ตอนที่ 55 ศิษย์สายตรงของอาจารย์ใหญ่

คนที่นั่งอยู่ในรถม้าก็คือ หลินเซวียเหวินซึ่งมาส่งเทียบเชิญเข้าเรียนด้วยตัวเอง

คนขับรถม้าตะโกนขึ้นมา “อาจารย์หลิน ข้างหน้าก็ถึงหมู่บ้านตระกูลเฉินแล้วขอรับ”

หลินเซวียเหวินได้ยินดังนั้นก็รีบจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ครั้งก่อนเขาทำให้จี้จือฮวนไม่ประทับใจ ครั้งนี้ต้องไปส่งเทียบเชิญเข้าเรียนด้วยตัวเองและต้องขอบคุณอีกฝ่ายอย่างจริงจัง ดังนั้นเขาจึงกลัวมากว่าจะทำพลาดและเสียมารยาทอีก

“รู้แล้ว” หลินเซวียเหวินตรวจดูของขวัญที่จะเอาไปมอบให้ครอบครัวของจี้จือฮวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะวางเทียบเชิญเข้าเรียนไว้ในกล่องผ้าไหม หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรผิดพลาด จึงได้ผ่อนลมหายใจลง

หวังว่าครั้งนี้คงจะได้รับการให้อภัยจากท่านหมอเทวดา

รถม้าหยุดลงแล้ว หลินเซวียเหวินให้คนรับใช้ช่วยนำของขวัญในรถม้าออกมา คนขับรถม้าจึงได้เรียกชาวบ้านคนหนึ่งมาเพื่อสอบถาม “ขอถามหน่อย ไม่ทราบว่า…”

“เอ๊ะ พวกเจ้าคือคนจากสำนักศึกษาชิงอวิ๋นใช่หรือไม่?” เพราะก่อนหน้านี้สำนักศึกษาชิงอวิ๋นเคยมารับสมัครศิษย์ ชื่อของสำนักศึกษานั้นชาวบ้านยังจำได้ไม่ลืม

เมื่อเห็นตัวหนังสือที่เขียนติดบนรถม้า ก็ถามขึ้นมาด้วยความดีใจ

คนขับรถม้าชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้ว”

“โอ๊ย เช่นนั้นต้องมารับเย่าจงแน่ พวกเจ้ารอก่อนนะ ข้าจะไปเรียกคนของครอบครัวเขามาเดี๋ยวนี้แหละ!”

ชาวบ้านวางจอบลง แล้ววิ่งกลับเข้าไปในหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากเกิดเรื่องของอวี๋ซิ่วเหลียนและฉีเทียนชางขึ้น เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลและคนอื่น ๆ จึงยังไม่ได้แยกย้ายกันไปไหน แต่เพราะเขาต้องรีบไปทำนาจึงได้แอบออกมาก่อน

เพิ่งจะวิ่งไปถึงประตูศาลบรรพชน ก็เจอเข้ากับเฉินไคชุนพอดี “หัวหน้าหมู่บ้าน เร็วเข้า คนของสำนักศึกษาชิงอวิ๋นมาแล้ว”

เฉินไคชุนสวมรองเท้ายังไม่ทันเสร็จ ได้ยินดังนั้นก็กะพริบตาปริบ ๆ “อะไรนะ เจ้าว่าคนจากที่ใดมานะ?”

“สำนักศึกษาชิงอวิ๋น พวกเขาอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้าน แย่แล้ว หญิงร้ายชายชั่วนั่นก็อยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้านด้วย อย่าให้พวกเขาล่วงเกินคนของสำนักศึกษาได้เชียว!”

เฉินไคชุนไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบวิ่งไปที่ทางเข้าหมู่บ้านทันที ชาวบ้านคนอื่น ๆ ก็ได้ยินเช่นกัน ต่างก็ตามไปดูเรื่องสนุกด้วย

“ในที่สุดก็มาเสียที”

“นั่นน่ะสิ หัวหน้าหมู่บ้านชะเง้อคอรอจนคอยาวยืดไปหมดแล้ว เฮ้อ ต้องให้คนไปตามหลี่เจิ้งมาหรือไม่?”

ในหมู่บ้านมีบัณฑิตเกิดขึ้น เช่นนั้นต่อจากนี้หมู่บ้านตระกูลเฉินออกไปไหนก็สามารถเดินเชิดหน้าได้แล้ว นี่เป็นเรื่องที่มีเกียรติยิ่งนัก!

จุดประสงค์ในการมาของหลินเซวียเหวินในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการขอโทษและชดเชยให้กับจี้จือฮวน ดังนั้นจึงไม่เห็นพวกฉีเทียนชางที่นอนอยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้านอยู่ในสายตา กลับเป็นเฉินไคชุนที่จู่ ๆ ก็พุ่งเข้ามาสำรวจรถม้าของพวกเขา ทำให้หลินเซวียเหวินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่น

“ท่านนี้คงเป็นอาจารย์ของสำนักศึกษาชิงอวิ๋นกระมัง?!” เฉินไคชุนถามยิ้ม ๆ

หลินเซวียเหวินพยักหน้ารับ “ไม่ทราบว่าเจ้าคือ…”

“ข้าคือเฉินไคชุน หัวหน้าหมู่บ้านตระกูลเฉินขอรับ”

หลินเซวียเหวินจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ที่แท้ก็หัวหน้าหมู่บ้านนี่เอง ข้าคืออาจารย์ใหญ่คนปัจจุบันของสำนักศึกษาชิงอวิ๋น หลินเซวียเหวิน ครั้งนี้ที่มาหมู่บ้านตระกูลเฉิน ข้าอยากจะถาม…”

หลินเซวียเหวินยังเอ่ยไม่ทันจบ เฉินไคชุนก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน “ท่านมารับลูกศิษย์ใช่หรือไม่ ข้ารู้ว่าเขาอยู่ที่ใด”

หลินเซวียเหวินจึงถามด้วยความประหลาดใจ “เจ้าทราบอย่างนั้นหรือ?”

เขายังไม่ได้บอกเลยว่ามาหาผู้ใด

“ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน ไม่ใช่ว่าข้าคุยโวนะขอรับ ทั้งหมู่บ้านตระกูลเฉินมีแต่เขาที่มีอนาคตมากที่สุด” เฉินไคชุนเข้าไปดึงหลินเซวียเหวิน “ท่านอาจารย์ ข้าจะพาท่านไป ท่านตามข้ามาได้เลยขอรับ”

แม้ว่าในใจของหลินเซวียเหวินจะรู้สึกสงสัย แต่ก็ยังเดินตามเฉินไคชุนไปที่บ้านของเขา

สายตาอิจฉาของเหล่าชาวบ้านที่ส่งมาระหว่างทาง ทำให้เฉินไคชุนดีใจเป็นอย่างมาก!

ดูสิ เป็นเย่าจงของพวกเขาที่มีความสามารถมากกว่า ครอบครัวเผยนั่นสร้างบ้านแล้วมีประโยชน์อันใดกัน ต่อไปก็คงได้แต่ทำไร่ไถนา ไม่เหมือนกับเย่าจง วันหน้าจะได้เป็นถึงผู้ช่วยขุนนางเชียวนะ!

ต้องเป็นเพราะอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาชิงอวิ๋นรู้ว่าเย่าจงมีความสามารถ มารับก็มารับสิ เหตุใดต้องเอาของขวัญมากมายเช่นนั้นมาด้วย ภายภาคหน้าเย่าจงของพวกเราก็จะมีอนาคตที่สดใสแล้ว จะลืมเขาได้อย่างไรกัน?

“ที่นี่แหละขอรับ!” เฉินไคชุนเปิดประตูออก หวังกุ้ยฟางก็บังเอิญออกมาพอดี เฉินไคชุนจึงรีบเอ่ยขึ้นมา “ไปเรียกเย่าจงออกมา บอกว่าท่านอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาชิงอวิ๋นมาแล้ว”

หวังกุ้ยฟางได้ยินดังนั้นก็ตอบรับด้วยความดีใจ “โอ๊ย ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละเจ้าค่ะ”

ช่วงนี้เฉินเย่าจงรอข่าวจากสำนักศึกษาชิงอวิ๋นอยู่ที่บ้านมาโดยตลอด สำนักศึกษาเดิมก็ไม่คิดจะไปอีก เพราะตั้งใจว่าจะพักผ่อนอยู่ที่บ้าน จู่ ๆ ก็ได้ยินแม่ของตนเองเข้ามาบอกว่าท่านอาจารย์ใหญ่มาแล้ว

“ท่านไม่ได้ฟังผิดใช่หรือไม่ เป็นท่านอาจารย์ใหญ่จริง ๆ หรือขอรับ?” เฉินเย่าจงหาเสื้อผ้าไป พลางเอ่ยถามออกมาด้วยความประหลาดใจ

“ไม่มีทางฟังผิดเด็ดขาด เขายังเอาของขวัญมาให้เยอะแยะด้วยนะ เย่าจง เจ้าช่างเชิดหน้าชูตาให้แม่จริง ๆ ผ่านวันนี้ไปข้าจะออกไปดูคนพวกนั้น ว่าจะยังมีใครกล้านินทาข้าลับหลังอีกหรือไม่”

หวังกุ้ยฟางดีใจจนเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ อีกด้านหนึ่ง เฉินไคชุนก็รีบรินน้ำชาให้กับหลินเซวียเหวิน เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลที่ยังไม่กลับก็ถูกเรียกมาด้วย หวังกุ้ยฟางจึงไม่สามารถเข้าไปได้ แต่ก็ได้กำชับเฉินเย่าจงครั้งแล้วครั้งเล่าว่าให้ทำตัวดี ๆ

เฉินเย่าจงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปด้านใน

“มาแล้ว ๆ นี่เป็นเด็กที่เก่งที่สุดในหมู่บ้านของเรา เย่าจงรีบมาคารวะท่านอาจารย์ใหญ่เสียสิ ต่อไปเจ้าต้องตั้งใจเรียน แล้วสอบจอหงวนกลับมาให้ได้นะ” เฉินไคชุนยิ้มจนตาหยี

หลินเซวียเหวินขมวดคิ้วมุ่น

นี่ไม่ใช่เผยจี้ฉือที่เขากำลังตามหานี่นา อีกทั้งอายุก็ไม่ใช่ด้วย

แต่ไม่รอให้หลินเซวียเหวินได้เอ่ยอะไร เฉินเย่าจงก็คุกเข่าลงทันที หลินเซวียเหวินรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว “อย่าเพิ่ง ข้าว่าคงจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน…ที่ข้ามาครั้งนี้ อยากจะถามว่า บ้านของจี้จือฮวนอยู่ที่นี่หรือไม่?”

จี้จือฮวน?!

ทุกคนต่างก็จ้องไปที่อาจารย์ใหญ่ เฉินไคชุนจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ท่านมาหาจี้จือฮวน ไม่ได้มารับศิษย์หรือขอรับ?”

“แน่นอนว่ามารับศิษย์ด้วย”

ทุกคนต่างก็ถอนหายใจออกมา “เช่นนั้นรับศิษย์ก่อน เรื่องจี้จือฮวนยังไม่ต้องรีบร้อนหรอกขอรับ”

“เย่าจง เร็วเข้า ๆ ยกชาให้ท่านอาจารย์ใหญ่สิ”

เฉินเย่าจงรีบยกถ้วยชาขึ้น หลินเซวียเหวินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกบีบบังคับอยู่ เด็กคนนี้มีคุณธรรมและความรู้เช่นไรก็ยังไม่รู้ เขาจะรับศิษย์ง่าย ๆ ได้อย่างไรกัน อีกทั้งการเป็นศิษย์ของอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาชิงอวิ๋นเช่นเขา ไฉนเลยอยากจะเป็นก็เป็นได้!

“หากอยากจะเข้าเรียนที่สำนักศึกษา ความจริงแล้วไม่ต้องกราบข้าเป็นอาจารย์หรอก เพราะสำนักศึกษาจะให้คนส่งเทียบเชิญเข้าเรียนมาให้เอง”

เฉินไคชุนหัวเราะออกมา “ท่านมาถึงที่นี่แล้วก็อย่าเกรงใจเลยขอรับ วางใจเถอะ เย่าจงของเราภายหน้าจะมีท่านเป็นอาจารย์เพียงคนเดียว ใครมาทาบทามก็จะไม่สนใจอีก ในอนาคตหากจอหงวนไม่ยอมรับท่าน ท่านก็สามารถจัดการเขาได้เลยขอรับ”

หลินเซวียเหวินเวลานี้หมดความอดทนแล้ว เขาจึงกระแอมออกมาท่ามกลางเสียงอึกทึกในห้อง “ข้าไม่รับศิษย์จริง ๆ หากพวกเจ้าไม่รู้ว่าจี้จือฮวนอยู่ที่ใด ข้าจะไปตามหานางเอง”

เฉินเย่าจงที่ยกถ้วยชาค้างไว้และยังคุกเข่าอยู่บนพื้นก็มีสีหน้าย่ำแย่ลงทันที เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ที่เขาเฝ้ารอทุกวันคืนในที่สุดก็มีหวังเมื่อคนของสำนักศึกษาชิงอวิ๋นมา แต่กลับมีจุดจบเช่นนี้!

ช่างน่าอับอายสิ้นดี!

มือที่ยกน้ำชาของเฉินเย่าจงสั่นเทา ใบหน้าของเฉินไคชุนบึ้งตึงขึ้นทันที “ท่านอาจารย์ใหญ่ พวกเรามีอะไรที่ทำผิดไปอย่างนั้นหรือ เหตุใดท่านถึงไม่รับศิษย์เล่า?”

อ้าปากทีไรก็พูดถึงแต่จี้จือฮวน กลัวจี้จือฮวนจะหนีไปหรืออย่างไร? ใครจะสนใจว่านางจะไปที่ใดกัน

หลินเซวียเหวินไม่พูดอะไรอีก กลับเป็นคนรับใช้ข้างกายของเขาที่ไม่พอใจและพูดออกมาแทน “พวกเจ้าเป็นอะไรกัน อาจารย์ใหญ่ของเราไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเด็กคนนี้เป็นใคร จะให้รับศิษย์ส่งเดชได้อย่างไร?”