บทที่ 117 ภารกิจ PART 2

เมอร์ลินกับเลอแรนก้า พวกเขาทั้งกําลังนั่งทําสมาธิอยู่ในห้องพักของห้องโถงภารกิจ พวกเขารออยู่ประมาณ 2ชั่วโมง ในที่สุดพ่อมดชุดเทาก็เดินเข้ามาและพูดอย่างเนือย ๆ ว่า

“ตอนนี้สมาชิกที่จะมาทําภารกิจกับพวกคุณครบแล้ว ตามฉันมา”

พวกเขาลุกยืนขึ้นและเดินตามพ่อมดชุดเทาไป

“สองคนนี้เหรอ?”

เมอร์ลินพบว่านักเวทย์ชายและหญิงทั้งสองคนอยู่เบื้องหน้า ฝ่ายชายสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวมีอักษรรูนถูกสลักไว้บนเสื้อ ดูเหมือนเสื้อคลุมตัวนี้จะเป็นอุปกรณ์เวทมนต์

หากได้รับการรับรองให้กลายเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการจากดินแดนมนต์ดํา นักเวทย์เหล่านั้นจะได้รับเสื้อคลุมแบบนี้ฟรีแต่อย่างไรก็ตามเสื้อคลุมของชายคนนี้ดูแตกต่างจากของสมาชิกทางการอย่างเห็นได้ชัด มันน่าจะเสื้อที่ใช้แต้มสนับสนุนแลกจากหอสมุด

เมอร์ลินเคยเห็นพวกอุปกรณ์เวทมนต์ในหอสมุดมาก่อน มันมีราคาสูงจนน่าตกใจ เพียงแค่ของชิ้นเล็ก ๆ กลับมีราคาสูงถึง 100แต้มสนับสนุน ส่วนเสื้อคลุมตัวนั้นมันน่าจะใช้แต้มบริจาคอย่างน้อย 50ถึง100แต้ม

เมื่อพ่อมดชุดขาวได้ยินเสียงของเมอร์ลินก็หันมามองทันที เขาได้ขมวดคิ้วเบา ๆ

“พวกคุณทั้งคู่เป็นนักเวทย์จากหอคอยไหน” ชายคนนั้นกล่าวอย่างอวดแบ่ง

เลอแรนก้ามองชายตรงหน้าอย่างนิ่ง ๆ ดูเหมือนเธอจะคุ้นเคยกับอะไรแบบนี้ เธอคงจะรู้ถึงภูมิหลังของเขาจากชุดคลุมของเขา เขาอาจจะเป็นอัจฉริยะจะตระกูลนักเวทย์ที่เก่าแก่ มันจึงไม่แปลกเลยที่เขาจะมีท่าทีที่เย่อหยิ่งถึงเพียงนี้

“พวกเราเป็นลูกศิษย์ของพ่อมดลีโอ ฉันมีชื่อว่าเลอแรนก้า”

เมอร์ลินก้าวไปข้างหน้า “ส่วนฉันชื่อเมอร์ลิน”

“หืม?” ทันมดนั้นแม่มดที่อยู่ข้าง ๆ พ่อมดชุดขาวได้หันมาด้วยความประหลาดใจ

เมอร์ลินหันไปมองเธอและทักทายด้วยรอยยิ้ม “คราวที่แล้วคุณไปที่อื่นก่อนผมเลยไม่มีโอกาสขอบคุณคุณ ผมต้องขอบคุณคุณมากที่ช่วยเหลือผมในวันนั้น”

แม่มดคนนั้นเป็นคนเดียวกับที่เมอร์ลินถามในหอสมุดวันนั้น เขาไม่คิดว่าจะได้เจอเธอในภารกิจนี้

ชายชุดขาวได้หันมาถามเธอว่า “รีลลิส คุณรู้จักเขาหรือ?”

แม่มดร่างอวบพยักหน้าและยิ้มเล็กน้อย “เราเคยพบกันที่หอสมุดมาก่อนหน้านี้น่ะ”

เธอได้เงียบไปครู่หนึ่งและพูดพลางชี้ไปที่พ่อมดชุดขาว “เขามีชื่อว่าโฮล์มส์ ส่วนฉันชื่อรีลลิส พวกเราทั้งคู่เป็นลูกศิษย์ของแม่มดเกรเทล”

“คุณคือพ่อมดโฮล์มส์คนนั้นเหรอ?” เลอแรนก้ากล่างพลางมองเขาอย่างประหลาดใจ

“ถูกต้องฉันนี่แหละ โฮล์มส์” สีหน้าของโฮล์มส์เต็มไปด้วยความมั่นใจ จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “เนื่องจากพวกเราได้รับภารกิจนี้ เราจะนัดหมายเพื่อออกเดินทางไปยังเมืองดอนกลิ่นในอีก 5วันข้างหน้า”

เลอแรนก้าได้หันมามองตาเมอร์ลินและเขาก็พยักหน้าเบา ๆ เธอได้หันกลับมาและพูดว่า “เข้าใจแล้ว อีก 5วัน เราจะเดินทางไปยังเมืองดอนกลิน”

ในระหว่างนี้ทุกคนต้องเตรียมให้ดี เนื่องจากมีอันตายมากมายรออยู่เบื้องหน้า พวกไม่รู้ว่าจะต้องพบเจออะไรบ้าง

หลังจากคุยกันเสร็จ โฮล์มส์กับรีลลิสก็เดินออกจากห้องโถงภารกิจ เมอร์ลินจ้องมองพวกเขาอย่างเงียบ ๆ และหันไปถามเลอแรนก้าว่า “พ่อมดโฮล์มส์ เขาเป็นคนยังไงเหรอ?”

เลอแรนก้าแสดงสีหน้าที่ซับซ้อน เขามองเมอร์ลินตอบว่า “พ่อมดโฮล์มส์มาอยู่ในดินแดนมนต์ดําได้หนึ่งปีแล้ว เขาได้สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองมากมายภายใต้การอบรมจากแม่มดเกรเทลผู้โด่งดัง เขาสามารถสร้างคาถาสี่ธาตุได้ภายในหนึ่งปี ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาพร้อมที่จะสร้างคาถาระดับหนึ่ง และกลายเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งแล้ว”

เมอร์ลินพยักหน้า ดูเหมือนคนชื่อโฮล์มส์จะค่อนข้างแข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นพ่ดมดสี่ธาตุที่มีคาถามากกว่าพ่อมดสามธาตุ แม้ว่าจะมีมากกว่าแค่คาถาเดียวแต่มันก็ใช่ว่าจะเพิ่มขึ้นได้ง่าย ๆ หากคน ๆ นั้นไม่มีพลังจิตที่มากพอ

ด้วยเหตุนั้นจึงทําให้เขามีความมั่นใจอันเต็มเปี่ยม เขาคงคิดว่าตัวเองอยู่เหนือทุกคน

เลอแรนก้าเห็นเมอร์ลินที่นิ่งเงียบ ทําให้เธอคิดว่าเขารู้สึกไม่สบายใจกับท่าทีที่หยิ่งยะโสของโฮล์มส์ก่อนหน้านี้ เธอจึงส่งยิ้มให้เขาและพูดว่า

“พ่อมดเมอร์ลินไม่ต้อกังวลไป แม้เขาจะมีท่าทางแบบนี้แต่นิสัยโดนรวมของก็จัดว่ายังดีอยู่ และอีกอย่างถึงพวกเราจะเป็นลูกศิษย์ของพ่อมดลีโอที่มักจะถูกไล่ออกจากหอคอยมนต์ดํา เรื่องนี้นักเวทย์ทุกคนก็ทราบกันดีแต่เขาก็ยังยินดีที่จะร่วมทําภารกิจกับพวกเรา เอาจริง ๆ นะ ถ้าเป็นคนอื่นรู้ว่าพวกเราเป็นลูกศิษย์พ่อมดลีโอ พวกเขาคงจะล้มเลิกภารกิจทันที”

เมื่อเลอแรนก้าพูดถึงเรื่องนี้ เธอก็มีท่าทีที่เศร้าหมองดูเหมือนว่าเธอจะเคยประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน

เมอร์ลินได้แต่ยิ้มเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร “เรื่องพวกนี้ฉันไม่คิดมากหรอกน่า”

“เราควรกลับไปหอคอยได้แล้วนะ จะเตรียมตัวให้เสร็จไว ๆ”

จากนั้นพวกเขาก็ออกจากห้องโถงภารกิจและกลับไปที่หอคอยและเริ่มเตรียมตัว

เมื่อเมอร์ลินกลับมาถึงห้อง เขาก็เริ่มเตรียมของทันที นี่เป็นภารกิจแรกของเขาและมัน ค่อยข้างอันตรายมากดังนั้นเขาต้องไม่ประมาท

เมื่อเขาพิจารณาเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาจึงไปหาเลอแรนก้าเพื่อขอยืมแต้มสนับสนุน 5แต้มจากเธอ เธอก็ให้ยืมแต่โดยดีและไม่ถามอะไรเขา นั่นทําให้เขารู้สึกขอบคุณเธอจากก้นบึงของหัวใจ

ด้วยแต้มสนับสนุนที่เขามีในตอนนี้ มันมากพอที่จะจะเอาไปแลกคาถาข่ายสายฟ้าได้

แม้ว่าพลังจิตของเขาจะถูกใช้ไปกว่าครึ่งหนึ่งโดยคาถาหมอกรัตติกาลแต่มันก็มากพอที่จะใช้สร้างคาถาระดับศูนย์อีกหนึ่งคาถา

หลังจากแลกคาถาข่ายสายฟ้ามาแล้ว เขาก็ใช้เวลาทั้งวันและในที่สุดก็มีโครงสร้างเวทมนต์ของคาถาข่ายสายฟ้าปรากฏขึ้นภายในจิตใต้สํานึกของเขา

ทําให้ตอนนี้เมอร์ลินพ่อมดหกธาตุเป็นที่เรียบร้อยแล้วและมันได้ถึงขีดกําจัดในการรับคาถาเพิ่มอีกด้วย หากเขาต้องการสร้างคาถาระดับหนึ่งเขาต้องมีพลังจิตที่มากกว่านี้

เมอร์ลินจ้องมองแต้มที่เหลืออยู่ 3แต้มของเขาอยู่เงียบ ๆ เขากําลังคิดว่าจะเอาแต้มพวกนี้ไปทําอะไรดี ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจนําไปแลกกับหินธาตุลม มีดและสายฟ้าที่หอสมุด

เนื่องเมอร์ลินเพิ่งสร้างคาถาใหม่ได้ไม่นานทําให้คาถาทั้งสามมีพลังเวทย์ที่น้อยเกินไปและเขาไม่รู้ว่าข้างจะต้องเจออะไรบ้าง ดังนั้นเขาจึงต้องทุ่มอย่างที่เขามีเพื่อให้ตัวเองมีโอกาสรอดกลับมามากขึ้น

หลังจากเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็อยู่ในหอคอยอย่างสบายใจ เขาเฝ้ารออย่างเงียบ ๆ เพื่อรอวันที่ทําภารกิจที่กําลังจะมาถึง