WS บทที่ 120 ค้างคาวแวมไพร์ PART 1

“การสร้างคาถาหมอกรัตติกาลเป็นอะไรที่ยากมากและฉันก็ได้พยายามไม่รู้กี่รอบแต่ก็ทําไม่สําเร็จ ในที่สุดฉันก็ยอมแพ้” โฮล์มส์กล่าวพลางส่ายหัว

โดยปกติแล้วยิ่งคาถาที่แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งสร้างคาถายากมากขึ้นเท่านั้นแต่เมอร์ลินมีตัวช่วยสุดวิเศษอย่างเดอะเมทริกซ์ทําให้เขาสามารถสร้างที่ทั้งแข็งแกร่งและเสถียรได้อย่างง่ายดาย

“ฉันแค่โชคดีที่ทําสําเร็จนะ” เมอร์ลินพูดอย่างใจเย็นและยิ้มเล็กน้อย

จากนั้นเมอร์ลินก็หันไปมองรอบ ๆ เขาพบว่าพวกนักดาบธาตุระดับสามไม่สามารถทําอะไรเขาได้เลยและพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย

นั่นทําให้เขาพึงพอใจกับผลลัพธ์ของคาถาหมอกรัตติกาลนี้มาก

“จริงสิ พวกท่านมาที่นี่เพื่อมาสืบสวนเรื่องของค้างคามแวมไพร์ใช่มั้ย?” มาควิสบารอ สซ่าลุกยืนและมองอย่างกระวนกระวาย

โฮล์มส์ก้าวไปอย่างหน้าและพยักหน้าและพูดด้วยน้ําเสียงอันเย็นชา “ใช่แล้ว พวกเรามาตรวจสอบเรื่องของค้างคาวแวมไพร์ คุณพอจะรู้อะไรบ้างมั้ย?”

มาควิสบารอสซ่าขมวดคิ้วและตอบอย่างไม่แน่ใจว่า “พวกมันปรากฏตัวขึ้นที่ชายเมืองเมื่อ 3 เดือนก่อน เราพบศพของชาวเมืองจํานวนมาก สภาพศพเละเทะถูกสูบเลือดจนหมด ข้าได้สั่งการให้จัดการพวกมันแล้วแต่จํานวนศพก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

ดังนั้นข้าจึงสั่งให้พ่อมดปาริโอตรวจสอบเรื่องนี้ ทําให้รู้ว่าพวกมันเป็นอสูรธาตุมืด ข้าจึงให้พ่อมดปาริโอพานักดาบน้ําแข็งไปทําลายรังของพวกมันเมื่อช่วงเช้าของวันนี้แล้ว”

หลังจากได้ยินสิ่งที่มาควิสบารอสซ่าเล่ามา โฮล์มส์กับเมอร์ลินก็ได้มองหน้า โฮล์มส์จึงกล่าวด้วยเสียงหนักแน่นว่า

“ภารกิจของเราคือตรวจสอบสถานการณ์ของค้างคาวแวมไพร์ด้วยข้อมูลเพียงแค่นี้จึงไม่เพียงที่จะทําให้ภารกิจสําเร็จ ดูเหมือนว่าพวกเราจะต้องไปค้นหารังของพวกมันเพื่อเข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง”

เมอร์ลินและคนอื่น ๆ พยักหน้าเห็นด้วย เนื่องจากพวกเขาต้องชี้แจงสถานการณ์ของพวกค้างคาว หากพวกเขาพบว่าพวกมันมีเป็นจํานวนมาก พวกเขาเกรงว่าเมืองนี้จะตกอยู่ในอันตราย

พ่อมดโฮล์มส์หันกลับมาและพูดกับมาควิสบารอสซ่าว่า “มาควิสบารอสซ่าเราต้องการ ใครสักคนนําทางพวกเขาไปที่รังของค้างคาวแวมไพร์”

มาควิสบารอสซ่ายินดีที่จะช่วยเหลือ เขาเคยได้ยินชื่อเสียงของดินแดนมนต์ดํามาก่อน พวกเขาเป็นองค์กรนักเวทที่ทรงพลังมากยิ่งกว่าพ่อมดพเนจรที่เขาเลือกสรรมา

เรื่องของค้างคาวแวมไพร์เป็นปัญหามาก หากพวกเขายินดีช่วย เขาก็ได้ผลประโยชน์เช่นเดียวกัน

หลังจากที่เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็หันไปมองพ่อมดพเนจรที่อยู่ข้างเขา เขาพูดด้วยเสียงต่ําว่า “พ่อมดแดนเบ้ คุณพอจะรู้จักค้างคาวแวมไพร์อยู่บ้าง คุณสามารถเดินนําทางให้พวกเขาได้”

พ่อมดแดนเบ้มองไปที่เมอร์ลินและคนอื่น ๆ จากนั้นเขาก็พยักหน้า

“รีบไปกันเถอะ ยิ่งไปเร็วมากเท่าไหร่ เราก็จะมีเวลาในการวางแผนหลังจากนั้นมากขึ้น” โฮล์มส์พูดกับพ่อมดแดนเบ้

เมื่อตกลงกันได้แล้ว พ่อมดแดนเบ้ได้โค้งคํานับให้มาควิสบารอสซ่าเล็กน้อย ก่อนจะเดินพวกเมอร์ลินออกจากปราสาทไป…

*ตูม! ตูม! ตูม!*

เสียงระเบิดดังขึ้นหลายจุด ในบริเวณนั้นที่ศพนอนกระจายทั่วทั้งป่า

สภาพศพเต็มไปด้วยเลือดเปื้อนทั่วตัว แขนขาถูกฉีกขาดที่บางศพมีค้างคาวจํานวน มากกําลังรุมขย้ําซากศพที่นอนอยู่บนพื้น

เพื่อในพริบตารางก็แห้งอย่างรวดเร็ว เลือดทั้งหมดถูกพวกค้างคาวดูดเข้าไป

“คลื่นน้ําแข็ง!”

ทันใดนั้นอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว ทําให้ค้างคาวบางตัวถูกแช่แข็งและมันได้ตกลงพื้นแต่กระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

การต่อสู้ที่นี่กําลังดุเดือด หากพวกเขาประมาทแม้แต่นิดเดียว พวกเขาก็จะถูกฆ่าตายทันที

ตอนนี้มีพ่อมดสองคน นักดาบน้ําแข็งระดับห้าและระดับสี่อีกสองสามคน พวกเขากําลังต่อสู้กับพวกค้างคาวด้วยความยากลําบาก

“บ้าเอ้ย! มีค้างคาวแวมไพร์มากเกินไป เราออกจากที่นี่ไม่ได้ ท่านพ่อมดปาริโอ เราควรทําอย่างไรดี?” นายพลวอร์ตันกล่าวพลางแผ่ออร่าอันหนาวเย็นออกมาจากร่างกายของเขา

สีหน้าของพ่อมดปาริโอไม่ค่อยจะสู้ดี เขาเหลือบไปมองกําลังพลที่ตอนนี้ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ เขาพยายามระงับความโกรธของเขา ในระหว่างนั้นเขาเหลือบไปเห็นถ้ํามีดสองแห่งอยู่ข้างหลังพวกเขา เขาพูดด้วยน้ําเสียงอันหนักแน่นว่า

“ถ้าหากพวกเขาออกไปจากที่นี่ไม่ได้ เราน่าจะสวนพวกมันเข้าไปในถ้ำ ข้าแน่ใจว่าทั้งสองถ้ํานี้เป็นรังของพวกมัน ถ้าหากเราลําลายรังของพวกมัน มันอาจจะทําให้เรามีโอกาสรอด”

“งั้นไปกันเลย!!”

พ่อมดปาริโอและนายพลวอร์ตันนําทีมเข้าไปในถ้าแห่งหนึ่งเพื่อหลีกหนีการโจมตีที่ไม่รู้จบของค้างคาวแวมไพร์

ทันใดนั้น ร่างกายของค้างคาวแวมไพร์เปล่งแสงสีอันน่าขนลุกและส่งเสียงกรีดร้องออกมาจากนั้นพวกมันก็บินเข้าไปในถ้ําโดยที่ทิ้งพวกซากศพไว้ที่นอกถ้ำ

*สวบ*

หลังจากนั้นไม่นานก็มีร่างสองร่างปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ พวกเขามองดูสภาพศพด้วยแววตาที่หวาดกลัว กลิ่นคาวเลือดที่โชยออกมา มันแทบจะทําให้อยากจะอาเจียนขึ้นมาทันที

“คาเปซ เราจะทําอย่างไงดี ดูเหมือนว่าพ่อกับพ่อมดปาริโอจะตกอยู่ในอันตราย…”

สองคนนี้คือคาเปซกับแคทเธอรีนที่ติดตามกลุ่มของพ่อมดปาริโอมาก่อนหน้านี้อย่างลับ ๆ พวกเขาได้เห็นการต่อสู้ทั้งหมดด้วยตาของตัวเอง ตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายจนต้องถูกบีบบังคับเข้าไปในถ้ํา

แคทเธอรีนที่ปกติจะกล้าหาญมาโดยตลอดแต่เมื่อเธอได้เห็นพวกซากศพความกลัวก็ได้คืบคลานมาที่ตัวเธอ

ส่วนคาเปซดูสงบกว่าเดิมเล็กน้อย เขาชําเลืองมองเข้าไปในถ้ำและพูดว่า

“ตอนนี้พ่อมดปริโอกับพ่อกําลังตกอยู่ในอันตราย พวกเราต้องรีบกลับไปที่เมืองดอนกลิ่นและ รายงานให้ท่านมาควิสทราบ พวกเขาจะได้ส่งคนมาช่วยพวกเขาได้ทัน”

แคทเธอรีนไม่ได้คัดค้านอะไรกับความคิดนี้

“เรารีบไปกันเถอะ ยิ่งปล่อยให้นานไปฉันเกรงว่าพ่อจะไม่รอด”

“ก๊าซ!!”

ในระหว่างที่ระหว่างกําลังจะออกไป จู่ ๆ ก็มีเสียงแหลมสูงดังออกมาจากถ้ำ จากนั้นก็มีค้างคาวแวมไพร์จํานวนมากบินออกจากถ้ำ พวกมันบินมาหาพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง

“ พวกเราถูกเจอตัวแล้ว หนีเร็ว!!”

คาเปซชักดาบอออกมาอย่างรวดเร็วและคว้าตัวแคทเธอรีนที่ตัวสั่นเทาพุ่งเข้าไปในป่า