ตอนที่ 50 ตัดสินใจแล้ว! เรามาฟาร์มเวลกันเถอะ!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ

ป่าสัตว์อสูร!

 

ณ จุดที่วู่หยานนั่งย่างเนื้อก่อนเข้าโลกดันเจี้ยน ที่ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงมีสีแดงอยู่ เห็นได้ชัดว่ามันยังไม่ได้มอดดับไปเสียทั้งหมด ไม่มีสัตว์อสูรมาที่นี่ด้วย ยังคงสภาพเดิมก่อนที่วู่หยานจะหายไป

 

นี่มันแน่นอนอยู่แล้ว ถึงวู่หยานตะอยู่ในโลกฮายาเตะหนึ่งเดือน แต่ด้วยเวลาที่ต่างกันหนึ่งร้อยเท่า ที่ซิลวาเรียยังผ่านไปไม่ถึงครึ่งวันเลยด้วยซ้ำ

 

วู่หยานเลือกกลับมา แน่นอนว่าต้องกลับมาจุดเดิม…..

 

สองร่างปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่าข้างๆกองไฟ

 

วู่หยานตบไล่ฝุ่นตามเสื้อผ้าตัวเองอย่างใจเย็นสุดๆ เท้าก็เหยียบจุดเดิม ราวกับว่าเขาไม่เคยหายไปไหน แต่กลับกันมิโคโตะมองรอบๆอย่างไคร่รู่ มองซ้ายมองขวา พยายามหาจุดแตกต่างระหว่างโลกนี้กับโลกเธอ

 

แต่ทว่า เธอกลับรู้สึกผิดหวัง เพราะที่นี่นอกจากขนาดที่ใหญ่มากๆแล้ว มันก็ไม่ต่างไปจากป่าธรรมดาเลย

 

มิโคโตะทำหน้าเบื่อหน่าย พูดด้วยนน้ำเสียงผิดหวังว่า “อะไรกัน มันก็ป่าธรรมดาไม่ใช่เหรอเนี่ย? ไอ้ฉันก็คิดว่ามันจะมีอะไรแตกต่างซะอีก…”

 

วู่หยานยิ้มขำกับท่าทางตลกๆของเธอ แล้วเอ่ยปากพูดว่า “ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอ แต่หลังจากนี้จะมีอะไรให้เธอประหลาดใจสุดๆอยู่แน่นอน”

 

“โห?”  มิโคโตะมองตาเขา หน้าผากก็มีประกายไฟฟ้าขึ้น ก่อนจะทำเสียงขึ้นจมูก “ฮึม ฉันจะตั้งตารอล่ะกัน….”

 

วู่หยานแบมืออย่างไม่ใส่ใจ สาวน้อยคนนี้ยังคงไม่หายโกรธเขาจากเรื่องเมื่อเช้า ทั้งๆที่เขาโดนเธอต่อยไปแล้วแท้ๆ จริงๆเลยน้า…..

 

“แล้วนายจะยืนทื่ออยู่แบบนี้อีกนานมั้ย? รีบๆอัญเชิญฮินางิคุมาสิ!” เห็นเขาทำตัวไม่รู้เรื่อง ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะตบเข้าไปสักที ลงหลังเขาอย่างแรง

 

ยัยบ้านี่ตั้งใจทำชัดๆ

 

ด้วยฝ่ามืออรหันต์ของพี่สาวเรลกันแทบทำเขาแทบลงไปจูบพื้น วู่หยานยกมือลูบหลังตัวเองเอง ก่อนจะกรอกตาให้เธอ แต่น่าสงสารเขาโดนพี่สาวเรลกันเมินไป

 

เปิดระบบและเลือกไปที่หมวดอัญเชิญ ครู่หนึ่งเขาก็เจอฮินางิคุ

 

คัตสึระ ฮินางิคุ : ตัวละครจาก ฮายาเตะ พ่อบ้านประจัญบาน เป็นประธานนักเรียนโรงเรียนฮาคุโอ/ 5,000แต้มอัญเชิญ

 

ใช่แล้ว แค่5,000ซึ่งถูกมาก ถึงแม้ท่านประธานจะน่ารักมากแค่ไหน แต่เธอก็แค่เลเวล18 จึงไม่แปลกที่จะถูกแบบนี้

 

มันง่ายที่จะอัญเชิญเธอ แม้เป็นตัวเขาตอนนี้ที่เหลือแต้มอัญเชิญแค่11,000…….

 

คลิกเข้าไป ก็เกิดเหตุการณ์เหมือนตอนอัญเชิญมิโคโตะขึ้นมา

 

เกิดแสงสว่างจ้า จนวู่หยานกับมิโคโตะต้องยกมือขึ้นมาบังตา ฮินางิคุค่อยๆโผล่ออกมาทีล่ะส่วน ราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นวาดเธอออกมาจากความเปล่า

 

แสงหายไปเมื่อเธอโผล่ออกมาทั้งตัว ก่อนจะมีแส้นแสงขนาดเล็กยิงออกมาจากตัวเธอมาเชื่อมต่อกับเขา

 

วู่หยานที่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนแล้วย่อมไม่ตื่นกลัว เขายืนนิ่งเฉยตามองฮินางิคุ ส่วนมิโคโตะก็กำลังมองด้วยสายตาสับสน นี่เป็นกระบวนการที่เธอถูกอัญเชิญมา ตอนนั้นเธอยังไม่ได้สติก็เหมือนกับฮินางิคุในตอนนี้

 

คลื่นจังหวะหัวใจของวู่หยานกับฮินางิคุปรับตัวเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เส้นแสงจะแตกสลายแล้วรวมตัวกันเท่าเมล็ดตัว และบินเข้าตัววู่หยานไป

 

วู่หยานเผลอเอามือลูบตามตัวด้วยจิตใต้สำนึก เขารู้สึกแปลกๆ เขาสามารถสัมผัสได้ว่าทั้งสองคนใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างชัดเจน แต่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ออก

 

“ฮินางิคุ!” เสียงมิโคโตะดึงสติวู่หยานกลับมา เสร็จสิ้นการผสานชีวิตฮินางิคุก็ตื่นขึ้น เธอกำลังมองไปรอบๆด้วยความประหลาดใจ

 

ในสายตาฮินางิคุ วู่หยานกับมิโคโตะเพิ่งบอกลาเธอแล้วก็หายวับไป ต่อมาเธอก็รู้สึกหน้ามืดและข้อมูลระบบ ข้อมูลพื้นฐานของวู่หยานก็เข้ามาในหัวเธอ หลังจากเธอจำทั้งหมดได้แล้วก็ลืมตาขึ้นมาเห็นป่าไม้

 

มิโคโตะบอกเธอว่าที่นี่คือต่างโลก ทำให้ฮินางิคุอึ้งกับเรื่องเหลือเชื่อแบบนี้ ก่อนจะถอนหายใจกับความลึกลับของระบบ

 

“นี่อัญเชิญเสร็จแล้วงั้นเหรอ? ไหนว่าจะมีการผสานชีวิตด้วยไง? ทำไมฉันไม่เห็นรู้สึกอะไรเลยล่ะ?” ฮินางิคุเช็คร่างกายตัวเองด้วยความสยสัย แล้วหันไปถามมิโคโตะ

 

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน!” มิโคโตะยกมือจับคาง กระพริบตาแล้วพูดว่า “ตอนฉันโดนอัญเชิญมาก็ไม่เห็นจะรู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยน แค่คิดว่าตัวของหยานให้ความรู้สึกคุ้นเคยมาก…..”

 

พูดถึงตรงนี้ มิโคโตะก็กระอักกระอ่วน พยายามลดเสียงพูดให้ฮินางิคุได้ยินคนเดียว

 

“จริงด้วย…” ฮินางิคุชำเหลืองมองวู่หยานที่กำลังยืนมองมาด้วยเครื่องหมายคถามเต็มหน้า เธอรู้สึกคุ้นเคยจากตัวหยานอย่างบอกไม่ถูก ฮินางิคุหน้าแดง ก่อนจะเอามือทั้งสองกุมอกตัวเอง แล้วยิ้มอย่างแจ่มใสออกมา

 

ชีวิตหลอมรวม..กันสินะ…..

 

เห็นสองสาวพูดคุยกันอย่างสนิทสนม วู่หยานรู้สึกเบื่อ ทำไมชีวิตของผู้ชนะถึงต้องถูกกีดกันด้วยนะ? เขารู้สึกได้ว่าพวกเธอกำลังคุยเรื่องของอยู่ ตราบใดที่ไม่พูดเผาเขา เขาก็ขอบคุณสวรรค์แล้ว…..

 

ตบมือเรียกความสนใจสองสาว วู่หยานพูดว่า “เอาล่ะพอแล้ว ค่อยไปเม้าท์มอยกันทีหลังนะ ตอนนี้เราควรมาคุยเรื่องต่อจากนี้กันก่อน!”

 

“เรื่องต่อจากนี้เหรอ?” สองสาวมองเขาด้วยสายตาสงสัย

 

“ใช่!” วู่หยานเจอที่นั่ง และหย่อนก้นลงไป แล้วเอ่ยว่า “จะอยู่ที่นี่ต่อ?หรือออกไป? ถ้าอยู่ที่นี่แล้วจะทำอะไร? ถ้าออกไปแล้วจะให้ไปไหน? พวกเธอไม่คิดว่าเราควรพูดคุยเรื่องพวกนี้กันงั้นเหรอ?”

 

“ถึงนายจะพูดแบบนั้น…..” สองสาวหันมามองตากัน ก่อนจะไปนั่งตรงหน้าวู่หยาน “พวกเราก็ไม่รู้หรอก!”

 

“ดังนั้นถึงต้องมาคุยกันไง!” วู่หยานมองตาสองสาวอย่างเหนื่อยใจ ปกติไม่ใช่ทำตัวฉลาดกันหรอกเหรอ? คนนึงก็ประธานนักเรียนฮาคุโอ อีกคนก็คุณหนูโทคิวะได ตอนแรกก็คิดว่าจะเสนอความคิดดีๆอะไรซะอีก

 

“แต่ประเด็นมันอยู่ที่พวกเราไม่คุ้นเคยกับโลกนี้!”  มิโคโตะเอามือลูบผมสีกำหลัดตรงหน้าผากของเธอ จมูกน้อยๆสั่นไหวพูดว่า “ถ้ามีแผนที่เราก็สามารถศึกษาได้ แต่ ณ ตอนนี้ที่ไม่มีอะไรเลย แล้วเราจะไปวางแผนได้ยังไงล่ะ?”

 

“ไม่ใช่นายพูดเองเหรอว่า ตัวมาอยู่โลกนี้ได้3เดือนแล้วน่ะ? งั้นนายก็ควรจะคุ้นเคยมากกว่าพวกเราใช่มั้ย? อย่าบอกฉันนะว่านายยังไม่เคยไปที่ไหนเลย?”

 

“อะแฮ่ม สักที่ก็ยังไม่เคยไป!” วู่หยานยิ้มแฉ่ง ถึงแม้จะมาโลกนี้ได้สามเดือนแล้วก็เถอะ แต่นอกจาก ป่าสัตว์อสูร กับ เมืองท่า เขาก็ไม่เคยไปที่อื่นเลย ส่วนแผนที่อะไรพวกนี้ เจ้าระบบมันน่าจะมี

 

วู่หยานจำได้ว่าตอนแรกระบบมันเคยถามว่าจะซื้อแผนที่สัตว์ป่าอสูรและเมืองท่ามั้ย ซึ่งมันสนนราคา3,000แต้มไอเท็ม ระบบมันกล้อมเขาให้ซื้อยังเซลส์แมน ช่างเลวแท้……..

 

“ไม่คิดเลยว่า ตลอด3เดือนนายจะเอาแต่อยู่ในป่านี่?” มิโคโตะมองวู่หยานด้วยสายตาแปลกๆ ราวกับกำลังมองคนบ้า ทำให้วู่หยานรู้สึกไม่ดีมาก

 

“ขอโทษด้วยล่ะกันที่ไม่ได้ไปไหนเลยน่ะ!” วู่หยานตัดสินใจเมินสายตาดูถูกของมิโคโตะ แล้วหันหน้าไปหาฮินางิคุ

 

“ฮินางิคุแล้วเธอมีความคิดอะไรมั้ย?”

 

ทั้งสองคนมองฮินางิคุพร้อทกัน เธอลังเลชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยปากว่า “หยาน นายเคยพูดว่าคนที่ถูกนายอัญเชิญมาสามารถเก่งขึ้นได้ด้วยการฆ่ามอนสเตอร์เหมือนเกมใช่มั้ย?”

 

วู่หยานตกใจนิดๆ แล้วพยักหน้าพูดว่า “ใช่ ถูกต้อง ที่เธอพูดคือการเพิ่มเลเวล ตราบใดที่เธอสู้กับคนหรือตัวอะไรที่มีเจตนาไม่ดีต่อเธอ เธอก็จะได้ค่าEXP จนถึงจุดๆหนึ่งก็จะเลวลอัพ! ”

 

ได้ยินคำตอบวู่หยาน ฮินางิคุก็ยิ้มแล้วมองมิโคโตะกับวู่หยาน ก่อนจะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “งั้น หยาน มิโคโตะ ฉันต้องการเพิ่มเลเวล!”

 

“เพิ่มเลเวล?” ทั้งสองคนงุนงง ไม่นานนักมิโคโตะก็เข้าใจความคิดเธอ

 

วู่หยานที่ไม่ค่อยเข้าใจความคิดเธอ ในในเขาท่านประธานเป็นคนไม่แสวงหาพลัง ถึงเธอจะมีนิสัยชอบแข่งขันแต่มันก็แค่นั้นแหละ เธอไม่สนใจพลัง เคนโดที่เธอเล่นนั่นก็เป็นเพราะเธอชอบกีฬาเท่านั้นเอง

 

ในอนิเมะ หลังจากเจอฮายาเตะ เธอก็เกลียดพลังของตัวเองเพราะมันทำให้เธอดูไม่สมกับเป็นผู้หญิง(ฮ่า) มันดูแปลกๆที่อยู่ดีๆท่านประธานก็มาพูดอะไรอย่าง ‘ฉันอยากเพิ่มเลเวล’ ทำให้วู่หยานอดแปลกใจไม่ได้

 

“ทำไมถึงอยากเพิ่มเลวลล่ะ?” วู่หยานถามฮินางิคุด้วยสนใจเล็กน้อย

 

ฮินางิคุเริ่มกรอกตาไปมา พยายามหาข้อแก้ตัว ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร สุดท้ายเธอก็หันหน้าหนี แล้วพูดด้วยน้ำเสียงงอลๆ “ฉันอยากเก่งเพื่อตัวเองก็แค่นั้น!”

 

ทำไมไม่รู้วู่หยานถึงรู้ว่าเสียงเธอมันปกตำหนิมาด้วย เขาหัวเราะแห่งๆพูดว่า “งั้นเรามาช่วยเพิ่มเลเวลฮินางิคุกัน!”

 

แน่นอนว่านี่เองก็เข้าท่าเหมือนกัน เพราะเอาจริงๆเลเวลเธอก็น้อยเกินไป พาเธอไปฟาร์เวลก่อนค่อยว่ากันอีกที

 

อืม….พลังแห่งเลเวลช่างโกงดีแท้……

 

“ดีเลย!” มิโคโตะลุกพรึบ หักข้อมือไปมา แล้วพูดยิ้มๆว่า “ฉันก็อยากจะเห็นไอ้สัตว์อสูรที่นายพูดเหมือนกัน ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน!”

 

เฮ้ๆ เธอเป็นสาวน้อยนะ อย่ามาเที่ยวหักข้อมือเล่นแถวนี้สิ เดียวเด็กก็กลัวหมดหรอก นี่เธอเป็นแยงกี้เรอะ?!

 

“…จำเป็นต้องออกอาการขนาดนั้นเลยเหรอ?” รู้สึกอ่อนใจกับเธอ วู่หยานพยายามกล่อมมิโคโตะให้ใจเย็น ไม่ใช่ว่าพี่สาวเรลกันต้องอ่อนโยนและซึนเดเระหรอกเหรอ? แล้วทำไมเธอถึงได้กลายมาเป็นหญิงสาวป่าเถื่อนเวลาอยู่กับตูล่ะ? โถ่ชีวิต…..

 

 “ของมันแน่อยู่แล้ว!!” มิโคโตะพูดโดยไม่หันหน้ามา “ก็สัตว์อสูรอะไรนั่น ฉันยังไม่เคยเห็นเลยนี่น่า สู้กับสัตว์อสูรก็เป็นครั้งแรกของฉันด้วย!”

 

วู่หยานพูดไม่ออก ก่อนจะลุกขึ้นแล้วพูดกับสองสาวว่า “’งั้นก็เป็นอันตกลงแล้วนะ อืม…ฉันจำได้ว่าแถวๆนี้มีหมีน้อยเลเวล20โผล่มาบ่อยๆ เป็นครั้งแรกด้วย งั้นทำไมเธอไม่ลองไปเล่นกับมันหน่อยล่ะ?”

 

“นายพูดแบบนี้หมายความว่าไงห๊ะ!” รอยยิ้มมิโคโตะแข็งทื่อ ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่วู่หยาน หน้าผากเริ่มปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา ตราบใดที่เขาพูดอีกคำ เธอจะสายฟ้าใส่ทันที

 

“เอาน่า เอาน่า…” มีพลังแบบเดียวกับเธอแล้วเขาต้องกลัวไฟฟ้าช็อตด้วย? ดังนั้นวู่หยานจึงทำหน้าล้อเลียนใส่

 

“เปรี๊ยะๆ!!”

 

“เจ้าบ้านี่!!” มิโคโตะแยกเขี้ยวมองวู่หยาน หวังว่าตัวเองสามารถกระโดดเข้าไปกัดได้ ภาพเหตุการณ์เมื่อเช้าก็ลอยขึ้นมาในใจ ทำให้หน้าน้อยๆของเธอขึ้นสีอย่างรวดเร็ว

 

มองทั้งสองคนสลับไปมา ที่ซึ่งกำลัง ‘ทำสงครามน้ำลาย’ กันอยู่ ฮินางิคุถอนหายใจอย่างปลงๆ

 

เฮ้ออ…..ตกลงเราจะไปกันได้ยังเนี่ย?……

 

ติดตามข่าวสารได้ที่นี้ – ห้องสมุดคนรักนิยายแปล  กลุ่มลับถึงตอน184ครับ