WS บทที่ 113 ตัวเลือก

เหล่านักเวทย์ที่สวมชุดหลากหลายรูปแบบ พวกเขาต่างเดินเข้าออกหอสมุด

แม้ว่าเมอร์ลินจะไม่ค่อยออกจากห้องของเขาเลยในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาแต่เขาก็พอเรียนรู้ธรรมเนียมปฏิบัติทั่วไปของดินแดนมนต์ดํา

เหล่านักเวทย์ที่สวมชุดคลุมสีเทา พวกเขาเป็นนักเวทย์ที่ทํางานในห้องโถงภารกิจ

อย่างเช่นพ่อมดชุดเทาที่ทําหน้าที่ตรวจสอบเมอร์ลินก่อนหน้านี้ พวกเขาต่างทํางานภายให้ห้องโถงภารกิจซึ่งภารกิจต่าง ๆ ในห้องโถงจําเป็นต้องเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการเสียก่อนถึงจะสามารถรับงานพวกนั้นได้

เมอร์ลินเดินผ่านพวกพ่อมดชุดเทาที่อยู่ตรงเคาเตอร์และตรงขึ้นไปที่ชั้นสองทันที

ที่ชั้นสองนี้มีนักเวทย์จํานวนมาก พวกเขามาที่นี่เพราะกําลังมองหาคาถาระดับหนึ่งเพื่อเตรียมตัวสําหรับที่จะเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่ง

เขาเดินผ่านชั้นหนังสือคาถาระดับหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นเขาก็หยุดที่ชั้นหนังสือคาถาระดับศูนย์ ในดินแดนมนต์ดําแห่งนี้มีคาถาระดับศูนย์จํานวนมาก พวกมันถูกจัดเรียงบนชั้นหนังสีอมากมาย

เขามองหาคาถาธาตุลมซึ่งเป็นคาถาที่แม่มดนาชาสอนไว้ก่อนหน้านี้ ลมพายุ คาถานี้ไม่ได้เอาไว้ใช้ต่อสู้แต่มันช่วยเพิ่มความเร็วของผู้ร่ายถึงสองเท่า

ด้วยคาถาลมพายุนี้เองทําให้เมอแรงค์สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วปานสายฟ้า

“ใช้เพียง 2แต้มสนับสนุน แต้มที่ใช้กําลังพอดีเลยไม่มากจนเกินไป”

ถึงแม้ว่าคาถาลมพายุจะดูไม่แข็งแกร่งแต่มันก็ได้รับความนิยมอย่างมาก เหล่าพ่อมดส่วนใหญ่ต้องการที่จะเอามาครอบครอง

หลังจากเมอร์ลินที่หยิบตําราคาถาลมพายุมาแล้ว เขาได้ไปที่ชั้นหนังสืออันต่อไป

เนื่องด้วยเทคนิคการทําสมาธิขั้นกลางที่พ่อมดลีโอมอบให้เขา ทําให้พลังจิตของเพิ่มขึ้นมาก มันมากพอที่จะเพิ่มคาถาระดับนึ่งแต่เขาต้องการเพิ่มคาถาธาตุต่าง ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะ ทําได้นอกคาถาลมพายุแล้ว เขายังสนใจคาถาธาตุมืด

เมอร์ลินได้นึกถึงช่วงเวลาที่ต่อสู้กับเมอแรงค์ ตอนนั้นเขาได้เข้าใจถึงความน่ากลัวของธาตุมืดด้วยตัวเอง หากเขาไม่ได้พ่อมดฮิลล์ช่วยไว้ เขาคงไม่รอดแน่นอน

อย่างไรก็ตาม คาถาธาตุมืดนั้นหาได้ยากมาก เขาได้มองหาตามชั้นหนังสือก็แทบจะไม่เจอพวกมันเลย นี่คงเป็นความแตกต่างระหว่างทั้งสององค์กร

ทางด้านหอคอยอเวจี พวกเขามีชื่อเสียงได้เวทมนต์คาถาธาตุมืด ส่วนดินแดนมนต์ดํา พวกเขามีชื่อเสียงในด้านอักษรรูน เนื่องจากผู้ก่อตั้งคือจอมเวทย์ฟิเดล เขาเป็นอัจฉริยะด้านอักษรรูน

ด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกเลยที่คาถาธาตุมืดจะหาได้ยาก

ทันใดนั้นเอง เขาก็สะดุดตาชั้นหนังสือตรงมุมลึก ๆ ที่ตรงนั้นมีคาถาธาตุถูกจัดเรียงอยางเรียบร้อย

เมอร์ลินหยิบมันขึ้นอย่างหนึ่งเล่มและตรวจสอบมัน

“หัตถ์แห่งความมืด รวบรงมพลังธาตุมืดในการตรึงเป้าหมาย หากใช้ตอนกลางคืนผลลัพธ์จะเพิ่มขึ้นสองเท่า ใช้ 3แต้มสนับสนุน”

เมอร์ลินมองตําราคาถาในมืออย่างเงียบ ๆ ตอนนี้เขามีคาถาควบคุมศัตรูแล้วก็คือคาถาแช่แข็ง เขาเลยรู้สึกไม่คุ้มค่าเท่าไหร่กับแต้มที่จะต้องเสียไป

เขาจึงนํามันกลับไปที่เดิมและหยิบเล่มต่อไปขึ้นมา

“ลําแสงแห่งความมืด ลําแสงพลังธาตุมืดที่รุนแรง สามารถเจาะทะลุเกราะได้ หากใช้ตอนกลางคืนผลลัพธ์จะเพิ่มขึ้นสองเท่า ใช้ 3แต้มสนับสนุน”

นี่เป็นคาถาโจมตีที่เป็นธาตุมืด ด้วยข้อจํากัดในการใช้งานของมันทําให้พลังของมันด้อยกว่าคาถาลูกไฟ ดังนั้นเขาจึงวางมันกลับไปที่เดิม

แม้ว่าทั้งสองคาถาจะใช้ถึง 3 แต้มสนับสนุนแต่มันไม่ได้หมายความว่า พวกมันจะมีพลังมากกว่าคาถาอันอื่นที่มีแต้มน้อยกว่า สาเหตุที่แต้มของพวกมันสูงขนาดนี้ก็เพราะว่าคาถาธาตุมืดนั้นหาได้ยากมากในดินแดนมนต์ดํา

นอกจากนี้พวกมันยังมีความคล้ายกับคาถาที่เขามี เขาเลยตัดมันทิ้งทันที

คาถาที่เมอร์ลินต้องการเป็นคาถาที่มีลักษณะหลอนประสาทแบบเดียวกับคาถาหมอกรัตติกาลที่เมอแรงค์ใช้

หลังจากที่ค้นหาอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดเขาก็เจอกับสิ่งที่เขาต้องการ

“หมอกรัตติกาล ใช้พลังธาตุมืดสร้างพื้นที่ที่ปิดสนิท ใครก็ตามที่มีพลังจิตที่อ่อนแอ หากตกอยู่ในพื้นที่นี้จะวนเวียนอยู่ในภาพลวงตาที่ไร้จุดสิ้นสุด ใช้ 5แต้มสนับสนุน”

นี่เป็นคาถาแบบเดียวกับที่เมอแรงค์ใช้ เขายังจําได้ดีถึงสภาพแวดล้อมที่ไร้เสียงไร้แสงและเต็มไปด้วยความมืด มันได้ทิ้งความกลัวไว้ในใจเขาจนถึงทุกวันนี้

“ใช้ตั้ง 5แต้ม เลยเหรอ ฉันไม่คิดว่ามันจะแพงขนาดนี้”

เมอร์ลินที่อยู่ในห้องสมุดมาสักพัก เขาพอจะรู้ว่า พวกคาถาระดับศูนย์ที่ต้องใช้ถึง 5แต้ม พวกมันเหล่านี้เป็นคาถาที่มีความพิเศษเฉพาะตัวและไม่เหมือนใคร

หลังจากที่ตัดสินใจอยู่พักใหญ่ เมอร์ลินได้เลือกคาถาลมพายุกับคาถาหมอกรัตติกาล หากเขาสามารถสร้างและจําลองโครงสร้างเวทมนต์ได้สําเร็จ เขาก็จะกลายเป็นนักเวทย์ห้าธาตุที่ทรงพลังซึ่งเหนือว่านักเวทย์ทั่ว ๆ ไป

โดยเฉลี่ยแล้วนักเวทย์ทั่วไปจะมีเพียงสามธาตุเท่านั้นซึ่งตวามแข็งแกร่งจะแตกต่างเล็กน้อยกับนักเวทย์สีธาตุ

ยิ่งนักเวทย์มีธาตุมากเท่าไหร่ จํานวนนักเวทย์ที่พบก็จะน้อยลงไปตามระดับที่สูงขึ้น นับตั้งแต่ที่เมอร์ลินก้าวเท้าเข้ามาในดินแดนมนต์ดํา เขายังไม่พบนักเวทย์คนไหนมีห้าธาตุหรือมากกว่านั้นเลย

อย่างไรก็ตามห้าธาตุนั้นไม่ใช่เป้าหมายของเมอร์ลิน เขาต้องการเป็นนักเวทย์ที่พิเศษมากกว่านี้

ในตอนนี้เมอร์ลินมีคาถาตรึงคู่ต่อสู้ เพิ่มความเร็วป้องกันและลวงตา ส่วนคาถาโจมตีของเขา มีเพียงคาถาลูกไฟเท่านั้น แม้มันจะมีพลังโจมตีที่มหาศาลและรัศมีการโจมตีกว้างในระดับหนึ่งแต่มันก็ไม่เพียงจะรับมือกับศัตรูจํานวนมากได้

ดังนั้นเมอร์ลินจึงมองหาคาถาที่ทรงพลังและสามารถโจมตีเป็นวงกว้างได้เพื่อชดเชยจุดอ่อนเดียวของเขา