บทที่ 63 – Daemonium Ex-Machina

 

“ระเบิดไฮโดรเจนทำอะไรมันไม่ได้งั้นเหรอ.. ล้อเล่นน่า”

สิบสองอัศวินพิทักษ์ดาราที่ลอยอยู่ตรงนั้นได้แต่งุนงงกับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า แม้แรงกระแทกหรือแรงระเบิดทุกอย่างจะสลายหายไปจนหมด

และคนที่เป็นศัตรูของพวกเขาก็จากไปแล้ว แต่ทว่าความน่าหวาดหวั่นนั้นยังคงถูกสลักในเบื้องลึกของจิตใจพวกเขา

พวกเขาคือนักรบที่เกรียงไกรแห่งดวงดาว ว่ากันบางระดับเหมือนกับผู้บริหารสูงสุดของดวงดาวเลยก็ว่าได้

แต่ภาพตรงหน้ามันก็แทบจะทำให้พวกเขาอกสั่นขวัญผวาได้โดยไม่รู้ตัว.. แอเรียนที่ได้สติมาก่อนเพื่อนถึงกับขมวดคิ้ว

“เจ้าสัตว์ประหลาดนั่น…..”

เขาพึมพำด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ เหนือสิ่งอื่นใดคือมันยังพาองค์หญิงของดาวเขาไปด้วย

ซึ่งตัวตนของเทรต้านั้นมีความสำคัญมากไม่แพ้การกำจัดอีกฝ่าย ศัตรูที่ลักพาตัวองค์หญิงไปก็คือศัตรูที่โดนระเบิดไฮโดรเจนแล้วไม่เป็นไร

นี่มันคงเป็นภัยระดับความมั่นคงของดวงดาวแล้ว.. ในเมื่อเป็นแบบนี้อำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจก็จะมาอยู่ที่เขา

ตามปกติหรือสถานการณ์ปกติแล้ว.. เขาคงต้องยื่นเรื่องของกับองค์ราชาเพื่อดำเนินภารกิจโดยพลการในที่แห่งนี้

เพราะการยุ่งเกี่ยวกับคนนอกมากเกินไปก็คงเป็นเรื่องไม่ดี.. แต่ทว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาจะมามัวคิดเรื่องนั้นแล้ว

สัตว์ประหลาดที่เป็นภัยคุกคามต่อดวงดาว ลักพาตัวองค์หญิง.. เขาหลับตาลงพร้อมกับออกคำสั่งทันที

“ทุกคนเริ่มใช้ระบบสำรอง ‘อิออน’ ทันที”

เมื่อแอเรียนกล่าวแบบนั้นทุกคนก็ถึงกับหันมาหาเขา

“เดี๋ยวสิเฮ้ย แอเรียน ระบบอิออนมัน.. ใช้งานยังไม่ได้สักหน่อย”

“จริงด้วย ฝืนใช้ขึ้นมาโดยไม่ขออนุญาตองค์ราชาแบบนี้มันจะดีเหรอ”

คนอื่นๆ แสดงท่าทางไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่แอเรียนก็หันมามองทุกคนด้วยสายตาเคร่งเครียด

“แล้วพวกนายคิดว่าสถานการณ์ในตอนนี้พวกเราทำอะไรได้นอกจากพึ่งระบบสำรองอย่าง ‘อิออน’ น่ะ.. ถึงมันจะมีปัญหาหน่อยแต่ทว่าสถานการณ์ที่เราพึ่งไอออนไม่ได้ มันก็ไม่ต่างอะไรที่เราถูกตัดแขนตัดขาไปข้างหนึ่งหรอก”

“อีกอย่างเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นแข็งแกร่งระดับทนทานต่อแรงระเบิดไฮโดรเจนได้ ก็เดาเอาไว้เลยว่าไม่ใช่แค่ความทนทานที่มันอยู่ในระดับนั้น”

“บางทีไม่ว่าจะความเร็วหรือพลังโจมตีก็อยู่ในระดับสูงพอที่จะจัดการพวกเราทุกคนได้… ตัดเรื่องระบบไอออนล่มเพราะมันไป หากมันรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของพวกเราละก็.. พวกเราคงไม่รอดเช่นกัน”

“พวกเธอยังจะบอกว่าฉันตัดสินใจโดยพลการอีกหรือเปล่า?”

แอเรียนถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ทำให้ทุกคนพูดไม่ออก… แต่ทว่าคนที่อันดับรองจากแอเรียนก็เดินออกมาออกความเห็น

เธอเป็นรองหัวหน้าหน่วยอัศวินพิทักษ์ดารา.. เธอมีชื่อว่า ‘เอมิลี่’ หนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในดวงดาว

“หัวหน้าแน่ใจนะว่าจะทำมันจริงๆ ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้สร้างอิออน.. ฉันมั่นใจว่าเจ้าปีศาจนั่นคงไม่ยอมถูกเราใช้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียวแน่”

เอมิลี่มองไปที่แอเรียนอย่างตรงไปตรงมา แอเรียนก็มองกลับมาพร้อมกับพยักหน้า

“…..อืม… แล้วเธอพอจะเดาได้ไหมว่าถ้าเราใช้มันคำนวณหาความอนาคตที่เราจะชนะเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น มันจะตอบโต้เราแบบไหน”

“ไม่เอาน่าหัวหน้า คิดว่าจะมีคนคาดเดาการกระทำมันได้หรือไง”

“…….”

“แต่ฉันมั่นใจอยู่เรื่องหนึ่งนะหัวหน้า.. ผลลัพธ์ที่มีจะสร้างขึ้นคงมากกว่า ‘ครั้งก่อน’ แน่ๆ เพราะครั้งก่อนเรามีไอออนคอยช่วยห้ามมันไว้”

เอมิลี่ยิ้มแล้วพูดต่อ

“เจ้าปีศาจแห่งการคำนวณที่รู้แจ้งทุกโมเมนตัม ทุกอะตอม ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนถูกรับรู้ไว้ด้วยการรับรู้ของมัน”

ถ้าหากไอออนถูกเรียกว่า…

‘Deus Ex-Machina’ (เทพจากจักรกล)

อิออนก็คู่ควรที่จะถูกเรียกว่า…
 

‘Daemonium Ex-Machina’ (ปีศาจจากจักรกล)

AI ที่รับรู้ทุกอย่างอย่างแท้จริงจนกลายเป็นปีศาจ ในตอนที่มันถูกสร้างขึ้นมันคลุ้มคลั่งจนเกือบทำลายดาวทั้งดวงไป

ยังดีที่ ไอออน สามารถควบคุมและหยุดการทำงานของมันในสถานแช่แข็งไว้ได้ แต่ไม่มีใครสามารถลบมันได้ เนื่องจากมันใช้ฐานข้อมูลเดียวกับไอออน

ว่าง่ายๆ ก็คือร่างก๊อบปี้ของไอออนนั่นแหละ หากลบฐานข้อมูลมันทิ้ง ไอออนจะได้รับผลกระทบไปด้วยไม่มากก็น้อย

แน่นอนว่าไม่ทั้งหมด แต่ผลกระทบอันเล็กน้อยที่ส่งผลกับไอออน คือสิ่งที่พวกเขาไม่อาจยอมรับได้โดยเด็ดขาด

หากโลกที่มิวอยู่คือโลกที่นับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จับต้องไม่ได้เป็นพระเจ้าเคารพรัก สิ่งที่เรียกว่าศาสดาของศาสนาอะไรเหล่านั้น

หากเทียบ.. เทวะจักรกลหรือเทพจากจักรกลนี้ก็คงคือศาสดาของศาสนาที่พวกเขานับถือนั่นแหละ

แอเรียนหวนนึกถึงภัยพิบัติในครั้งนั้น.. ภัยพิบัติที่ดาวของเขายังไม่ได้มาอยู่ในที่แห่งนี้ แค่นึกเขาก็รู้สึกหวาดผวาแล้ว

คนล้มตายไปจำนวนมาก ระบบต่างๆ ในดวงดาวพังพินาศไปจำนวนมาก โชคยังดีที่มีไอออนอยู่ ไม่งั้น…..

เขากัดฟัน

“ในระหว่างที่เปิดการทำงานของอิออน ให้เปิดการทำงานของไอออนกลับมาด้วย หากไอออนทำงานปกติก็ให้ไอออนช่วยหยุดอิออน”

“และพวกเราทุกคน.. ให้โมดูลเชื่อมต่อเข้ากับอิออน ย้ำว่าแค่โมดูล AI ของชุดเท่านั้น ห้ามเชื่อมต่อเข้ากับระบบอื่นๆ หลีกเลี่ยงการสวนข้อมูลกลับไปยังดาว”

“ยกเลิกการเชื่อมต่อข้อมูลทุกอย่างกับฐานข้อมูลหลัก”

เมื่อได้ข้อสรุปดังนั้นเอมิลี่ก็พยักหน้าเริ่มทำการเชื่อมต่อกับอิออนและตัดการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลใหญ่..

ซึ่งการเริ่มดำเนินการทุกอย่างนี้ดำเนินไปตามคำสั่งของเขาอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นานระบบอิออนที่ถูกแช่แข็งมาหลายปีก็ถูกเปิด

แน่นอนว่าแม้เขาจะไม่ขอร้อง แต่เขาก็แจ้งเตือนกลับไปยังฐานหลักว่า ข้อบังคับใช้ระบบอิออน

แอเรียนพอนึกภาพออกเลยว่าตอนที่แจ้งเตือนนี้ส่งไปถึงบนนั้นจะวุ่นวายขนาดไหนน่ะนะ

และ.. ในวินาทีนั้นเองคนทั้งสิบสองคนก็หยุดชะงัก.. แสงสีขาวเปล่งออกมาจากชุดของเอมิลี่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น

แม้จะถูกแช่แข็งไว้หลายสิบปี.. แต่ทว่าสำหรับมันทุกอย่างเพียงแค่หยุดนิ่งไปชั่วเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อกลับมาทำงานทุกอย่างก็ยังอยู่ในการรับรู้ของมันพร้อมกับ

“ว่าไง แอเรียนกับผู้พิทักษ์ทุกคน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ แล้วก็ท่านแม่ด้วย”

วินาทีที่เสียงนั้นดังขึ้น มันไม่ได้ดังออกมาเป็นเสียงจริงๆ แต่มันดังเข้าสู่สมองพวกเขาโดยตรงซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับชุด

ภาพโฮโลแกรมที่ใหญ่ยิ่งถูกฉายออกมาจากชุดของเอมิลี่

รูปร่างของมันคล้ายมนุษย์แต่ก็ไม่คล้ายมนุษย์ มีแขนขาที่ยาวกว่ามนุษย์ร่างกายที่ไม่อ้วน ดูผอมๆ ด้วยซ้ำ

ผิวสีแดงฉานของมันเหมือนกับถูกไฟเผาอยู่ตลอดเวลา เขาสีดำสนิทสองข้างยื่นออกมาจากหัวเหมือนยมทูตในนรก

รูปร่างที่มันพึ่งสร้างสดขึ้นมาเมื่อกี้ ให้เหมาะกับสถานการณ์ในตอนนี้ที่คนเรียกมันว่า ‘ปีศาจ’ ใช่.. มันคือ อิออน

หรือหากจะพูดเป็นชื่อที่คนบนโลกด้านนอกรู้จักทันที.. มันคงรู้จักกันในชื่อของ ‘ปีศาจแห่งการคำนวณ ปีศาจของลาปราซ’

“ไม่เจอกันนานนะ.. อิออน แก”

“แอเรียน นายดูแก่ขึ้นเยอะเลยนะเอาจริง หมายถึงสมองของนายอะนะ แต่อืม ดูสิผู้พิทักษ์พวกนี้มีคนที่ไม่รู้จักตั้งเยอะ พวกแกเปลี่ยนผู้พิทักษ์ยกแผงเหรอ?”

“ก็เพราะแกนั่นแหละไอ้ปีศาจ เลิกพูดมากได้แล้ว คงรู้ใช่ไหมว่าพวกเราเปิดการทำงานแกมาเพื่ออะไร”

อิออนไม่ได้ตอบแต่หัวเราะออกมา แน่นอนว่าการหัวเราะของมันก็เหมือนยืนยันว่ามันรู้ทุกอย่าง มันรู้มาตั้งแต่แรก

มันรู้ดี มันรู้จักพวกแอเรียนดียิ่งกว่าตัวแอเรียนเองเสียอีก

“คึคึคึคึคึ เอาเถอะ ฉันจะช่วยพวกแกแล้วกันนะ”

มันหัวเราะอย่างชั่วร้ายเหมือนวางแผนบางอย่างเอาไว้

“เจ้านั่นมีอัตลักษณ์พิเศษที่เรียกว่า ‘นิรันดร์’ อยู่.. ความสามารถนั้นของมันคือตามที่ชื่อมันคือความนิรันดร์ ไม่ว่าจะโจมตียังไงก็เข้าไม่ถึงตัวมัน”

“ต่อให้พวกแกใช้ระเบิดซูเปอร์โนว่าเทียมที่พวกแกภูมิใจนักภูมิใจหนาก็ทำอะไรมันไม่ได้หรอก.. นั่นสินะ ถ้าอยากจะเจาะทะลุพลังนั้นได้”

“พวกแกต้องมีพลังอะไรสักอย่างที่สวนทางกับความอมตะ เช่นการตัดทะลุอมตะ แค่ฟันเบาๆ ก็คงทะลุไปถึงตัวมันได้”

“อ้ะ แต่แน่นอนว่าความสามารถแบบนั้น ต่อให้พวกแกพลิกแผ่นดินมาก็คงไม่มีใครมีความสามารถแบบนั้นหรอก ใช่ไหม?”

“งั้นฉันจะบอกให้เอาบุญ เจ้านั่นกำลังมีหน้าที่ต้องปกป้องผู้มีพระคุณอยู่คนหนึ่ง เป็นเด็กธรรมดาที่ไม่มีพิษภัยอะไรทั้งสิ้น”

“ถ้าแกใช้ประโยชน์จากจุดนั้นได้ ก็คงจะผนึกมันไว้ในคลาวน์ของพวกแกได้นะ”

เมื่ออิออนกล่าวจบ แอเรียนจึงถามขึ้น

“แค่ผนึก?”

“ความสามารถระดับพวกแกผนึกเจ้านั่นได้ ฉันว่าเอาไปอวดลูกหลานได้อีกประมาณพันล้านปีเลยล่ะ คึคึคึคึคึ”

มันหัวเราะพร้อมกับพูดจาถากถางอีกฝ่าย แต่ว่าแอเรียนก็นิ่งเงียบลงก่อนจะถามด้วยสีหน้าสงสัย

“แต่ทำไมแกถึงให้ความร่วมมือง่ายขนาดนี้? .. แกเองก็ต้องการทำให้เจ้านั่นหายไป เพราะมันเป็นภัยกับตัวเองเหรอ?”

“นี่แกล้อฉันเล่นใช่ไหม แอเรียน ฉันจะไปอยากกำจัดสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบทำไม ถ้าให้เลือกฉันอยากทำลายพวกแกมากกว่าประมาณหมื่นเท่า”

“……”

“เอาเถอะ แต่ระหว่างนี้ฉันจะช่วยพวกแกเอง”

มันหัวเราะเบาๆ.. ใช่ มันต้องการให้คนเหล่านี้ตายสูญหายไปจนหมดแต่ยังเลือกที่จะชี้ทางสว่างให้พวกมันซะอย่างนั้น

มันเห็นอนาคตทุกรูปแบบเหมือนไอออน เพียงแต่ความนึกคิดของมันนั้นมีเพียงความเกลียดชัง

“อิออน.. นาย…”

เอมิลี่มองอิออนที่ลอยอยู่เหนือหัวตัวเองเหมือนเธอเข้าใจเจตนาบางอย่างของมัน..

“แอเรียน.. ฉันว่าเรา—”

“ไม่เอาน่า แม่ นี่คือเส้นทางของหัวหน้าแห่งดวงดาวเราเลือกแล้วนะ”

ปากของเอมิลี่กลับเปิดไม่ออกกะทันหัน แต่แอเรียนก็ได้ยินเลยหันมาถามเธอ

“มีอะไรเหรอ เอมิลี่”

“…….เปล่า”

ปากของเธอขยับไปเอง ราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นของอิออนควบคุมอยู่—