บทที่40ถูกหลอกเล่น

การแข่งขันรอบที่สี่ครั้งนี้ผู้เข้าร่วมคนเก่งๆ สี่คนสุดท้ายแล้ว ตรงกลางเวลาพักค่อนข้างยาว ลี่จุนถิงพาเจียงหยุนเอ๋อและถวนจื่อมากินข้าวตรงร้านอาหารใกล้ๆ

“ถวนจื่อ ตอนแข่งหนูตื่นเต้นไหม?” ความตื่นเต้นและความกระตุ้นในช่วงเช้าได้ผ่านไปแล้ว หาเวลาพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างยากลำบาก เจียงหยุนเอ๋อก็กลับถามถวนจื่ออย่างสงสัย

หากเปลี่ยนเป็นตัวเอง แข่งขันต่อหน้าคนมากมายก็จะตื่นเต้นตายแน่ๆ แต่ว่าถวนจื่อมองดูแล้วเรียบเฉยมาก ยังมีเวลาไปคิดวิธีพวกนั้น

“ไม่ตื่นเต้น” ถวนจื่อมุ่นก้มกินอาหาร ส่ายหัวไปมา ตอบกลับอย่างเรียบเฉย

เจียงหยุนเอ๋อกลับรู้สึกว่าตัวเองตอนอยู่ต่อหน้าถวนจื่อเหมือนกับว่าเทียบเขาไม่ติด เธอขยับปากไปมา แล้วถามต่ออีก “คนดูหนูเยอะขนาดนี้ หนูไม่มีความรู้สึกสักนิดเลยเหรอ?”

“ก็ไม่เห็นเป็นไร ยังไงซะก็แค่เล่นเกมของหนูอย่างสนุกก็พอแล้ว มีหรือไม่มีใครมองหนูก็ไม่ได้กระทบอะไรอยู่แล้ว” ถวนจื่อขยับหัวพูดไปมา

มองดูท่าทางที่เป็นผู้ใหญ่ของเด็กน้อยอย่างเขา เจียงหยุนเอ๋อนอกจากจะอดไม่ได้ที่จะตกใจ ถวนจื่อคนนี้ ยิ่งเทียบไม่ได้จริงๆ ก็ไม่รู้ว่านิสัยแบบนี้ได้มาจากใคร

ยังไงซะก็ไม่เหมือนตัวเอง คาดว่าก็คงจะได้มาจากพ่อที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนของเขานั่นแหละ

หยุนเอ๋อ “หม่ามี๊เหม่ออะไรอีกแล้ว? รีบกินข้าวสิ กินเสร็จพวกเราจะได้กลับไป” ถวนจื่อเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อตกตะลึงอยู่นั้นนานสองนาน ก็รีบเร่ง

เจียงหยุนเอ๋อที่ได้สติกลับมา ก็รีบก้มหัวกินข้าวต่อ

ตอนที่คนทั้งหมดกลับเข้ามาในสนามแข่งนั้น คนเยอะมากกว่าตอนเช้าซะอีก หรือบางที่อาจจะเป็นเพราะรู้ว่านี่คือการแข่งขันรอบสุดท้าย คงจะน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นคนไม่น้อยก็เต็มไปด้วยการตั้งตารอมานั่งรออยู่ตั้งนานแล้ว

เจียงหยุนเอ๋อในตอนนั้นตื่นเต้นมากกว่าช่วงเช้า เพราะว่าเธอเพิ่งจะรู้เมื่อกี้ว่าการแข่งขันครั้งนี้ผู้ชนะจะได้เงินรางวัลถึงยี่สิบล้าน

ถวนจื่อก่อนขึ้นไปบนเวที วิ่งกลับมามากอดเจียงหยุนเอ๋อ แล้วพูดข้างหูของเธอว่า “หม่ามี๊ ไม่ต้องกังวล หนูจะต้องชนะเอาเงินยี่สิบมาให้แม่ให้ได้”

เจียงหยุนเอ๋อยืนเหม่ออยู่ที่เดิมอย่างนาน ความรู้สึกเจ็บปวดหัวใจขึ้นมาเป็นระยะๆ ถวนจื่อเป็นเด็กดีจนทำเธอปวดหัวใจ หากไม่ใช่เพราะเรื่องภายนอกของเธอ ถวนจื่อจะต้องมาครุ่นคิดอะไรมากมายขนาดนี้?

ก็แม้กระทั่งเข้าร่วมแข่งขัน ยังอยากจะเอาเงินรางวัลมาเพื่อตัวเอง

เจียงหยุนเอ๋อลูบหัวถวนจื่อไปมา แล้วพูดขึ้นว่า “ถวนจื่อ หนูไม่ต้องทำแบบนั้น แต่ตั้งใจก็พอแล้ว ที่สองที่สามก็มีรางวัลทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องที่หนึ่งเท่านั้น”

จากนั้นถวนจื่อกลับส่ายหัวไปมา “ไม่ได้ ที่หนึ่งเงินรางวัลเยอะสุด”

เมื่อได้ยินถวนจื่อพูดแบบนั้น ในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็ยิ่งเจ็บมากขึ้น แต่เธอก็รู้ ถวนจื่อพูดไม่ผิด ลำดับหลังๆ ถึงแม้ว่าจะมีเงินรางวัล แต่ว่าเงินรางวัลของผู้ชนะอยู่กันคนล่ะระดับ และสถานภาพครอบครัวของเธอตอนนี้ ก็ต้องการเงินก้อนนั้นจริงๆ

ถวนจื่อรีบตามออกไปกับพนักงาน มองไปยังด้านหลังของถวนจื่อ เจียงหยุนเอ๋อก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความรับผิดชอบไม่สามารถทำให้เขาใช้ชีวิตที่ดีได้ ยังต้องให้เขามาแบ่งรับความลำบากแทนตัวเองอีก

“ถวนจื่อเป็นเด็กดีจริงๆ ” ลี่จุนถิงที่อยู่ข้างๆ อยู่ๆ ก็พูดขึ้น ราวกับว่าต้องการจะปลอบใจเจียงหยุนเอ๋อแบบนั้น “แต่ว่า นั้นเป็นเพราะเธอเป็นแม่ของเขา เธอคุ้มแล้วที่เขาเป็นแบบนี้”

เจียงหยุนเอ๋อฝืนยิ้มออกมา สายตาจดจ้องอยู่ที่ตัวของถวนจื่อ มองเขายืนอยู่บนเวที ความตาขาวขี้กลัวไม่มีเลยสักนิด

พิธีกรกำลังแนะนำผู้เข้าแข่งขันทั้งสี่คนให้กับผู้ชมที่ล้อมรอบเข้ามา จากนั้นก็ให้ผู้เข้าแข่งนั้นไม่กี่คนนั้นจับมือกันเป็นพิธี

กล้องหันไปทางถวนจื่อ เดิมทีเขาก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าไปจับมือกับอีกคน สีหน้าอยู่ดีๆ ก็มีความเจ็บปวดแวบเข้ามา คนอื่นที่อยู่ในสถานการณ์ไม่มีใครพูดอะไร ดังนั้นจึงไม่มีคนสนใจ แต่คนเป็นแม่อย่างเจียงหยุนเอ๋อกลับรู้อย่างรวดเร็วว่ามีอะไรผิดแปลกเกิดขึ้น

“สีหน้าของถวนจื่อเมื่อกี้แปลกๆ ไป! จะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ ไม่ได้การ ฉันต้องไปดู” เจียงหยุนเอ๋อท่าทางอยากจะพุ่งไปยังเวทีอย่างลนลาน กลับถูกลี่จุนถิงดึงเอาไว้

“คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ เจียงหยุนเอ๋อยื้อแย่งอย่างไม่สนใจ เธอไม่ได้เห็นสีหน้าเมื่อกี้ของเขาหรอกเหรอ? ต้องเป็นเพราะคู่แข่งแกล้งหลอกแน่ๆ !”

ลี่จุนถิงขมวดหัวคิ้วแน่น แต่ยังยืนยันที่จะดึงเจียงหยุนเอ๋อไว้ “ไม่ได้ เธอจะขึ้นไปตอนนี้ไม่ได้ การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นแล้ว เธอจะขึ้นไปโดยพลการแบบนี้เท่ากับว่าไปทำลายการแข่งขัน ถวนจื่อก็จะถูกยกเลิกคุณสมบัติการแข่งขัน เธอดูสิ ด้านหน้าเป็นเส้นเตือน หากว่าเธอก้าวเข้าไปเพียงก้าวเดียว ความพยายามของเขาก่อนหน้านี้ก็จะเสียเปล่า”

“แต่ว่า……” เจียงหยุนเอ๋อลนลานออกมาบ้าง เมื่อเอากล้องขึ้นหน้าจอใหญ่ กลับเห็นว่าสีหน้าของถวนจื่อสงบนิ่ง ไม่มีความผิดแปลกใดใดออกมา

เมื่อคิดถึงคำที่ลี่จุนถิงพูดออกมา เธอก็ทำได้เพียงเงียบสงบลงชั่วขณะ

ช้าๆ เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ดูแปลกไป ถวนจื่อแข่งปฏิกิริยาครั้งนี้ยังคงช้าอย่างแปลกๆ สีหน้าของลี่จุนถิงที่อยู่ข้างๆ ค่อยๆ เย็นชาลง

แต่ว่าคนผู้ชมกลับคิดว่าถวนจื่อจะหลอกเล่นอีกเหมือนเดิม สำหรับคำพูดติเตียนเขานางไม่ดีที่ถูกพูดออกมานั้น

ผู้ปกครองคนหนึ่งพูดออกมาอย่างกลับเรื่องตลก “เด็กคนนี้อายุยังน้อย ทำต้องใช้วิธีสกปรกแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าใครสอนให้เขามา”

ลี่จุนถิงหันหัวกลับไปมอง จ้องอยู่นานสองนาน คนคนนั้นกลับไม่กลัวสายตาของเขา สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความสูงส่ง เห็นได้ชัดว่าดูถูกวิธีของถวนจื่อ

ถวนจื่อในเกมครึ่งหลังยังคงเสียประโยชน์อย่างต่อเนื่อง หัวใจของเจียงหยุนเอ๋อก็แทบจะมาจุกอยู่ที่ลำคอ เกรงว่าวินาทีต่อไปถวนจื่อก็จะทนไม่ไหวแล้ว

จากนั้นในนาทีสุดท้ายที่สำคัญ ทันใดนั้นก็ระเบิดออกมา ปัดกวาดคู่แข่งได้โดยเร็ว คนที่อยู่ในสถานการณ์ก็ตกตะลึงทั้งหมด แม้กระทั่งคนที่ดูถูกเมื่อกี้ ก็ตกใจกับสิ่งที่เห็นเมื่อสักครู่ ไม่กล้าที่เชื่อทั้งหมด

ผู้ตัดสินพาถวนจื่อมายังใจกลางสนามประลองที่กำลังถ่ายทอดสดอยู่ จากนั้นยกมือของเขาขึ้น ประกาศออกมาเสียงดัง ผมประกาศ วันนี้ผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับชัยชนะก็คือ ผู้เข้าแข่งขันหมายเลขสามเจียงซิ่งหวี

ตอนที่เห็นมือของถวนจื่อถูกยกขึ้นนั้น ในนั้นเสียงโวยวายขึ้น เพราะพวกเขาเห็นว่ามือของถวนจื่อมีรอยเลือดเต็มไปหมดอย่างชัดเจน จนกระทั่งตอนนี้ เลือดก็ยังไม่หยุดทั้งหมด ค่อยๆ ไหลลงมาตรงกลางมือของเขา

“ถวนจื่อ!” เจียงหยุนเอ๋อตะโกนออกไปเสียงดังอย่างไม่กล้าจะเชื่อ รับพุ่งขึ้นไปบนเวทีอย่างรวดเร็ว