หลังจากได้ยินคำประกาศทั่วโลกเย่เฉินก็เลิกคิ้ว
แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับขุนพลในประวัติศาสตร์ระดับพิเศษและยังรวมถึงค่าชื่อเสียง 5 ล้านและทองคำ 10 ล้านทองอีกด้วย
เมื่อมองไปที่เตียนอุยที่ยังคุกเข่าข้างหนึ่งอยู่บนพื้น เย่เฉินก็หัวเราะออกมาเบา ๆ และเดินตรงไปที่เตียนอุยและพยุงเขาลุกขึ้น
“ จากนี้ไปเจ้าจะเป็นหัวหน้าองครักษ์ส่วนตัวของข้า!” เย่เฉินมองไปที่เตียนอุยและพูดออกมาอย่างมีความสุข
“ นายท่านข้าจะได้รับพื้นที่เพาะปลูกห้าไร่หรือไม่?”
หลังจากที่เตียนอุยลุกขึ้น เขาก็กล่าวประโยคดังกล่าวขึ้นมา และเย่เฉินก็ตกตะลึงทันทีเมื่อได้ยิน
“ ห้าไร่มากเกินไปหรือเปล่า ถ้างั้นขอแค่สี่ก็ได้ แต่แค่นี้ข้าแทบจะไม่อิ่มท้องเลย” เมื่อเห็นว่าเย่เฉินไม่ตอบ เตียนอุยก็เกาหัวของเขาและพูด
“บ้าเอ้ย! นี้องครักษ์ของข้ามีค่าแค่ห้าไร่?” ใบหน้าของเย่เฉินเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำในทันที เมื่อเขาได้ยินคำพูดนี้ จากนั้นเขาก็จ้องไปที่เตียนอุยและตะคอกออกมา
“ แล้วมีค่าเท่าไหร่? ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเลย ถ้าได้สักห้าไร่จะดีมาก” เตียนอุยกล่าวออกมาด้วยความสับสน
เย่เฉินไม่สามารถทนฟังคำพูดของเตียนอุยได้อีกต่อไป และเขาก็หัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้
เย่เฉินส่ายหัว แล้วหันหน้าหนี จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง:
” ห้าไร่? ชาวเมืองหลุนฮุยหนึ่งคนจะได้รับการจัดสรรที่ดินห้าไร่ เจ้าเป็นถึงหัวหน้าองครักษ์ส่วนตัวของข้า เจ้าจะได้รับเงินในทุกเดือนและที่ดินที่อุดมสมบูรณ์อีกหนึ่งหมื่นไร่ ข้ารู้สึกว่าสูญเสียเจ้าไปแล้ว!
“ฮะ?” เตียนอุยรู้สึกงุนงงเล็กน้อย จากนั้นคลื่นแห่งความอบอุ่นก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
แม้ว่าคำพูดของเย่เฉินจะฟังดูหยาบคาย แต่เตียนอุยก็ไม่ได้โง่เกินไป เขาสามารถเข้าใจความหมายของคำพูดเย่เฉินได้
เขาไม่ได้คาดหวังว่าเย่เฉินจะให้ความสำคัญกับเขามากขนาดนี้
คนสมัยก่อนเน้นย้ำเรื่องความชอบธรรมและคำสัญญา สิ่งที่เย่เฉินกล่าวออกมานั้น เตียนอุยคิดว่ามันเป็นความจริง
ยิ่งกว่านั้นเตียนอุยไม่คิดว่าเย่เฉินจะโกหกเขา
ดังนั้นเขาจึงรู้สึกประทับใจและมันทำให้เขารู้สึกถึงความอบอุ่น
เขามีความแข็งแกร่งเรื่องนี้เขารู้ตัวดี และเขาก็เคยอยู่ในกองทัพมาก่อนแต่ไม่เคยมีใครปฏิบัติกับเขาเช่นนี้
เขาได้ฆ่าเจ้าหน้าที่ไปเพื่อประโยชน์ของเพื่อนเขา และต้องหนีออกจากบ้านเกิดเพื่อความอยู่รอด แต่เขาก็ยังไม่สามารถหาที่ปักหลักได้
วันนี้เขามาที่เมืองหลุนฮุยและได้พบกับเย่เฉิน ท่านลอร์ดที่ไม่สนใจเรื่องอดีตของเขา ซ้ำยังปฎิบัติต่อเขาอย่างจริงใจ
เตียนอุยสูดหายใจเข้าลึก ๆ ระบายลมหายใจออกยาว ๆ เขามองไปที่เย่เฉินอย่างจริงจังแล้วคุกเข่าลงบนพื้นข้างหนึ่ง
เสียง“ปัง” ดังขึ้นทันที
“เตียนอุยสาบานว่าจะติดตามท่านลอร์ดตลอดไป! หากข้าผิดคำสาบานนี้ ขอให้สวรรค์ลงโทษไปจนตาย!”
เตียนอุยยกมือขวาขึ้นชูสามนิ้ว และกล่าวสาบานเสียงดังลั่น
“ติ้ง ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น เย่เฉิน, เตียนอุยเป็นผู้ที่ก้าวหน้าได้อย่างไม่สิ้นสุด!”
“เตียนอุย: ขุนพลในประวัติศาสตร์ระดับพิเศษ (แม่ทัพระดับพระเจ้า)
คุณสมบัติ: ระดับ SSS (ปิดผนึก)
ความภักดี: ภักดีจนวันตาย
บัญชาการ: 99 ( ขอบเขตซกเซนตั้งแต่เกิด)
รากฐานกระดูก: 97
พลังวิญญาณ: 91
โชคชะตา: ซ่อนอยู่
เทคนิค: : ซวนเทียนจือ(ไม่สมบูรณ์) (ระดับศักดิ์สิทธิ์)
ทักษะ: 9 ง้าว (ไม่สมบูรณ์) (ระดับศักดิ์สิทธิ์)
อุปกรณ์: ไม่มี
เย่เฉินผงะไปชั่วขณะจากนั้นก็พยุงเตียนอุยลุกขึ้นอย่างมีความสุข
คุณสมบัติของเตียนอุยถูกปิดผนึกไว้ เขามีระดับ SSS แสดงให้เห็นว่าเตียนอุยนั้นแข็งแกร่งมาก
ตอนนี้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาแล้วและยังเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตว์ต่อเย่เฉินอย่างมาก ความสามารถโดยธรรมชาติของเตียนอุยก็ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน
“ไม่จำเป็นต้องสาบาน ข้าก็เชื่อใจเจ้าเช่นกัน!” เย่เฉินมองใบหน้าที่น่าเกลียดของเตียนอุยและพูดออกมาอย่างจริงจัง
เตียนอุยกำลังจะพูดบางอย่างออกมา แต่ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปและมีเสียงอู้อี้บางอย่างดังออกมา
“ กรูก กรูก … ”
เป็นเสียงที่ดังมากและมันดังมาจากเตียนอุย
“ นายท่านข้า … ข้าหิว … ” เตียนอุยสังเกตว่าเย่เฉินถึงกับตกใจเขาจึงรีบอธิบายออกมา
“ไป! ไปดื่มกันเถอะ!” เย่เฉินหัวเราะตบไหล่ของเตียนอุยแล้วกล่าว
“ นายท่านแค่เตรียมซาลาเปากับข้าวสวยให้ข้าก็พอแล้ว ข้าอาจจะกินเยอะเกินไป” เตียนอุยตกตะลึงไปชั่วขณะ เขาไม่คิดว่าเย่เฉินจะพูดด้วยง่ายขนาดนี้และเขาก็อดที่จะรู้สึกอบอุ่นไม่ได้แล้วจึงกล่าวออกมา
เมื่อเย่เฉินได้ยินเช่นนี้เขาก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า: “เตียนอุย, เจ้าคิดว่านายท่านของเจ้าไม่มีปัญญาเลี้ยงดูเจ้าหรอ, เจ้าเป็นคนขี้เหนียวใช่ไหม เจ้าไม่อยากเติมเต็มท้องของเจ้าเองเหรอ?”
“ไม่ … ท่านลอร์ด … แต่ข้ากินมากเกินไป … ” เตียนอุยรีบส่ายหัวและกล่าว
“เจ้าจะกินเยอะแค่ไหนกัน วันนี้ข้าจะจ่ายค่าอาหารให้เจ้า 10,000 ทองโดยไม่พูดอะไรซักคำ!” เย่เฉินจ้องไปที่เตียนอุยจากนั้นมองไปที่เตียนหยูหลังจากที่เขาพูดจบ
ก่อนที่เย่เฉินจะพูดกับเตียวหยูด้วยรอยยิ้ม
“ ข้ามีธุระเจ้ากลับไปก่อนนะ”
เย่เฉินพยักหน้าจากนั้นมองไปที่เตียนอุยและพูดว่า “ข้าจะดูว่าวันนี้เจ้าจะกินได้มากแค่ไหน”
“ท่านลอร์ดของข้า … ข้าเป็นคนกินเยอะมากๆ … ” เตียนอุยเกาหัวด้วยความลำบากใจแล้วเดินตามเย่เฉินไปที่เมืองหลุนฮุย
หลังจากผ่านประตูเมืองและมาถึงโรงเตี๊ยมเย่เฉินโบกมือ: ” ไปเตรียมเหล้าและอาหารชั้นดีทั้งหมดมา นอกจากนี้บอกให้ห้องครัวทำอาหารต่อไปเรื่อยๆ และยกมันมาเมื่อทำเสร็จ หากข้าไม่สั่งให้หยุด พวกเจ้าก็ห้ามหยุด! “
เป็นธรรมดาที่เจ้าของโรงเตี๊ยมจะรู้จักเย่เฉินและหากพูดถึงเรื่องนี้นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เฉินมากินอาหารที่นี่
ใครจะคิดว่าผู้มีอำนาจอย่างเย่เฉินจะเดินทางมาที่นี้ เจ้าของโรงเตี๊ยมอดไม่ได้ที่จะตกใจกลัวแล้วสั่นสะท้านทันที
เขาคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติหรือเขาก็ทำอะไรให้เย่เฉินขุ่นเคือง เย่เฉินจึงมาที่นี่เพื่อตรวจสอบ
เมื่อเห็นท่าทางของผู้ดูแลโรงเตี๊ยม เย่เฉินก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกไปนั้นนั้นค่อนข้างคลุมเครือ
เจ้าของโรงเตี๊ยมตกใจอย่างมากจนยืนอยู่ที่เดิมและไม่กล้าขยับตัว เขาจึงกระแอมออกมาแล้วพูดว่า:
“ วันนี้เมืองหลุนฮุยได้มีสมาชิกใหม่ซึ่งเป็นขุนพลไร้เทียมทานและตอนนี้เขามีความกระหายมาก ดังนั้นเจ้าไปจัดเตรียมมาโดยเร็วที่สุด”
เมื่อเจ้าของโรงเตี๊ยมได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู้สึกโล่งใจอย่างมากมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา จากนั้นก็รับค้งคำนับและกล่าวว่า “ท่านลอร์ดผู้ต่ำต้องจะรับจัดเตรียมให้ทันที”
เย่เฉินพยักหน้า จากนั้นมองไปที่เตียนอุยและถามด้วยความสงสัย:
” เตียนอุยทำไมเทคนิคการบ่มเพาะทั้งหมดของเจ้าถึงไม่สมบูรณ์”
หน้าต่างคุณสมบัติของเตียนอุยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเขามีทักษะที่ไม่สมบูรณ์ แต่ถึงแม้มันจะไม่สมบูรณ์แต่ก็เป็นทักษะระดับศักดิ์สิทธิ์!
นี่คือสิ่งที่เย่เฉินสงสัยเช่นกัน หากเป็นเทคนิคนี้สมบูรณ์อย่างน้อยต้องอยู่ระดับพระเจ้า
เป็นไปได้ที่จะเกินระดับพระเจ้าและกลายเป็นเทคนิคโดยกำเนิด
“ นายท่านของข้า ข้าไม่รู้ว่าทักษะพวกนี้คืออะไร ข้าเรียนรู้ในถ้ำ ตอนข้าเดินทางขึ้นไปบนภูเขาเพื่อต่อสู้กับเสือ ตอนนั้นข้าตกลงไปแล้วตื่นขึ้นมาในที่แห่งนั้น” เตียนอุยเกาหัวของเขาและตอบเย่เฉิน
ความโชคดีนี้…
เย่เฉินผงะไปชั่วขณะแล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วถามว่า “แล้วอาวุธของเจ้าล่ะ?”
“ครอบครัวของข้านั้นยากจนและข้าไม่สามารถซื้ออาวุธได้ ข้าเคยได้ใช้อาวุธเมื่อตอนข้าอยู่ในกองทัพ เมื่อข้าออกจากกองทัพข้าก็ไม่ได้นำมันมาด้วย” เตียนฮุยกล่าวด้วยความหดหู่ใจ
“ เจ้าไม่มีอาวุธ?” เย่เฉินงุงงง เขาไม่เคยคิดว่าเตียนอุยจะไม่มีอาวุธ ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์เตียนฮุยใช้ง้าวเหล็กและเขายังใช้ง้าวคู่อีกด้วย
เตียนอุยพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่แล้วท่านลอร์ด”
” งั้นรอซักครู่ ” เย่เฉินคิดได้ว่าก่อนหน้านี้ เขาเคยฆ่าแม่ทัพอูหวน และได้รับกระบองมา
หลังจากพูดจบเย่เฉินเพียงใช้ความคิด กระบองก็ปรากฏขึ้นในมือของเย่เฉินทันที
กระบอง(ระดับลึกลับ): ทำจากเหล็กกล้า เทคนิคการสร้างนั้นหยาบเกินไป ระดับของมันจึงลดลงหนึ่งระดับ
“เอาไปใช้ก่อน ถ้ามันไม่เหมาะกับเจ้าก็นำมันไปที่โรงหลอมเพื่อหลอมและสร้างอาวุธที่เจ้าต้องการขึ้นมาใหม่” เย่เฉินกล่าวขณะที่เขายื่นกระบองให้เตียนอุย
“ขอบคุณท่านลอร์ด!” เตียนอุยกล่าวด้วยความดีใจขณะที่เขามองไปที่กระบองด้วยแววตาที่สดใส
คราวนี้เตียนอุยไม่ปฎิเสธและรับมันมาโดยไม่ลังเล
แม่ทัพต่างมีความชื่นชอบในการใช้อาวุธอย่างคาดไม่ถึง เตียนอุยเป็นผู้บัญชาการทหารและเขายังเป็นผู้บัญชาการทหารที่ยอดเยี่ยมในประวัติศาสตร์ เป็นธรรมดาที่เขาต้องเป็นเช่นนั้น
เขาสามารถเห็นถึงคุณภาพของอาวุธเย่เฉินมอบให้ และเย่เฉินยังอนุญาตให้เขาหลอมกระบองและสร้างมันใหม่ได้ เตียนอุยจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร