บทที่ 49 โอกาสรอด (ต้น)
เป๋ากังระเบิดเสียงหัวเราะ “ได้เลยสหายนั่นไม่ใช่ปัญหา! ค่ายเมฆาทมิฬของเรายินดีต้อนรับจอมยุทธจากทั่วทุกสารทิศอยู่แล้ว เอาล่ะในเมื่อพวกเราเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกันแบบนี้พวกเรามาช่วยกันกำจัดพวกหมารับใช้ของตระกูลอวี้ด้วยกันก่อนดีไหม?”
แม้ว่าเป๋ากังจะพูดขึ้นอย่างเป็นมิต รแต่ในใจของเขากลับคิดอีกอย่าง การจู่โจมตระกูลอวี้เป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจเสี่ยงให้ข่าวนี้รั่วไหลออกไปได้ หากชายปริศนาผู้นี้หนีไปได้ มันจะสร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้กับพวกเขาในอนาคต
เหตุผลเดียวที่เขายังไม่โจมตีชายปริศนาผู้มาใหม่ก็เพราะเขาไม่แน่ใจในภูมิหลังของชายผู้นี้ ตัวเขาเองก็ไม่ว่างปลีกตัวออกไปจัดการกับชายผู้มาใหม่เช่นกัน เนื่องจากเขาจำเป็นต้องรับมืออยู่กับหัวหน้าผู้คุ้มกันตระกูลอวี้
ดังนั้นแผนการที่ดีที่สุดที่เขาคิดได้ในตอนนี้มันจึงกลายเป็นว่าเขาจะแสร้งร่วมมือกับชายปริศนาคนนี้ไปก่อนจนกว่าพวกตระกูลอวี้จะตายหมด จากนั้นเขาถึงค่อยฆ่าไอ้ชายปริศนาผู้นี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องในอนาคต
จากที่เขาเดาเอาไว้ ชายผู้นี้ไม่น่าจะแข็งแกร่งเกินระดับห้าแน่ ๆ ไม่งั้นชายคนนี้คงจะจัดการกับพวกตระกูลอวี้ด้วยตัวเองไปแล้วไม่จำเป็นต้องมาขอความร่วมจากพวกเขาแบบนี้
ที่ด้านหลังพุ่มไม้จี้เสี่ยวซีรู้สึกสับสนอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน นางไม่แน่ใจว่าซูอันพยายามทำอะไรกันแน่ ถ้านางไม่รู้เกี่ยวกับอาการนกเขาไม่ขันของซูอันนางคงจะมองว่าซูอันเป็นพวกโจรบ้ากามไม่ต่างจากพวกค่ายเมฆาทมิฬไปแล้วแน่นอน
“ข้าเห็นด้วยกับท่านเป็นอย่างยิ่ง!” ซูอันหัวเราะจากนั้นเขาดึงมีดออกจากเอวและพุ่งออกไปปะทะกับหนึ่งในผู้คุ้มกันของตระกูลอวี้ทันที
ผลของการปะทะคือคนคุ้มกันของตระกูลอวี้ ผู้นั้นโซเซเล็กน้อยจากแรงปะทะในขณะที่ซูอันถูกกระแทกจนถอยกลับไปหลายเมตร
ผู้คนของค่ายเมฆาทมิฬ: “…”
ผู้คนของตระกูลอวี้: “…”
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าพวกเขาได้พบกับยอดยุทธในถิ่นทุรกันดาร แต่มันกลับกลายเป็นว่าไอ้คนผู้นี้ระดับการบ่มเพาะยังไม่ถึงระดับสามด้วยซ้ำ!?
———————————————————————————————
ท่านยั่วยุ เป๋ากัง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!
ท่านยั่วยุ ลูกสมุนโจรแห่งค่ายเมฆาทมิฬหมายเลขหนึ่ง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!
ท่านยั่วยุ ลูกสมุนโจรแห่งค่ายเมฆาทมิฬหมายเลขสอง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!
ท่านยั่วยุ ลูกสมุนโจรแห่งค่ายเมฆาทมิฬหมายเลขสาม สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!
…
———————————————————————————————
เป๋ากังรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมากที่เมื่อครู่เขาแสดงท่าทีเอาใจอยากให้ฝั่งตรงข้ามมาเข้าร่วมกับตัวเองจนออกนอกหน้าราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นคนระดับเดียวกันกับเขา ทว่าตอนนี้มันกลับกลายเป็นว่าไอ้ชายหนุ่มผู้นี้กลับเป็นเพียงแค่ผู้บ่มเพาะระดับสองเท่านั้น! นี่มันทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกหลอก
เขารู้สึกอยากที่จะจบชีวิตของชายตรงหน้าให้ตายคามือเขาเสียตอนนี้ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็กังวลว่าเหตุการณ์เมื่อครู่มันอาจเป็นเพียงแค่การแสดงของฝั่งตรงข้ามเท่านั้น แท้จริงแล้วฝั่งตรงข้ามอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งแต่แกล้งทำเป็นอ่อนแอให้เขาตายใจแสดงธาตุแท้ออกมาก็ได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะระงับความอยากของเขาในตอนนี้
เจ้ากล้าหลอกข้าเหรอ? รอจนกว่าไอ้พวกตระกูลอวี้มันตายจนหมดก่อนเถอะ ข้าจะถลกหนังเจ้าทั้งเป็น!
———————————————————————————————
ท่านยั่วยุ เป๋ากัง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +199!
———————————————————————————————
เมื่อมองไปที่แก้มที่กระตุกของ เป๋ากังซูอันรู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังเบ่งบานด้วยความสุข ไอ้คนผู้นี้ใจดีจริง ๆ ให้คะแนนความโกรธเรารัว ๆ เลยแหะ
จากนั้นต่อมาซูอันก็ไม่พุ่งเข้าไปจู่โจมแบบพรวดพราดอีกต่อไป เขาเลือกที่จะวิ่งไปรอบ ๆ พื้นที่การต่อสู้แทนและโจมตีบ้างเมื่อมีโอกาส ซึ่งแน่นอนว่าการโจมตีของเขามันไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับคนของตระกูลอวี้เลย
เพราะอันที่จริงการที่เขาวิ่งไปรอบ ๆ นั้นมันเป็นเพราะเขาพยายามที่จะสัมผัสถึงประสบการณ์การต่อสู้และทำความเข้าใจกับความแข็งแกร่งของตัวเองให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็ไม่เคยอยู่ในสถานการณ์จริงมาก่อน แม้ว่าเขาจะจัดการกับดอกบ๊วยสิบสองได้ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การกระทำของเขาทำให้ผู้คนของค่ายเมฆาทมิฬกัดฟันกรอดด้วยความหงุดหงิด เพราะไม่เพียงแต่ซูอันจะไม่ช่วยอะไร หลายครั้งการลงมือของซูอันกลับขัดขวางการโจมตีของพวกเขาต่อคนของตระกูลอวี้อีกต่างหาก! ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งของเจ้านายพวกเขาซึ่งก็คือเป๋ากัง ป่านนี้พวกเขาคงบั่นคอซูอันไปนานแล้ว!
———————————————————————————————
ท่านยั่วยุ ลูกสมุนโจรแห่งค่ายเมฆาทมิฬหมายเลขหนึ่ง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!
ท่านยั่วยุ ลูกสมุนโจรแห่งค่ายเมฆาทมิฬหมายเลขสอง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!
ท่านยั่วยุ ลูกสมุนโจรแห่งค่ายเมฆาทมิฬหมายเลขสาม สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!
…
———————————————————————————————
หลังจากการต่อสู้ผ่านไปอีกช่วงสั้น ๆ ในที่สุดบรรดาคนคุ้มกันของตระกูลอวี้ก็ถูกจับกุมตัวทั้งหมด แต่เป๋ากังกลับเลือกที่จะไม่ฆ่าพวกเขาทันที
เป๋ากังยังต้องการดึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับตระกูลอวี้ ออกจากผู้คุ้มกันเหล่านี้ และในเวลาเดียวกันเขาวางแผนจะใช้คนพวกนี้ต่อรองอะไรบางอย่างกับนายหญิงใหญ่ของตระกูลอวี้
ในขณะเดียวกัน เมื่อเห็นว่าผู้คุ้มกันของตระกูลอวี้ถูกควบคุมตัวเอาไว้หมดแล้ว ซูอันก็ลูบมือของเขาพร้อมกับแสดงสีหน้าหื่นกระหายและเริ่มเดินไปที่รถม้า “ในที่สุด ข้าก็จะได้เห็นใบหน้าอันงดงามของนายหญิงใหญ่แห่งตระกูลอวี้แล้ว!”
“ตระกูลอวี้จะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!” ผู้คุ้มคนกันหนึ่งที่มีดาบจ่ออยู่ที่คอจ้องไปที่ซูอันด้วยสายตาอาฆาตแค้น
———————————————————————————————
ท่านยั่วยุ อวี้ปิน สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +299!
ท่านยั่วยุ อวี้จวิน สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +299!
ท่านยั่วยุ อวี้เมิ่ง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +299!
…
———————————————————————————————
ซูอัน หัวเราะเบา ๆ “เราอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ตระกูลอวี้จะไม่มีวันรู้ว่าข้าทำอะไรที่นี่!”
“เฮ้ไอ้หนุ่ม! ใครอนุญาตให้เจ้าเข้าไปก่อนเป็นคนแรก?” เสียงคำรามอันเย็นชาของเป๋ากังดังขึ้นจากด้านหลัง
ดวงตาของซูอันหรี่ลง “เจ้าหมายความว่ายังไง?”
เป๋ากัง โบกมือส่งสัญญาณให้กลุ่มคนชุดดำก็ล้อมซูอันไว้ทันที “ไม่มีใครในที่นี้จะไม่สนใจความงดงามของนายหญิงใหญ่แห่งตระกูลอวี้ แต่นางมีแค่คนเดียวในขณะที่พวกข้ามีกันตั้งมากมาย เอาแค่จำนวนของพวกข้าเองมันก็น่าจะวนกันไม่ครบแล้ว แล้วเจ้าเป็นใครกันที่คิดจะมาแบ่งปันนางกับพวกข้า?”
“นี่พวกเจ้าคิดจะใช้งานข้าโดยไม่ตอบแทนงั้นเหรอ?” ซูอันชี้ไปที่เป๋ากัง ขณะที่ร่างกายของเขาสั่นเทาไปด้วยความโกรธ
“ถุย!” เป๋ากัง ถ่มน้ำลายด้วยอารมณ์โมโห “ยังมีหน้ามาทวงบุญคุณอีกงั้นเหรอ? ด้วยระดับการบ่มเพาะเท่าหางอึ่งของเจ้า ต่อให้ไม่มีเจ้าพวกข้าก็จัดการกันเองได้ ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเจ้าเอาสมองส่วนไหนคิดว่าเจ้ามีดีพอจะมาต่อรองกับข้า!?
หลังจากเฝ้ามองอยู่ตลอด เป๋ากังมั่นใจแล้วว่าระดับการบ่มเพาะของซูอันอยู่ในระดับสองเท่านั้น ซูอันไม่ได้แสร้งทำเป็นอ่อนแออย่างที่เขากังวลในตอนแรกแน่นอน
“พี่น้องทั้งหลาย สับมันให้ละเอียดแล้วเอาเนื้อมันกลับไปให้หมาที่ค่ายกิน!” เป๋ากังออกคำสั่งให้คนของเขาสังหารซูอันทันทีพร้อมกับรู้สึกปลอดโปร่งเป็นอย่างมาก ที่ในที่สุดความอัดอั้นที่เขามีต่อซูอันถูกระบายออกในที่สุด
“พวกเจ้าหยุดกันให้หมด!”
ในขณะเดียวกัน เมื่อเห็นว่าซูอันกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังจี้เสี่ยวซีก็หมดความอดทน ถึงแม้ว่านางจะไม่แน่ใจว่าซูอันกำลังทำอะไรอยู่ แต่นางรู้ว่าถ้านางไม่เข้ามาแทรกแซงในตอนนี้ซูอันจะต้องตายทันทีแน่นอน
“มีอีกคนคอยเฝ้ามองอยู่จริง ๆ ด้วย!” เป๋ากัง อุทานขึ้น อันที่จริงเขารู้สึกได้ลาง ๆ อยู่ตลอดว่ามีใครบางคนซ่อนตัวอยู่ในทิศทางนั้น แต่เนื่องจากซูอันกระโดดออกมาและดึงดูดความสนใจส่วนใหญ่ของเขาไปจนหมดเขาจึงสรุปไปว่ามันคงมีซูอันแค่คนเดียว เขาประมาทเกินไปจริง ๆ ถ้าหากผู้หญิงคนนี้หนีออกจากพื้นที่ไปได้และเผยแพร่ข่าวการกระทำของพวกเขา… แค่คิดแค่นี้มันก็ทำให้เขาเหงื่อตกไปจนถึงเป้ากางเกงแล้ว!
“ฮ่าฮ่าฮ่า หัวหน้าสาม! พวกเรามีสาวสวยเพิ่มมาอีกหนึ่งคนให้ได้เล่นสนุกแล้ว! ดูเหมือนว่าวันนี้สวรรค์จะเข้าข้างพวกเราเป็นพิเศษเลยทีเดียว!” เมื่อเห็นหน้าตาอันงดงามของจี้เสี่ยวซีเหล่ากลุ่มคนชุดดำต่างก็เริ่มส่งเสียงโห่ร้องด้วยสีหน้ายืนดี
แม้ว่าพวกเขาจะบอกว่าพวกเขาจะสนุกกับนายหญิงใหญ่ตระกูลอวี้ก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาก็รู้ฐานะของตัวเองดีว่าจริง ๆ แล้วต่อให้พวกเขาจะจับกุมตัวนายหญิงใหญ่ของตระกูลอวี้ได้สำเร็จ มันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะได้เล่นสนุกกับผู้หญิงระดับนายหญิงใหญ่ของตระกูลอวี้แน่นอน ท้ายที่สุดคนที่จะได้เล่นสนุกก็คงมีแค่คนเดียวซึ่งก็คือนายใหญ่ของพวกเขาเฉินเสวียน
อย่างไรก็ตาม มันแตกต่างกับหญิงสาวคนนี้ที่เพิ่งโผล่ออกมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ถ้าพวกเขาสามารถจับนางได้ นางก็จะเป็นของพวกเขา!