บทที่ 51 คำถามที่น่ากลัว (ต้น)
ซูอันไม่รู้ว่าฤทธิ์ยาจะอยู่ได้นานแค่ไหน ดังนั้นก่อนที่ฤทธิ์ยาจะหมดเขาตั้งใจเอาไว้ว่าจะต้องขจัดภัยเหล่านี้ให้หมดสิ้น ไม่งั้นมันจะเป็นเขาเองที่โดนโจรเหล่านี้รุมเล่นงานเมื่อพวกมันฟื้นจากพิษแล้ว
เขารู้สึกว่าแค่การที่เขาไม่ทรมานโจรพวกนี้ก่อนจะฆ่ามันก็เป็นอะไรที่ใจดีมากแล้ว หากเทียบกับพวก
ตัวเอกในนิยายทั้งหลายที่เขาเคยอ่านเมื่อชีวิตก่อนหน้านี้
เมื่อได้ยินเช่นนี้จี้เสี่ยวซีก็นึกไปถึงภาพสายตาอันน่ารังเกียจที่โจรเหล่านี้มองมาที่นางก่อนหน้านี้ดังนั้นนางจึงเริ่มรู้ลึกว่าสิ่งที่ซูอันพูดนั้นสมเหตุสมผล จึงปล่อยให้เขาได้ทำตามที่หวัง
ซูอัน เดินไปที่คนต่อไป คน ๆ นั้นชำเลืองมองดูสหายสองคนที่เสียชีวิตไปเมื่อครู่ก่อนจะเปล่งเสียงตะโกนออกมาว่า “ฆ่าข้าถ้าเจ้าต้องการ! ตัดเรื่องไร้สาระที่คนหน้าซื่อใจคดอย่างเจ้ากำลังพยายามทำ! พวกข้าทั้งหมดล้วนเป็นโจร ดังนั้นมันไม่มีใครทั้งนั้นที่รู้วิธีเล่นเครื่องดนตรีใด ๆ อย่างที่เจ้าต้องการ!”
คำพูดเหล่านั้นทำให้คิ้วของซูอันขมวดเข้าหากัน “อย่างนั้นเหรอ? แย่จริง ๆ เลย งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า
ข้าจะเปลี่ยนไปใช้คำถามอื่นแทน เอาเป็นคำถามทั่วไปที่มนุษย์ควรจะตอบได้ก็แล้วกัน”
สมุนโจรไม่คิดว่าซูอันจะเปลี่ยนรูปแบบการตั้งคำถามของเขาในทันใด นัยน์ตาแห่งความยินดีฉายแววในดวงตาของเขาขณะที่เขาพูด “ได้ ถามข้ามา!”
ซูอัน ชี้ไปที่ใบหน้าของเขาและถามว่า “ข้าหล่อไหม?”
โจรตอบทันทีว่า “แน่นอน! ข้าไม่เคยเห็นผู้ชายหล่อเท่าเจ้ามาก่อน เจ้าคือชายที่หล่อที่สุดในเมือง
จันทร์กระจ่าง… ไม่สิ เจ้าคือชายที่หล่อที่สุดในโลก! แม้แต่เจ้าชายเอลฟ์ก็ยังอาจผูกคอตายได้หากเขาได้มาเห็นความหล่อเหลาของเจ้า! อ้อใช่แล้ว…แม้แต่ฮูหยินอวี้ที่เคยถูกกล่าวขานว่างามที่สุดในเมืองหลวงก็ยังไม่คู่ควรกับความหล่อเหลาของเจ้า!”
จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ต่อให้ซูอันจะมีหน้าตาเหมือนสุนัข โจรผู้นี้ก็ยังสามารถยกยอให้เขากลายเป็นสุนัขที่หล่อกว่ามนุษย์ได้!
เพื่อนโจรคนอื่น ๆ มองโจรคนที่เพิ่งชมซูอันด้วยสายตาเวทนา คิดว่าสหายของตัวเองคงลำบากเป็นอย่างมากกว่าจะคิดวลีที่อลังการออกมาได้ขนาดนี้เพื่อเอาชีวิตรอด
เปลวเพลิงแห่งความโกรธลุกโชนขึ้นในดวงตาของเหล่าผู้คุ้มกันตระกูลอวี้ทันทีเมื่อได้ยินโจรผู้นั้นพูดจาดูถูกนายหญิงของพวกเขา
———————————————————————————————
ท่านยั่วยุ อวี้เหยียนลั่ว สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +99!
———————————————————————————————
ซูอัน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับคะแนนความโกรธแค้นจากนายหญิงใหญ่แห่งตระกูลอวี้ ดูเหมือนว่าโจรคนนี้จะมีความพรสวรรค์ทางด้านชะเลียที่เยี่ยมยอดจริง ๆ
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของซูอันโจรก็ดีใจมาก เขาถามอย่างรวดเร็วว่า “คำตอบของข้าเป็นที่
น่าพอใจสำหรับเจ้าหรือเปล่า?”
“เจ้ารู้ดีเกินไป” เมื่อพูดจบซูอันตวัดมีดของเขาไปที่ลำคอของโจรทันทีโดยไม่ลังเล
———————————————————————————————
ท่านยั่วยุ กองโจรค่ายเมฆาทมิฬ สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666!
———————————————————————————————
ผู้คุ้มกันตระกูลอวี้ ตกตะลึง เหตุผลโง่ ๆ แบบนี้ก็ใช้ได้งั้นเหรอ?
“อุ๊บ~”
เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นจากรถม้า และมันก็เงียบลงอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างกลับคืนสู่ความเงียบ
ซูอัน เบนสายตาไปที่โจรคนที่สี่และถามว่า “คำถามเดียวกัน ข้าหล่อไหม?”
สายตาของโจรคนที่กำลังถูกถามกวาดไปมองศพของสหายตัวเองที่นอนอยู่รอบ ๆ พลางคิดว่าหากเขาอวยซูอันมากเกินไปชะตากรรมของเขาคงจบแบบเดียวกับคนก่อนหน้าเขาแน่นอนดังนั้นเขาจึงตะโกนขึ้นว่า “เจ้าน่าเกลียด แต่เต็มไปด้วยความเป็นชาย…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคซูอันได้เชือดคอของเขาซะแล้ว… “เจ้าต้องตาบอดแน่ ๆ”
———————————————————————————————
ท่านยั่วยุ กองโจรค่ายเมฆาทมิฬ สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666!
———————————————————————————————
เขาย้ายไปที่โจรคนที่ห้าและถามคำถามเดิมอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าอีกสองคนเสียชีวิตโดยไม่คำนึงว่าพวกเขาให้คำตอบในเชิงบวกหรือเชิงลบ โจรคนนี้เกือบ
จะฉี่ราดกางเกงของเขาเมื่อเขาเห็นซูอันยืนอยู่ตรงหน้าเขา เขาตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความกลัวว่า “ข้า… ข้าไม่รู้…”
ซูอัน ปาดคอหอยโจรคนที่ห้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถอนหายใจยาวและพูดว่า “เจ้าจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไปได้ยังไงอีก หากเรื่องแค่นี้เจ้ายังไม่รู้?”
———————————————————————————————
ท่านยั่วยุ กองโจรค่ายเมฆาทมิฬ สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +666!
———————————————————————————————
…
จากนั้นซูอันก็ถามต่อไปเรื่อย ๆ และเชือดคอพวกโจรไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ถึงตาของเป๋ากัง“เอาล่ะ ถึงตาเจ้าแล้ว”
เป๋ากังพ่นลมหายใจด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่ว่าข้าจะตอบแบบไหนเจ้าก็ฆ่าข้าอยู่ดี ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาเล่นตลกกับข้าอยากฆ่าก็ฆ่าเลย แต่ข้าบอกเอาไว้เลยว่าหลังจากนี้ข้ารับรองว่าพี่ชายทั้งสองคนของข้าจะแก้แค้นให้ข้าแน่นอน!”
ซูอัน พยักหน้าครุ่นคิดก่อนที่จะถอนหายใจและตอบว่า “เจ้าพูดถูก ก่อนหน้านี้ข้าไร้เหตุผลเกินไป
จริง ๆ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เป๋ากังแสดงสีหน้าอยากจะร้องไห้ ความไร้เหตุผลของเจ้าเกือบทำให้ข้าอึราดกางเกง
อยู่แล้ว!
“งั้นเรามาทำแบบนี้กันดีกว่า ข้าจะถามคำถามที่มีคำตอบตายตัวแก่เจ้า ตราบใดที่เจ้าตอบถูก ข้าสัญญาว่าข้าจะปล่อยเจ้าไป”ซูอันเอ่ยขึ้น
“รอบนี้เจ้าพูดจริงแน่นอนใช่ไหม” แม้ว่าเป๋ากังรู้ว่ามันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่สัญชาตญาณในการ
เอาชีวิตรอดของเขายังคงบังคับให้เขามีความหวังและพร้อมที่จะเล่มตามเกมของซูอันหากเขารอดไปได้จริง ๆ เขาจะสามารถปล้นเงินของผู้คนและนอนภรรยาของคนอื่นต่อไปได้ แต่ถ้าหากเขาตายไปแล้วความสุขทุกอย่างที่เขาสามารถไขว่คว้าได้ในอนาคตมันจะหายไปในทันที
ซูอัน พยักหน้าและตอบว่า “รอบนี้ข้าพูดจริงแน่นอน ข้าจะถามแต่คำถามที่มีคำตอบตายตัวอยู่แล้วเท่านั้น และถ้าหากเจ้าไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของข้าในภายหลัง ข้าจะบอกคำตอบที่ถูกต้องให้เจ้าด้วยเพื่อที่เจ้าจะได้ตายอย่างสงบ”
เป๋ากัง กัดฟันของเขา “งั้นถามคำถามของเจ้ามาเลย!”
ซูอัน พยักหน้าและพูดว่า “‘ร่วมงานเลี้ยงกินลิ้นจี่ 300 ผลทุกวัน’ ประโยคต่อจากนี้ไปคืออะไร?”
ไม่มีทางที่เจ้าจะตอบบทกวีโบราณที่มาจากโลกข้าได้แน่นอน!
ในทางกลับกัน ดวงตาของเป๋ากังกลับเปล่งประกายทันทีด้วยความสุข “ข้ารู้ ข้ารู้ อันนี้ข้ารู้! บรรทัดต่อไปคือ ‘ตลอดชีวิตข้าจะเป็นคนหลิงหนาน’“
ซูอันตกตะลึง เขาไม่คิดว่าวัฒนธรรมของโลกนี้จะคล้ายกับโลกก่อนของเขามากจนมีบทกวีบทเดียวกันแบบนี้ ในเมื่อเป็นแบบนี้มันก็หมายความว่าเขาไม่สามารถลอกเลียนบทกวีจากโลกของเขาเอามาอวดอ้างความสามารถทางวรรณกรรมของเขาได้ถูกต้องไหม?
“ผิด!”ซูอันแสดงสีหน้าเหี้ยมเกรียมและยกมีดขึ้นเตรียมที่จะปาดคอ เป๋ากัง
เป๋ากัง ตะโกนลั่นด้วยสีหน้าไม่ยินยอมทันที “เป็นไปไม่ได้ ข้าเคยได้ยินบทกวีนี้มาก่อน! ‘โลกแห่ง
ฤดูใบไม้ผลินิรันดร์ใต้ร่มเขาหลัวฟู ผลไม้มากพร้อม พฤกษาพรรณเก็บเกี่ยวสดใหม่ ร่วมงานเลี้ยงกินลิ้นจี่ 300 ผลทุกวัน ตลอดชีวิตข้าจะเป็นคนหลิงหนาน!’ [1]ข้ามั่นใจว่ามันถูกต้องแน่นอน! เจ้าพูดมาได้ยังไงว่าบทกวีที่ข้าพูดมันผิด!”
ซูอัน เยาะเย้ยอย่างเย็นชา “บรรทัดต่อไปมันต้องตอบว่า ‘ปีที่แล้วข้ากินลิ้นจี่ 109,500 ผล’ ต่างหาก! นี่เป็นคำถามคณิตศาสตร์ ไม่ใช่คำถามเกี่ยวกับบทกวี!” จากนั้นซูอันตวัดมีดทันที
“เจ้าขี้โกง ไอ้สารเลว!”
———————————————————————————————
ท่านยั่วยุ เป๋ากัง สำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +1000!
———————————————————————————————
ซูอัน เอามีดปาดไปมาที่เสื้อของเป๋ากังเพื่อเช็ดคราบเลือดออกจากนั้นเขาสูดหายใจเข้าลึกและพูดว่า “เอาล่ะตอนนี้เจ้ารู้คำตอบที่ถูกต้องแล้ว”
เอื้อก~
[1] บทกวีของ ซูซื่อ นักกวีจีนสมัยราชวงศ์