ตอนที่ 53 ฮัสกี้
หายากโดยแท้!
เพลงลูกโป่งที่คุณภาพเพลงนับได้ว่าอยู่ระดับกลาง ถึงขั้นที่ใช้ทำนองอินโทรที่มีเอกลักษณ์ ดึงดูดให้ผู้ฟังพากันเลียนแบบและเข้าร่วมชาเลนจ์…
แถมยังพุ่งขึ้นสู่ฮอตเสิร์ชด้วย
โอกาสหายากแบบนี้ถ้าคว้าเอาไว้ไม่ได้ เช่นนั้นจ้าวเจวี๋ยก็คงไม่ต้องเป็นหัวหน้าผู้จัดการของสตาร์ไลท์แล้ว
ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง
รีบดันฮ็อตเสิร์ชให้ขึ้นสูงก่อน
ฮ็อตเสิร์ชซึ่งคนผ่านไปผ่านมาเข้าร่วมเล่นลูกโป่งชาเลนจ์โดยทั่วไปแล้วอันดับจะหล่นเร็วมาก แต่หากดาราศิลปินของสตาร์ไลท์ก็เข้าร่วมชาเลนจ์นี้ละก็ จะต้องเรียกแฟนคลับของศิลปินเหล่านี้ได้อีกมาก เมื่อดึงดูดเทรนด์และการทำตามได้ในวงกว้างแล้ว ความร้อนแรงของหัวข้อบนฮ็อตเสิร์ชก็ย่อมสามารถไต่สูงขึ้นตามไปด้วย…
ผลลัพธ์นั้นเป็นดังที่จ้าวเจวี๋ยคิดไว้
เมื่อศิลปินดาราลงสนาม ความร้อนแรงของหัวข้อลูกโป่งชาเลนจ์ก็เพิ่มสูงขึ้นไปตามคาด คนเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หัวข้อลูกโป่งชาเลนจ์ทะยานขึ้นแตะอันดับห้าแล้ว!
สิ่งที่แปรผันตามมาก็คือ
บนชาร์ตเพลงใหม่เดือนกุมภาพันธ์ เพลงลูกโป่งขึ้นชาร์ตได้สำเร็จ กลายเป็นอันดับที่หกบนชาร์ตเพลงใหม่
ในวงการต่างโอดครวญกันยกใหญ่!
ในกลุ่มแห่งความตายของเดือนกุมภาพันธ์ แต่ละบริษัทใหญ่เรียกได้ว่าลงทุนลงแรงเพื่อชาร์ตเพลงในเดือนกุมภาพันธ์ ไม่มีใครอยากถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ดังนั้นคุณภาพของเพลงที่นำออกมานั้นจึงสูงมาก
ไม่มีใครคาดคิดว่า
สตาร์ไลท์ปล่อยเพลงลูกโป่งออกไป
เพลงนี้ถึงกับไต่ขึ้นไปบนฮ็อตเสิร์ชเพราะความยากของการขับร้อง!
ความแปลกประหลาดของเพลงนี้อยู่ที่แทบจะไม่มีคนใส่ใจว่าเพลงนี้เพราะหรือไม่ ทุกคนใส่ใจเพียงว่าตนร้องท่อนแรกของเพลงจบในรวดเดียวเหมือนนักร้องได้ไหม…
เมื่อพูดถึงคุณภาพ เพลงลูกโป่งไม่ได้มีความได้เปรียบที่จะกดเพลงอื่นๆ ในชาร์ตได้เลย
เพลงนี้ดังขึ้นได้ในเดือนกุมภาพันธ์ ล้วนแต่พึ่ง ‘ลูกโป่งชาเลนจ์’ บนฮ็อตเสิร์ชทั้งนั้น!
แน่นอนว่า เรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับการที่ใกล้กับช่วงตรุษจีน ดังนั้นช่วงนี้ทุกคนจึงค่อนข้างยุ่ง ตัวอย่างเช่นยุ่งอยู่กับงาน ใครจะไปว่างมานั่งอัดวิดีโอเล่นกันล่ะ
……
เจียงขุยได้รับสายโทรศัพท์จากผู้จัดการ เมื่อรู้ถึงสถานการณ์เพลงใหม่ของตน ก็กระเด้งตัวออกมาออกมาจากเตียงตั้งแต่เช้าตรู่ ตะโกนร้องเพลงลูกโป่งทั้งที่ผมเผ้ายังกระเซอะกระเซิงอยู่
“ฮ็อตเสิร์ชๆๆ!”
เมื่อใจเย็นลงแล้ว เธอก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเข้าปู้ลั่ว และเห็นหัวข้อ ‘ลูกโป่งชาเลนจ์’ บนชาร์ตของฮ็อตเสิร์ชด้วย
“อาฮ่า!”
ความรู้สึกของการติดฮ็อตเสิร์ชครั้งแรกในชีวิตนั้น สำหรับเจียงขุยแล้วออกจะพูดยากอยู่สักหน่อย ถึงแม้ตัวเอกของฮ็อตเสิร์ชจะไม่ใช่ตนก็เถอะ แต่เมื่อถัวเฉลี่ยดูแล้วก็เท่ากับว่าตัวเจียงขุยได้ติดฮ็อตเสิร์ชเหมือนกัน
ด้านล่างของฮ็อตเสิร์ชมีวิดีโอแนะนำจำนวนมาก
เจียงขุยลองเลือกดูวิดีโอที่เรตติงค่อนข้างดี
เป็นวิดีโอที่อินฟลูเอนเซอร์หญิงคนหนึ่งถ่ายไว้ ตัดต่อได้ตั้งใจมาก ภาพประกอบของท่อนอินโทรเป็นโปรแกรมการฝึกฝนร่างกายประเภทต่างๆ ที่อินฟลูเอนเซอร์หญิงคนนี้ใช้เพื่อเพิ่มความจุปอด
หลังจากฝึกฝนโปรแกรมต่างๆ เป็นตั้ง
อินฟลูเอนเซอร์หญิงโชว์กล้ามซึ่งไม่มีอยู่จริงกับกล้อง พูดกับเพื่อนอีกคนด้วยใบหน้าฮึกเหิม “พร้อมหรือยัง”
เพื่อนพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง
เธอจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ทันใดนั้นก็เริ่มร้องออกมาตามทำนองเปียโนที่เพื่อนดีด “สีดำสีขาวสีแดงสีเหลืองสีม่วงสีฟ้าสีเขียวสีเทาของคุณของฉันของเขาของเธออันเล็กอันใหญ่อันกลมอันแบนทั้งดีทั้งเลวทั้งสวยน่าเกลียด…”
ร้องต่อไปไม่ได้แล้ว
เจียงขุยแค่ฟังก็รู้
อินฟลูเอนเซอร์หญิงในวิดีโอร้องต่อไปไม่ไหวจริงๆ ด้วย
เธอเค้นเสียงออกมาในไม่กี่คำสุดท้ายไม่ไหว ราวกับว่าจะขาดอากาศหายใจตาย ทำได้เพียงโบกมือพูดว่า
“ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว หมดสภาพ”
ในฉากสุดท้ายกล้องตัดไปที่อินฟลูเอนเซอร์หญิงและเพื่อนซึ่งนั่งแผ่อยู่บนเก้าอี้ จากนั้นภาพก็ถูกกากบาททับ และมีตัวอักษรสีดำขนาดใหญ่หลายตัว
‘Balloon Challenge failed!’
คอมเมนต์ของวิดีโอนี้ในปู้ลั่วทะลุหมื่น ชาวเน็ตต่างต่อแถวกันมาคอมเมนต์
‘อินฟลูเอนเซอร์ คุณเป็นไตพร่อง’
‘ไตพร่องอีกคนนึงแล้ว จบข่าว’
และมีคนที่ไม่เข้าใจถามว่า ‘ทำไมถึงบอกว่าเป็นไตพร่องล่ะ’
คอมเมนต์ด้านล่างตอบกลับอย่างจริงจัง ‘พวกคุณยังไม่รู้เหรอ งานวิจัยของผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าคนที่ร้องเวิร์สท่อนแรกของเพลงลูกโป่งไม่จบจัดอยู่ในกลุ่มภาวะไตพร่อง/อีโมจิหมายิ้มกรุ้มกริ่ม’
“อะไรวะเนี่ย”
เจียงขุยหัวเราะจนท้องแข็ง
ความจุปอดไปเกี่ยวอะไรกับภาวะไตพร่อง พวกชาวเน็ตบ้าๆ บอๆ ในปู้ลั่วนี่ตลกจริงๆ
เมื่อหัวเราะเสร็จ เจียงขุยก็พลันรู้สึกสะท้อนใจ
เป็นอีกครั้งที่เธอได้เห็นความยอดเยี่ยมของอาจารย์เซี่ยนอวี๋ นึกไม่ถึงว่าต่อให้จับเพลงลูกโป่งไปใส่ในกลุ่มแห่งความตาย จะยังเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตขนาดนี้
ชาร์ตเพลงเดือนกุมภาพันธ์มีผลต่อจิตใจผู้คนนับไม่ถ้วน
สื่อออนไลน์บางสำนักของฉินโจวย่อมไม่พลาดหัวข้อบนปู้ลั่วซึ่งเกี่ยวข้องกับลูกโป่งชาเลนจ์อยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่นพลเมืองบันเทิง
นี่คือรายการบันเทิงรายการหนึ่ง
พิธีกรรายการเป็นผู้ชายหัวเหม่งคนหนึ่งซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมเป็นอย่างมาก “เช้านี้ตื่นมาดู ในปู้ลั่วมีลูกโป่งชาเลนจ์ซึ่งดังมากทีเดียวครับ ผมนี่ถึงกับอึ้งเลย ยังคิดว่าขึ้นไปบนบอลลูนลมร้อนบนท้องฟ้าแล้วกระโดดลงมาซะอีก พอกดเข้าไปดูถึงได้รู้ว่าที่แท้ก็เป็นเพลงเพลงหนึ่ง ประโยคแรกของเนื้อเพลงคือสีแดงสีฟ้าสีเขียวสีดำ…เยี่ยมไปเลย ผมจำเนื้อเพลงไม่ได้ แต่ผมอุตส่าห์ไปนับพยางค์มาเลยนะ แค่ประโยคแรกของเพลงนี้ก็มีห้าสิบหกพยางค์แล้ว!”
พูดจนถึงตอนนี้
รายการก็เปิดเสียงร้องท่อนแรกของเจียงขุย
เมื่อเพลงจบ พิธีกรก็กล่าวกลั้วหัวเราะ “ผมมีเพื่อนคนหนึ่งครับ เป็นอินฟลูเอนเซอร์ด้านดนตรี ร้องเพลงเพราะ
มาก เขาพูดกับผมว่าคอมเมนต์ตอนไลฟ์วันนี้มีแต่คนให้เขาร้องเพลงลูกโป่ง สุดท้ายเขาร้องยังไงก็ร้องท่อนแรกไม่จบ ทรมานอยู่ตั้งครึ่งค่อนชั่วโมง ตอนแรกคิดว่าแฟนคลับจะหายไป แต่ดันมีแฟนคลับเพิ่มมาอีกหมื่นคนได้ เหมือนกับเพลงนี้แหละครับ ทำเอาใจหายใจคว่ำกันหมด”
พิธีกรเล่นมุกด้นสดได้อย่างแพรวพราว
ไม่ทันไรก็คุยกันมาถึงชาร์ตเพลงทั้งเดือนกุมภาพันธ์ “พวกเราทุกคนรู้ว่า เดือนกุมภาพันธ์และเดือนธันวาคมของ ทุกปีเป็นกลุ่มแห่งความตาย เป็นเพราะทั้งสองฤดูกาลการแข่งขันนี้จะมีนักร้องแถวหน้ามากมายปล่อยเพลงออกมา ปีนี้ก็เช่นกันครับ นักร้องแถวหน้าทั้งยี่สิบคนประชันกันบนเวทีเดียว ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ให้ทุกคนดูชาร์ตซะหน่อย…”
พิธีกรพูดจบ ทีมงานรายการก็เปิด ‘ชาร์ต’ ของกลุ่มอันแสนพิเศษนี้
นี่เป็นภาพการ์ตูนของฝูงสุนัขป่า
บนสุนัขป่าทุกตัวจะเขียนชื่อเพลงที่เกี่ยวข้อง จากซ้ายไปขวาจะแสดงถึงอันดับของแต่ละเพลงในเดือนกุมภาพันธ์
ทว่าลำดับที่หกในฝูงสุนัขป่า
กลับมีเจ้าฮัสกี้ตัวหนึ่งปะปนอยู่ท่ามกลางฝูงสุนัขป่า
บนหน้าผากของฮัสกี้ตัวนั้นเขียนไว้สองคำ ‘ลูกโป่ง’!
ชั่วขณะนั้น ผู้ชมซึ่งดูรายการนับไม่ถ้วนก็หลุดหัวเราะออกมา
ภาพนี้อธิบายอันดับของเดือนกุมภาพันธ์ได้อย่างชัดเจนมาก
ก็เพราะนอกจากเจียงขุยแล้ว นักร้องของสิบอันดับเพลงแรกบนชาร์ตล้วนเป็นนักร้องแถวหน้าที่โดดเด่นทั้งนั้น!
ได้ติดชาร์ตร่วมกับนักร้องแถวหน้ากลุ่มนี้ มิหนำซ้ำยังอยู่ในอันดับที่สูงทีเดียว เจียงขุยในฐานะนักร้องใหม่ ก็เป็นเจ้าฮัสกี้ที่ปะปนอยู่ในฝูงสุนัขป่าอย่างในภาพการ์ตูนไม่ใช่หรือ?
ช่วงสุดท้ายของรายการ
พิธีกรพูดว่า “เพลงลูกโป่งนำพาความเพลิดเพลินมาให้ทุกคน แต่ตอนที่ร้องเพลงนี้ ผมพบว่าออกซิเจนในปอดของผมน้อยลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็หมดลมอย่างสิ้นเชิง ก็เหมือนกับลูกโป่ง จากพองจนแฟบ ผมคิดว่านี่อาจเป็นความหมายที่เซี่ยนอวี๋ใช้เพลงถ่ายทอดออกมาก็เป็นได้”
……
เมืองอวิ๋น ฉินโจว
หลินเหยาก็กำลังดูรายการพลเมืองบันเทิงอยู่เช่นกัน
ในฐานะที่เป็นน้องสาวของหลินเยวียน เธอเองก็รู้แล้วว่าพี่ชายคือเซี่ยนอวี๋ ก็ย่อมสนอกสนใจข่าวคราวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เป็นธรรมดา
ในยามนี้เธอก็พลันรู้สึกสงสัยกับข้อสรุปของพิธีกร “พี่ พี่คิดแบบนั้นจริงหรือเปล่า”
หลินเยวียนตอบ “งั้นก็ต้องรอดูว่าเพลงนี้จะกลายเป็นข้อสอบหรือเปล่าก่อน”
…………………………………..