เตียนอุยรู้สึกตื่นเต้นขึ้นทันทีเมื่อเห็นเหล้าและอาหารถูกยกมา
“ อึก”
เตียนอุยกลืนน้ำลายอย่างแรงขณะที่เขามองไปที่เหล้าและอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ
“กินกันเถอะ!” เย่เฉินหัวเราะแล้วกล่าว
“ นายท่านข้าขอซาลาเปาและหมั่นโถวเพิ่มไม่งั้นข้าคงจะไม่อิ่มท้อง” เตียนอุยพยักหน้าแล้วกล่าว
“ นำซาลาเปามาและหมั่นโถวมาเพิ่ม!” เย่เฉินสั่งเจ้าของโรงเตี๊ยมที่ยืนอยู่ข้างๆทันที
“ครับท่านลอร์ดข้าจะรีบจัดเตรียมเดี๋ยวนี้!” เจ้าของโรงเตี๊ยมรีบก้มหน้าและรีบเข้าไปในครัวทันที
ไม่นานเจ้าของร้านก็ยกซาลาเปาชามใหญ่และหมั่นโถวมา เตียนอุยเห็นเช่นนั้นโดยไม่ต้องพูดอะไร เขาก็หยิบมันขึ้นมาและกินมันอย่างมีความสุข
ตอนแรกเย่เฉินไม่ได้สนใจอะไรเลย แต่ในไม่ช้าดวงตาของเย่เฉินก็เปิดกว้าง
เขาเห็นเตียนอุยถือซาลาเปาและมั่นโถวในมือซ้ายและถือตะเกียบในมือขวาของเขา
“ฟึบ ” เวลาลาผ่านไปไม่นาน ซาลาเปาและหมั่นโถว จำนวนมากถูกทานจนหมด!
เรื่องนี้นี้ทำให้เย่เฉินประหลาดใจมาก เตียนอุยกินอย่างไม่หยุดยั้งทำให้เย่เฉินตกตะลึก
ซาลาเปาลูกโตและข้าวสวยชามโตถูเทเข้าปากแล้วกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว
เย่เฉินมองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขาขยี้ตาแล้วมองไปที่เตียนอุยอีกครั้ง
ในวินาทีถัดมามุมปากของเย่เฉินกระตุกโดยไม่ตั้งใจ
มันน่ากลืนทั้งหมดนั้นลงไปจริงๆ!
ซาลาเปาลูกโตและอาหารหนึ่งจานถูกเตียนอุยกลืนเข้าไปในคำเดียว
แต่หลังจากนั้นไม่นานอาหารบนโต๊ะทุกอย่างกูถูกเตียนอุยกินจนเกลี้ยง
เย่เฉินมองไปยังโต๊ะที่ว่างเปล่า และมองไปที่ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมที่กำลังตกตะลึงและพูดว่า: “เจ้าไปเตรียมอาหารมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้!”
“ได…ได้ขอรับท่านลอร์ด!” เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฉินเจ้าของโรงเตี๊ยมก็กลับมามีสติ และรีบโค้งคำนับตอบรับจากนั้นก็วิ่งไปจัดเตรียมอาหารด้วยสีหน้าตกใจ
“ เจ้าจะกินได้มากแค่ไหน?” เย่เฉินถามเตียนฮุยด้วยสายตาสงสัย
“อีกเจ็ดถึงแปดเท่าของที่กินไปก่อนหน้านี้” เตียนอุยยิ้มและเกาหัวของเขาด้วยความเขินอาย จากนั้นก็กล่าวออกมา
เมื่อเย่เฉินคิดว่าเตียนอุยจะกินจำนวนตามที่เขาบอกแล้วเขาก็จะอิ่ม แต่เตียนอุยยังคงพูดต่อว่า:
“แค่นี้ก็เติมเต็มความหิวของข้าได้ครึ่งหนึ่งแล้ว ดังนั้นข้าจะมีกำลังพอที่จะปกป้องท่านลอร์ด”
บ้าเอ้ย!
เย่เฉินตกตะลึงเมื่อได้ยินดังนั้นเขามองไปที่เตียนอุยด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ชายคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดในรูปร่างมนุษย์ ท้องเขาใหญ่แค่ไหนกัน?
“ท่านลอร์ดมันมากเกินไปหรือไม่ หรือให้พวกเขาเสิร์ฟแค่ซาลาเปาและมั่นโถว … ” เตียนอุยถามด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเมื่อเขาเห็นสีหน้าตกใจของเย่เฉิน
“ไม่ได้มากมาย เจ้ากินได้มากเท่าที่เจ้าอยากจะกิน ข้าบอกแล้วว่าข้าจะทำให้เจ้าอิ่มท้องและจะให้เจ้าได้กินทุกวัน!” เย่เฉินกลับมามีสติและส่ายหัว จากนั้นก็กล่าวออกมา
“ งั้นข้ากินต่อได้มั้ย?” เตียนอุยพยักหน้าและถาม
“ กินเท่าที่เจ้าต้องการ ถ้าเจ้ากินไม่อิ่มเจ้าจะมีแรงพอจะปกป้องข้าได้อย่างไร และในอนาคตเจ้าจะต้องไม่อดอยากอีกเข้าใจหรือไม่?” เย่เฉินจ้องไปที่เตียนอุยก่อนที่จะพูด
“อืมข้าเข้าใจแล้ว ในอนาคตข้าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวอีก” เตียนอุยพยักหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา
เมื่อเย่เฉินได้ยินเช่นนี้เขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ไม่นานนักเจ้าของโรงเตี๊ยมก็ยกอาหารมา
เตียนอุยไม่สนใจสิ่งรอบข้างอย่างสมบูรณ์แสดงให้เห็นถึงความหิวที่น่ากลัวของเขาอีกครั้ง
เคยมีคำอธิบายลักษณะการกินของเตียนอุย และเป็นการดูถูกเตียนอุย
รูปร่างหน้าตาและการกินของเตียนอุยทำให้โลกตกตะลึง
โต๊ะที่มีผักและซาลาปานึ่งชามใหญ่และมั่นโถวสามถึงห้าชาม ก็หายไปในเวลาไม่กี่ลมหายใจ!
ในไม่ช้ารูปลักษณ์ของเตียนอุยที่กำลังกินอย่างตะกละตะกลามก็ดึงดูดความความสนใจของผู้คนโดยรอบซึ่งหยุดมองอย่างอยากรู้อยากเห็นจากระยะไกล
“นี่..ชายที่แข็งแกร่งคนนี้มัน … เขาเป็นราชาท้องโต … “
“ราชาท้องโตยังเทียบเขาไม่ได้ ดูสิว่าเขากินไปเท่าไหร่แล้วนี่เป็นโต๊ะที่สิบสองแล้ว … “
“ ข้าคิดว่าท่านลอร์ดของเราพวกเราเก็บสมบัติได้แล้ว ชายคนนี้แข็งแกร่งอย่างแท้จริงเขาต้องมีพลังมหาศาลแน่ ๆ ”
“เจ้าคิดว่าท่านลอร์ดของพวกเราเป็นใคร ท่านเป็นคนที่มีสายต่างยอดเยี่ยมจริงๆ“
“ใช่ ข้าคิดว่าชายผู้แข็งแกร่งคนนี้ดูไม่ธรรมดาเลย เขาอาจจะสามารถกลืนกินท้องฟ้าได้ ในอนาคตเมื่อเขาอยู่ในสนามรบเขาจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด!”
“ เมืองหลุนฮุยของเราภายใต้การนำของท่านลอร์ดจะต้องดีขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นพวกเราจะมีความสุขมากขึ้นตลอดไปอย่างแน่นอน”
” แต่ชายที่แข็งแกร่งคนนี้กินมากเกินไป ดังนั้นมีเพียงท่านลอร์ดของเราเท่านั้นจึงจะสามารถเลี้ยงดูเขาได้ ถ้านี่เป็นลูกชายของข้า ข้าคงไม่สามารถเลี้ยงดูเขาได้”
“ เจ้ารู้ไหม เขาเป็นคนที่เพิ่งอพยพมาและเขาก็มีความสามารถ! ไม่อย่างนั้นเขาจะกลายเป็นที่โปรดปรานของท่านลอร์ดและถูกแต่งตั้งเป็นหัวหน้าองครักษ์ได้อย่างไร?”
“โอ้พูดถึงองครักษ์มีเด็กน้อยในครอบครัวของข้า ไม่รู้ว่าท่านลอร์ดจะต้องการหรือไม่”
“ ลูกของเจ้ามีความสามารถแค่ไหน?”
“ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในระดับ D”
“ระดับ D เลิกคิดไปเลย หากอยากเข้ากองทัพของท่านลอร์ดอย่างน้อยก็ต้องอยู่ในระดับ A แล้ว!”
ชาวเมืองพูดคุยกันและในไม่ช้าก็เปลี่ยนหัวข้อ แต่ไม่มีใครเยาะเย้ยเตียนอุยเลย
ขณะที่เตียนอุยกำลังกินอาหารเขาก็ได้ยินชาวเมืองพูดคุยเช่นกัน เขาก็ยิ่งกินอย่างตะกละตะกลามมากยิ่งขึ้น
จนกระทั้งเตียนอุยจัดการโต๊ะที่สิบแปดจนเสร็จเขาก็หยุด
เย่เฉินหัวเราะแล้วหยิบแก้วเหล้าที่เขาถือไว้และดื่มมัน
“ ท่านลอร์ด ข้าอิ่มแล้ว” เตียนอุยอดไม่ได้ที่จะเกาหัวของเขาด้วยความเขินอายเล็กน้อย เมื่อเขาได้ยินเสียงหัวเราะของเย่เฉิน
“ กินให้อิ่มเถอะ แล้วข้าจะพาเจ้าไปพบกองทหารองครักษ์ในอนาคต” เย่เฉินตบเตียนอุยที่ไหล่แล้วกล่าว
เย่เฉินกล่าวว่ากองทหารองครักษ์เป็นหนึ่งในกองกำลังของเมืองหลุนฮุย
กองทหารหลุนฮุยลักษณะความเป็นไปได้ที่ไม่ จำกัด อยู่ภายใต้การสั่งการของเย่เฉิน แต่ตอนนี้เขาเจอกับเตียนอุยแล้ว เย่เฉินจึงตั้งใจที่จะส่งมอบกองทหารหลุนฮุย ให้กับเตียนอุย
แม่ทัพในประวัติศาสตร์ชั้นพิเศษแต่ละคนจะมีลักษณะที่ซ่อนอยู่ ซึ่งสามารถทำให้กองทัพแข็งแกร่งขึ้นและมำนาจมากยิ่งขึ้น
เตียนอุยเป็นผู้บัญชาการทหารระดับพิเศษในประวัติศาสตร์ เย่เฉินจึงไม่ถือว่าเตียนอุยเป็นองครักษ์ส่วนตัวของเขา
นั่นเป็นเพียงชื่อตำแหน่ง ท้ายที่สุดแล้วเย่เฉินก็ยังต้องการที่จะนำเตียนอุยไปยังสนามรบ
มีเพียงสนามรบเท่านั้นที่เป็นบ้านของแม่ทัพ แม่ทัพมีชีวิตอยู่ในสนามรบและตายเพื่อสนามรบ
ความมั่งคั่งและความรุ่งโรจน์ทั้งหมดของพวกเขาจะเกิดมาจากสนามรบ