ตอนที่ 118 ฟังก์ชั่นสนามประลองอันแข็งแกร่ง

งั้นก็หมายความว่าสนามประลองอันนี้ไม่ใช่แค่ว่าสามารถเรียนรู้และเพิ่มประสบการณ์การต่อสู้จริงได้เท่านั้น แต่มันยังสามารถเพิ่มค่าความสัมพันธ์ได้อีกด้วย และ ยิ่งค่าเปอร์เซ็นของค่าความสัมพันธ์มันเพิ่มขึ้นมากเท่าไหร่ เวลาที่เขาจะอยู่ในนี้ได้มันก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น พร้อมกับพื้นที่ที่ขนาดใหญ่ขึ้นด้วย!

“ระบบ ถ้าเกิดว่าฉันเข้าใจไม่ผิดก็คือฉันสามารถเอาผู้คนที่อยู่ในดันเจี้ยนออกไปสู่โลกมาเวลได้ใช่ไหม ?”

“ใช่!”

“กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ฉันสามารถนําผู้คนจากโลกมาเวล เข้าสู่ดันเจี้ยนได้เหมือนกันใช่ไหม? และถ้าเกิดว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ล่ะก็ฉันก็คงจะต้องขอถอนคําพูดกลับมา เพราะว่าสนามประลองอันนี้มันจะสุดยอดเกินไปแล้ว”

พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ นี่คือวิธีการพาคนเข้าสู่ดันเจี้ยนหรือพาออกมานอกดันเจี้ยนนั่นเองออกมา

หากคุณนําผู้คนจากดันเจี้ยนมายังโลกเวลา คุณก็จะสามารถมีผู้ช่วยที่แข็งให้กลับคุณได้อย่างมากมายกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าเกิดว่าคุณนําใครบางคนจากโลกมาเวลเข้าไปในดันเจี้ยน คุณก็จะมีตัวช่วยในการทําภารกิจของคุณได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

“แล้วทําไมตอนนี้ฉันยังไม่สามารถมองเห็นค่าความสัมพันธ์ของคนในโลกมาเวลได้ ?”

ภายในดันเจี้ยนนั้นถ้าเกิดว่ามีค่าความสัมพันธ์เพิ่มขึ้น ระบบจะทําการแจ้งเตือนให้กับเขาทราบทันที แต่ในโลกของมาเวลนั้นมันไม่ได้เป็นแบบนี้ ยกตัวอย่างเช่น สกาย , บริ้งค์ , นาตาชา หรือว่าคนที่สนิทกับเขาค่าความสัมพันธ์ของพวกเขามันคงจะไม่ต่ําอย่างแน่นอนใช่ไหม ?

“ระดับของระบบต่ําเกินไป ทําให้ไม่สามารถแสดงค่าความสัมพันธ์ในโลกหลักได้”

ซูเจินถึงกับพูดไม่ออก “ดังนั้นนายก็เลยเตือนฉันบ่อย ๆ ว่าให้ฉันพยายามทํางานให้หนักขึ้นเพื่อที่จะได้มีพลังงานเพียงพอต่อการอัพเกรดได้เร็ว ๆ ใช่ไหม ?”

ระบบเงียบและไม่ได้ตอบคําถามของซูเจิน

“ระบบ เปิดสนามประลองให้หน่อย ฉันอยากดูว่ามันจะเป็นอย่างไร”

“เปิดสนามประลองเสร็จสิ้น เริ่มต้นการใช้งาน”

เมื่อเสียงการแจ้งเตือนของระบบจบลง ซูเจินก็พบว่าตัวของเขาในตอนนี้กําลังยืนอยู่บนเวทีที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยที่บริเวณรอบข้างเต็มไปด้วยความมืดมิดจนมองไม่เห็นอะไรเลย ตรงข้ามกับเวทีที่สว่างมาก

“สนามประลองมันไม่เล็กเกินไปหน่อยงั้นหรอ ? นายสามารถขยายมันได้ไหม ?” ซูเจินถามขึ้นมา

“ยิ่งมีตัวละครอยู่ในสนามประลองมากเท่าไหร่ โฮสต์ก็จะสามารถขยายขนาดของสนามประลองได้มากขึ้นเท่านั้น”

“เอาล่ะ! ต้องอัพเกรดอย่างเดียวสินะ”

ซูเจินยิ้มขึ้นมาด้วยความเบื่อหน้าเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังจอภาพโฮโลแกรมที่อยู่เหนือหัวของเขา ซึ่งภายในจอภาพโฮโลแกรมอันนั้นมันมีคน ๆ หนึ่งปรากฏอยู่ นั่นก็คือ แคลร์ หรือ อันเดดเกิร์ล

“มีคนเดียวเองงั้นหรอ ? ไม่มีคนในโลกมาเวลที่มีค่าความสัมพันธ์ถึง 80% เลยอย่างงั้นหรอ ?” ซูเจินขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เพราะว่าสกายก็น่าจะมีค่าสัมพันธ์ไม่น้อยกว่า 80% ไม่ใช่หรือไง

“โฮสต์โปรดสังเกตบนหน้าจอให้ละเอียด เพราะตัวละครที่แสดงอยู่คือตัวละครที่อยู่ภายในดันเจี้ยน ส่วนตัวละครที่มีลูกศรอยู่ข้าง ๆ นั่นก็คือตัวละครจากโลกมาเวล อย่างไรก็ตามตอนนี้ระดับของระบบมันต่ําเกินไป ดังนั้นโฮสต์จึงไม่สามารถเลือกตัวละครจากโลกมาเวลได้ในขณะนี้”

“โอเค!”

หลังจากฟังคําอธิบายของระบบ อารมณ์ของซูเจินก็ดีขึ้นมาเล็กน้อย

ดังนั้นซูเจินก็เลยลองกดเลือกไปที่แคลร์บนจอภาพโฮโลแกรมดู

หลังจากนั้นไม่นานก็ค่อย ๆ มีลําแสงปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของซูเจินพร้อมกับร่างของแคลร์ที่ค่อย ๆ ปรากฏตัวออกมา

” ที่นี่มันคือที่ไหน ? ฉันไม่ได้อยู่ในรถของพ่ออย่างงั้นหรอ ? แล้วทําไมจู่ ๆ ฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ? ซูเจิน … คุณก็อยู่ที่นี่ด้วยงั้นหรอ ?” แคลร์มองไปรอบ ๆ ด้วยความสับสนหลังจากที่เธอปรากฏตัวขึ้นมาที่ไหนก็ไม่รู้ และเมื่อเธอสังเกตเห็นซูเจิน เธอก็รีบเดินเข้ามาหาเขาและถามขึ้นมาด้วยความมึนงง

ซึ่งซูเจินก็ตกตะลึงกับปฏิกิริยาของแคลร์เช่นกัน เขาส่ายหัวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับถามระบบขึ้นมาภายในจิตใจว่า ” ทําไมมันถึงได้เป็นแบบนี้ล่ะ ? เพราะดูยังไงเธอก็ … ดูเหมือนว่าจะมีตัวตนอยู่จริง ๆ นายส่งตัวของแคลร์มาที่นี่อย่างงั้นหรอ ? เธอไม่ใช่ตัวละครที่ถูกคัดลองข้อมูลมาจากต้นฉบับอย่างงั้นหรอ? “

“นี่คือตัวจริงของเธอ เพราะเมื่อค่าความสัมพันธ์ถึง 80% หรือมากกว่าวิญญาณของเธอก็จะถูกผูกมัดเข้ากับโฮสต์หรือระบบโดยอัตโนมัติ เมื่อโฮสต์กดเลือกเธอมาเธอก็จะมาปรากฏตัวที่นี่ แต่ โฮสต์ก็สามารถวางใจได้เพราะว่าเวลาในโลกภายนอกจะหยุดนิ่ง ดังนั้นโฮสต์จึงไม่จําเป็นที่จะต้องกังวลว่าเธอจะเกิดอันตรายอะไรเมื่อเธอออกไป และโฮสต์ก็ยังสามารถลบความทรงจําของเธอได้อีกด้วย เพื่อที่จะไม่ให้เธอจําได้ว่าเคยมาที่นี่!”

ดูเหมือนว่าครั้งนี้ระบบจะอธิบายให้กับเขาได้ชัดเจนมากเลยทีเดียว

หลังจากที่ซูเจินเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ตรงนี้คร่าว ๆ แล้ว เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันทีพร้อมกับยิ้มให้กับแคลร์และพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ที่นี่ไม่มีอันตรายอะไรหรอก เพราะว่าที่นี่เป็นพื้นที่ในอีกมิติหนึ่งของผมเอง”

” แล้วคุณพาฉันมาที่นี่ได้อย่างไร ?” แคลร์ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

“มันเป็นหนึ่งในความสามารถของผมน่ะ เพราะว่าผมมีความสามารถพิเศษอยู่มากมาย”

“แล้วคุณพาฉันมาที่นี่ทําไม ?” แคลร์ถามขึ้นมา

“ทําอะไรอย่างงั้นหรอ ?”

ซ่เงินไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี เพราะเดิมที่ที่นี่มีไว้สําหรับการต่อสู้ แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะต่อสู้กับแคลร์ ? หลังจากซูเจินลองคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดูแล้ว เขาก็บังเอิญนึกหัวข้อหนึ่งขึ้นมาและพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก ผมก็แค่อยากจะถามคุณว่าเจ็บไหม ?

“อะไรนะ ?” แคลร์ที่กับชะงักไปชั่วครู่หนึ่ง พร้อมกับค่อย ๆ ก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัวและพูดว่า “ไม่…มันไม่เจ็บแล้ว”

“โอ้! ดีแล้วล่ะ ทําให้ผมในตอนนี้รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเยอะเลย เพราะผมกลัวว่าคุณจะยังเจ็บปวดอยู่ และผมก็หวังว่าคุณจะเข้าใจในเจตนาของผมจากเรื่องที่ผมได้ทําลงไป”

ซูเจินอธิบายขึ้นมาอย่างช้า ๆ ส่วนใบหน้าของแคลร์ในตอนนี้ก็เริ่มกลายเป็นสีแดงพร้อมกับพยักหน้าขึ้นมาเบา ๆ และไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมา เพราะว่าตอนนี้เธอรู้สึกอายเป็นอย่างมาก

“คุณเงยหน้าขึ้นมาได้แล้ว ผมจะส่งตัวของคุณกลับไป”

ซูเจินส่ายหัวขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมกับกดส่งตัวของแคลร์ออกไป แต่ในขณะที่เขากําลังจะส่งตัวของแคลร์ออกไปมันก็มีข้อความปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอโฮโลแกรมว่า

“คุณต้องการลบความทรงจํา ใช่/ไม่”

“ใช่!”

ซูเจินกดเลือกไปที่ใช้ในทันที และเขาก็สังเกตเห็นว่าร่างของแคลร์ก็ค่อย ๆ หายไปอย่างช้า ๆ และดูเหมือนว่ามันจะต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะเรียกเธอมาที่นี่ได้อีกครั้งหนึ่งซึ่งในตอนนี้ซูเจินก็ค่อนข้างที่จะคุ้นกับฟังก์ชั่นนี้ของระบบเรียบร้อยแล้ว

“เอาฉันออกไปจากที่นี่”

หลังจากที่เข้าใจเกี่ยวกับสนามประลองคร่าว ๆ แล้ว ซู่เจินก็ออกมาจากสนามประลองทันที

ซึ่งในแผนการแรกของเขาก็คือการไปที่ญี่ปุ่นเพื่อตามหา ฮิโรชิ นากามูระ และกลืนกินความสามารถของเขา แต่เมื่อเขาลองมาคิดดูอีกที่แล้ว บางทีเขาอาจจะไม่ต้องไปที่ญี่ปุ่นก็ได้ แต่เขาควรไปที่นิวยอร์คแทน เพราะว่าความสามารถของฮิโรชิ นากามูระ จะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นที่นิวยอร์ค อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะไปที่นิวยอร์คเขาจะต้องกลืนกินความสามารถของคนที่เก่ง ๆ ที่อยู่ที่นี่ก่อน เพราะถ้าเกิดว่าเขาสามารถกลืนกินความสามารถจนภารกิจสําเร็จได้มันก็จะดีมาก ดังนั้นเขาจึงจะได้มีเวลาเหลือในการตรวจสอบดูว่าความสามารถในดันเจี้ยนแห่งนี้มันแข็งแกร่งจริงหรือปล่าว ? หรือว่ามันจะเป็นเพราะความสามารถของอันเดดเกิร์ลอย่างเดียว ที่มันเกิดอาการต่อต้านอย่างรุน แรงแบบนั้น

“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องรีบหน่อยแล้ว ไม่อย่างนั้นเซอร์ร่าจะชิงความได้เปรียบไปได้ง่าย ๆ”

ซูเจินบ่นพึมพําขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมกับรีบออกจากโรงแรมไปอย่างรวดเร็ว

ในโลกใบนี้มีความสามารถอยู่มากมาย ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ แต่ก็ยังมีสาวน้อยอยู่คนหนึ่งที่ชื่อว่า จัสมิน ที่มีความสามารถในการระบุตําแหน่งของใครก็ได้บนโลกใบนี้ ซึ่งมันก็ดูเหมือน กับว่าเธอเป็น GPS ในรูปแบบของมนุษย์ และถ้าเกิดว่าเขาสามารถเอาความสามารถของเธอมาได้การที่เขาจะตามหาคนที่มีความสามารถคนอื่น ๆ มันก็จะง่ายดายยิ่งขึ้น