50 และแล้วชีวิตในรั้วสถาบันของฉันก็ได้เริ่มต้นขึ้น
“――คนผู้นั้นแข็งแกร่งค่ะ น่าจะมากกว่าผู้ชายคนนั้นด้วย”
เรเลียเรดดูเหมือนจะกังวลมาก สิ่งที่คมชัดในสายตาของเธอคือ ความแตกต่างทางด้านร่างกายที่มากเกินไป
มากจนต้องหันไปถามสาวใช้ของเธอว่า「คิดว่ายังไง? 」
ยังไงก็ตาม ราวกับจะขจัดความกังวลของเรเลียเรด สาวใช้ร่างสูงแสดงความคิดเห็นอย่างใจเย็น และดูเหมือนว่าเธอจะคิดเหมือนกับฉัน
“งะ งั้นเหรอ……ถ้าเอซูเอลาพูดอย่างนั้น ก็คงเป็นแบบนั้น”
“เน๊ะ? เป็นอย่างที่ฉันบอกนั่นแหละ?”
“ถึงอย่างงั้น เอซูเอลาของพวกฉันก็แข็งแกร่งกว่า!”
……ฟุมุ
ริโนกิสและสาวใช้คนนี้ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดี แต่ถ้าสู้กันฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใครจะเป็นผู้ชนะ
สาวใช้คนนี้คงรู้แนวคิดของ「คิ」เหมือนกัน
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเธอไม่สงสัยในชัยชนะของริโนกิสในรอบนี้
――ตรงข้ามกับผู้ช่วยอาจารย์ที่สนใจแต่ฝึกร่างกายจนมองข้ามพลังของ「คิ」 เพราะถ้ารู้ล่ะก็คงไม่สร้างร่างกายที่พึ่งพาแต่กายเนื้อแบบนี้
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเขาได้เรียนรู้พลังของ「คิ」 เขาจะกลายเป็นปรมาจารย์อย่างแน่นอน นั้นช่างน่าสนุกเหลือเกิน
ม๊า เรื่องนั้นเอาไว้คราวหน้าแล้วกัน
“มาให้ความสนใจเรื่องตรงหน้ากันก่อนดีกว่า”
ฉันไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนอารมณ์ร้อนหรอกนะ แต่เมื่อลูกศิษย์ของฉันถูกนินทา ความโกรธก็ผุดออกมาจากส่วนต่าง ๆ
ความโกรธที่กระพืออยู่จนถึงตอนนี้ ควรทำยังไงดี เหล่าลูกศิษย์และผู้คนรอบข้างทำให้ฉันโกรธ
ต้องทำเป็นยอมรับ ต้องทำเป็นกลืนลงไป งั้นเหรอ
“เอ๊ะ? แน่ใจเหรอ? ว่าเอซูเอลาจะชนะน่ะ?”
ใบหน้าที่สื่อว่าแน่นอนอยู่แล้วของเธอ ดูเชื่อมั่นในชัยชนะของสาวใช้ตัวเองอย่างใสซื่อบริสุทธิ์หมดใจ――พูดอีกอย่างก็คือ ใบหน้าของเรเลียเรดที่เชื่อว่าริโนกิสต้องพ้ายแพ้แน่นอนนั้นดูน่าหงุดหงิดสุด ๆ
“……เห๊ งั้นเอาไว้มากตัดสินกัน”
ถ้าใครรู้เข้าคงคิดว่าฉันจะจริงจังอะไรกับเด็ก แต่ในทางกลับกัน ก็หมายความว่ามีกระเพาะแยกไว้สำหรับเรื่องของลูกศิษย์
ฉันดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ลูกศิษย์ของฉันเป็นคนละเรื่องกัน
จะว่ายังไงดี เธอก็เหมือนไม้กระถางล้ำค่าที่ฉันปลูกไว้――ใช่ เหมือนกับบอนไซ
เป็นบอนไซที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีอย่างระมัดระวัง ทั้งใช้เวลาทั้งการดูแลส่วนตัว ไม่ให้โกรธงั้นเหรอ บ้ารึไง ต่อให้แม้แต่กับเด็ก ก็ไม่ยกโทษให้หรอก
คนรอบข้างต่างกำลังตื่นเต้นอย่างมากกับการจับคู่ศึกระหว่างสาวน้อยกับชายร่างใหญ่
――ฉันรู้ว่าศึกนี้ชัยชนะจะเป็นของฝั่งไหน แต่ฉันก็รู้สึกตื่นเต้นในแบบที่ต่างออกไป
มีการอธิบายกฎอย่างง่าย
อย่าจริงจังเกินไป――เพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่จะทำให้เกิดภาพอันชวนตื่นตระหนกให้มากที่สุด อย่างเช่น การนองเลือดบาดตา แขนขางอไปในทิศทางที่เป็นไปไม่ได้ และผู้ใหญ่ที่ร้องไห้โหยหวน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะตั้งโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าเด็ก ๆ
ยังไงก็ตาม ดูเหมือนพวกเขาตั้งมาเพื่อใช้กับผู้ช่วยอาจารย์มากกว่า ส่วนริโนกิสดูเหมือนจะถูกปล่อยให้ทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการตราบที่คิดว่าไหว
ม๊า ก็ใช่ว่าจะไม่เข้าใจล่ะนะ
สำหรับมือสมัครเล่น ความแตกต่างทางร่างกายนี้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่แน่นอน แบบนั้นจะให้ความรู้สึกที่ไม่ดีนักหากบอกว่าจะให้ประลองกันอย่างเท่าเทียมโดยไม่กำหนดกฎเกณฑ์ที่เหมือนแต้มต่อแบบนี้
ผู้ช่วยอาจารย์อาจถูกมองว่าใจแคบ และสำนักทลายสวรรค์ที่เอาจริงแม้แต่กับสาวน้อยบอบบางก็อาจถูกตราหน้าว่าเป็นปีศาจ เป็นยักษ์ไร้เมตตา
ในกรณีนั้น จากที่จะเป็นการประลองที่สามารถดึงดูดนักเรียนใหม่ได้ แต่จะให้ผลตรงกันข้ามแทน
――ฉันรู้สึกเห็นใจผู้ช่วยอาจารย์นิดหน่อย แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะเขาคือคนที่บอกให้ปฏิบัติตามกฎเหล่านี้เอง
เด็กชายสวมชุดฝึกสำนักทลายสวรรค์ปรากฎตัวออกมาทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสิน ยืนอยู่ระหว่างทั้งสองคน และยกมือข้างหนึ่งขึ้น
เสียงของเด็กรอบข้างหยุดลงในทันใด
อากาศเริ่มหนักขึ้นพร้อมกับความตึงเครียดที่การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้น
ริโนกิสตั้งท่า และผู้ช่วยอาจารย์ก็ตั้งท่าเช่นกัน
และ――
“เริ่มได้!”
เด็กชายตะโกน พร้อมฟันมือลงมา――
เพี๊ยะ!
จบแล้ว
เสียงแหลมเหมือนตบมือดังก้องไปทั่วโรงยิม
“――งดงาม”
ทำได้เร็วกว่าที่คิด
แม้พื้นฐานยังน่าแคลงใจ แต่ก็สามารถใช้「คิ」ได้อย่างถูกต้อง
ตัวแทนผู้ช่วยอาจารย์ยังไม่ทันขยับจากการตั้งท่า และก่อนที่เขาจะทันรู้ตัว ริโนกิสก็อยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
หลังจากปล่อยท่าและถอยมาโค้งคำนับ เธอก็เดินกลับมาที่นี่โดยไม่สนใจกับบรรยากาศโดยรอบที่เงียบสงัด
“จบแล้วค่ะ”
“อืม เมื่อกี้ดีแล้ว”
ไม่มีการนองเลือด ไม่มีแขนขางอผิดทิศทาง และไม่มีผู้ใหญ่ที่ร้องไห้โหยหวน
อาจจะสนุกขึ้นหากมีการเคลื่อนไหวที่ดูฉูดฉาดมากกว่านี้ แต่ในเมื่อมีกฎแบบนี้ก็ช่างไปเถอะ
――ไม่มีความจำเป็นต้องแสดงฝีมือทั้งหมดให้กับคู่ต่อสู้คนต่อไปได้เห็น
“เอ๊ะ? ……เอ๊ะ?”
“――เป็นลูกเตะต่ำค่ะ ตวัดอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนกับแส้”
ทุกคนมีเครื่องหมายคำถาม แต่คนที่เข้าใจก็ย่อมเข้าใจ รวมทั้งฉันด้วย
สาวใช้ร่างสูงอธิบายให้กับเรเลียเรดที่กำลังงุนงง
“เธอเตะเข้าที่ต้นขาอย่างแรง ฟังจากเสียงแล้ว ชายคนนั้นคงกำลังพยายามผ่อนคลายกล้ามเนื้ออยู่ ดิฉันคิดว่าตอนนี้เขาน่าจะเจ็บมาก จนขยับไม่ได้สักพักค่ะ”
หากมองใกล้ ๆ จะเห็นว่าใบหน้าของผู้ช่วยอาจารย์มีเหงื่อไหลเยิ้ม
ตอนที่เขาถูกเตะ เขาอาจไม่ทันรู้ตัว แต่สุดท้ายก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดในร่างกาย
“จ๊า ไปทานมื้อเที่ยงกันตามที่สัญญาไว้กันเถอะ เรเลีย ไปกัน”
“เอ๊ะ? เอ๊ะ? ……เอ๊ะ?”
“ริโนกิส อยากกินอะไรล่ะ?”
“อาหารทำมือของคุณหนูก็ดีค่ะ”
“เข้าใจแล้ว ร้านอาหารสินะ ไหน ๆ ก็อยู่ที่เมืองหลวงแล้ว ไปที่『คุโรยูริ โนะ คาโอริ』กันเถอะ ฉันอยากไปทักทายเชฟด้วย”
“เอ๊ะ ไม่ใช่ อาหารทำมือของคุณหนู”
“เรเลีย ไปกันเถอะ”
“เอ๊ะ? ……ห๊ะ?”
――หลังทัศนศึกษางานเชิญชวนของคลับจบลง ไม่กี่วันต่อมา พิธีเปิดภาคการศึกษาก็จัดขึ้นอย่างไร้ปัญหา
และในวันพิธีเปิดภาคการศึกษา
“――เยี่ยม คัท! ใช่ได้เลย!”
กองถ่ายเมืองหลวงก็มาเข้าร่วมด้วย
แน่นอนว่า ฮิลเดโทร่าเป็นผู้พามา
เป็นการจัดองค์ประกอบสำคัญสำหรับการให้เจ้าหญิงลำดับที่สาม ฮิลเดโทร่า ซึ่งเป็นที่นิยมมากในเมืองหลวง ได้แสดงการต้อนรับฉันกับเรเลียเรด นี่จึงเป็นครั้งแรกที่พวกเราสามคนได้ถ่ายทำด้วยกัน
แม้จะไม่ได้เกี่ยวมากนัก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นผู้กำกับหญิงของทีมงานถ่ายทำ คิดว่าน่าจะไม่มีผู้กำกับหญิงในดินแดนลิสตัน
ม๊า ตอนนี้ยังไงก็ได้
ขั้นแรก ฉากการสนทนากันของพวกเราสามคนที่หน้าประตูโรงเรียน
ต่อจากนั้น ฉากพวกเราสามคนกำลังเพลิดเพลินกับการดื่มชาในห้องของเรเลียเรดที่หอพักของหญิง โดยมีฮิลเดโทร่าเล่นเครื่องสาย*แสดงดนตรีเพื่อฉลองการเข้าเรียน
(*กลุ่มเครื่องดนตรีที่ใช้สายกำเนิดเสียง ไม่ระบุเจาะจง)
สุดท้าย ถ่ายทำระหว่างฮิลเดโทร่าพาฉันกับเรเลียเรด แนะนำภายในอาคารเรียนโดยเฉพาะ
ยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่ไม่รู้เกี่ยวกับเมจิกวิชั่นดังนั้นจึงจำเป็นต้องแสดงให้พวกเขาเห็นว่ามีวัฒนธรรมเช่นนี้ในเมืองหลวง
ถ่ายทำโดยไม่ต้องกังวลว่าใครอยู่ในภาพ――ซึ่งทำให้เกิดความปั่นป่วนไม่น้อย ทั้งต้องจัดการผู้คนที่พยายามแทรกเข้ามา ทั้งเด็ก ๆ ที่ติดตามมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น และผู้คนที่มารวมตัวกันเพื่อให้ได้เห็นเจ้าหญิงฮิลเดโทร่าสักครั้ง
หากเป็นทีมงานถ่ายทำในดินแดนลิสตัน ฉันคิดว่าคงมีอุบัติเหตุบางอย่างในภาพสะท้อนที่จะทำให้การถ่ายทำต้องหยุดลง แต่การถ่ายทำก็เสร็จสิ้น และพร้อมออกอากาศในเช้าตรู่ของวันถัดไป
ก่อนอื่นเลย ภาพสะท้อนแนะนำอาคารเรียนนั้นมีเพียงความยุ่งเหยิงและความยุ่งเหยิง
ทุกอย่างยุ่งเหยิงไปหมด ไม่มีการประสานงานเลย
ยังไงก็ตาม สายตาใสซื่อของเด็กนักเรียนใหม่ที่กำลังสนุกอย่างไม่รับผิดชอบกับการได้พึ่งเข้าเรียนก็ไม่ได้ดูแย่นัก
นี่แบบนี้ก็อาจจะดี แน่นอน
――และด้วยเหตุนี้ชีวิตในสถานศึกษาของฉันจึงเริ่มต้นขึ้น