ทุกคนเห็นจั๋วฝานกำลังยกแก้วกระดกสุรา เขาดูไม่กลัวเลยแม้จะเพิ่งขัดหวงปู้ชิงหยุนไปหมาด ๆ

“ฮึ่ม เจ้ากล้าขัดเรื่องระหว่างหมู่ตึกฮัวอวี่กับโถงราชาเม็ดยารึ?”หวงปู้ชิงหยุนคำราม

จั๋วฝานส่ายหัวและโอบกอดเสี่ยวตานตาน เลิกคิ้วให้หวงปู้ชิงหยุนเป็นการท้าทาย”ตอนนี้ข้าเป็นส่วนหนึ่งของหมู่ตึกฮัวอวี่และมีสิทธิ์พูด แล้วเจ้าละมีสิทธิ์อันใดถึงมาแหกปากไร้สาระ?”

“สามหาว!”

ความโกรธของหวงปู้ชิงหยุนพุ่งทะยานขณะที่เขาปล่อยฝ่ามือออกไป ไม่แม้กระทั่งจั๋วฝานที่กล้ารับฝ่ามือของยอดฝีมือระดับนภาขั้นสอง

แต่ททว่า เขากลับไม่กังวลเลยเพราะเขารู้ว่าต้องมีคนช่วยเขา!

ผ้าไหมสีขาวคว้าจับฝ่ามือนั้น หวงปู้ชิงหยุนหันกลับไปมองฉู่ชิงเฉิงอย่างเย็นชา

“ชิงเฉิง นี่มันหมายความว่ายังไง?เจ้ากำลังละเมิดข้อตกลง?”หวงปู้ชิงหยุนหรี่ตา

ฉู่ชิงเฉิงกัดฟัน”คำพูดของซ่งอวี่ถูกต้อง นายน้อยสองให้คำตัดสิน ตอนนี้มันถึงคราวผู้อาวุโสต้องตัดสินความยุติธรรม ข้ามั่นใจว่านายน้อยสองเป็นคนรักษาคำพูด”

หลังพึมพำกับตัวเอง หวงปู้ชิงหยุนก็แค่นเสียงด้วยความโกรธ”ดี งั้นก็ให้ผู้อาวุโสตัดสิน!”

เขาระเบิดพลังฉีกผ้าไหมสีขาวบนมือเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยขณะกลับไปนั่ง ดวงตาเย็นชาของเขาทอประกายเหนือผู้คน

“บอกข้ามา คำตัดสินของข้าถูกหรือผิด?”

หัวใจของทุกคนแทบหุยดเต้น พวกเขาส่ายหัวจากนั้นก็จ้องจั๋วฝาน

[เขยของหมู่ตึกฮัวอวี่ถึงกับทำขนาดนี้เพื่อพวกนางเชียวรึ?ตอนนี้เจ้าโยนขี้ให้เรา ถ้าเราปฏิเสธก็ไม่เท่ากับการกระตุ้นความโกรธของประตูจักรพรรดิหรือไร?]

ผู้อาวุโสห้าแห่งโหยวหมิงกู่หัวเราะลั่นขณะลุกขึ้นยืน”ฮ่าๆๆ คำตัดสินของนายน้อยสองยุติธรรม ข้าไม่มีข้อโต้แย้ง!”

“ผู้อาวุโสห้าฉลาดมาก!”ราชาเม็ดยาอสูรยิ้มให้หวงปุ้ชิงหยุน

หลังเห็นสายตาของเจ้าหมู่ตึกมู่ตาน จากนั้นก็หวงปู้ชิงหยุน หลินจื่อเทียนแห่งป่าไขว่ฮัวก็ประสานมือ”ข้าขอยอมรับคำตัดสินของานยน้อยสอง”

หวงปู้ชิงหยุนพยักหน้าพอใจและเจ้าหมู่ตึกมู่ตานก็แทบระเบิด

[ไม่มีชายไหนคู่ควร!พวกมันพูดจาหวานและพร้อมทิ้งเราในเวลาที่เราต้องการ ไอพวกตีสองหน้า!]

[ข้าจะไม่มีวันลืมเรื่องนี้ หลินจื่อเทียน!]

ดวงตาของเจ้าหมู่ตึกมู่ตานลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงแห่งความโกรธ ลมหายใจของนางติดขัด ในขณะเดียวกัน หลินจื่อเทียนก็หลบสายตานาง

เช่นนั้น สามตระกูลก็อนุมัติคำตัดสินของหวงปู้ชิงหยุน มันเหลือแค่ตระกูลเดียวเท่านั้น

หมู่ตึกฮัวอวี่ต่อต้านเต็มที่ แต่ถึงกระนั้นพวกนางก็ไม่มีทางเลือกในเรื่องนี้

พอโดนผลักชิดกำแพง ไม่มีผู้อาวุโสคนใดปรารถนาจะล้มลงข้างหมู่ตึกฮัวอวี่และรุกรานประตูจักรพรรดิ

หวงปู้ชิงหยุนยิ้มพอใจตอนเห็นใบหน้าขมขื่นของฉู่ชิงเฉิง จากนั้นเขาก็หันไปหาหลงจิ่ว”ต่อไป ผู้อาวุโสจิ่วแห่งศาลาเฉียนหลง แสดงจุดยืนของท่าน!”

หลงจิ่วคิดมันซ้ำแล้วซ้ำอีก เขาเห็นสายตามีความหวังของฉู่ชิงเฉิงและท่าทางอวดดีของหวงปู้ชิงหยุน เขาถอนหายใจและส่ายหัว”นายน้อยสอง ข้าเชื่อว่าท่าน..”

ฉู่ชิงเฉิงหน้าดำและหวงปู้ชิงหยุนก็ฉีกยิ้มออกมา

จากนั้นจั๋วฝานก็เม้มปากและพูด”ปู่จิ่ว เลือกให้ดี”

[นรก!เด็กนี่กำลังขู่ผู้อาวุโสจิ่วอีกแล้ว?]

น้ำเสียงของจั๋วฝานราบเรียบ แต่ทุกคนรู้ความหมาย สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจคือเขากำลังดูหมิ่นหลงจิ่วครั้งแล้วครั้งเล่า!

เขาอาจจะเป็นผู้เยาว์ แต่การทำมันเป็นครั้งที่สองเท่ากับการทดสอบความอดทนของศาลาเฉียนหลง ถ้าหลงจิ่วไม่โจมตี ชื่อเสียงของพวกเขาจะไม่เหลือ!

“ฮี่ๆๆ หลงจิ่ว เจ้าถูกผู้เยาว์คนเดิมลบหลู่อีกครั้งแต่ก็ยังไม่ตอบโต ดูเหมือนเจ้าจะเป็นคนจิตใจดีนะ”ผู้อาวุโสห้าโหยวหมิงกู่ฉวยโอกาสถากถางเขา

หลงขุ่ยกับหลงเจี่ยจ้องมองจั๋วฝานตาเขม็ง

แต่หลงจิ่วกลับไม่ว่าอะไร เขาได้แต่ทบทวนคำพูดตัวเอง มองจั๋วฝานอีกครั้ง เขาสังเกตเห็นความมุ่งมั่นที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของเขา จากนั้นหลงจิ่วก็กัดฟัน!

[ได้ ข้าจะเดิมพัน!]

“นายน้อยสอง ข้าเชื่อว่าท่านลำเอียง!หมู่ตึกฮัวอวี่อาจทำผิดก่อน แต่การเอาสมบัติล้ำค่าไปจากพวกนางก็เท่ากับการตัดอนาคตพวกนาง มันไม่ต่างอะไรกับการทำลายพวกนาง!”

หลงจิ่วประสานมือและตะโกน ถึงแม้ว่าหัวของเขาจะชุ่มไปด้วยเหงื่อก็ตาม คำพูดของเขาเป็นการตบหน้าประตูจักรพรรดิ จุดยืนของเขาจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อวิธีที่ประตูจักรพรรดิปฏิบัติต่อศาลาเฉียนหลงในอนาคต

แต่เขาเชื่อใจในตัวจั๋วฝานกว่า เขาเห็นมันด้วยตาตัวเองในเมืองเนตรสายลม การตัดสินใจของจั๋วฝานมักถูกต้องเสมอ

ตกใจเกินคาด!ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน นี่ไม่ใช่แค่การเข้าข้างหมู่ตึกฮัวอวี่ แต่เป็นการต่อต้านประตูจักรพรรดิ

ฉู่ชิงเฉิงกับสองเจ้าหมู่ตึกพูดขอบคุณไม่หยุดปาก หลงจิ่วได้แต่ยิ้มขมขื่นขณะทรุดตัวลงบนเก้าอี้

เขาไม่รู้ว่านี่จะนำโชคหรือหายนะมาให้

หวงปู้ชิงหยุนไม่สนใจหลงจิ่วแต่กลับจ้องจั๋วฝาน เขาทำให้ผู้อาวุโสจิ่วเปลี่ยนการตัดสินใจ เขาเป็นใครกันแน่?

อันที่จริง หวงปู้ชิงหยุนพบว่าหลงจิ่วได้ตัดสินใจจะละทิ้งหมู่ตึกฮัวอวี่แล้ว แต่ทว่าคำพูดจากจั๋วฝานกลับทำให้ศาลาเฉียนหลงต่อต้านประตูจักรพรรดิ

[เขาเป็นใครกันแน่?เขาทรงพลังมากกว่าข้าอีกหรือ?]

ในความเป็นจริง เขาไม่ใช่คนเดียวที่สังเกตเห็น ทุกคนต่างตระหนักเรื่องนี้แต่เลือกที่จะไม่เปิดเผย ทว่าดวงตาของพวกเขาไม่เคยละออกจากจั๋วฝาน!

จั๋วฝานหัวเราะเยาะอยู่ข้างในขณะดื่มกับเซี่ยเทียนหยางเหมือนเพื่อนสนิท

“แล้วตำหนักกระบี่เล่า?”หวงปู้ชิงหยุนหันไปจ้องเจี้ยนซุยเฟิงอย่างเย็นชา

แต่เซี่ยเทียนหยางกลับตบไหล่เจี้ยนซุยเฟิงก่อนเขาจะได้พูด”ผู้อาวุโสแปด ปล่อยให้ข้าจัดการเรื่องนี้”

“อ่อ เทียนหยาง เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอนาคตของตำหนักกระบี่ เจ้าต้อง..”

“ข้ารู้ ข้ารู้!’

เซี่ยเทียนหยางโบกมือเป็นการเตือน แค่นเสียงให้หวงปู้ชิงหยุนด้วยท่าทางรังเกียจ จากนั้นก็หยอกเย้ากับจั๋วฝานอีกครั้ง”เจ้าหนู ข้าพบว่าเจ้าดูคุ้น ๆ เจ้าใช่เขยของหมู่ตึกฮัวอวี่จริงหรือ?’

“แน่สิ!”จั๋วฝานกลอกตา ไม่รู้ว่าเขาคิดมาไม้ไหนแต่ก็พยักหน้า

“ฮี่ๆๆ งั้นก็พิสูจน์ด้วยการจูบภรรยาเจ้าสิ!”เซี่ยเทียนหยางหัวเราะขณะชี้เสี่ยวตานตาน

นางหน้าแดงเป็นมะเขือเทศทันที หัวใจของนางเต้นกระหน่ำ และก็เหลือบมองจั๋วฝาน ขณะที่จั๋วฝานจ้องเซี่ยเทียนหยางและสาปแช่งเบา ๆ”เจ้าเล่นบ้าอะไร?อยากโดนกระทืบ?”

เซี่ยเทียนหยางพูด”เห้ ตอนนี้ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการข้า จงทำตามที่ข้าพูด ไม่งั้นข้าก็ไม่รู้ว่าข้าจะเลือกข้างไหน”

[ว่าไงนะ?!]

นี่ทำให้ทุกคนกลั้นหายใจ เจี้ยนซุยเฟิงแทบระเบิด ในช่วงเวลาวิกฤตที่คำพูดหนึ่งสามารถตัดสินอนาคตของตระกูลได้ เขากลับกำลังเล่น?

“เทียนหยาง!”เจี้ยนซุยเฟิงคำราม

“ผู้อาวุโสแปด เชื่อข้า ข้ารู้ว่าข้ากำลังทำอะไร!”เซี่ยเทียนหยางแสดงท่าทางมั่นใจแบบที่เจี้ยนซุยเฟิงไม่เคยเห็นมาก่อน

เขาพยักหน้าและเลือกเชื่อศิษย์คนนี้[เขาคงไม่ทำให้ทั้งตระกูลพังพินาศหรอกใช่ไหม?]

“ได้ เซี่ยเทียนหยาง..”จั๋วฝานกำหมัดและอยากลบรอยยิ้มนั้นออกจากใบหน้าของเซี่ยเยนหยางด้วยหมัด แต่ก็เลือกทน”ข้าจะเชื่อฟังคำสั่งของเจ้า!”

จั๋วฝานโอบกอดเสี่ยวตานตานและจูบนางอย่างดูดดื่มต่อหนุ้กคน

สมองของเสี่ยวตานตานขาวโพลนไปหมด ตอนจั๋วฝานเป็นเซี่ยเทียนหยางแสยะยิ้ม เขาก็อดสาปแช่งไม่ได้”เจ้ายิ้มหาอะไร?ถ้าอยากได้ผู้หญิง ก็ไปหาเองสิ!”

“ฮ่าๆ ข้ามีอยู่แล้ว เจ้าก็รู้นี่?ตอนข้าบอกนาง นางจะเกลียดเจ้าไปตลอด”เซี่ยเทียนหยางหัวเราะและตบโต๊ะอย่างมีความสุข

ทุกคนมองนายน้อยตำหนักกระบี่อย่างงุนงง พวกเขาไม่รู้ว่าเขากำลังพูดอะไรแต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจ ทั้งสองรู้จักกัน

ในขณะเดียวกัน มีเพียงจั๋วฝานเท่านั้นที่รู้ว่า’นาง’ที่เขาหมายถึงนั้นคือเสวี่ยหนิงเซียง

จั๋วฝานส่ายหัวพลางถอนหายใจ”ถ้างั้นก็เลือกซะ”

“เอาล่ะ น้องชาย ข้าเลือกเจ้า”เซี่ยเทียนหยางแทบจะไม่สามารถกลั้นความยินดีได้ขณะหันไปหาหวงปู้ชิงหยุนและยั่วยุเขา”นายน้อยสอง ข้าขอปฏิเสธความยุติธรรมที่ท่านว่า ตำหนักกระบี่เชื่อว่าคำตัดสินของท่านผิด!”

หวงปู้ชิงหยุนกำหมัดด้วยความโกรธ ดวงตาของเขาจ้องเซี่ยเทียนหยางด้วยความเย็นชา”ดี!รอก่อนเถอะ!”

เซี่ยเทียนหยางเชิดคางด้วยความมั่นใจ เตรียมสู้กัน

ด้วยเหตุนี้ คำตัดสินจึงเป็นอันเสมอ ฉู่ชิงเฉิงดีใจและแสดงความขอบคุณต่อเซี่ยเทียนหยาง จากนั้นก็พูดกับหวงปู้ชิงหยุน”ในเมื่อคำตัดสินของนายน้องสองไม่สามารถได้รับคำอนุมัติจากเหล่าผู้อาวุโส มันก็เป็นโมฆะ”

“ใครบอก?เจ้าลืมเรา ประตูจักรพรรดิไปแล้วหรือไง?”หวงปู้ชิงหยุนพ่นลมหายใจ

“ฮี่ๆๆ ข้าไม่เคยได้ยินว่าคนตัดสินมีสิทธิ์ออกเสียงด้วย เสียงของประตูจักรพรรดินั้นไม่มีผลตั้งแต่ต้นแล้ว”จั๋วฝานหัวเราะเยาะ

หวงปู้ชิงหยุนกัดฟันจนแทบแตก

ถ้าเขาฆ่าจั๋วฝานตอนมีโอกาส ศาลาเฉียนหลงกับตำหนักกระบี่ก็คงยอมและหมู่ตึกฮัวอวี่ก็คงล่มสลายไปง่าย ๆ แล้ว!

[เด็กบัดซบ!ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยมือข้าเอง!]หวงปู้ชิงหยุนจ้องจั๋วฝานอย่างอาฆาต

จั๋วฝานสังเกตเห็นและยิ้ม”ถ้านายน้อยสองไม่พอใจกับข้อสรุปนี้ ข้าก็มีข้อเสนอ ผู้อาวุโสหยานจะมอบยาแก้พิษให้และเขาก็จะเลือกของอะไรก็ได้จากหมู่ตึกฮัวอวี่ยกเว้นรากโพธิ์!”

“ไม่!ข้าต้องการแค่รากโพธิ์!”ราชาเม็ดยาอสูรคำราม

จั๋วฝานยกมุมปากราวกับคาดไว้แล้ว”งั้นท่านออกต้องออกแรงหน่อย การจะเอามันไปง่าย ๆ คงสบายไปหน่อยกระมั้ง?”

“เจ้าหมายความว่าไง?”ราชาเม็ดยาอสูรถาม

“ง่ายมาก งานไป่ตานกำลังจะเริ่มและรางวัลก็จะเป็นรากโพธิ์ ผู้ชนะจะได้มันไป”

“ดี มาดูกันว่าจะมีใครสามารถแข่งกับข้าได้ในเรื่องนี้!ฮ่าๆๆ..”ราชาเม็ดยาอสูรหัวเราะ คิดว่าเขาได้มันไว้ในครอบครองแล้ว

หวงปู้ชิงหยุนพึมพำสักพักจากนั้นก็ตกลง ขณะที่ฉู่ชิงเฉิงกับคนอื่นเต็มไปด้วยความกังวล ใครกันที่จะล้มราชาเม็ดยาอสูรได้ในด้านการหลอมโอสถ?

มันดูเหมือนสิ่งที่ช่วยชีวิตหมู่ตึกฮัวอวี่ไว้ แต่มันดูเหมือนจะไม่ได้สร้างความแตกต่างนักหากเทียบกับก่อนหน้านี้…