ตอนที่ 38 ไม่ได้รับความเป็นธรรม

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ต่งซื่อบีบผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น รู้สึกซาบซึ้งจนอยากตอบตกลงเสียตอนนี้เลย

ต่งเหล่าไท่จวินมองไปทางองค์หญิงใหญ่ “อย่างไรก็เป็นหลานสาวและหลานชายของตัวเอง มีอันใดน่าขายหน้ากัน หากอาเป่าไม่ตกลงเรื่องการแต่งงาน ข้าก็จะไม่บังคับนาง แต่พอนึกถึงเรื่องการแต่งงานของอาเป่าข้าก็ปวดใจทุกที!”

“ท่านแม่!” ต่งซื่อมองดูต่งเหล่าไท่จวินอย่างร้อนใจ “แต่ว่า…”

“ลูกสะใภ้ใหญ่ เจ้ายังไม่รู้จักนิสัยของลูกสาวเจ้าดีอีกหรืออย่างไร เจ้าบังคับให้นางแต่งงาน นางจะมีความสุขหรือ” องค์หญิงใหญ่เอ่ยขัดต่งซื่อ

องค์หญิงใหญ่เป็นท่านย่าของไป๋ชิงเหยียน ย่อมกังวลเรื่องการแต่งงานของงนางไม่แพ้ต่งเหล่าไท่จวิน แต่ไป๋ชิงเหยียนเป็นคนยอมหักไม่ยอมงอ นางไม่มีทางฝืนแต่งงานแน่ๆ

ต่งซื่อใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา “เอาเถอะ…เอาเถอะ! อาเป่าไม่แต่งงานไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ ขอแค่นางมีความสุขก็พอ”

ครู่ต่อมา ต่งฉางหยวนเดินเข้ามาในห้องพร้อมไป๋ชิงเหยียน ชายหนุ่มยืนนิ่งอยู่ข้างๆ ต่งเหล่าไท่จวิน ไม่กล่าวสิ่งใดออกมาอีก

ต่งเหล่าไท่จวินอยู่ต่ออีกพักหนึ่ง จากนั้นพาต่งฉางหยวนกลับจวน

ต่งซื่อและไป๋ชิงเหยียนออกมาส่งต่งเหล่าไท่จวินที่หน้าจวนด้วยตัวเอง ต่งซื่อและต่งเหล่าไท่จวินอาลัยอาวรณ์กันอยู่ครู่หนึ่งจึงส่งต่งเหล่าไท่จวินขึ้นรถม้า

มองส่งรถม้าของต่งเหล่าไท่จวินจากไป ไป๋ชิงเหยียนถูกเจี่ยงหมัวมัวเชิญไปที่เรือนฉางโซ่วอีกรอบ

องค์หญิงใหญ่เอ่ยกล่าวกับนางเรื่องบุตรชายของท่านลุงรองที่จะรับกลับมาที่จวน

“เจ้าส่งคนไปทดสอบนิสัยของสองคนนั่นหน่อย หากสองแม่ลูกนั่นเป็นคนเจียมเนื้อเจียมตัวก็รับกลับมาจวน หากเป็นคนละโมบโลภมากก็ไล่กลับไปเลย!”

“ท่านย่าวางใจได้เจ้าค่ะ ข้ารับทราบดี!” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า

เจี่ยงหมัวมัวถือชาปาเป่าเดินแหวกม่านเข้ามา กล่าวยิ้มๆ “สาวใช้ใหญ่ที่ชื่อชุนเหยียนของคุณหนูใหญ่ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอันใดจึงมาชะโงกหน้าชะเง้อมองอยู่นอกเรือนฉางโซ่วเจ้าค่ะ สีหน้าร้อนรนจนแดงก่ำไปหมด ซุ่ยเอ๋อร์ออกไปถามก็มิได้ความอันใด คุณหนูจะเรียกนางเข้ามาถามหรอไม่เจ้าคะ”

หญิงสาวยิ้มหยันในใจ สิ่งที่ทำให้ชุนเหยียนร้อนใจแต่เอ่ยออกมาไม่ได้ นอกจากเรื่องของเหลียงอ๋องแล้วจะมีเรื่องใดอีกเล่า

ไป๋ชิงเหยียนเปลี่ยนเรื่อง “ได้ยินท่านแม่กล่าวว่า เช้านี้ฉินหล่างมาบอกน้องรองว่าเขาจะย้ายออกจากจวนจงหย่งโหววันนี้และจะรอวันที่น้องรองกลับไปที่จวนหรือเจ้าคะ”

องค์หญิงใหญ่พยักหน้า “ฉินหล่างใจเด็ดทีเดียว ไม่เสียแรงที่เจ้าช่วยปูทางให้เขา…”

ไป๋ชิงเหยียนอยู่ปรนนิบัติองค์หญิงใหญ่สวดมนต์ที่เรือนฉางโซ่ว เมื่อรับประทานอาหารกลางวันเสร็จจึงเดินออกมา

ชุนเหยียนที่นั่งปักหลักอยู่ท่ามกลางกองหิมะรีบเดินเข้าไปหา ใบหน้าหนาวชาจนแดงใบหมด “คุณหนูใหญ่…” สายตาเย็นชาของไป๋ชิงเหยียนจ้องไปยังชุนเหยียน “กลับไปค่อยว่ากัน”

ขาสองข้างของชุนเหยียนชาไปหมด นางกัดฟันเดินตามหลังไป๋ชิงเหยียนไป เมื่อเข้าไปในห้องก็ยื่นป้ายหยกที่นางซุกเอาไว้ในอ้อมอกราวกับสมบัติมีค่าให้ไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ นี่คือป้ายหยกที่เหลียงอ๋องสั่งให้ถงจี๋นำมอบให้เจ้าค่ะ เหลียงอ๋องทรงตรัสว่าวันหน้าจะสู่ขอคุณหนูไปเป็นชายาเอกเจ้าค่ะ!”

ความโกรธแล่นพล่านไปที่สมอง แววตาเยือกเย็นจับขั้วกระดูกของไป๋ชิงเหยียนจ้องไปที่ชุนเหยียน นางนึกไม่ถึงเลยว่าบ่าวที่ทรยศนายอย่างชุนเหยียนจะใจกล้าถึงขนาดรับป้ายหยกมาแทนนางเช่นนี้!

ชุนเถาเบิกตาโพลงใบหน้าแดงก่ำ ทรวงอกสั่นไหวอย่างรุนแรง “ชุนเหยียนเจ้ากล้าดีอย่างไร! เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือ!”

ไป๋ชิงเหยียนเดือดดาล นิ้วมือจิกลงไปบนขอบโต๊ะ จ้องไปทางชุนเหยียนอย่างโมโห “ชุนเหยียนช่างเก่งกาจเสียจริง ตัดสินใจเรื่องแต่งงานแทนข้า ยกข้าให้เหลียงอ๋องเสียแล้ว! ให้เจ้าเป็นแค่บ่าวใช้ในจวนเจิ้นกั๋วกงช่างไม่เป็นธรรมต่อเจ้าจริงๆ!”

ชุนเหยียนรีบคุกเข่าลงทันที “ชุนเหยียนมิกล้าเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่! ชุนเหยียนทำเพื่อคุณหนูนะเจ้าคะ! คุณหนูคิดดูสิเจ้าคะ เหลียงอ๋องเป็นถึงองค์ชายผู้สูงศักดิ์…แต่คุณชายจากเติงโจวนั่นเป็นแค่เจี่ยหยวนกงเท่านั้น กล้าดีเช่นไรถึงหวังในตัวคุณหนูใหญ่ของบ่าว!”

หญิงสาวทนไม่ไหวเกือบง้างมือตบไปที่ใบหน้าของบ่าวผู้ทรยศนายอย่างชุนเหยียนหนึ่งฉาด แต่เมื่อคิดได้ว่าต้องเก็บชุนเหยียนไว้ก่อนนางจึงจะรู้ว่าบ่าวคนใดในจวนเจิ้นกั๋วกงเป็นคนของเหลียยงอ๋องบ้าง หญิงสาวใช้ความพยายามทั้งหมดที่มีกลั้นโทสะนี้ไว้!

ไป๋ชิงเหยียนหลับตาลง รู้สึกปวดศีรษะตุบๆ “ภายในหนึ่งวัน ของมาได้อย่างไร เจ้าจงส่งกลับไปอย่างนั้น! มิเช่นนั้นอย่าหาว่าเข้าไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์นายบ่าวแล้วหักขาของเจ้านะ ไสหัวไป!”

ชุนเหยียนเดินร้องไห้ออกมาจากห้อง ชุนเถาก็โมโหจนเกือบจะร้องไห้ออกมาเช่นกัน นางยังมีหน้าขอร้องคุณหนูแทนคนเช่นนี้อีก นางเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ!

เห็นว่าไป๋ชิงเหยียนโมโหจนหายใจไม่สะดวก ชุนเถารู้สึกผิดเป็นอย่างมาก รีบรินน้ำให้หญิงสาว

“คุณหนูใหญ่ อีกเดี๋ยวบ่าวจะสั่งสอนชุนเหยียนให้หนักเลยเจ้าค่ะ”

ครู่หนึ่ง ไป๋ชิงเหยียนจึงสงบลงได้ นางกล่าวทั้งที่ยังหลับตาอยู่ “ไปสืบมาว่าผู้ใดเรียกชุนเหยียนออกไปจากจวน ให้พ่อบ้านสั่งคนไปจับตัวเขาเอาไว้ด้วย อ้างว่ากับทุกคนผู้ดูแลสั่งให้เขาออกไปทำงานข้างนอก จะได้ไม่เป็นที่น่าสังเกต!”

“บ่าวจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เลยเจ้าค่ะ!” ชุนเถารีบรับคำ

ก่อนตะวันจะตกดิน รถม้าของจวนเจิ้นกั๋วกงจอดลงที่หน้าประตูหอหม่านเจียง

เฉินชิ่งเซิงที่นั่งคู่กับคนบังคับม้ากระโดลงจากรถ รายงานไป๋ชิงเหยียนว่าตนจะเข้าไปดูความเรียบร้อยในหอหม่านเจียงก่อน เด็กรับใช้ของหอหม่านเจียงเห็นเฉินชิ่งเซิงก็รีบตะโกนเรียกผู้ดูแล “ผู้ดูแล คุณชายรองเฉินมาแล้วขอรับ!”

ผู้ดูแลใหญ่เห็นเฉินชิ่งเซิงก็ยิ้มร่ารีบเดินผละออกมาจากโต๊ะรับเงิน “คุณชายรองเฉินมาแล้วหรือขอรับ เช้าวันนี้ข้าสั่งให้คนเตรียมทำความสะอาดห้องพิเศษที่ดีที่สุดตามที่ท่านสั่งไว้แล้ว เตาผิงก็จุดเตรียมรอแล้วขอรับ ยังไม่มีแขกคนใดใช้ห้องนี้ทั้งนั้น เตรียมพร้อมให้คุณหนูใหญ่คนเดียวขอรับ!”

เฉินชิงเซิ่งก้าวเข้าไปสองก้าวโค้งกายให้ผู้ดูแลเล็กน้อยพร้อมยื่นเงินให้อย่างขอบคุณ

“ขอบใจผู้ดูแลใหญ่มาก หากไม่ใช่เพราะท่านอนุญาตให้แม่นางหลัวจากแผงขายเกี๊ยวน้ำตระกูลหลัวใช้โรงครัวของหอหม่านเจียง คุณหนูใหญ่ของข้าคงไม่ได้ทานเกี๊ยวน้ำที่เพิ่งออกจากเตาร้อนๆ ของตระกูลหลัวแน่ พอคุณหนูตบรางวัลให้ข้า ข้าจะเลี้ยงเหล้าท่านนะ! ตกลงกันแล้วท่านห้ามบ่ายเบี่ยงเป็นอันขาด!”

“ดูคุณชายรองเฉินกล่าวเข้าสิ เรื่องของท่านก็เหมือนเรื่องของข้า!” ผู้ดูแลใหญ่จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยจึงดันเงินคืนให้เฉินชิ่งเซิงอย่างเป็นกันเอง กล่าวอย่างซาบซึ้ง

“คิดว่าข้าไม่รู้หรืออย่างไรว่าท่านถือโอกาสนี้อยากให้คุณหนูใหญ่ได้ลองชิมอาหารของหอเรา หากคุณหนูใหญ่แห่งจวนเจิ้นกั๋วกงบอกว่าดีจะมีคนสูงศักดิ์ตระกูลใดไม่รู้จักหอหม่านเจียงของข้าอีกเล่า! ข้ารับรู้ถึงความความหวังดีของท่าน ท่านวางใจเถิด…วันนี้ข้าจะดูแลคุณหนูใหญ่เป็นอย่างดี”

ชุนเถา ชุนเหยียนประคองไป๋ชิงเหยียนลงมาจากรถม้า เด็กรับใช้ที่ยืนอยู่หน้าประตูถึงกับตะลึงไปชั่วขณะ เด็กรับใช้ผู้นี้มิใช่ไม่เคยเห็นคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสตรีที่งดงามเช่นไป๋ชิงเหยียน งดงามราวกับเทพเซียนลงมาจุติ

“นี่มันคนเรื่องกัน!” เฉินชิ่งเซิงรีบยัดเงินใส่มือของผู้ดูแล จากนั้นก็รีบถอยหลังสองสามก้าว ออกไปต้อนรับไป๋ชิงเหยียนด้วยตัวเอง ผู้ดูแลใหญ่เดินตามหลังเฉินชิ่งเซิงไป มือกุมเงินไว้โค้งกายต้อนรับด้วยรอยยิ้ม

ชายสองคนเบียดเข้ามาขนาดนี้ ชุนเหยียนจึงโดนเบียดไปยืนอยู่ด้านหลัง เมื่อกลางวันชุนเหยียนโดนไป๋ชิงเหยียนสั่งสอนไปรอบหนึ่ง แต่นางก็สั่งให้คนนำป้ายหยกไปคืนเหลียงอ๋องแล้ว คุณหนูใหญ่ยังไม่หายโกรธนางอีกหรือ เหตุใดจึงไม่ตำหนิเฉินชิ่งเซิง และผู้ดูแลที่มาแย่งที่นาง

ชุนเหยียนรู้สึกน้อยใจมาก ชักสีหน้าเดินตามอยู่ด้านหลังปากงอจนแทบแขวนกาน้ำร้อนได้