ตอนที่ 52 ลูกโป่งชาเลนจ์
บรรดานักร้องในฉินโจวแม้ว่าจะพากันตัวสั่นเทิ้มทันทีที่เอ่ยถึงเดือนกุมภาพันธ์ แต่สำหรับแฟนเพลงแล้ว เดือนกุมภาพันธ์กลับเป็นเดือนที่ควรค่าแก่การรอคอย เพราะในเดือนนี้มักจะมีเพลงใหม่ที่ยอดเยี่ยมรอคอยทุกคนอยู่
โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมฤดูหนาวแบบนี้
นักเรียนล้วนแต่มีเวลาว่างมากมาย
ฉะนั้นในคืนระหว่างเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ เหล่าแมวนอนดึกที่ชื่นชอบในเสียงเพลงก็จะเคลื่อนไหวกันเป็นวงกว้าง
แต่ละแอปพลิเคชันฟังเพลงใหญ่ในฉินโจวก็จะมียอดการใช้งานสูงมาก และยอดการฟังเพลงใหม่ที่โปรโมตก็น่าอิ่มเอมใจเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อดูในลิสต์เพลงโปรโมต
คนในบางแวดวงคุยกันว่า ‘เจียงขุยก็ปล่อยเพลงเหมือนกัน มีแบนเนอร์โปรโมตในต้าหมี่มิวสิก!’
‘เจียงขุยคือใครน่ะ’
‘คนที่ร้องเพลงปลายักษ์’
‘อ้อๆ เด็กคนนั้นเสียงเพราะมากเลย’
‘เพลงชื่อไร ฉันจะไปฟังบ้าง’
‘ชื่อ ‘ลูกโป่ง’’
‘ชื่อลูกโป่ง?’
‘อินเทอร์เน็ตเพิ่งถึง เรื่องเมื่อแปดสิบปีก่อนก็เอามาพูดได้[1]’
‘…’
เมื่อพูดถึงเจียงขุย คนจำนวนมากไม่รู้จัก แต่เมื่อพูดถึงปลายักษ์ ทุกคนก็พอจะมีภาพจำขึ้นมาแล้ว
เพลงนี้ได้รับความนิยมมากในหมู่วัยรุ่น
ด้วยชื่อเสียงของเพลงปลายักษ์ ผู้คนจำนวนมากยังยินดีไปฟังเพลงใหม่ของเจียงขุยด้วย
กดเล่นเพลงลูกโป่ง
‘จงใจเกินไปหรือเปล่า’
นี่เป็นความรู้สึกแรกของผู้คนจำนวนมาก
ทุกคนไม่ได้รู้สึกต่อต้านเสียงหายใจ เพียงแค่รู้สึกว่าเสียงลมหายใจของนักร้องนั้นเกินจริงไปสักหน่อย ก็แค่ร้องเพลง จำเป็นต้องออกแรงมากขนาดนั้นเชียว?
อย่างไรก็ดี
พวกเขายังไม่ทันได้หยุดเล่นเพลง ท่อนร้องที่ตามมาก็ทำให้คนฟังซึ่งกำลังสวมหูฟังต่างตะลึงงันไปตามกัน ‘สีดำสีขาวสีแดงสีเหลืองสีม่วงสีฟ้าสีเขียวสีเทาของคุณของฉันของเขาของเธออันเล็กอันใหญ่อันกลมอันแบนทั้งดีทั้งเลวทั้งสวยน่าเกลียดทั้งใหม่ทั้งเก่าแต่ละรูปแบบแต่ละสีสันเชิญเลือกตามใจ…’
อะไรฟระ
เพียงชั่วอึดใจเดียว คนมากมายก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกขาดอากาศหายใจ ถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึกไปพร้อมกับนักร้องโดยไม่รู้ตัว
‘เฮือก’
นักร้องสูดอากาศหายใจเข้าลึกอีกครั้ง ครั้งนี้ระดับเสียงในทำนองเปลี่ยนไปหลากหลายมาก ท่วงทำนองของเปียโนซึ่งเป็นเสียงพื้นหลังก็เร่งเร็ว ราวกับกำลังเลียนจังหวะของกลอง ‘โบยบินขึ้นสูงยิ่งไกลยิ่งดีตัดเชือกทิ้งเสียมันก็ตายไปชีวิตแสนสั้นสุขสันต์ก็ได้ชื่นชอบก็ได้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ยิ่งเปลี่ยนยิ่งเล็กน้อยลงทุกวันจะตายอยู่แล้วยังหยิ่งอยู่ได้’
อะไรฟระเนี่ย!
คนจำนวนมากอึ้งงันไป
เสียงในหูฟังสำแดงจุดเด่นออกมา ‘เธอไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูดฉันไม่อยากฟังไม่อยากฟังอีกก็คิดแค่ว่าคำสาบานล้วนเป็นลูกโป่งปล่อยมันลอยไปฉันไม่สนใจไม่คิดสนใจก็ปล่อยมันไปปล่อยมันลอยไป’
ท่อนเวิร์สจบลงตรงนี้
ชั่วขณะนั้นผู้คนก็พลันรู้สึกถึงความผ่อนคลายบางอย่าง ไม่มีใครรู้สึกว่านักร้องจงใจทำเสียงลมหายใจอีกต่อไป
นักร้องคนนี้เกิดมาเพื่อท้าทายความจุปอดของนักร้องชัดๆ
‘สงสารนักร้องเลย…’
ในกลุ่มของแฟนเพลง อยู่ๆ ก็มีคนพูดประโยคนี้ขึ้นมา ในตอนนั้นเพลงที่เปิดฟังก็เข้าสู่ช่วงผ่อนคลายแล้ว ‘ลูกโป่ง ลอยเข้าหมู่เมฆ ลอยตามสายลม จบชีวิตลง ลูกโป่งลอยสู่ความรัก ลอยสู่หัวใจ ตายลงช้าๆ’
‘สงสารนักร้อง +1!’
‘เพลงนี้โชว์เทคนิคการร้องล่ะมั้ง’
‘ไม่หรอก โชว์ความจุปอดล้วนๆ’
‘เอ่อ ฉันแนะนำให้พวกเธอร้องตามดูสักท่อน…’
‘ฮ่าๆๆๆๆๆ ร้องแค่เวิร์สแรกเลือดก็แทบไม่ไปเลี้ยงสมองแล้ว ไม่ไหวเลย ขอไปหายใจแป๊บ’
‘ผมก็ร้องไม่ได้’
‘ร้องถึงท่อนหลังก็หมดลมแล้ว’
‘…’
ในตอนนั้นก็มีคนในกลุ่มส่งข้อความมา ‘ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ถ้าร้องประโยคแรกของเพลงลูกโป่งไม่จบแปลว่าเป็นภาวะไตพร่อง’
และข้อความด้านบนก็ถูกยกเลิกไปอย่างรวดเร็ว
‘ฉันร้องได้!’
‘ฉันก็ร้องได้!’
‘ไม่ใช่เรื่องใหญ่’
ทุกคนต่างคิดว่าตนเองทำได้
คนไม่น้อยที่ถึงขั้นพลีชีพลองอัดเสียงร้องท่อนแรกของเพลงนี้
มิหนำซ้ำ ในท่อนอินโทรของทุกคนก็ยังสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างห้ามไม่อยู่ด้วย
หากว่ากันเรื่องทำนอง เพลงนี้ยังนับว่าจำง่าย ฟังผ่านหูก็ยังพอถูๆ ไถๆ ร้องออกมาได้
แต่ว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของเสียงในเพลงนี้ เมื่อร้องไปจนถึงท่อนหลังกลับเรียกได้ว่าพังพินาศ พลอยทำให้คนฟังสงสัยว่าพวกเขาจะเป็นลมเพราะขาดออกซิเจนหรือเปล่า
‘โคตรฮา’
‘ฟังพวกเธอร้องจบ ฉันละอยากเรียกรถพยาบาลไปให้’
‘ฟังดูแล้วคิดว่าตัวเองร้องได้ พอลองร้องไปรอบเดียวเท่านั้นแหละ ขาดใจตายเลย ถ้าลดคีย์ลงมาน่าจะพอมีหวัง’
‘เอาเถอะ ฉันทำไม่ได้’
‘ทุกวันนี้ถ้าอยากเป็นนักร้องต้องฝึกกลั้นหายใจก่อนเลย’
‘…’
การถกเถียงกันในกลุ่มนั้นคึกคักเป็นพิเศษ ไม่นานช่องคอมเมนต์ก็ร้อนแรงขึ้นมา ‘เพลงนี้ฆ่าพวกแชมป์คาราโอเกะตัวปลอมหมดแน่!’
‘เพลงนี้จะร้องตอนไหนก็ร้องไปเถอะ เพราะสุดท้ายแล้วก็หมดลมกันทั้งนั้น’
‘ฉันเป็นครูสอนผู้ประกาศข่าว คิดว่าพรุ่งนี้จะไปสอนนักเรียนในคลาสสักหน่อย’
‘ฉันต้องไปฝึกเพลงนี้ เปิดเทอมจะไปเฉิดฉายที่คาราโอเกะ!’
‘เฮ้อ ไม่มีความจุปอดเยอะก็อย่าคิดจะร้องเพลงนี้’
‘ไม่ ต้องให้ทั้งตัวกลายเป็นปอดถึงจะร้องได้’
‘เพลงนี้น่าจะชื่อว่าขาดออกซิเจนละมั้ง’
‘ฉันรู้สึกว่าตั้งชื่อเพลงนี้ว่าหมดลมจะเหมาะสมกว่า’
‘เพลงนี้ ประโยคแรกแทบจะทำฉันสิ้นใจ ร้องจบแล้วสภาพอนาถมาก’
‘…’
ประเด็นสำคัญของทุกคนไม่ได้อยู่ที่เพลงเป็นอย่างไรแล้ว
ทุกคนล้วนแต่ถกเถียงกันเรื่องความยากรวมไปถึงความรู้สึกของตนเองตอนลองร้องเพลง
มีคนบอกว่า ฟังเพลงเท่ากับฟังความรู้สึก
เพลงนี้กลับทำให้ผู้ฟังมีส่วนร่วม
และในตอนนั้นก็เข้าสู่วันที่สอง
สิ่งแรกที่เหล่าโจวทำหลังจากที่มาถึงบริษัทก็คือเปิดชาร์ตเพลงใหม่ และค้นพบด้วยความตกตะลึงว่าเพลงลูกโป่งอยู่บนอันดับที่เจ็ดของชาร์ต!
อะไรกันเนี่ย
ฉันตาฝาดไปแล้วเหรอ
สิ่งแรกที่เหล่าโจวสงสัยก็คือสายตาของตนเอง เพราะว่าการแข่งขันของเดือนกุมภาพันธ์กับเดือนธันวาคมนั้นเหมือนกัน เป็นกลุ่มแห่งความตาย!
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมเดือนกุมภาพันธ์ถึงเป็นกลุ่มแห่งความตายน่ะหรือ
แค่มองรายชื่อที่บริษัทส่งมาเข้าร่วมสงครามก็กระจ่างแล้ว
ในรายชื่อมีนักร้องแถวหน้าทั้งหมดยี่สิบคน
หนึ่งในนั้นยังรวมไปถึงราชาเพลงสองคน ราชินีเพลงอีกหนึ่งคน!
แต่ในชาร์ตเพลงนี้ที่เต็มไปด้วยดาวจรัสแสง เพลงลูกโป่งของนักร้องกึ่งหน้าใหม่อย่างเจียงขุยถึงกับขึ้นไปถึง
อันดับที่เจ็ด!
“แม่เจ้าโว้ย…”
เจียงขุยร้องรวดเดียวแบบนี้
เท่ากับจัดการนักร้องแถวหน้าไปเท่าไหร่แล้วนะ
ใช่ เพลงลูกโป่งคุณภาพไม่เลว แถวนักร้องในเดือนกุมภาพันธ์ก็สุดยอดกันทั้งนั้น ผลงานแบบนี้เหลือเชื่อไปหน่อยแล้วมั้ง?
ในตอนนั้นเอง
เหล่าโจวก็ได้ยินคนในแผนกตะโกนว่า “ดูเร็ว! เพลงใหม่ของเซี่ยนอวี๋ติดฮ็อตเสิร์ชละ!”
เหล่าโจวรีบร้อนเปิดปู้ลั่ว
ปู้ลั่วเป็นเป็นสื่อสังคมออนไลน์และแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตซึ่งใช้สำหรับเผยแพร่และส่งต่อข้อมูลตามความสัมพันธ์ของผู้ใช้ ขณะเดียวกันก็เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในฉินโจว มีเพียงประเด็นที่ร้อนแรงมากๆ เท่านั้น ถึงจะไต่ขึ้นไปบนฮ็อตเสิร์ชได้!
ตอนนั้นเอง
ในอันดับที่สิบของฮ็อตเสิร์ช และเป็นอันดับสุดท้ายของชาร์ตประเด็นสนทนาบนปู้ลั่ว ก็เห็นหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับเพลงลูกโป่ง
ลูกโป่งชาเลนจ์
เมื่อกดเข้าไปดู ในนั้นก็เต็มไปด้วยวิดีโอที่ถูกแชร์ มีบัญชีผู้ใช้มากมาย รวมไปถึงเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ด้านดนตรีทั้งหลายก็ร้องเพลงใหม่ชื่อว่าลูกโป่งด้วยความท้าทาย
บางคนก็พอไหว
บางคนก็ร้องจนหายใจไม่ทัน
แต่บัญชีผู้ใช้ชื่อดังทุกบัญชีที่เข้าร่วมการท้าประลองในครั้งนี้ก็ล้วนแต่ได้รับกระแสที่ไม่น้อยกันถ้วนหน้า บรรดาแฟนคลับต่างคอมเมนต์เกี่ยวกับชาเลนจ์นี้กันอย่างคึกคัก
“ยังนิ่งอยู่ทำไมกัน!”
และที่แผนกประพันธ์เพลงในตอนนั้นเอง จ้าวเจวี๋ยแทบจะตะเบ็งเสียงบอกผู้จัดการใต้การดูแลทุกคนว่า “ให้ศิลปินของพวกเธอเข้าร่วมชาเลนจ์เพลงลูกโป่งในปู้ลั่วเดี๋ยวนี้!”
…………………………………………………
[1] อินเทอร์เน็ตเพิ่งถึง เรื่องเมื่อแปดสิบปีก่อนก็เอามาพูดได้ เปรียบเปรยว่าตามไม่ทันกระแส