ตอนที่ 67 ผู้กล้าคนก่อนกับบรรยากาศอันสุดแสนจะมาตุ

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

[ อืมๆ เป็นงี้เองสินะคะ~  ดังนั้นคุณเลยจะไปช่วยเหลือคุณเซ็นทอร์ซังและคนอื่นๆสินะคะ~ ]

[ อ่า ใช่แล้ว ]

ตอนนี้เป็นเวลาเช้า ซึ่งสายฝนได้หยุดตกและพระอาทิตย์สาดแสงแล้ว สภาพอากาศตอนนี้เป็นท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆ

ถึงแม้เกวียนจะเดินทางได้อย่างยากลำบากในเส้นทางบนภูเขาที่ซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยดินโคลนเพราะฝน แต่ด้วยการร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทอร์ พวกเราจึงยังเดินทางต่อไปได้แม้จะแบบช้าๆก็ตาม

และ ดูเหมือนว่าเบอร์นาเดสเองจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไร

เพราะตลอดเช้ามานี้ เธอได้แต่นั่งข้างๆผมและจ้องมาที่ผมด้วยสายตาติเตียน

[ ฮึม! นั้นสินะ นั้นสินะคะ อิเระซังซินะคะ? เธอเป็นพี่สาวแสนสวยตรงกลับสเป็กของยาชิโระซังสินะคะ~ ]

[ . . . ทะ , เธอ กำลังเข้าใจผิดนะ ถึงจะเห็นผมเป็นแบบนี้แต่มันก็มีบางเวลาที่ผมเห็นความถูกต้องต้องมาก่อนอยู่นะ ! ]

[ แถมเธอยังมีหน้าอกใหญ่แบบที่ยาชิโระซังชอบด้วยสินะคะ~ ตลอดเวลาที่เธอเดินด้วยท่าทางวิ่งเยาะๆแบบม้านั้น หน้าอกคู่นั้นมันก็เด้งไปเด้งมาสินะคะ~ ]

「……」

แย่แน่ มันไม่ดีแน่ ถึงผมจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนัก แต่ผมคงผ่านเธอไปไม่ได้โดยง่ายแน่

อีกอย่าง ทำไมผมถึงต้องถูกกล่าวหาด้วยล่ะ?

[ นักสู้ ยาชิโระ! ]

[ ครับ ? ]

มีเสียงหญิงสาวอันเยือกเย็นได้เรียกขึ้นมา

และเจ้าของเสียงร้องนั้นคืออิเระซัง

ตอนนี้เธอกำลังสวมอยู่ในเครื่องป้องกันสุดยอดของสุดยอดแห่งความอีโรติกที่รู้จักกันในชื่อ บิกินี่ และหนองโพของเธอ อย่างที่เบอร์นาเดสกล่าวเอาไว้ มันเด้ง “ดึ๋งๆ ดึ๋งๆ” ตลอดเวลาที่เธอเดิน

เสื้อคลุมสีน้ำตาลที่ปกปิดเพียงครึ่งท่อนบนของเธอมันทำให้เกิดความรู้สึกอยากจะมองลอดผ่านชายเสื้อนั้น

[ ต้องการอะไรจากผมหรือครับ? ]

ผมลุกขึ้นยืนบนเกวียน และตอบกลับไปด้วยท่าทางที่สดใสที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้

[ . . . ฮึม ! ]

รู้สึกว่า เบอร์นาเดสที่อยู่ข้างๆผมตอนนี้ อารมณ์ของเธอจะบูดลงไปอีก แต่ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือการเก็บภาพร่างกายอันงดงามของแม่เซ็นทอร์นี้ไว้ในหัวของผมโดยไม่ถูกจับได้

[ อืม พวกข้ากำลังจะตัดสินใจเกี่ยวกับแผนของพวกข้า ดังนั้นจึงอยากจะให้นายไปเข้าร่วมการประชุมกับพวกข้าด้วย ]

หลังจากที่ผมเสนอตัวช่วยเหลือ ในที่สุดผมก็กลายเป็นผู้ช่วยเหลือกลุ่มเซ็นทอร์อย่างเป็นทางการเสียที

ผมที่กึ่งบังคับให้พวกเขายอมรับข้อเสนอนี้ นั้นเพราะพวกเธอคงเห็นว่ามันคงจะดีกว่าหากมีคนที่สามารถต่อสู้ได้เยอะขึ้นเมื่อถึงคราวจำเป็นต้องสู้

[ ตกลงครับ ผมจะไปที่นั้นทันที! ]

[ จมูกคุณกำลังยื่นออกมาแล้วนะคะ ]

「 อุก.」

ดั่งที่เบอร์นาเดสกล่าวออกมา ผมรีบกลับสู่ท่าทางที่ดูน่าเชื่อถือเหมือนเช่นเคย ซึ่งผมตั้งใจให้มันดูเหมือนกับท่าทางของพวกหนุ่มหล่อ (อย่างน้อยผมก็คิดเช่นนั้น)

[ ถ้างั้น เดี่ยวผมขอตัวสักครู่นะ ]

[ นั้นสินะคะ ไปไหนก็แล้วแต่คุณเถอะค่ะ~ ]

เบอร์นาเดสที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะงอนแก้มตุ๋ยไปแล้ว

เอาจริงๆ ผมว่าคงไม่ “ดูเหมือน” แล้วล่ะ เธอคงงอนไปจริงๆแล้ว

[ ยาชิโระซัง บากะ ]

เบอร์นาเดสได้พึมพัมเกี่ยวกับตัวผมออกมา ผู้ที่กำลังเดินตามอิเระซังไป

——————

「…………」

「…………」

[ อะ ฮ่าฮ่าๆ . . .  นี่คือเมือง Be Io สินะครับ ดูทันสมัยดีเนาะ  ? ]

[ แล้วไง ? ]

[ ใช่แล้ว ]

[ ขะ- ขอโทษครับ . .  ]

ไอ้บรรยากาศมาคุที่ลอยอยู่เต็มในอากาศนี้มันอะไรกัน ?

. . . กะ ก้อ ถือว่าสถานการณ์ยังดีอยู่ ในเมื่อมันมีคำกล่าวที่ว่า “หัวใจของหญิงสาวและสถาพอากาศในฤดูใบไม้ร่วงนั้นต่างไม่แน่นอน” เพราะไม่รู้ว่าผมจะคิดเกี่ยวกับมันถึงเพียงใด แต่ผมก็ไม่สามารถหาคำตอบที่ถูกต้องได้เสียที

เอาล่ะถึงจะกะทันหันไปหน่อย แต่พวกเราก็มาถึงที่เมือง Be Io แล้ว

ข้อสรุปของการประชุมกับอิเระซังและคนอื่นๆ คือให้ผมที่ได้รับหน้าที่ให้มาส่งมอบสิ่งของแก่ลูกของโวแดน ผู้ซึ่งเป็นเจ้าเมืองท่า Be Io แห่งนี้ แล้วสอบถามเขาเกี่ยวกับตลาดค้าทาสที่ตาลุงพ่อค้าเคยพูดถึง และถ้าหากเป็นไปได้ อยากขอความช่วยเหลือแก่คนที่ถูกลักพาตัวมาด้วย 

ผมเองก็ไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับแผนนี้ ในเมื่อท่านอาจารย์ใหญ่เองก็มีความสัมพันธ์อันดีกับเขา แต่ หากด้วยประสบการณ์ของผม มีบางเหตุผลที่ทำให้ผมคิดว่า [ โวแดนคนนี้อาจจะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ] และในตอนที่ผมพยายามจะบอกเรื่องนี้แก่คนอื่นๆ ผมกลับถูกด่าสวนกลับมาโดยเหล่าพ่อค้าในกลุ่มตาลุง

สำหรับเหตุผลที่ถูกด่า เพนสะที่ตาลุงกล่าวออกมามันเหมือนกับ โวแดนนั้นเป็นที่เคารพในด้าน [ คุณธรรม (Jingi) ] และภาพลักษณ์แห่งความกล้าหาญนั้นได้หลั่งไหลออกมาจิตวิญญาณของชายคนนี้ เขาไม่ใช่คนที่จะมีส่วนเอี่ยวกับเรื่องอาชญากรรมได้เลย

คุณธรรมและความกล้า งั้นรึ . . ท่านโวแดนคนนี้ ไม่ผิดแน่ เขาจะต้องเป็นบุคคลผู้ที่เรียกว่า โอยาบัน(TL:บอสของพวกแก้งยากุซ่ามั้ง)หรืออะไรคล้ายๆนี้สินะ ?

หรือผมจะเป็นคนเดียวที่มีลางสังหรณ์แย่ๆเกี่ยวกับเรื่องนี้คนเดียวนะ ?  ไม่สิ นี้มันผ่านจุดที่เรียกว่าลางสังหรณ์แล้วล่ะ เพราะแค่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็แย่มากพอแล้ว

ดังนั้น หลังจากหาลือกับอิเระและคนอื่นๆ พวกเราตัดสินใจแยกกันเป็น 2 กลุ่ม โดยที่อีกกลุ่มมุ่งตรงไปยังเมืองท่าที่ชื่อ Oltaine และค่อยกลับไปยังหมูบ้านเซ็นทอร์เพื่อขอกำลังเสริม

ตอนนี้พวกผมที่ได้แยกตัวออกมาจากอิเระซังและคนอื่นๆ แม้จะจิตตกที่ต้องแยกจากอิเระซังแต่ผมโน้วน้าวใจตัวเองเอาว่า [ ผมกำลังจะได้คุคิคุคิและอุฟุอุฟุกับพี่สาวหูแมวและหูหมาอยู่แล้ว ดังนั้น อย่ายอมแพ้! ]

อิเระซังที่กลับไปยังหมู่บ้าน และพวกผมกับคนอื่นๆก็กำลังสถานที่ทำงานของผู้ดูแลเมือง Be Io อยู่ แต่ว่า . .

「……」

แม่เด็กสาวเซ็นทอร์ที่ชื่อ [ คูเช่ ] ที่พยายามมาตัวติดกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง สิ่งนี้มันทำให้เป็นปัญหาอย่างมาก

ถึงแม้มันอาจจะพูดได้ว่าเพราะความโกรธชั่วขณะที่ตอนนั้นผมได้ลงมือกับพี่ชายของเธอ ยิ่งกว่านั้น ผมจ่อดาบไปที่หลังคอของเขา

เธอคงจะเคียดแค้นผมเพราะเรื่องนั้น . .  

ไม่สิ นี่มันไม่ถูกต้อง เธอไม่ยอมให้อภัยแก่ผม แถมยังไม่ซ่อนความเป็นปรปักษ์ต่อผมเลยซักนิด

มันเป็นสายตาที่เสียดแทงจนดูรู้สึกว่ามันสามารถทำให้คนตายได้เลย

อืม สำหรับผม ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไรกับไอ้สิ่งที่เรียกว่าจิตสังหรหรือความเป็นปรปักษ์อะไรนี้หรอก แต่ว่าเพื่อร่วมทางของผมอีกคนดูเหมือนเธอจะไม่สามารถทนกับสิ่งนี้ได้อีกแล้ว

[ ดิฉันขอให้คุณหยุดจ้องยาชิโระซังแบบนั้นจะได้รึปล่าวคะ ? ]

และนั้น เบอร์นาเดสเองก็หันสายตาที่สามารถทำให้คนตายได้จ้องไปยังคูเช่

เบอร์นาเดส  . . . นี่เธอโกรธเพราะผมถูกคุกคามทางสายตารึนี่ ? แต่ว่าผมเองก็ไม่เป็นอะไรนะ ดังนั้นผมจึงอยากให้เธออย่าโทษแม่เซ็นทอร์นี้เลย . . . 

[ เพราะการจ้องของเธอมันจะยิ่งทำให้บรรยากาศแย่ลงกว่าเดิม แบบนี้พวกเราก็ไม่ได้เริ่มที่จะคุยกันสักทีว่าเมื่อไรพวกเราจะรับประทานอาหารสิคะ !! ]

ผมเข้าใจแล้ว!!!!  ผมเข้าใจแล้วมันเพราะเรื่องของกินนี่เอง!! บ้าเอ้ย ผมอุส่าแอบดึใจเล็กๆ แต่สุดท้ายมันก็เพราะของกิน!! 

ยิ่งกว่านั้น พอพวกเราออกมาจากป่าแล้ว ยัยนี่ก็ถามหาของกินเลย ยัยบ้าเอ้ย!

ถึงแม้ว่าผมจะถูกเรียกว่าเป็นผู้กล้า แต่จริงๆผมเป็นพวกใจเสาะนะ!

เพราะสำหรับตอนนี้ ผมทำได้เพียงแค่เฝ้าดูท่าทีของพอเธออยู่ห่างๆ

[ . . . ฮืม มันก็เพราะพวกมนุษย์อย่างเธอลักพาตัวพี่น้องของพวกเราไป ดังนั้นพวกเธอนั้นแหละผิด ]

[ มุ! . . ดิฉันคิดว่าไอ้สิ่งนั้นมันเป็นเรื่องเลวร้ายเช่นกัน แต่ว่า เรื่องนี้มันไม่ใช่เพราะพวกดิฉันเป็นคนก่อซักหน่อยนะ . . ]

[ ไงก็ช่าง พวกมนุษย์น่ะขี้ขลาด เห็นได้ชัดที่พวกมันมาลักพาตัวเหล่าเด็กๆในตอนที่ไม่ได้อยู่ในการคุ้มครองของพวกเรา ]

[ *ปึด*(เสียงเส้นเลือดปูด) เช่นเดียวกับพวกเธอนั้นแหละ ปล่อยให้พี่น้องของพวกเธอถูกลักพาตัวไปทั้งๆที่อยู่ใต้จมูกของพวกเธอแท้ๆ และเรื่องที่พวกเธอมาโจมตีกองคาราวานพ่อค้าที่ไม่รู้ประสีประสานี่ มันช่างเป็นความล้มเหลวสิ้นดี เธอนี้มันไร้ซึ่งความระมัดระวังจนหน้าตกใจจริงๆนะคะ ]

[ . . . เธอกล้าดีอย่างไร เธอกำลังดูถูกพี่น้องของพวกข้างั้นสินะ ? ]

[ . . . จะเอาไงล่ะคะ? หรือเธอต้องการที่จะสู้ ? ]

คูเช่หยิบธนูของเธอออกมา และเบอร์นาเดสเองก็หยิบปืนเวทย์มนตร์ของเธอออกมาจากใต้ชุดอันเย้ายวนนั้นเช่นกัน

[ พวกเธอหยุดน้าาาาา !!!คือผมจะบอกว่า พวกเรากำลังอยู่กลางเมืองนะตอนนี้ !! และไอ้สิ่งที่พวกเธอกำลังจะทำกัน มันอันตรายนะที่จะมาสู้กันกลางเมือง!! ]

แม้ว่าผมจะพยายามแทบตาย แต่ก็นะ สุดท้ายผมก็ทำให้พวกเธอยอมเก็บอาวุธลงไปได้ แต่ว่า บรรยากาศโดยรอบกับยิ่งเลวร้ายลงกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก

พวกผู้หญิงนี้น่ากลัวจริงๆ

มันคือสิ่งเดียวที่ผมคิดออกตอนนี้