ตอนที่ 70 จะคิดบัญชีในไม่ช้า

ด้วยความตกตะลึงเธอพยายามปัดคำถามของเขา“ ตอนกินข้าว…แม่เผลอกัดมันน่ะ”

เขามองเธออย่างไม่เชื่อ

“แม่กินข้าวยังไง? กัดมันด้วยท่าเอียงแบบนี้เหรอ?”

โอ้ได้โปรด… ช่วยโกหกที่น่าเชื่อถือกว่านี้ได้ไหม เธอปฏิบัติกับเขาเหมือนเด็กหกขวบจริงๆเหรอ?

ถึงเขาจะอายุแค่หกขวบจริงๆก็เถอะ

เธอรู้สึกอายที่ลูกชายเห็นการโกหกของเธอจึงรีบพูดว่า “แม่กัดมันจริงๆ!”

แม้ว่าเธอจะไม่ได้กัดมันเองก็ตาม

ความเฉลียวฉลาดของโย่วโย่วเฉียบแหลมพอ ๆ กับพ่อของเขา เขามองเธอด้วยสายตาที่หรี่ลงและถามว่า “ใครเป็นคนกัด?”

หยุนซือซือนึกถึงผู้ชายคนนั้นก็ปวดหัวในทันที พ่อกับลูกเหมือนกันมากในลักษณะในตอนนี้

เธอหัวเราะเบา ๆ “แม่เผลอกัดมันเอง!”

เขาไม่ได้กดดันประเด็นนี้ต่อและพูดด้วยหน้ามุ่ย ๆ ว่า “แม่ต้องบอกโย่วโย่วนะครับว่าใครรังแกแม่ โย่วโย่วจะปกป้องแม่เอง!”

เธอหัวเราะออกมา เด็กคนนี้อาจจะอายุแค่หกขวบแต่ในบางครั้งเขาก็ดูจริงจังและเป็นผู้ใหญ่มาก เขาดูเก๋ากว่าเธอด้วยซ้ำ เธอไม่ได้คิดอะไรต่อเพียงแต่คิดว่าคำพูดของเขาเป็นคำพูดด้วยความเป็นห่วงที่เธอสัมผัสได้ เธอจูบที่หน้าผากของเขาและอุ้มขึ้นมาในอ้อมแขน

เขายิ้มให้เธออย่างอบอุ่นแม้ในขณะที่หัวใจจะกระตุกด้วยความเจ็บปวด

เห็นได้ชัดว่าแม่ยังเด็กเธอควรมีความสุขในวัยนี้ แต่กลับต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งเช่นนี้

เพื่อประโยชน์ในการเลี้ยงดูเขาเธอจึงทำงานและเรียนไปพร้อม ๆ กัน

ในช่วงที่ให้นมลูกเธอไม่กล้าที่จะต่อสู้กับตัวเอง ร่างกายของเธอเกือบจะยอมแพ้จากความเหนื่อยล้า

หลายต่อหลายครั้งเขาเกือบจะโพล่งความจริงเกี่ยวกับความสามารถที่มีของเขาต่อเธอ เขาสามารถหาเลี้ยงครอบครัวและปกป้องเธอ …

อย่างไรก็ตามเขากังวลว่าเธอจะไม่สามารถยอมรับความจริงนี้ได้และมองว่าเขาเป็นตัวประหลาด

เขาค้นดูใบเรียกเก็บเงินของเดือนที่ผ่านมาและจำนวนค่าใช้จ่ายก็ทำให้เขาตกใจ!

พวกเขาอาศัยอยู่ในย่านใกล้เขตการศึกษา ใจกลางเมืองมีพื้นที่เงียบสงบ มีสภาพแวดล้อมที่ดีและถือว่าปลอดภัยมาก นอกจากค่าเช่าที่แพงเกินไปแล้วค่าสาธารณูปโภคต่อเดือนก็ยังสูงมากเช่นกัน!

ยิ่งไปกว่านั้นเธอต้องการให้เขาเรียนในโรงเรียนที่ดี เธอมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา เงินเดือนของเธอจึงแทบไม่เพียงพอหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้แล้ว

รายได้ 20,000 ก่อนหน้านี้ของเธออาจดูน่าดึงดูด แต่ในความเป็นจริงมันแทบไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายรายเดือน

“แม่ ต่อไปอย่าทำงานหนักอีกนะ โย่วโย่วไม่สบายใจ โย่วโย่วไม่อยากเรียนโรงเรียนอนุบาลหรือเรียนเสริมที่ราคาแพงขนาดนี้ เราจะได้ไม่ลำบาก” เขากล่าวขณะที่มองเธอด้วยความรัก

“ ผมจำได้ว่าคุณป้าเสี่ยวซู่พูดว่าการแสดงเป็นความฝันของแม่ ถ้าแม่มีความฝันโย่วโย่วจะสนับสนุนแน่นอน!”

“อึ้ม!”

“แต่อย่าหน้างิ่วคิ้วขมวดสิครับ เพราะโย่วโย่วรู้สึกแย่”

เธอมองเขาอย่างขอโทษและพยายามคลายความกังวลของเขาด้วยเสียงปรบมือ “มาเถอะมากินข้าวกัน แม่ทำผิดกฎข้อ 3 ของบ้าน แม่ไม่ควรเอาอารมณ์ทำงานกลับบ้านมาด้วย ดูสิอาหารอร่อยๆที่ลูกทำเย็นหมดแล้ว เป็นความผิดของแม่เอง!”

เธอยิ้มและหยิบตะเกียบขึ้นมาในขณะที่เขานั่งข้างเธอโดยไม่พูดอะไรอีกดวงตาของเขาเปล่งประกายราวกับพระจันทร์เสี้ยวที่ส่องแสงอ่อน ๆ

เธอเข้มแข็งมาโดยตลอดเมื่อต้องเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรค ดังนั้นจึงรีบลบล้างมันในไม่ช้าหลังจากนั้น

แต่เรื่องของคืนที่แล้วจะเธอคิดบัญชีในไม่ช้าก็เร็ว