บทที่ 66 – เป็นไปตามขั้นตอน

 

แอเรียนไม่รู้ว่าสิ่งที่เจ้าอิออนนี่ต้องการจะทำคืออะไร และเขาก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เขาจะสามารถแก้ไขได้โดยง่ายด้วย

เพราะมันรู้อนาคตของทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการได้ การดึงเอามันออกมาใช้ถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างแท้จริง

แม้ความจริงที่ว่ามันจะสามารถช่วยให้เขาค้นพบจุดอ่อนของสัตว์ประหลาดนั้นได้ก็ตามทว่าคนที่อยู่ตรงหน้าแอเรียนกลับถูกเจ้าอิออนกระตุ้น

กระตุ้นจนสามารถสลายพลังงานของเขาออกไปได้.. แม้จะไม่ค่อยเข้าใจหลักการแต่พลังของอีกฝ่ายคงจะเป็นการทำให้พลังงานนั้นขาดความมั่นคง

จนสลายหายไปในที่สุด.. เหมือนกับว่าพลังงานได้แก่เฒ่าและดับสลายไปตามกาลเวลาเอง.. ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายกว่านั้น

ที่อีกฝ่ายทำก็คล้ายกับการเร่งอายุขัยของทุกสิ่งทุกอย่างนั่นแหละ.. แอเรียนยกมือออกคำสั่งทันที

“ทุกคน— ไม่ต้องออมมือ เรามีเวลาเหลือไม่มาก”

เขาไม่รีรออะไรร่างของคนสิบคนก็พุ่งดิ่งเข้าหาเอวานที่รอบทิศทาง ในเมื่อตัดสินใจแล้วก็ไม่จำเป็นต้องลังเล

แน่นอนว่าเอวานที่ใช้พลังนั้นของแวมไพร์ไปส่งผลให้หน้าของเธอซีดเผือดลง.. แม้ว่าเธอจะเข้าใจหลักการทำงานของพลังแวมไพร์

แต่เธอก็เป็นแค่แวมพีร์ การควบคุมละเอียดอ่อนขนาดนั้นแม้เป็นไปได้ในทางหลักการ แต่พละกำลังของเธอก็ไม่ได้มีมากขนาดนั้น

อันที่จริงที่ใช้ได้เมื่อกี้ก็เป็นเพราะเลือดเจ้าอาโก้ที่สาดกระจายอยู่ทั่วพื้น แต่ตอนนี้เลือดนั้นหายไปจนหมดพร้อมกับการป้องกันเมื่อสักครู่

คนสิบกว่าคนที่มีพลังในการสร้างแม้กระทั่งระเบิดไฮโดรเจนกำลังพุ่งตัวเข้าโจมตีผู้หญิงคนหนึ่งที่แทบไม่ต่างจากคนธรรมดาเท่าไหร่นัก

แอเรียนพุ่งเข้าโจมตีใส่เอวานด้วยคลื่นพลังที่เอวานมองไม่ทันด้วยซ้ำ แต่ทว่าในตอนนั้นเองร่างของเอมิลี่ก็พุ่งเข้ามาขั้นกลางระหว่างแอเรียนและเอวาน

เธอยกมือขึ้นสร้างสนามพลังที่หักเหเวกเตอร์ของทุกอย่างที่เข้ามาในระยะออกไปจนหมด พร้อมทั้งคนอื่นๆ เองก็โดนคลื่นพลังของแอเรียนเสียเองจนกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง

ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันมาก เอมิลี่ยกมือขึ้นพร้อมกับตวัดออกด้านข้าง พลังงานความร้อนถูกปลดปล่อยออกมารอบดด้าน

ส่งผลให้แอเรียนต้องถอยหลังออกไป.. เขาแสดงสีหน้าดูไม่ได้พร้อมกับแหกปากใส่เอมิลี่

“เอมิลี่.. นี่เธอทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย”

“……”

เอมิลี่ไม่ได้ตอบกับแอเรียน.. ต่อให้เป็นแอเรียนเองสถานการณ์นี้เขาก็คาดการณ์ไม่ถึงเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น

ทว่าผู้ที่บงการทุกอย่างอยู่บนฟ้านั้นฉีกยิ้มกว้างขึ้น.. เอวานมองที่อีกฝ่ายที่จู่ๆ ก็เหมือนจะแตกคอกันเอง

เอมิลี่ยื่นมือมาหาเธอ.. แต่คนที่พูดไม่ใช่เอมิลี่ แต่เป็นอิออนปีศาจสีแดงที่ลอยอยู่ด้านบนนอกอาคาร

“พูดตามตรง ฉันถูกใจสิ่งที่เธอเลือกมากๆ มาร่วมมือกับฉันหน่อยไหม?เอลิซาเบธ”

“……?”

เอวานได้แต่เอียงคอด้วยความสับสน แอเรียนที่เห็นภาพนี้เขาก็ดวงตาหดเกร็งสมองเขาวิ่งผ่านความทรงจำมากมาย

เขา..เงยหน้าขึ้นไปมองอิออนด้วยและตะโดนออกมา

“อิออน.. แก!!!!!ปล่อยไวรัสใส่สมองของเอมิลี่งั้นเหรอ?”

อิออนไม่ได้ตอบมันเพียงหัวเราะคึคึ พร้อมกับมองไปที่เอวาน.. แต่เอวานเองก็ไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไรดี

ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้เธอเลือกอะไรได้ที่ไหน.. เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นน่าจะเป็นศัตรูของศัตรูเธอ ก็อาจจะนับเป็นมิตรเธอได้

แต่พวกมันก็มาด้วยกัน.. เอวานไม่รู้ว่าจะเชื่อได้ไหม ทุกอย่างมันปุบปับและมีข้อมูลมากเกินไปจนเรียบเรียงไม่ทัน

แต่จะแบบไหนเธอก็ต้องเลือก อีกอย่างไอ้สนามพลังที่ผู้หญิงที่ชื่อเอมิลี่นี่กางมันก็เหมือนจะพร่าเลือนลงทุกขณะ

แถมมือของเธอก็พยายามจะดึงกลับเต็มที่ เหมือนเจ้าของร่างจะมาคุมร่างคืนแล้ว.. ทุกอย่างเร่งเร้าเอวาน

เธอสูดลมหายใจเข้าลึก

“ฉันขอถามอะไรก่อน.. แกไม่ใช่..พวกชั่วใช่ไหม?”

อิออนที่ได้ยินแบบนั้นก็ฉีกยิ้ม ราวกับว่าอนาคตทุกอย่างได้ถูกำหนดไว้แล้ว มันหัวเราะเบาๆ พร้อมตอบเอวาน

“ฉันอาจจะเป็นคนชั่วที่เธอว่าก็ได้.. แต่ว่านั่นคือสิ่งที่เจ้าพวกนี้ตัดสินให้ฉันเป็นแบบนั้น ส่วนฉันจะชั่วจริงไหมนั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าเธอจะให้ฉันชั่วไหม คึคึคึ”

“ตกลง”

เอวานไม่มีทางเลือก ขอแค่สิ่งที่เธอร่วมมือด้วยมันไม่ใช่สิ่งที่เธอทำมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เพื่อจะมีชีวิตอยู่

เพื่อที่จะได้อยู่ต่อไปภายใต้ปณิธานและความคิดที่เป็นเธอ.. เธอจึงพยักหน้าตอบรับ อิออนหัวเราะพร้อมกับกล่าวขึ้น

“เอาโทรศัพท์ออกมา.. น่าจะมีใช่ไหม โทรศัพท์?”

“ห้ะ..”

เอวานงุนงงกับสิ่งที่มันกล่าวเตือน เมื่อแอเรียนได้ยินแบบนั้นสีหน้าของเขาก็แทบจะเปลี่ยนสีเป็นสีซีดเผือดทันที

เขาตะโกนสั่งทุกคน

“หยุดมันเดี๋ยวนี้.. ห้ามให้มันได้—”

ทว่ากว่าคำสั่งจะถึงหูทุกคน และทุกคนจะเริ่มเคลื่อนไหว และก่อนจะได้ทำลายสนามพลังของเอมิลี่

ทุกอย่างมันสายเกินแก้ไปแล้วเพราะ… เอวานหยิบโทรศัพท์หน้าจอสัมผัสออกมาวางใส่มือเอมิลี่ เจ้าอิออนหัวเราะร่า

“ลาก่อนนะ แอเรียนและพวกแกมนุษย์ดวงจันทร์ทุกคน”

ร่างของมันพร่าเลือนแทบจะทันที การเชื่อมต่อของทุกคนที่เชื่อมต่อถึงอิออนเหมือนจะถูกตัดขาดอย่างกะทันหัน

ซึ่งนั่นแน่นอนว่ารวมถึงอุปกรณ์ยุทธวิธีที่พึ่งเริ่มทำงานด้วยการช่วยเหลือจากอิออนก็แทบจะดับวู้บไปพร้อมกับ

สนามพลังของเอมิลี่… ทุกคนพุ่งเข้ามาทางนี้ด้วยความเร็วสูงต่างสูญเสียความเร็วกะทันหันเพราะชุดยุทธวิธีถูกขัดขวาง

แรงเฉื่อยอันมหาศาลพาร่างพวกเขาพุ่งตรงเข้าไป.. แม้พวกเขาจะสูญเสียการควบคุมไปชั่วขณะ แต่ชุดก็คงปกป้องพวกเขาจากแรงกระแทก

แต่เอวานที่อยู่ปลายทางพวกเขาทุกคนนั่นแหละที่จะโดนแรงกระแทกโดยตรง.. อิออนพูดขึ้น.. ซึ่งเป็นเสียงที่ดังมาจากโทรศัพท์ของเอวานเองว่า

“หมอบลง”

เอวานตอบสนองตามสัญชาตญาณแทบจะทันที เธอหมอบลงและอิออนก็เจาะกลับเข้าไปยังฐานข้อมูลหลัก

แม้ว่าตัวมันในตอนนี้จะอยู่ที่มือถือของเอวานแล้ว แต่ฐานข้อมูลหรือสมองของมันก็ยังอยู่ที่ Moon 2T EdgeLands อยู่ดี

แต่นั่นก็คือสิ่งที่แอเรียนกลัวเพราะว่า..

“ปิดระบบ”

มันสามารถออกคำสั่งปิดระบบทั้งหมดได้ โดยที่ตัวมันยังไม่ถูกปิดไปด้วยแบบสมบูรณ์ ในความจริงมันอาจจะไม่มีสมองพอจะคำนวณอนาคตอีกต่อไป

และคงไม่ได้เป็นปัญหากับพวกเขา.. แค่ตัวอิออนน่ะนะ เพราะผลลัพธ์ที่ตามมาจากการปิดระบบเซิฟเวอร์ของดวงดาว

ทุกอย่างคงกลายเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่อย่างแน่นอน และไม่ว่าจะชุดนาโนเมทริกซ์ของเขาจะทรงพลังขนาดไหน แต่ถ้าเซิฟเวอร์ถูกปิด

ทุกอย่างก็ล้วน… ไม่มีค่าอะไร ร่างของทุกคนที่พุ่งมาจากคนละทิศนั้นพุ่งดิ่งชนผนังคนละทิศคนละทาง

แม้จะไม่ตายแต่ก็คงกระดูกหักไปหลายซี่.. แอเรียนหน้าเขียวค้ำ ร่างที่ลอยอยู่ค่อยๆ ร่วงลงบนอีกฟากหนึ่งของอาคารตึก

ทว่า—

ชุดที่เหมือนจะควรหยุดทำงานไปนั้นเอง.. ก็กลับมาทำงานแทบจะทันที อิออนหัวเราะเบาๆ

“คึคึคึ ตื่นแล้วสินะ ยัยไอออน”

มันหัวเราะเบาๆ แอเรียนที่ชุดกลับมานั้นก็ลอยตัวกลับมาพร้อมพุ่งตัวเข้าหาอิออนแทบจะทันที การที่อิออนไปอยู่ในมือของคนนอก

มันคือภัยพิบัติที่ใหญ่ไม่แพ้กับสัตว์ประหลาดนั่น.. เพราะหากคนนอกมีอิออนที่เป็นเหมือนจุดศูนย์กลางของดาวเขาในมือ

นั่นก็พูดอีกนัยหนึ่งได้ว่า.. อีกฝ่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างในดวงดาวได้.. ซึ่งนั่นมันเหนือกว่าราชาเสียอีก

ตัวตนที่สามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างได้ในดาวของเขามีเพียงแค่อิออนกับไอออนเท่านั้น.. ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายปานนั่น

ร่างของเขาพุ่งเข้าใส่เอวานด้วยความเร็วเหนือกว่า เอวานยังไม่ทันได้ตอบสนองหรือโต้ตอบอะไรด้วยซ้ำ

ร่างของแอเรียนก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ—

“เจ้านี่… มันคือของของพวกเรา”

ไม่ว่าจะเป็นเพราะความโกรธหรือเพราะอะไรก็ตามแต่ แทนที่จะเลือกทำลายมือถือ มันกลับเลือกที่จะโจมตีไปที่เอวาน

หมัดขวาของมันอัดแน่นไปด้วยมวลที่แตกไปมาเหมือนกับกำลังจะระเบิดออกมา

“ตายซะ”

ทว่าอิออนก็พูดขึ้น

“ความสิ้นหวังของพวกแกมาถึงแล้ว”

เงาร่างลึกลับพุ่งแหวกผ่านอากาศจน อากาศเกินเสียงเหมือนกับกำลังจะถล่มลงมาให้ได้ มันพุ่งผ่านเส้นขอบฟ้าด้วยความเร็วสูงจนตามไม่ทัน

ผมสีม่วง ตาสีม่วงของเธอโบกสะบัดตามสายลม เส้นเลือดปูดขึ้นบนใบหน้า ความโกรธที่แสดงออกทางสีหน้านั้นชัดเจนยิ่งกว่าอะไร

เหมือนกับว่าเธอเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นนี้มาตั้งนานแล้ว… เท้าของมิวเหยียบเข้าที่ใบหน้าของแอเรียนก่อนที่หมัดของมันจะถึงใบหน้าเอวาน

ร่างของมันกลายเป็นเหมือนกระสุนปืนใหญ่พุ่งผ่านทะลุอาคารพื้นดิ่งกระแทกลงพื้น กลิ้งกระเด็นกระดอนตามซากปรักหักพังหลายตลบ

ดวงตาของเอวานเบิกกว้างกับแสงสีม่วง.. ที่สยายอยู่ตรงหน้า ผู้หญิงผมสีม่วงก้มลงมามองที่เอวานซึ่งหมอบอยู่กับพื้น

เธอหันกลับไปมองคนอื่นๆ ที่เจ็บสาหัสเพราะพลังของตัวเอง.. และหันมองทางที่เธอจากมา

“ดูเหมือนว่า… เควสตีสนิทกับเทรต้าต้องล้มเหลวไม่เป็นท่าแล้วล่ะ”

“เอ่อ….”

เอวานได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างโง่งมกับสถานการณ์ที่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

มิวเดินทางมาถึงแล้ว

ตั้งแต่ที่แอเรียนปรากฏตัวขึ้นที่นี่จนถึงวินาทีที่มิวเตะหน้าแอเรียน

มันเกิดขึ้นในชั่วระยะเวลาไม่ถึง 3 นาที ด้วยซ้ำ