ด้วยสองฝ่ายที่ขัดแย้งกัน งานเลี้ยงจึงจบลง

สิ่งี่คนพบว่าแปลกคือโถงราชาเม็ดยากับประตูจักรพรรดิไม่ใช่คนเจรจาเรื่องเงื่อนไขกับเจ้าหมู่ตึกฮัวอวี่ แต่เป็นจั๋วฝาน เขบของหมู่ตึก

ในที่ผู้หญิงปกครอง ชะตากรรมของพวกนางกลับตกอยู่ในมือผู้ชาย นี่เป็นเรื่องที่น่าขันสำหรับบางคน

แต่สิ่งี่น่าขันยิ่งกวว่าคือจั๋วฝานเป็นแค่เขยปลอม ซึ่งมีแค่เจ้าหมู่ตึกถึงรู้ และชายคนนี้ก็ยังเป็นผู้พูดแทนหมู่ตึกฮัวอวี่

เจ้าหมู่ตึกชิงฮัวกับมู่ตานสบตากัน หัวใจของพวกนางขมขื่น เมื่อได้พูดไปแล้ว ความเสียใจตอนนี้ก็คงเสียเปล่า

นอกจากความจริงที่ผู้อาวุโสของเจ็ดตระกูลต่างเป็นพยานในเรื่องนี้ ใครเล่าจะสามารถขัดโถงราชาเม็ดยากับประตูจักรพรรดิได้?

พวกนางทำได้แค่โทษตัวเองที่หลงไว้ใจประตูจักพรรรดิ พวกนางมอบสมบัติให้หวงปู้ชิงหยุนไปมากเพื่อเชิญเขามานี่ ที่พึ่งสุดท้ายของพวกนาง

ตอนเหล่าผู้อาวุโสไปจัดการเรื่องของตน ฉู่ชิงเฉิงได้เรียกหวงปู้ชิงหยุน ชายคนสุดท้ายที่กำลังจะออกไป

“รอเดี๋ยว!”

ใบหน้าของฉู่ชิงเฉิงเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง หวงปู้ชิงหยุนหยุดแต่ไม่หันมา ไม่ไกลนัก ราชาเม็ดยาเองก็หยุดและมองทั้งสอง

“ทำไมกัน?”ฉู่ชิงเฉิงพูด

หวงปู้ชิงหยุนขยับริมฝีปาก แต่ก็ถอนหายใจออกมา”ชิงเฉิง ข้าได้ให้โอกาสเจ้าแล้ว แต่เจ้าไม่รับไว้!”

ฉู่ชิงเฉิงขมวดคิ้ว

“ไม่ว่ายังไงซะ เรื่องทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ของตระกูล ไม่ว่าเราคนใดก็เปลี่ยนแปลงมันไม่ได้ ถ้าหมู่ตึกฮัวอวี่ประพฤติตัวดีกว่านี้ เรื่องในวันนี้ก็คงไม่เกิด!”

ดวงตาของหวงปู้ชิงหยุนฉายแววเสียใจและก้าวออกไปพร้อมยอดฝีมือระดับนภาสี่คนของเขา

ในช่วงเวลาแห่งการสูญเสียของนาง ราชาเม็ดยาคืบคลานเข้ามาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย”เจ้าหมู่ตึกฉู่ ครั้งนี้เจ้าสันนิษฐานผิด คนที่ต้องการรากโพธิ์ไม่ใช่โถงราชาเม็ดยา แต่เป็นประตูจักรพรรดิ”

“ว่าไงนะ?”ฉู่ชิงเฉิงตกใจ

“ฮี่ๆๆ ยายเฒ่านั่นไม่ได้บอกเจ้าหรือ?ประตูจักรพรรดิหมายตารากโพธิ์จากนางมานานแล้ว น่าเสียดายที่นางหัวรั้นนัก ไม่เต็มใจถอยสักก้าว ดังนั้น…”

ราชาเม็ดยาอสูรหรี่ตา”เรื่องนี้จบแล้ว มันคงไม่สำคัญถ้าข้าจะบอกความลับเจ้าอีกเรื่อง เจ้าคิดว่าข้าคนเดียวจะมีฝีมือพอทำร้ายยายเฒ่านั่นหรือ?ยังไงซะ นางก็คือผู้พิทักษ์ของหมู่ตึกฮัวอวี่มาถึงสามรุ่น เป็นถึงยอดฝีมือระดับนภาผู้สูงส่ง”

รูม่านตาของฉู่ชิงเฉิงหดลง หัวใจของนางดำดิ่ง

“ฮ่าๆๆ…ใช่แล้ว คนที่ทำให้นางบาดเจ็บสาหัสก็คือผู้นำประตูจักรพรรดิ นางเด็กโง่ เจ้าหลงคิดว่าด้วยการพึ่งพาความสัมพันธ์ของเจ้ากับนายน้อยสอง เจ้าจะให้ประตูจักรพรรดิเป็นหัวหอกให้เจ้าได้ แต่จริง ๆ แล้ว เจ้ากลับนำหมาป่าเข้าบ้าน!”

ราชาเม็ดยาอสูรหัวเราะลั่น เสียงหัวเราะของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยัน และเขาก็เดินออกประตูไป

ฉู่ชิงเฉิงตัวสั่นสะท้านและล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง ดวงตาของนางว่างเปล่า คลื่นความร้อนพุ่งขึ้นหน้านางอย่างควบคุมไม่ได้

“ข้า..ทำอะไรลงไป..”ดวงตาของฉู่ชิงเฉิงเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง นางนั่งอยู่คนเดียวในโถงรับรองกว้างขวาง…

ในอีกด้านหนึ่ง ทันทีที่จั๋วฝานกับเสี่ยวตานตานออกโถงไป ทั้งคู่ก็เห็นศาลาเฉียนหลงกับตำหนักกระบี่กำลังรออยู่ในมุมเปลี่ยว ตอนพวกเขาเห็นเขาเดินออกมา พวกเขาก็หันมาทางเขา

มุมปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย และจั๋วฝานก็เดินไปตรงนั้น แต่พอเห็นเสี่ยวตานตานยังเดินตามมา เขาก็โบกมืออย่างหมดความอน”เจ้าจะตามข้ามาทำไม ออกไปวิ่งเล่นไป!”

เสี่ยวตานตานเม้มปากอย่างขมขื่น”เจ้าเพิ่งจูบข้าต่อหน้าคนอื่น ตอนนี้ข้าเป็นของเจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับตะคอกใส่ข้า….”

“จะอะไรนักหนา มันก็แค่จูบ มีอะไรให้วิเศษนัก ข้าทำไปเพื่อให้ตำหนักกระบี่ช่วยเหลือหมู่ตึกฮัวอวี่ของเจ้าไม่ใช่หรือไง?”จั๋วฝานกลอกตาและเตือน”เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้พูดถึงเรื่องนี้อีกในอนาคต ข้ากับเจ้าไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“อือ!”

เสี่ยวตานตานประพฤติตัวดีมากต่อหน้าจั๋วฝาน แต่ลึก ๆ ในหัวใจดวงน้อยกลับเจ็บปวด แต่ทว่า พอเห็นคนของตำหนักกระบี่และศาลาเฉียนหลงกำลังจ้องนางตลอดเวลา นางก็ดึงแขนจั๋วฝานอย่างเป็นกังวล

“ซ่งอวี่ คนเหล่านั้นกำลังลำบากเพราะเจ้าดูถูกพวกเขาที่งานเลี้ยงนี้?เรารีบอยู่ให้ห่างจากพวกเขาเถอะ”

เขาอดหัวเราะไม่ได้”ใช่ แต่นี่เป็นเรื่องของผู้ชาย ผู้หญิงอย่างเจ้าหลบไป!อีกอย่าง หลังจากนี้เจ้าควรอยู่ให้ห่างจากข้า!”

จั๋วฝานดึงมือของนางออกอย่างไม่ใยดีและเดินตรงไปข้างหน้า เสี่ยวตานตานเสียใจ แต่ก็ยังมองเขาอย่างเป็นห่วง หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ดูเหมือนจะคิดอะไรได้และรีบไป

“ทุกคน ไม่เจอกันนานเลยนะ!”

พอเดินไปตรงหน้าพวกเขา จั๋วฝานก็หัววเราะ หยิบเอาแหวนอสนีบาตออกจากแหวนเก็บของและสวมมัน ในชั่วพริบตา แหวนของเซี่ยเทียนหยางก็ระเบิดสายฟ้าออกมา

เซี่ยเทียนหยางยิ้มอย่างมีความสุขและหัวเราะ”ฮ่าๆๆ ..มันเป็นเจ้าจริง ๆ เจ้ากลายเป็นแบบนี้ได้ไง ข้าเกือบจำไม่ได้ ถ้ามันไม่ใช่เพราะเจ้าเรียกข้าว่าขี้ขลาด ข้าคงไม่เชื่อว่ามันเป็นเจ้า!”

เซี่ยเทียนหยางเคยโดนจั๋วฝานด่าว่าขี้ขลาด แต่ครั้งนี้จั๋วฝานด่าเขาลับหลัง

“แล้ว น้องสะใภ้ข้าไปไหนเล่า?”เซี่ยเทียนหยางเลิกคิ้วให้จั๋วฝานและจงใจพูด

ใบหน้าของเขาดำมืด จั๋วฝานยกหมัดขึ้นและพูดอย่างเย็นชา”เจ้าหมายความว่าไง?เนื้อตัวของเจ้าคันนักใช่ไหม?!”

“ฮ่าๆๆ..แค่ล้อเล่น แค่ล้อเล่น ยังไงซะเจ้าก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่!”เซี่ยเยนหยางหัวเราะขณะเดินถอยหลัง เขายังมีความกลัวต่อจั๋วฝานบ้าง

“แล้วน้องชาย ข้าอยากถาม นี่มันเรื่องอะไรกัน?”หลงจิ่วถาม”เจ้ารู้ตัวไหมว่าเราไปทำให้ประตูจักรพรรดิโกรธเข้าแล้ว?”

“น้องชาย?รอเดี๋ยว..เจ้าคือจั๋วฝาน?”

หลงขุ่ยกรีดร้อง เนื่องจากหลงจิ่วมีน้องชายแค่คนเดียว มันจึงไม่ยากที่จะเดาว่าเขาเป็นใคร

เจี้ยนซุยเฟิงกับหลงเจี่ยเองก็ตกใจ ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่ำไมหลงจิ่วกับเซี่ยเทียนหยางถึงยอมขายหน้าเพื่อเด็กจนถึงจุดที่แตกหักกับประตูจักรพรรดิแบบเปิดดเผย

“ใช่ น้องชาย นี่มันเรื่องอะไรกัน?”เซี่ยเทียนหยางเองก็จริงจัง”ข้าเชื่อว่าเจ้าต้องมีเหตุผลที่ดี แต่อย่าทำเกินเลยและขายข้าอีก เราผ่านความเป็นความตายด้วยกันมาแล้วนะ”

จั๋วฝานเกาจมูก”พวกเจ้าสองคนเป็นคนที่ข้าไว้ใจมากสุด ข้าจะไม่ลากพวกเจ้าลงมาเด็ดขาดถ้าข้ามีทางเลือกอื่น…แต่พวกเจ้าก็โดนผลักลงมาแล้วและมันดีกว่าที่เราจะวางแผนล่วงหน้า”

ทั้งสองถามพร้อมกัน”เจ้าหมายความว่าไง?”

“ไม่เห็นกันหรือไง?”ดวงตาของจั๋วฝานทอประกาย”ประตูจักรพรรดิตั้งใจควบรวมเจ็ดตระกูลใหญ่ทั้งหมด และพวกเจ้าสองก็อยู่ในรายนามสังหารแล้ว แทนที่จะรอโดนเชือด มันดีกว่าที่จะตั้งพรมแดนและโต้ตอบ”

“อะไรนะ รวมเจ็ดตระกูลใหญ่?เจ้ารู้ได้ไง?”พวกเขากรีดร้อง

จั๋วฝานส่ายหัว”มันแค่การคาดเดา หวงปู้ชิงหยุนแสดงอำนาจของเขาทันทีที่เขาเห็นเซี่ยเทียนหยางไม่ยอมทำตาม ถ้าเรามองนิสัยอวดดีนี้จริงจัง งั้นเราก็สามารถได้ข้อสรุปที่ว่าแผนร้ายที่แท้จริงกำลังบ่มเพาะอยู่ในหัวของเหล่าผู้อาวุโสประตูจักรพรรดิ”

“บนผิวเผิน มันดูเหมือนไม่มีอะไรมากกว่าการจงใจสร้างปัญหาให้ตำหนักกระบี่และทำให้เจ้าอับอาย แต่จริงๆ แล้ว เขาทำไปเพื่อสองสิ่ง ลดตำแหน่งของเจ้าหมู่ตึกฮัวอวี่ลง จงใจสร้างความแตกแยกให้หมู่ตึกฮัวอวี่กับตำหนักกระบี่ แบ่งเจ็ดตระกูลใหญ่เป็นสามฝั่ง พวกทที่เชื่อฟัง พวกที่ต่อต้าน และพวกที่รอฉวยโอกาส!”

“จากวิธีที่ทุกคนตอบสนอง มันบอกได้ว่าโหยวหมิงกู่กับโถงราชาเม็ดยาสนับสนุนประตูจักรพรรดิ ในขณะเดียวกัน หมู่ตึกฮัวอวี่ ตำหนักกระบี่กับศาลาเฉียนหลงได้ปฏิเสธเขาหลายครั้ง และเป็นการต่อต้านอย่างเห็นได้ชัด สำหรับป่าไขว่ฮัว พวกเขาคือพวกที่รอฉวยโอกาส!”

พวกเขาเริ่มนึกถึงงานเลี้ยงทั้งหมดและได้ข้อสรุปเดียวกัน

ตอนนี้ พวกเขาเริ่มเข้าใจว่าทำไมหวงปูชิงหยุนถึงทำอะไรหยาบคายและน่ารังเกียจขนาดนั้น แม้กระทั่งทำร้ายนายน้อยของตระกูลอื่น

เขาไม่ได้แค่อวดดี แต่มันยังเพื่อสร้างความแตกแยกให้ตระกูลอื่น!

พวกเขาหลั่งเหงื่อเย็น ถ้าจั๋วฝานพูดถูก ตระกูลใหญ่ที่แข็งแกร่งสุดก็กำลังประกาศสงครามกับพวกเขา เพื่อถอนรากพวกเขาและรวมเจ็ดตระกูลใหญ่ไว้ภายใต้ร่มธงเดียว!

“นี่เป็นแค่การคาดเดาของเจ้า ถ้ามันไม่ใช่ความจริง งั้นเราก็กลายเป็นศัตรูกับประตูจักรพรรดิโดยไร้เหตุผล”หลงขุ่ยพูดขึ้น

จั๋วฝานพยักหน้า ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา”จริง แต่พวกเจ้าไม่คิดว่ามันดีกว่าหรือที่จะกลายเป็นศัตรูแทนที่จะรอให้พวกมันมาหาเจ้าและโจมตีตอนไม่ทันระวัง?มันง่ายที่จะเห็นความแตกต่างในอันตราย ถ้ามันเป็นข้า ข้าจะทำลายทุกคนที่แสดงท่าทางไม่เชื่อฟังแม้แต่เล็กน้อยก็ตาม!”

หลงจิ่วกับเจี้ยนซุยเฟิงสบตากันและชื่นชมเขาอยู่ข้างใน

[เด็ดขาดและโหดเหี้ยม นี่แหละคือผู้นำที่แท้จริง]

“ ข้าเข้าใจว่าประตูจักรพรรดิกำลังหมายตาเจ็ดตระกูลใหญ่ แต่ตอนนี้พวกมันกำลังไปยุ่งกับหมู่ตึกฮัวอวี่ น้องชาย การที่เจ้าให้เราสนับสนุนหมู่ตึกฮัวอวี่เท่ากับเจ้ากำลังจะเริ่มสงครามกับประตูจักรพรรดิล่วงหน้า!”เซี่ยเทียนหยางคิดอยู่นาน จากนั้นก็พูดขึ้น

เจี้ยนซุยเฟิงเหลือบมองเขาและพยักหน้าพอใจ สุดท้ายเด็กนี่ก็รู้จักคิดถึงตระกูล

จั๋วฝานแค่นเสียง ไม่เห็นด้วย”หมู่ตึกฮัวอวี่อ่อนแอสุดในเจ็ดตระกูลใหญ่ และก็ใกล้จะล่มสลายแล้ว ดังนั้น ประตูจักรพรรดิจึงเลือกพวกนางก่อน เจ้าลองคิดดู ถ้าหมู่ตึกฮัวอวี่หายไป จากนั้นประตูจักรพรรดิจะไปเล่นงานใครต่อ?”

ทุกคนต่างตกใจ พวกเขาตระหนักว่าถึงแม้หมู่ตึกฮัวอวี่จะอ่อนแอ แต่พวกนางก็ยังเป็นเสาค้ำจุนการดำรงอยู่ของเจ็ดตระกูลใหญ่ ถ้าหมู่ตึกฮัวอวี่หายไป งั้นมันก็จะถึงคราวของตำหนักกระบี่และศาลาเฉียนหลง

“หมู่ตึกฮัวอวี่คือหนึ่งในประตูของพวกเจ้า ถ้าประตูนี้พัง ประตูจักรพรรดิก็จะสามารถบุกตรงเข้ามากลืนกินตระกูลใหญ่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยหมู่ตึกฮัวอวี่ เราจึงยังรู้แนวทางของประตูจักรพรรดิได้ แต่ถ้าหมู่ตึกฮัวอวี่ล่มสลาย เราก็คงไม่มีทางรู้เป้าหมายต่อไปของพวกมัน”

พอได้ยินคำพูดของจั๋วฝาน ทุกคนก็พยักหน้า ดวงตาของพวกเขาฉายแววจริงจัง แม้กระทั่งหลงขุ่ยก็ยังไม่คัดค้าน

เหนือสิ่งอื่นใด มันเป็นเรื่องของตระกูล นางต้องมองภาพรวมก่อน!

“แล้วเจ้าจะได้อะไร?”ครั้งนี้ เซี่ยเทียนหยางมองจั๋วฝาน”ตามที่ข้ารู้จักเจ้า เจ้าจะไม่ทำอะไรโดยไม่หวังผล ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเป็นการยื่นมือเข้าช่วยเหลือหมู่ตึกฮัวอวี่ในการเอาชนะประตูจักรพรรดิ”

จั๋วฝานยิ้ม ดวงตาของเขาแสดงความมั่นใจและมองหลงขุ่ย”แม่นางหลงขุ่ย เจ้าจำข้อตกลงสิบปีของเราได้ไหม?”

“ภายในสิบปี ตระกูลลั่วจะเหนือกว่าเจ็ดตระกูลใหญ่นะหรือ?”หลงขุ่ยตกใจ

“ไม่เลว”จั๋วฝานยิ้พลางพยักหน้า”ผลประโยชน์คือข้าสามารถชะลอความก้าวหน้าของประตูจักรพรรดิได้ ปล่อยให้ตระกูลลั่วได้เติบโตภายในสิบปี ตอนนั้น คนที่เป็นตระกูลอันดับหนึ่งแห่งเทียนอวีอาจเป็น..”