ตอนที่ 49 ได้ชมศิลปะน้อยๆก่อนกลับล่ะ!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ

เลเวล50ง่ายๆงี้เลย?

 

ก้มหน้ามองมือตัวเอง ในใจรู้สึกเหลือเชื่อ

 

นี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่วู่หยานซื้ออบิลิตี้มา ตอนได้ ปรมาจารย์ดาบ กับ ดาราพลิกสวรรค์ มาเขาก็ไม่เห็นว่ามันจะเลเวลอัพแบบนี้เลย

 

ทำไมครั้งนี้พอได้พลังจิตเลเวล4 มันถึงเลเวลอัพเองล่ะ?

 

“ระบบ ฉันสามารถเลเวลอัพได้ผ่านทางการซื้ออบิลิตี้เหรอ?” วู่หยานรีบเอ่ยปากถามระบบ

 

“ยูสเซอร์ ถ้าเป็นการซื้อแบบปกติ ไม่มีทางเลเวลอัพได้เด็ดขาด!”

 

“ไม่มีทาง?” ตอนนี้เขายิ่งงุนงงกว่าเดิม งั้นทำไมอยู่ดีๆตูถึงเลเวลอัพได้? แล้วที่ระบบพูดว่า ‘ปกติ’ มันหมายถึงอะไร? ถ้า ‘ไม่ปกติ’ งั้นเขาก็เลเวลอัพได้งั้นสิ?

 

วู่หยานปวดหัวจี๊ดกับระบบที่ชอบใช้ ‘ศัพท์เฉพาะทาง’

 

“งั้นบอกฉันมา ทำไมคราวนี้พอได้พลัง Electro Master Lv4 ฉันถึงเลเวลอัพ?”

 

“ยูสเซอร์ กรณีนี้คือข้อยกเว้น!”

 

“บางอบิลิตี้ที่ทรงพลังจะมีเงื่อนไขอยู่ ถ้ายูสเซอร์ตรงตามเงื่อนไขก็สามารถได้อบิลิตี้นั้นมาได้เลย แต่ถ้าไม่ ยูสเซอร์จะโดนอบิลิตี้ตีกลับ และจะโดนบังคับยกระดับเลเวลของยูสเซอร์ จนกว่าจะผ่านเงื่อนไขขั้นต่ำสุด!”

 

ได้ยินดังนี้ วู่หยานก็ตื่นเต้นทันที “ถ้าฉันซื้ออบิลิตี้ที่ทรงพลังมากๆที่มีเงื่อนไขที่สูง งั้นฉันก็สามารถเลเวลอัพพุ่งพรวดได้เลยนะสิ!”

 

ใช่แล้ว เงื่อนไขยิ่งสูง เขาก็ยิ่งเลื่อนเลเวลได้มาก นี้มันสูตรโกงชัดๆ!

 

ตราบใดที่มีแต้มอบิลิตี้เพียงพอ เขาก็สามารถซื้ออบิลิตี้ที่มีเงื่อนไขเทวะศักดิ์สิทธิ์ แล้วตูก็จะสามารถปลายเป็นเทวะศักดิ์สิทธิ์ได้! (@ระดับพลังในซิลวาเรีย เลเวล 1-9 = แรงค์1 เลเวล 10-19 = แรงค์2 ….. เลเวล 90-99 = แรงค์10 หรือ ครึ่งก้าวเทวะ และ เลเวล 100 = แรง11 หรือ เทวะศักดิ์สิทธิ์)

 

ตอนนี้เขาเริ่มฝันหวานแล้ว คิดว่าทำยังไงถึงจะได้แต้มอบิลิตี้เยอะๆ แต่น่าเสียดายที่มันเป็นแค่ฝันกลางวัน เมื่อวู่หยานกำลังมโนถึงขีดสุด ระบบก็พูดดับฝันเขาทันที

 

“เตือนยูสเซอร์ การซื้ออบิลิตี้ที่ทรงพลัง เงื่อนไขของอบิลิตี้ย่อมสูงตามไปด้วย ถ้าเกิดร่างกายของยูสเซอร์ไม่สามารถทนการตีกลับได้ ร่างกายก็จะพังทลายตายไป!”

 

หน้าวู่หยานแข็งทื่อทันที ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มใจเย็น “ถ้าร่างกายทนการตีกลับไม่ไหวก็จะตาย นายหมายถึงแบบนี้ใช่มั้ย?”

 

“ถูกต้อง!” ราวกับว่าไม่เห็นออร่าสีดำรอบตัววู่หยาน ระบบยังคงตอบความจริงอันโหดร้ายด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์

 

วู่หยานหัวร้อนขึ้นมาทันที เขากระทืบเท้าแล้วแหกปากตะโกนว่า “ถ้ายังงั้นแล้วทำไมเอ็งไม่เตือนตูก่อนหน้านี้วะ! ถ้าเมื่อกี้ฉันทนไม่ไหว เกิดตายไปจะทำยังไงฮะ!!”

 

กระทืบเท้าอีกรอบ ก่อนจะยกมือมาตบหน้าอกตัวเองอย่างกลัวๆ มิน่าล่ะเมื่อกี้พอกดรับพลังแล้วถึงรู้สึกเจ็บสุดๆ  พลังหนึ่งในสิบของมิโคโตะ ถ้าเมื่อกี้เขาทนไม่ไหวล่ะก็……

 

วู่หยานตัวสั่นเทิ่ม ในสายตาโกรธๆยังเป็นประกายอยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก

 

ระบบที่ไม่โกงก็ไม่ใช้ระบบ ในอดีตที่ผ่านมาเขาก็โดนมันกลั่นแกล้งตลอดเลยนี่นะ…..

 

“เมื่อยูสเซอร์ไม่สามารถทนการตีกลับได้ ระบบจะเตือนยูสเซอร์โดยอัตโนมัต และจะบังคับหยุดทันที นี่คือหนึ่งในฟังค์ชั่นของระบบ!”

 

“แล้วทำไมแกไม่เตือนฉันวะ!” วู่หยานโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แถมด้วยน้ำเสียงใจเย็นราวกับว่ามันไม่ใช้เรื่องใหญ่ของระบบนี่มันก็เหมือนกับการราดน้ำมันลงไป ทำให้วู่หยานโกรธมากกว่าเดิม

 

“พลังจิตเลเวล4ต้องการเลเวล50 แต่เลเวลของยูสเซอร์คือ49 ห่างเพียงแค่1เลเวล อบิลิตี้ตีกลับจึงไม่สูงมาก ภายใต้การคาดการณ์ของระบบ? ยูสเซอร์สามารถทนได้ ดังนั้นในความเห็นของระบบ จึงไม่จำเป็นต้องแจ้งเตือน!”

 

กล้ำกลืนความคิดตกตายไปพร้อมกับระบบ วู่หยานนอนแผ่บนเตียงนอน ตัวเขามีออร่าสีดำ ในใจก็พูดซ้ำๆว่าใจเย็นตัวฉัน

 

อยู่ในการคาดการณ์ของระบบ? การตีกลับไม่สูงมาก? พ่องเอ็งเถอะ! เมื่อกี้ตูรู้สึกเจ็บเจียนตายเลยนะเว้ย ยังจะบอกว่าการตีกลับไม่สูงมาก? และยังอยู่ในการคาดการณ์ของระบบ?

 

ไม่เตือนฉันก็เพราะโอกาสตายมันไม่สูงมาก นี่ก็อยู่ในการคาดการณ์ของเอ็งด้วย? บัดซบ!!

 

….ฮืออ…ตูต้องการฟ้องร้อง!…..

 

เพียงแค่บังคับเลื่อนเลเวลเดียวกลับเจ็บขนาดนื้ ถ้ามันไม่สำเร็จเขาคงเจ็บจนขยับตัวไม่ได้เลยใช้มั้ย?

 

แล้วถ้ามันอัพหลายเวลล่ะ? ตูไม่ตายเลยรึไง?

 

ดูเหมือนว่าคราวหลังเวลาซื้ออบิลิตี้ ต้องรอบคอบหน่อยแล้วสิ…..

 

………….

 

เช้าวันต่อมา วู่หยานคลานออกมาจากที่นอน แล้วยืนบิดร่างกาย ก่อนจะเดินออกจากห้อง

 

ได้นอนพักทั้งวัน ตอนนี้เขาควรไปจากโลกนี้ได้แล้ว กลับไปโลกซิลวาเรีย!

 

ตอนนี้ท้องฟ้าเพิ่งมีแสง แม่ฮินางิคุก็ยังไม่ตื่น วู่หยานเดินตรงไปห้องฮินางิคุ มิโคโตะและฮินางิคุนอนห้องเดียวกัน มันยูริชัดๆ….

 

แถมยังล็อคประตูซะด้วย วู่หยานเปิดเข้าไปอย่างชิวๆ หลังจากมีพลังมิโคโตะ พลังล็อคอะไรก็หยุดเขาไม่ได้ทั้งนั้น แน่นอนว่าแอบเข้ามาย่อมมีประโยชน์แถมเยอะซะด้วย……

 

ยืนค้างอยู่ในท่าปิดประตู มองดูสองสาวนอนกรนเบาๆ สมองวู่หยานแล่น0.1วินาที ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไป แน่นอนว่าเขากลบเสียงฝีเท้ามิด

 

ใช้หลังมือปิดประตู วู่หยานเดินไปนั่งที่เก้าอี้ เขาแทบทนไม่ไหวที่ยลโฉมภาพตรงหน้า มองดูอยู่ครู่นึงเขาก็หยักหน้าอย่างพึงพอใจ

 

ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร จากปกติที่เวลานอนจะใส่ชุดนอนกัน แต่ตอนนี้พวกเธอทั้งคู่กลับเปลือยเปล่าทั้งตัว!

 

อืมเอาจริงๆมันก็ไม่เปลือยหมดหรอก ยังใส่กางเกงในลายน่ารักๆไว้อยู่

 

แต่มันก็คล้ายๆกันนั่นแหละ!

 

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเย็นเมื่อวานสองสาวเล่น ‘เกม’ อะไรกันถึงไม่เสื้อผ้า แต่ทว่าโอกาสดีๆแบบนี้ เขาย่อมไม่พลาด ดังนั้นวู่หยานจึงเก็บภาพนี้ด้วย ความจำสมบูรณ์ ทันที มองดูหน้าอกจิ้มลิ้มของฮินางิคุและมิโคโตะ วู่หยานรู้สึกเต็มไปด้วยอารมณ์

 

เฮ้ออ ไม่โตขึ้นเลยแฮะ รู้งี้ตอนช่วยอาบน้ำครั้งก่อน ฉันน่าจะช่วยพัฒนาพวกมัน…….

 

บางทีอาจะเป็นสายตาวู่หยานมันน่าขยะแขยงเกินไป มิโคโตะเลยตื่นขึ้น ตัวเธอที่เลเวล69จะไม่รู้ตัวว่ามีคนเข้ามาตอนนอนได้ยังไง? แต่เป็นเพราะเมื่อวานมันเหนื่อยเกินไปบวกกับคิดว่าที่นี่ปลอดภัย ไม่งั้นเธอรู้สึกตัวไปนานแล้ว

 

มิโคโตะเปิดตาพรึบ เมื่อเห็นวู่หยานเธออึ้ง ก่อนจะขมวดคิ้ว

 

“นายมาทำอะไรที่นี่? แล้วก็มันออกจะไร้มารยาทมากไปหน่อยนะ เข้ามาแล้วไม่ปลุกคนอื่นเนี่ย!”

 

เห็นมิโคโตะพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ โดยไม่รู้ตัวว่าร่ายกายตัวเองเปิดออกมาหมดแล้ว ทำให้วู่หยานมองค้าง ก่อนจะคิดในใจ ‘เวรแล้วไง’

 

คราวก่อนเพราะเรื่องอาบน้ำ เลยโดนมิโคโตะยำเละ คราวนี้เขาก็คงไม่ตายดีแน่……

 

ในใจวู่หยานเริ่มรู้สึกกลัว ด้วยความคิดที่ว่าตายครึ่งนึงดีกว่าตายทั้งตัว วู่หยานเตรียมพูดกล้อมมิโคโตะ อย่างน้อยๆก็ต้องไม่ให้ท่านประธานตื่น……

 

วู่หยานพูดด้วยสีหน้าจริงจังสุดๆ “มิโคโตะ เธอต้องตั้งใจฉันพูดดีๆนะ ห้ามทำเป็นเล่นเด็ดขาด!”

 

เธออ้าปากหาวแล้วลุกขึ้นนั่ง เผยโฉมร่างกายขาวเนียนให้กับตายหื่นกามของวู่หยาน แต่เขาไม่มีอารมณ์มาชื่นชมศิลปะตรงหน้าเพราะว่า……

 

มิโคโตะที่กำลังหาวอยู่ๆก็หยุดไป รู้สึกตัวมันเย็นๆ ในที่สุดเธอก็จำได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานการณ์อะไร…

 

เธอเบิกตามองวู่หยานอย่างตกตะลึง ร่างกายเธอเย็นขึ้น และหน้าเปลี่ยนสี

 

ชิบหายล่ะไง!!

 

เห็นสีหน้าตื่นกลัวของมิโคโตะ ปากเธอก็ค่อยๆอ้าขึ้น วู่หยานรีบกระโดดเอามือมาปิดปากเธอ

 

“มิโคโตะ นี่เป็นความผิดของฉันเอง ฉันผิดเต็มประตู แต่ขอเถอะอย่าร้องนะ อย่างน้อยก็อย่าให้ฮินางิคุตื่น ไม่งั้นเดียวเพื่อนบ้านรู้หรอกว่าเธอโดนฉันมองไปแล้ว!” (@จะใช้ถ้ำมองก็สงสารมันฮ่าๆ)

 

มิโคโตะตกใจกับท่าทางวู่หยาน ก่อนที่ใบหน้าเธอจะขึ้นสี เขิน?อาย? สั้นๆตอนนี้หน้าผากเธอมีประกายสายฟ้าแล้ว

 

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเจอแบบนี้ เขาก็คงเริ่มเอ่ยปากอ้อนวอน แต่ตอนนี้เขามีพลังจิตเหมือนเธอ ถึงแม้จะค่เลเวล4เท่ากับพลังหนึ่งในสิบของเธอ แต่ไฟฟ้าขี้ปะติ๋วแค่นี้เขาไม่สนใจ

 

เมินกระแสไฟฟ้าของเธอ วู่หยานกังวลเพียงแค่เสียงไฟฟ้าจะไปปลุกฮินางิคุ เมื่อถึงตอนนั้น เขาคงตายจริงๆ

 

เทียบกับมิโคโตะที่แข็งแกร่ง เขากลับกลัวท่านประธานมากกว่า……

 

“เฮ้ใจเย็นก่อน!” มองดูกระไฟฟ้าที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ และส่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้ความกังวลและสิ้นหวัง วู่หยานกดเธอลงไปกับที่นอนหน้าก็ส่ายไปมา บอกเธอเป็นนัยน์ว่าอย่าเสียงดัง

 

ไฟฟ้าเธอหายไป การที่ตัวเองถูกผลักลงเตียงแถมยังโดนเขาทับร่างไว้ และหน้าเขาก็ยังอยู่ใกล้มาก ทำให้มิโคโตะหัวหมุนตาลายและสมองขาวโพลน

 

วู่หยานมองท่าทางร่างบางใต้ตัวอย่างสับสน เห็นเธอทำหน้าเอ๋อๆไม่เคลื่อนไหว วู่หยานเริ่มคิดหาทางหนี

 

“เปรี๊ยะๆ” เกิดเสียงกระแสไฟฟ้าขึ้นอีกครั้ง หัวมิโคโตะร้อนฉ่าจนปล่อยควันออกมา หน้าผากก็มีไฟฟ้าแล่นไปมา สายตาที่มองดูวู่หยานยังกับมองดูคนตาย

 

จริงๆแล้ว ตอนนี้มิโคโตะคิดจะฆ่าวู่หยาน ไม่สิไม่ได้คิด แต่ลงือทำไปแล้ว

 

วินาทีต่อมาเธอปล่อยกระแสไฟฟ้าไปที่วู่หยาน พยายามช็อตเขา

 

วู่หยานสะดุ้งนิดๆก่อนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่ามิโคโตะออมพลังไว้ ไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาไม่แรงพอที่จะทำร้ายผู้คน ดังนั้นวู่หยานที่มีพลังจิตแบบเดียวกับเธอ จึงซึมซับไว้หมดโดยไร้บาดแผล แม้แต่ผมยังไม่ชี้ขึ้น

 

“ฮ่าๆ สาวน้อย พลังเธอทำอะไรฉันไม่ได้แล้ว มันจะดีกว่าถ้าเธอยอมเชื่อฟังคำสั่งฉัน!” เมื่อรู้ว่ามิโคโตะทำอะไรตัวเองไม่ได้ วู่หยานก็กลายเป็นยิ้มร่าอย่างพอใจทันที

 

มิโคโตะมองวู่หยานด้วยสายตาสงสัย เธอที่ถูกปิดปากอยู่แม้จะเอ่ยปากถามก็ทำไม่ได้ แต่จะถามอะไรนั้น รอเธอลงโทษไอ้โรคจิตนี่ก่อน ค่อยคุยทีหลังก็ยังไม่สาย

 

ไฟฟ้าช็อตไม่ได้ผล แล้วยังกับเธอไม่มีวิธีอื่นงั้นแหละ?

 

ในระหว่างที่อยู่กับฮินางิคุ เธอได้เรียนรู้มาไม่น้อยเลย

 

ยื่อมือแล้วกำแน่น มิโคโตะที่หน้าแดงก่ำต่อยวู่หยานจนตัวปลิว จากนั้นรีบดึงผ้าห่มมาคลุมตัว บังร่ายกายตัวเอง แม้กระทั่งมุดหัวเข้าไปในผ้าด้วย

 

เชี่ยไรเนี่ย? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ โอเน่ซามะ มีแรงมากขนาดนี้?

 

ขณะที่นอนหงายบนพื้น ในหัววู่หยานก็มีความคิดแบบนี้แหละ…..

 

ถ้าเธอมีแรงเยอะแบบนี้ แล้วทำไมในอนิเมะเธอถึงถูกยัย ยูริ คุโรโกะ ลวนลามได้หลังจากใช้พลังแล้วกัน?

 

นี่มันช่างไม่เป็น วิทยาศาสตร์ เอาซะเลย…….

 

ติดตามข่าวสารได้ที่นี้ – ห้องสมุดคนรักนิยายแปล  มีกลุ่มลับแล้ว ถึงตอน178 กลุ่ม1ลดเหลือ50บาท