บทที่ 45 นายหญิงลึกลับ (ต้น)
ซูอัน ถึงกับตกตะลึง เมื่อมองไปยังจี้เสี่ยวซีที่เขินอาย เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่านางต้องการจะพูดอะไร “เจ้าถามมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ พวกเราถือได้ว่าเป็นสหายที่ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคที่ยากลำบากรวมไปถึงอาบ…แค่ก แค่ก ข้าหมายถึงว่าพวกเราเป็นสหายกันแล้ว ดังนั้นอย่าลังเลที่จะพูดความในใจของเจ้า”
จี้เสี่ยวซีเม้มปากและมองเขาด้วยสายตาเขินอายอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นนางพูดว่า “คือว่าพ่อของข้าปรุงยาอยู่ตลอด และหนึ่งในส่วนผสมที่พ่อข้าของต้องการมากที่สุดก็คือโก๋วเป่าจากหมาป่ากระซวกทวาร และจากกระทำของท่านมันน่าจะทำให้มีแนวโน้มว่าจะไม่มีหมาป่ากระซวกทวารในหุบเขาหมาป่าอีกต่อไปในอีกหลายเดือนนับจากนี้ ซึ่งมันยิ่งทำให้ส่วนผสมนี้หายากมากขึ้นไปอีก ท่านจะว่าอะไรไหมหากข้าจะขอซื้อพวกมันต่อจากท่าน”
ซูอันสงสัยว่าจี้เสี่ยวซีจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อนางรู้ว่าเขากำลังรวบรวมโก๋วเป่าเหล่านี้ ไปให้พ่อของนางเอง อย่างไรก็ตามปากของเขาขยับเร็วกว่าสมองมาก “เจ้าตั้งใจจะเสนอราคาของพวกมันเท่าไหร่?”
จี้เสี่ยวซีตอบว่า “โก๋วเป่าจากหมาป่าธรรมดาไม่แพงเท่าไหร่ แต่ราคาตลาดของโก๋วเป่าจากหมาป่ากระซวกทวารคือ 10 ตำลึงเงินต่อ 1 ชิ้น”
ซูอันรู้สึกประหลาดใจทันทีกับราคาของมัน ไอ้ของพวกนี้มันแพงขนาดนี้เลยงั้นเหรอ? อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดถึงความแข็งแกร่งของพวกหมาป่ากระซวกทวาร ราคานี้มันก็สมเหตุสมผลดีอยู่เหมือนกัน ต้องรู้ว่าหมาป่ากระซวกทวารนั้นขึ้นชื่อเรื่องความดุร้าย และมีเพียงหนึ่งในสิบของหมาป่ากระซวกทวารเท่านั้นที่มีโก๋วเป่าบรรดาผู้ที่ต้องการล่าหมาป่ากระซวกทวารต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อสิ่งนี้ แม้แต่ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลให้ตูดของพวกเขาถูกฉีกกระชากได้
ซูอัน ถูกวิญญาณพ่อค้าหน้าเลือดเข้าสิงทันทีจากนั้นเขาตอบกลับว่า “ข้าว่าคำนวณแบบนี้มันอาจจะผิดไปสักหน่อยรึเปล่า? เจ้าเป็นคนพูดเองว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาโก๋วเป่าจากหมาป่ากระซวกทวารแถวเมืองจันทร์กระจ่างในช่วงระยะเวลาหลายเดือนนับจากนี้ ดังนั้นโก๋วเป่าจากหมาป่ากระซวกทวาร จะพุ่งสูงขึ้นในไม่ช้าแน่นอน ข้าพูดถูกไหม?”
จี้เสี่ยวซีกะพริบตาครุ่นคิดก่อนที่จะพยักหน้าเห็นด้วย “เจ้าพูดถูก สิ่งที่เจ้าพูดมีเหตุผล ข้าขอโทษ ข้าไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยพวกนั้นมาก่อน”
ซูอันตกตะลึง เขาแค่ยกประเด็นสำคัญให้นางฟังแค่นั้นเอง ทำไมนางถึงมาขอโทษเขาแบบนี้? นางไร้เดียงสาเกินไปสำหรับโลกที่ชั่วร้ายจริง ๆ แต่แล้วเมื่อเขานึกถึงว่าหมอเทวะจี้มีนิสัยเป็นอย่างไร เขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่านางเป็นลูกแท้ ๆ ของไอ้คนหน้าเลือดนั่นจริง ๆ รึเปล่า?
“ถ้าเช่นนั้น เอาแบบนี้ได้ไหม? ข้าขอซื้อ โก๋วเป่า เหล่านี้ในราคา 13 … อา ไม่ใช่สิ ๆ อันละ 15 ตำลึงเงินก็แล้วกันท่านตกลงไหม?” จี้เสี่ยวซีมองไปที่ซูอันอย่างคาดหวัง “ข้ามีเงินอยู่แค่นี้เอง”
เมื่อเห็นว่า จี้เสี่ยวซียื่นข้อเสนออย่างระมัดระวังเพียงใด ซูอันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจหมอเทวะจี้ มันมีประโยชน์อะไรสำหรับตาแก่นั่นในการในการสะสมทรัพย์สมบัติ? การมีลูกสาวเช่นนี้ สุดท้ายทรัพย์สมบัติทั้งหมดมันจะต้องกลายเป็นของลูกเขยอย่างแน่นอน ให้ตายสิ!
“ข้าขายให้เจ้าก็ ว่าแต่เจ้าจะเอากี่อัน?” ซูอันถามกลับ
“ขอบคุณท่านจริง ๆ!” ดวงตาของ จี้เสี่ยวซีเป็นประกายด้วยความยินดี “ข้าต้องการซื้อ…10 อัน มันมากเกินไปหรือเปล่า?”
“ไม่หรอก เอาแบบนี้ก็แล้วกันข้าให้เจ้าไปหมดเลยก็แล้วกัน” เมื่อพูดจบ ซูอันส่ง โก๋วเป่า 12 อันไปให้นางทันที เหตุผลหลักของเขาในการตามล่าสิ่งเหล่านี้ก็เพื่อแลกกับการขอคำปรึกษากับพ่อของนางอยู่แล้วมันไม่จำเป็นที่เขาจะเก็บพวกมันไว้กับตัวเขา
พิจารณาว่าเขาเพิ่งได้รับ 150 ตำลึงเงิน ถึงแม้ว่าเขาจะจ่าย 100 ตำลึงเงินสำหรับการปรึกษาไข้ เขาก็ยังมีเงินเหลืออีก 50 ตำลึงเงิน เขาสงสัยเหมือนกันว่าถ้าหมอเทวะจี้รู้เรื่องนี้จะกระอักเลือดออกมา เพราะความโมโหรึเปล่า?
จี้เสี่ยวซี โบกมือปฏิเสธเป็นพัลวันและพูดว่า “ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก! ข้าไม่มีเงินมากพอจะจ่ายได้ถึง 12 อัน!”
“ไม่ต้องกังวล 2อันนั่นข้าแถมให้ ถือเสียว่าเป็นของขวัญในการพบกันของพวกเราทั้งสองคน!” ซูอันวางมือบนไหล่ของนางขณะที่เขาพูดอย่างจริงใจ “อย่าลืมสิว่าตอนนี้พวกเราเป็นสหายกันแล้ว!”
“จริงเหรอ?” จี้เสี่ยวซีมีความสุขมาก “ท่านช่างเป็นคนดีจริง ๆ!”
“เสี่ยวซี เจ้าไม่ควรสรุปว่าใครเป็นคนดีง่าย ๆ แบบนี้เข้าใจไหม?” ซูอันพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็ตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด “อ๊ากกกกก ทะ…ทำไมมือของข้า…ทำไมมันปวดแบบนี้!?”
จี้เสี่ยวซี อ้าปากค้างและพูดขึ้นด้วยสีหน้าตื่นตกใจ “ไอ้หยา ข้าลืมไปเลย พ่อของข้าโรย ‘ผงสกัดคนชั่ว’ เอาไว้บนเสื้อผ้าของข้า ข้าจะเอายาแก้พิษให้ท่านเดี๋ยวนี้!”
ภาพของหมอเทวะจี้ หัวเราะอย่างชั่วร้ายผุดขึ้นในใจของซูอันทันที ในที่สุดตอนนี้เขาก็เข้าใจว่าทำไมไอ้ตาแก่นั่นจึงวางใจปล่อยให้ลูกสาวของตัวเองผจญภัยไปบนภูเขาเพื่อรวบรวมสมุนไพรทั้งหมดด้วยตัวนางเอง ปรากฏว่าเขาเตรียมเครื่องป้องกันนางมาอย่างดีแล้ว
จี้เสี่ยวซีรีบหยิบขวดออกจากกระเป๋าของนางแล้วถูบนมือของซูอันนางดึงมือของเขามาที่ปากของนางแล้วเป่าเบา ๆ “ยังเจ็บอยู่ไหม”
เมื่อมองไปที่ใบหน้าของจี้เสี่ยวซีที่มีขนาดเท่าฝ่ามือของเขา ซูอันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “มันเจ็บมากก่อนหน้านี้ แต่หลังจากที่เจ้าเป่ามันข้าก็ไม่เจ็บอีกต่อไปแล้ว”
ใบหน้าของจี้เสี่ยวซีพลันแดงขึ้น “เจ้ากำลังล้อเลียนข้า”
ซูอันอดไม่ได้จนต้องเตือนเธอด้วยความเป็นห่วง “เสี่ยวซี ถ้าเจ้าปฏิบัติต่อทุกคนอย่างดีแบบนี้ สักวันคนเลวจะใช้ประโยชน์จากเจ้า”
จี้เสี่ยวซีตอบโดยไม่ลังเลเลย “หากเป็นคนอื่นข้าคงไม่ยอมใกล้ชิดแบบนี้ด้วยแน่ แต่ท่านไม่เหมือนกับผู้ชายทั่วไปพวกนั้น”
ซูอัน: “…”
ตอนนี้นางกำลังเห็นเขาเป็นเหมือนพี่สาวคนหนึ่งงั้นเหรอ? น่าเสียดายที่แป้นพิมพ์ไม่สามารถรวบรวมค่าความโกรธของตัวเขาเองได้ ไม่งั้นเขาแน่ใจจริง ๆ ว่ามันคงได้เกินพัน!!
จี้เสี่ยวซีสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของซูอันอย่างรวดเร็วและนางก็พอนึกออกว่าคำพูดของนางมันไปจี้ปมด้อยของซูอันเข้า นางจึงรีบเอ่ยขอโทษเขาทันที “ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น! ข้า…”
เมื่อเห็นว่าจี้เสี่ยวซีหมดหนทางที่จะอธิบายตัวเองซูอันก็ตบหัวของนางเบา ๆ แล้วพูดว่า “อย่ากังวลเรื่องนี้ เราเป็นสหายกัน ข้าไม่คิดอะไรมากหรอก”
ในเมื่อเห็นเขาเป็นพี่น้องแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาจะใช้จุดแข็งตรงนี้ในการเข้าหานางอย่างเต็มที่เลยทีเดียว!
ในชีวิตก่อน มีผู้ชายเลว ๆ มากมายที่ชอบใช้มุกแสร้งเนียนว่าตัวเองเป็นเกย์เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับสาว ๆ ก่อนจะจบลงที่ได้กลิ้งตัวอยู่บนเตียงร่วมกับสาว ๆ เหล่านั้นในที่สุด
เอ๊ะ…เดี๋ยวสิ! ผู้ชายเลว ๆ งั้นเหรอ? ไม่ใช่แน่นอน ต่อให้แผนของข้าจะใกล้เคียงกับพวกนั้นแต่ข้าก็ไม่ใช่ผู้ชายเลว ๆ แน่นอน!
ในขณะที่ความคิดของซูอันกำลังเลื่อนลอยไปไกล เขาสังเกตเห็นจี้เสี่ยวซีมองเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจแล้วเธอก็พูดขึ้นว่า “อา… ข้าควรจะบอกเจ้าแล้วว่ายาอยู่บนผมของข้าด้วย…”
ซูอัน จ้องไปที่มือของเขา ซึ่งตอนนี้มันบวมเป่งเหมือนขนมปังแล้วชายหนุ่มรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล เจ้าเพิ่งล้างตัวเองในแม่น้ำก่อนหน้านี้ไม่ใช่เหรอ?