลงโทษคุณ”

หลานเสี่ยวถางลุกลี้ลุกลนเงยหน้ามองเขา “คุณพูดจริงหรือคะ?”

“ให้เวลาคุณ 10 วินาที ไม่จูบผม ผมจะ…บนโซฟา” คำพูดด้านหลัง สือมูเฉินไม่ได้พูดจบ

หลานเสี่ยวถางเงยหน้ามองเขา ได้ยินริมฝีปากบางของเขาเริ่มนับถอยหลัง “10 9 8 7…”

หลานเสี่ยวถางยิ่งลุกลี้ลุกลนมากกว่าเดิม เธอเข้าใกล้สือมูเฉินช้า ๆ จากนั้นก็เขย่งปลายเท้า

หัวใจเต้นแรงเหมือนจะพุ่งออกจากลำคอ ความรู้สึกแบบนั้น ทำให้สมองเริ่มขาดออกซิเจน หลานเสี่ยวถางเข้าใกล้สือมูเฉินทีละนิด

“3 2…” สือมูเฉินยังคงนับถอยหลัง

หลานเสี่ยวถางรู้สึกว่าเส้นเลือดในสมองแตกขาด เธอหลับตาลงอย่างแรง จากนั้นก็พุ่งตัวไปข้างหน้า จูบลงบนริมฝีปากของสือมูเฉิน

เธอแตะเพียงครู่เดียว จากนั้นก็จะถอยออก แต่เขากลับกดเธอเอาไว้ เปลี่ยนจากถูกฝ่ายถูกกระทำเป็นฝ่ายกระทำ ลมหายใจแผดร้อนแผ่ซ่านไปทั่วตัวเธอ

หลานเสี่ยวถางตั่วสั่น รู้สึกว่าจุดศูนย์ถ่วงไม่มั่นคง แทบจะล้มลงบนพื้น จึงยื่นมือออกไปยึดติดกับแผ่นหลังของสือมูเฉิน

การกระทำของเธอ ทำให้แผ่นหลังของเขาแข็งทื่อนิดหน่อย แต่ลังเลอยู่เพียงครู่เดียว จากนั้นเขาก็โอบรัดเอวของเธอไว้ ร่างกายของเธอกดทับหน้าอกของเขา

หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ออกซิเจนในปากเริ่มน้อยลง หลานเสี่ยวถางหมดเรี่ยวแรง เธอตัวอ่อนปวกเปียกล้มลงบนตัวของสือมูเฉิน

เขาโอบเธอไว้ แล้วขยับฝีเท้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นหลานเสี่ยวถางรู้สึกว่าที่หลังอ่อนนุ่ม แนบติดลงบนโซฟานุ่ม ๆ

แล้วก็ได้ยินเสียงถอดเข็มขัด หลังจากนั้นก็มีฝ่ามือขนาดใหญ่อยู่บนหน้าอกของเธอแล้ว

ฝ่ามือของเขาหยาบด้านเล็กน้อย สัมผัสที่แหลมคม ทำให้รู้สึกจั๊กจี้จนแทบจะหายใจไม่ออก

เธอไม่ใช่คนที่ไร้เดียงสาอีกต่อไป ถูกสัมผัสแบบนี้ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะครางออกมา แก้มแดง จนอยากจะเด็ดออก

เมื่อสือมูเฉินสอดใส่เข้าไป หลานเสี่ยวถางถลึงตาโต เธอมองดูไปรอบ ๆ ทั้งหอบทั้งพูดไปด้วย “ไหนบอกว่า ฉันเป็นฝ่ายจูบคุณ แล้วจะไม่…บนโซฟา…”

“เด็กโง่ ผู้ชายพูดเรื่องบนเตียง คุณก็เชื่อหรือ?” สือมูเฉินสอดใส่เข้าลึก ๆ “ก็เหมือนกับพวกผู้หญิงที่ปากบอกว่าไม่เอา แต่คุณดูสิ ร่างกายของคุณก็อยากได้ไม่ใช่หรือ?”

คืนนั้นหลานเสี่ยวถางถูกสือเพ่ยเฉินอุ้มไปอาบน้ำ เช้าวันต่อมา สือเพ่ยเฉินให้เธอพักครึ่งชั่วโมง เรื่องที่จะออกกำลังกาย ก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก

ภายในหนึ่งเดือนต่อมา หลานเสี่ยวถางตั้งใจร่ำเรียน จนกระทั่งวันนี้ เธอเพิ่งจะกลับจากโรงเรียนสอนขับรถ ก็ได้รับสายโทรศัพท์ของสือมูเฉิน “เสี่ยวถาง เดี๋ยวผมขับรถไปรับคุณ ผมพาคุณไปแต่งหน้าแต่งตัว ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของนายท่านแห่งตระกูลจิน

จู่ ๆ หลานเสี่ยวถางก็นึกขึ้นได้ถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลานไห่ฮว๋า จะส่งมอบเธอให้กับประธานซวีในงานเลี้ยงวันเกิด ดังนั้นวันนี้พวกเขาจะเริ่มดำเนินการแล้วหรือ?

“ตกลง มูเฉิน ฉันรอคุณอยู่ที่ประตูโรงเรียนสอนขับรถ ฉันมีเรื่องที่จะคุยกับคุณ” หลานเสี่ยวถางพูดขึ้น

สือพูดเฉินพูด “อืม เจอหน้าแล้วค่อยคุย”

หลานเสี่ยวถางวางสายโทรศัพท์ แล้วพบว่ามีสายที่ไม่ได้รับ เดาว่าตอนที่หลานไห่ฮว๋าโทรมา เธอกำลังติดสายอยู่

เป็นไปอย่างที่คิด เธอยังไม่ทันจะโทรกลับ หลานไห่ฮว๋าก็โทรมาอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาเย็นชาเป็นอย่างมาก “อยู่ที่ไหน?”

“หนูอยู่ด้านนอก” หลานเสี่ยวถางตอบกลับ

หลานไห่ฮว๋าพูด “วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของนายท่านแห่งตระกูลจิน ฉันเอาบัตรเชิญมาให้เธอ เธอรีบมาที่ตระกูลหลาน แล้วไปงานพร้อมกับพวกเรา!”