56 ที่พักหนูเงาสนธยา
ฉันชิงไหวชิงหริบใช้คำลวงหลอกล่อริโนกิสได้อย่างชำนาญ วันนี้เองก็ประสบความสำเร็จในการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
……พูดตามตรง ฉันได้แต่เคลือบแคลงใจริโนกิสที่ยอมรับข้ออ้างของฉันที่ว่า「ฉันอยากดูชุดชั้นในที่ลามกนิดหน่อย เพราะงั้นฉันขอไปคนเดียว」แต่ถ้าใช้งานได้ก็ถือว่าดีแล้ว
แม้จะน่าสงสัยเล็กน้อย แต่ลูกศิษย์ก็คือลูกศิษย์ ทำเป็นหลับตาสักข้างในเรื่องปลีกย่อยซะ ไหน ๆ ก็รับเป็นลูกศิษย์แล้วก็อยากเอ็นดูให้มากขึ้น
ปีที่แล้ว ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากถ่ายทำ ตอนที่มาที่เมืองหลวง ฉันก็เคยไปมาหลายครั้งเมื่อมีโอกาส แต่ว่า――
“สร้างเสร็จแล้วสินะ”
ตอนที่ฉันเห็นครั้งแรก ที่นี่ไม่มีอะไรมากไปกว่าซากปรักหักพังของบาร์เก่า
ทุกครั้งที่มา ฉันได้เห็นอะไรใหม่ ๆ เสมอ ส่วนที่พังได้รับการซ่อมแซม และซากปรักหักพังก็กลับฟื้นคืนเป็นบาร์
หนึ่งปีแล้วตั้งแต่ฉันมาที่นี่ครั้งแรก
ได้รับการตกแต่งใหม่อย่างสมบูรณ์ในปีที่ผ่านมา ตอนนี้ทั้งภายนอกและภายในได้เกิดใหม่เป็นบาร์ที่สวยงาม
ลูกค้าเข้ามาตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ฉันมา ตั้งแต่ยังไม่มีป้ายร้าน
ตอนนี้มีป้ายร้านที่โหญ่โตแล้ว ดังนั้นจึงแน่ใจว่าบาร์เสร็จสมบูรณ์แล้ว
โม๊ว ควรเรียกว่า「ที่พักหนูเงาสนธยา」แทนบาร์น้องหมดดีกว่า
ในตรอกหลังที่ห่างจากถนนใหญ่ มีแต่บรรยากาศแย่ ๆ และคนหน้าตาเลว
บาร์เกิดใหม่「ที่พักหนูเงาสนธยา」ดูเหมือนจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ที่ด้านหน้าบาร์ มีบรรยากาศเอะอะวุ่นวายอย่างที่จินตนาการได้ ทั้งคนที่สลบไปตั้งแต่เที่ยงนอนระเกะระกะอยู่รอบ ๆ ทั้งคนที่เดินโซซัดโซเซถือขวดเหล้าในมือข้างหนึ่งเหมือนลืมว่าจะไปที่ไหน
ม๊า ดูเหมือนว่าจะเป็นที่นิยมมาก
“โอ๊ย ยัยเด็กเปรตนั่นมาทำบ้าอะ――”
“จุ๊! อย่ามอง อย่าพูด ถ้าไปสบตาเข้าจะโดนกระทืบเละเลยนะโว๊ย”
“ห๊า? พูดบ้าอะไร――อ๊อก!?”
“ช่วยหยุดพูดดี ๆ ไม่ได้รึไง! แกจะทำยังไงถ้าข้าถูกเหมาไปด้วยล่ะ!ข้าไม่อยากไปเตะตาด้วยนะโว๊ย!”
เขาทำตัวสะดุดตาจริง ๆ เหมือนกำลังให้ความรู้แก่ผู้มาใหม่ที่ยังไม่รู้จักฉัน
ดี ดี
ฉันยินดีต้อนรับผู้แข็งแกร่ง แต่จะมีปัญหาหากให้ผู้ที่อ่อนแอเข้ามาเกี่ยวข้อง การรังแกผู้อ่อนแอไม่ใช่งานอดิเรกของฉัน แต่ฉันก็ไม่ชอบการแบ่งแยกเหมือนกัน ดังนั้นฉันจะอัดคุณถ้าคุณต้องการ
ฉันมาที่นี่หลายครั้งแล้ว และทุกครั้งที่มาก็จะได้ปิดปากคนที่เข้ามายุ่งด้วยกำปั้น ดังนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นที่รู้กันดีไปแล้ว
น่าจะมีคนที่รู้เรื่องของฉันมากขึ้น――ฉันแน่ใจว่าบางคนต้องเคยเห็นฉันในเมจิกวิชั่นจากที่ไหนสักแห่ง แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวลือหรือเรื่องวุ่นวายใด ๆ
เนีย・ลิสตันที่ปรากฎตัวบนภาพสะท้อน กับ เนีย・ลิสตันที่ปรากฎตัวที่นี่
แต่ไม่ว่าจะเหมือนกันมากแค่ไหน แม้จะมีผมสีขาวที่ไม่มีทางเห็นได้ในแถวนี้ ฉันก็คิดว่ายากที่จะเชื่อว่าเป็นคนเดียวกัน เมื่อบุคลิกต่างกันสุดขั้วแบบนี้
หรือบางทีแค่ไม่อยากเข้ามายุ่งจริง ๆ ยังไงซะ ฉันก็ยังเป็นบุตรีขุนนางอยู่ล่ะนะ
――ฉันก้าวเข้าไปในบาร์ เมื่อชำเลืองมองไปยังเหล่าผู้อาศัยของตรอกหลัง คนที่ได้รับการศึกษามากพอก็จะเมินหน้าหนีแม้ว่าพวกเขาจะเมาก็ตาม
เสียงที่พูดเรื่องราวการต่อสู้ออกมาดัง ๆ นั้นแผ่วเบาและหายไปอย่างรวดเร็ว
เสียงพึมพำที่ดูเหมือนจะพูดเรื่องไม่ดีหยุดลง
เสียงหัวเราะหยาบคายถูกซ่อนหายไปทันที
หมาป่าเดียวดายที่กำลังจดจ่อแก้วอย่างเงียบ ๆ ที่เคาน์เตอร์รีบออกจากที่นั่ง
“――ยินดีต้อนรับ ลิลลี่”
ทันทีที่ฉันมาถึง ความพลุกพล่านและวุ่นวายของบาร์ที่มีแสงสลัวก็สงบลง――สิ่งเดียวที่ยังเคลื่อนไหวปกติคือ หญิงสาวร่างอวบอึ๋มยั่วยวนที่ส่วนประกอบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของร่างกายเหมือนสร้างมาเพื่อเสน่ห์ทางเพศ
เธอคนนี้คือ เฟรซ่า
ดูเหมือนเธอจะเป็นคนรู้จักของอันเซลที่ถูกจ้างมาทำงานที่บาร์ในตรอกหลังนี้
เท่าที่เห็น เธอให้ความรู้สึกของผู้หญิงที่โตแล้วทั้งหน้าอกและบั้นท้ายที่ใหญ่มาก แต่――ไม่ได้มีดีเพียงร่างกายของผู้หญิงเท่านั้น ท่วงท่าที่ราวกับถูกฝึกมานั้นก็ไม่ธรรมดา
นั่นน่ะ ไม่ใช่ร่างกายที่ปรารถนาศิลปะการต่อสู้ แต่เป็นการลอบสังหาร……ม๊า ไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะสอดรู้สอดเห็นใครสักคนในสถานที่แบบนี้
ถึงยังไงก็ไม่ข้อยกเว้นให้ข้อแก้ตัว รวมทั้งฉันด้วย
“โย่ ลิลลี่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
ฉันเดินไปที่เคาน์เตอร์โดยไม่ลังเล และนั่งลงบนเกาอี้ตรงหน้าบาร์เทนเดอร์ผู้ไม่มีความกระตือรือร้น
――แล้วก็ลิลลี่เป็นชื่อเล่นของฉัน
ฉันไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนเริ่มเรียกฉันแบบนี้ แต่คิดว่าน่าจะมาจาก「ลิลลี่หุบเขาพิษหิมะ(สโนว์・ลิลลี่)」ที่เหมือนกับผมสีขาวของฉัน
ในทางกลับกัน ฉันไม่รู้สึกว่าต้องไปแก้ไขอะไร เพราะอาจจะเป็นปัญหาได้หากเรียกชื่อตัวเองอย่างเปิดเผยในที่แบบนี้
“ไม่เจอกันนานเลยนะ อันเซล ขอแสดงความยินดีกับการเปิดของ『ที่พักหนูเงาสนธยา』ด้วยนะ”
“อ้า ในที่สุด อันที่จริงเราเปิดมาตั้งแต่เดือนที่แล้วแล้วน่ะ?”
งั้นเหรอ เรียบร้อยมาได้สักระยะแล้วงั้นสินะ
ฉันมาที่นี่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่นะ……อาจจะสองเดือนก่อน เว้นช่วงนานไปหน่อยรึเปล่านะ
แต่ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
เพราะฉันไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองหลวง ดังนั้นเวลาที่ฉันมาที่นี่ได้จึงมีจำกัดจริง ๆ
“จากนี้ฉันจะมาที่นี่ให้มากขึ้นสักหน่อยแล้วกัน”
ยังไงก็ตาม ฉันอยู่ที่เมืองหลวงมาสองสัปดาร์แล้ว หมายถึงในหอพักสถาบันล่ะนะ
“สถาบันสินะ?”
ฉันไม่ตอบ แต่สั่งเหล้าแรงสุดแทน……เคยคิดจะทำ แต่ไม่ว่าบรรยากาศบาร์ในตรอกหลังจะแย่แค่ไหน ก็ยังรู้สึกกระอักกระอ่วนที่จะสั่งเครื่องดื่มตั้งแต่อายุหกขวบ
เมื่อฉันกับอันเซลเริ่มคุยกันแบบนั้น และหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับลูกค้าคนอื่น ๆ บาร์ก็ค่อย ๆ กลับมาคึกคักอีกครั้ง
――ที่นั่งเคาน์เตอร์ด้านซ้ายและขวาของฉันยังว่างอยู่
อันเซล คือ ชายในชุดสูทที่ได้สู้ด้วยตอนที่มาที่นี่ครั้งก่อน ที่นี่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นซากปรักหักพัง
ฉันไม่รู้รายละเอียดมากนัก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่สมาชิกของมาเฟีย
ดูเหมือนว่าเขาทำงานบางอย่าง เช่นบอดี้การ์ดผู้เชี่ยวชาญงานสกปรก ที่ปกป้องแม้แต่มาเฟียหากได้ผลประโยชน์
ดูเหมือนเขาจะไม่อยากให้ถามมากกว่านี้ ฉันเลยไม่ถาม ฉันเองก็ไม่สนใจเหมือนกันเลยไม่ได้ถาม
อันเซลซื้อบาร์แห่งนี้เพียงเพื่อใช้ติดต่อกับฉัน
ดูเหมือนว่าเขาจะใช้เงินที่เก็บออมมาจนถึงตอนนี้และใช้ทรัพย์สินทั้งหมดที่มีเพื่อซื้อที่ดินผืนนี้
จากนั้นก็จ้างพวกคนเลวที่อาศัยอยู่แถวนี้มาซ่อมแซมและปรับปรุงอาคาร
ในที่สุดร้านก็เปิดและยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้
――เริ่มแรกเขาซื้อที่ดินผืนนี้มาเพียงเพื่อใช้ติดต่อกับฉันจริง
เขาบอกว่าที่ตัดสินใจซื้อ เพราะถูกกว่าที่คิด
แล้วยังคิดว่าถ้าลงมือนิด ๆ หน่อย ๆ ก็จะสามารถอยู่ที่นั่นได้
เป็นความคิดที่ว่า ถ้าซื้อบ้านไม่มีคำว่าขาดทุน
ยังไงก็ตาม เพราะแบบนั้นก็ทำให้เขาหมดเนื้อหมดตัว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเปิดบาร์ โดยคิดว่าในเมื่อมีรากฐานเป็นบาร์อยู่แล้ว ก็น่าจะหาเงินได้บ้าง
ตอนแรก เขาคิดจะฝากร้านไว้กับคนอื่น แต่หลังจากเริ่มซ่อมแซมและมีส่วนร่วมในปรับปรุงร้าน เขาก็เกิดความผูกพัน และตัดสินใจเปิดร้านเอง
” ――จุดขายของบอดี้การด์คือคาวมแข็งแกร่ง แต่เมื่อแพ้ไปสักครั้งก็แทบไม่เหลือจุดยืน ข้าคิดว่า……จะต้องแก้แค้นเธอให้ได้”
เมื่อตอนที่ฉันมาครั้งล่าสุด อันเซลพึมพำเรื่องนั้นด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ขณะกำลังเช็ดแก้วไปด้วย
ฉันมาที่นี้เพื่อพบกับคู่แค้นของฉัน
แต่ตอนนี้……ยังไงดี ม๊า เป็นเรื่องธรรมดาที่ความตั้งใจเดิมจะเปลี่ยนไปตามเวลา
――ตามจริงแล้ว ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันคุยกับอันเซลบ่อยมาก
แม้ว่าฉันจะต้องการกระชับมิตรภาพให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะมาที่นี่เหมือนลูกค้าประจำ แต่……กว่าจะรู้ตัว ฉันก็เริ่มมาที่นี่บ่อย ๆ เสียแล้ว
มีไม่กี่คนที่ฉันสามารถคุยด้วยได้ในฐานะนักศิลปะการต่อสู้แทนที่จะเป็นเนีย・ลิสตัน
ในแง่นั้น บางทีฉันอาจจะชอบที่นี่ก็ได้
ปล.แถวบ้านคนแปลช่วงนี้ อากาศดีขึ้นมาก กลับมาออกกำลังกายเบาๆได้แล้วหลังหยุดเพราะฝุ่นไปนานจนลงพุง ฮา
คำขวัญวันนี้ ฟ้าใสแปรปรวน เขาหัวโล่ง ลมแรงพังของ แดดเผาผิวในพริบตา