บทที่ 50 โอกาสรอด (ปลาย)

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 50 โอกาสรอด (ปลาย)

“พ่อของข้าคือจี้เติ้งถูแห่งเมืองจันทร์กระจ่าง! หากเจ้าปล่อยเขาเราจะไม่เปิดเผยสิ่งที่เห็นในวันนี้!” จี้เสี่ยวซีทราบดีว่าด้วยระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของนางมันไร้ประโยชน์สำหรับนางที่จะเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามที่มีจำนวนหลักสิบแบบนี้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงนำชื่อพ่อของนางออกมาอวดอ้างเท่านั้น

กลุ่มโจรชุดดำประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่าๆๆ จี้เติ้งตูเป็นเพียงหมอคนหนึ่ง เจ้าคิดว่าหมอคนหนึ่งจะทำให้พวกข้ากลัวได้งั้นเหรอ?”

“หุบปากของพวกเจ้าไปเดี๋ยวนี้!” เป๋ากังขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของจี้เสี่ยวซี เมื่อนานมาแล้วเขาเคยได้ยินพี่ชายคนโตของเขาพูดว่ามีคนสองสามคนในเมืองจันทร์กระจ่างที่พวกเขาไม่ควรจะไปล่วงเกินเด็ดขาดและหนึ่งในนั้นก็คือจี้เติ้งถู!

เป๋ากังลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ในที่สุดเขาก็ส่ายหัว “ถึงแม้ว่าข้าจะเคยได้ยินชื่อเสียงของจี้เติ้งถูแต่ข้าคงไม่อาจปล่อยเจ้าไปสร้างความเสี่ยงให้แก่พวกข้าได้ พี่น้องทั้งหลายจับนางเอาไว้! คนแรกที่จับนางได้สำเร็จข้าอนุญาตให้เล่นสนุกกับนางเป็นคนแรก!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้กลุ่มคนชุดดำต่างโห่ร้องกันด้วยความตื่นเต้นและพุ่งตัวออกไปหาจี้เสี่ยวซีทันทีเพื่อจับตัวนาง

“ลิ้มรสสุดยอดเคล็ดวิชาดีดนิ้วของข้าสักหน่อยเป็นไง!!”

ทันใดนั้นเองวัตถุบางก็พุ่งไปหาเป๋ากังอย่างรวดเร็วจากด้านหลังซึ่งแน่นอนว่า เป๋ากังเองก็รู้ตัวเช่นกันดังนั้น โดยไม่ลังเลเลย เขาหันไปฟันกระบี่สวนไปที่วัตถุที่กำลังพุ่งเข้ามาทันทีอย่างแม่นยำจนมันแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ! เนี่ยน่ะเหรอสุดยอดเคล็ดวิชาดีดนิ้วของเจ้า?” เป๋ากัง เยาะเย้ยอย่างไรก็ตาม หลังจากหัวเราะไปด้วยแค่เพียงอึดใจเดียวจู่ ๆ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นขาวซีด “จ-เจ้า…”

จากนั้นเขาก็ล้มลงกับพื้นก่อน แม้แต่สหายรอบตัวเขาก็ทรุดตัวลงเช่นกัน

“หัวหน้าสาม ท่านเป็นอะไร!?” กลุ่มคนชุดดำคนอื่น ๆ รีบวิ่งไปช่วยเขาทันที แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา พวกเขาก็ทรุดตัวลงกับพื้นเช่นกัน

เมื่อเห็นสิ่งนี้ซูอันก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก อันที่จริง เขาหาโอกาสให้พวกโจรมารวมตัวกัน เพื่อที่เขาจะได้ใช้ขวดพิษของเขา อย่างไรก็ตามในขณะที่เขากำลังจะประสบความสำเร็จ การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของจี้เสี่ยวซีเกือบจะขัดขวางแผนการของเขาเสียแล้ว

ตัวเขาคิดว่าคงจะต้องต่อสู้กับพวกโจรที่เหลือซึ่งอยู่นอกระยะของขวดพิษ แต่โชคดีที่โจรพวกนี้โง่กว่าที่เขาคิด พวกมันห่วงผู้นำของตัวเองเกินไปจนวิ่งเข้าไปในระยะขวดพิษของเขาครบกันทุกคน ดังนั้นซูอันจึงไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงอีกต่อไป

“ไอ้เด็กเปรต! แกใช้เวทมนตร์อะไรกับพวกข้า!” เป๋ากังตะโกนขึ้นอย่างฉุนเฉียว เขาสัมผัสได้ว่าตอนนี้เขาไม่สามารถใช้พลังชี่ในร่างกายของตัวเองได้เลยแม้แต่น้อยรวมไปถึงรู้สึกชาไปทั้งร่างกายจนไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว

———————————————————————————————

ท่านยั่วยุ เป๋ากัง สำเร็จได้รับคะแนนความโกรธแค้น +333!

———————————————————————————————

“ข้าบอกเจ้าแล้ว นี่คือสุดยอดเคล็ดวิชาดีดนิ้วของข้า เมื่อไหร่ที่ข้าใช้วิชานี้ สิ่งมีชีวิตทุกอย่างภายในระยะ 10 จั้ง จะไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ นี่คือราคาสำหรับการล่วงเกินบิดาของเจ้าผู้นี้!” แม้จะพูดอย่างนั้นซูอันก็ไม่กล้าเข้าใกล้เป๋ากังมากเกินไปนัก เขาไม่แน่ใจว่ายังมีพิษตกค้างอยู่ในพื้นที่หรือไม่ หากเขาถูกวางยาพิษด้วยสถานการณ์มันจะพลิกกลับกลายเป็นเขาเองที่ซวย

“ข-ข้าเข้าใจแล้ว! ผู้น้อยไม่สมควรเลยที่ดูถูกท่านแบบนั้น” เป๋ากังเปลี่ยนน้ำเสียงของเขาอย่างรวดเร็วหลังจากตระหนักถึงสถานการณ์ที่เขาอยู่ ไอ้คนผู้นี้แสร้งทำเป็นอ่อนแอตลอดเวลา! “นายหญิงใหญ่ตระกูลอวี้อยู่ที่นั่น หากท่านอยากจะทำอะไรกับนางก็เชิญเลย พวกเราจะไม่แข่งขันกับท่านเพื่อนางอีกต่อไปแน่นอน!”

คนคุ้มกันของตระกูลอวี้ยังคงงงงวย ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนพวกเขาเริ่มตามไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์สักเท่าไหร่

“ถุย!” เมื่อคิดว่าตอนนี้ฤทธิ์ของยาพิษน่าจะกระจายหายไปเป็นส่วนใหญ่แล้ว ในที่สุดซูอันก็เดินไปหา เป๋ากังและตบหน้าเขาด้วยด้ามจับมีด “เฮ้ เจ้าคิดว่าตอนนี้เจ้าอยู่ในสถานะที่จะต่อรองกับข้าได้งั้นเหรอ? เมื่อครู่ใครกันที่บอกว่าจะสับข้าจนละเอียดและจะเอาเนื้อของข้าไปให้หมากิน? และใครกันที่บังอาจคิดจะล่วงเกินเสี่ยวซีของข้า?”

จี้เสี่ยวซีที่รีบวิ่งเข้ามา พลันเมื่อนางได้ยินซูอันเอ่ยถึงนางอย่างสนิทสนมใบหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อขึ้นมาทันที

———————————————————————————————

ท่านยั่วยุ เป๋ากัง สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +147!

———————————————————————————————

ในฐานะหัวหน้าลำดับสามของค่ายเมฆาทมิฬ เป๋ากังได้ใช้ชีวิตเยี่ยงราชามาโดยตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ต้องพูดถึงการถูกเอามีดตบหน้าแบบนี้ซึ่งมันไม่เคยมีแน่นอน แม้แต่ในความฝันของเขาเอง!

“ผู้อาวุโส…ข้ามีตาหามีแววไม่ โปรดเมตตาข้าด้วย หากท่านปล่อยข้าไปค่ายเมฆาทมิฬ จะไม่ลืมความเมตตาของท่านในครั้งนี้อย่างแน่นอนข้าให้สัญญา!” ถึงแม้ว่า เป๋ากังจะโกรธเคืองอยู่ในใจ แต่เขายังสามารถควบคุมสติอารมณ์ได้และนำชื่อค่ายเมฆาทมิฬออกมาโดยหวังว่าจะสามารถกดดันซูอันให้ละเว้นชีวิตเขา

ในทางกลับกันซูอันกลับรู้สึกขบขันกับการใช้คำพูดของเป๋ากัง “โอ้? อยากได้ความเมตตาจากข้างั้นเหรอ? ได้เลย! อันที่จริงข้าไม่ใช่คนใจร้ายอะไรอยู่แล้วข้าเป็นคนที่ชอบให้โอกาสคนเสมอนั่นแหละ! เอาล่ะ ข้าจะให้โอกาสเจ้าและพวกของเจ้าทุกคน ตราบเท่าที่พวกเจ้าทุกคนสามารถตอบคำถามของข้าได้ดีจนข้าพึงพอใจ ข้าจะละเว้นชีวิตของพวกเจ้า!”

หัวหน้าคนคุ้มกันตระกูลอวี้ ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของซูอันเขารีบตะโกนขึ้นทันที “ท่านต้องไม่ปล่อยพวกมันไป! พวกมันเป็นอาชญากรที่เลวทรามที่สังหารผู้บริสุทธิ์ไปแล้วจำนวนมากมาย”

ซูอันกลอกตาไปที่หัวหน้าคนคุ้มกันตระกูลอวี้อย่างเบื่อหน่าย “ใครอนุญาตให้เจ้าพูด? ถ้าเจ้าต้องการที่จะตัดสินใจว่าจะจัดการกับพวกมันอย่างไร ทำไมเจ้าไม่จับพวกมันไว้ก่อนหน้านี้ด้วยตัวเอง?”

ใบหน้าของหัวหน้าคนคุ้มกันตระกูลอวี้แดงขึ้นเพราะความโกรธ แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยเพราะก่อนหน้านี้ร่างของเขาถูกสกัดจุดเอาไว้โดย เป๋ากัง ซึ่งมันทำให้เขาไม่สามารถขยับไปไหนมาไหนได้

———————————————————————————————

ท่านยั่วยุ อวี้ปิน สำเร็จได้รับคะแนนความโกรธแค้น +111!

———————————————————————————————

ซูอัน หันไปมองกลุ่มโจรค่ายเมฆาทมิฬและถามว่า “ข้าจะเริ่มจากเจ้า เจ้าเล่นเครื่องดนตรีอะไรได้บ้าง”

โจรผู้โดนถามแสดงสีหน้าตกตะลึงจากนั้นเขาตอบกลับ “ข้าเล่นเครื่องดนตรีไม่ได้” ทำไมโจรอย่างเขาที่หาเลี้ยงชีพจากการปล้น ต้องเรียนรู้วิธีการเล่นเครื่องดนตรี?

“การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้จะมีประโยชน์อะไรเมื่อเจ้าไม่สามารถเล่นดนตรีดี ๆ ได้” ซูอันเยาะเย้ยก่อนจบชีวิตโจรผู้นั้นด้วยการใช้มีดในมือปาดคอโจรอย่างเลือดเย็น

———————————————————————————————

ท่านยั่วยุ กองโจรค่ายเมฆาทมิฬ สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666!

———————————————————————————————

ต่อมาซูอันเดินไปหาโจรที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดอีกคนและถามว่า “แล้วเจ้าล่ะ? เจ้าเล่นเครื่องดนตรีอะไรได้บ้าง?”

โจรผู้นั้นกลืนน้ำลายดังเอื๊อก เขาไม่สามารถเล่นเครื่องดนตรีใด ๆ ได้เช่นกัน แต่ศพของเพื่อนของเขายังอุ่น ๆ อยู่เลย ดังนั้นมันจึงไม่มีทางแน่นอนที่เขาจะกล้าพูดว่าตัวเองเล่นไม่เป็น หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งประกายความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของเขาซึ่งมันทำให้เขาตอบกลับไปในทันที “ข้าผิวปากได้!”

“ในโลกที่พลังกำลังคือการแก้ปัญหา เจ้าคิดว่าการผิวปากเป็นการเล่นเครื่องดนตรีงั้นเหรอ?” ซูอันจบชีวิตโจรคนใหม่ด้วยมีดในมือของเขาเหมือนเดิม

———————————————————————————————

ท่านยั่วยุ กองโจรค่ายเมฆาทมิฬ สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666!

———————————————————————————————

จี้เสี่ยวซีผู้มีจิตใจอ่อนโยนไม่สามารถยืนดูภาพอันโหดร้ายนี้ได้อีกต่อไป ดังนั้นนางจึงเดินไปดึงแขนเสื้อของซูอันอย่างเงียบ ๆ “พี่ใหญ่ซู มันไม่โหดร้ายเกินไปหน่อยงั้นเหรอในการทำแบบนี้?”

ซูอัน ถอนหายใจยาว “เฮ้อ…เสี่ยวซี เจ้าใจดีเกินไป หากเป็นทางกลับกันที่เราไปตกอยู่ในมือของพวกมัน ป่านนี้ข้าคงโดนสับจนละเอียดไปแล้วส่วนเจ้า…เอาเป็นว่าเจ้าเองก็คงไม่รอดเหมือนกันในท้ายที่สุด นอกจากนี้ ข้าไม่ได้ให้โอกาสพวกเขารอดหรอกเหรอ? ตราบใดที่พวกเขาสามารถให้คำตอบที่น่าพอใจแก่ข้าได้ ข้าก็จะไว้ชีวิตพวกเขาถูกต้องไหมล่ะ?”

บรรดาโจรค่ายเมฆาทมิฬ แทบจะร้องไห้เมื่อได้ยินเช่นนี้ คำถามบ้า ๆ แบบนี้นับเป็นการให้โอกาสพวกข้ารอดอย่างงงั้นเหรอไอ้โรคจิตเอ๊ย!