WS บทที่ 123 บ่อเลือด

ค้างคาวแวมไพร์ที่ออกมาจากถ้ำ พวกมันถูกกําจัดทีละตัว ไม่ว่าพวกมันจะมีมากเท่าไหร่ก็ไม่คณนามือของเมอร์ลินเลย

“นี่คือความแข็งแกร่งของนักเวทย์งั้นเหรอ? พ่อมดเมอร์ลินแข็งแกร่งมาก…ฉันไม่เคยเห็นใครแข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อนเลย” คาเปซกล่าวออกมาอย่างประหลาดใจ

พ่อมดแดนเบ้เหลือบไปมองพ่อมดโฮล์มส์เล็ฝน้อย จากนั้นเขาก็ส่ายหัวเบา ๆ ในตอนแรกเขาคิดว่าพ่อมดโฮล์มส์แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ของพวกเขาแต่พอเมอร์ลินได้เปิดเผยพลังที่เก็บซ่อนไว้ออกมา ทําให้เขาเปลี่ยนความคิดไปทันที

*ครึ่ก!*

เมอร์ลินยังคงร่ายคาถาแช่แข็งค้างคาวแวมไพร์พร้อม ๆ กับร่ายคาถาข่ายสายฟ้าพร้อม ๆ คาถาทั้งสองนี้ทําให้พวกค้างคาวแวมไพร์ไม่สามารถทําอะไรเมอร์ลินได้เลย

แต่อย่างไรก็ตาม เมอร์ลินก็พบปัญหาบางอย่าง เนื่องจากค้างคาวแวมไพร์มีจํานวนมากเกินไปและคาถาแช่แข็งก็ไม่ได้เป็นคาถาที่เขาไว้โจมตีและรัศมีการโจมตีก็แคบด้วยจึงทําให้เขาฆ่าพวกมันได้ทีละตัวเท่านั้น แม้เขาจะใช้พลังเวทย์จนหมดเขาก็ไม่สามารถฆ่าพวกมันได้ทั้งหมด

ดังนั้นเขาจึงตะโกนไปหาพ่อมดโฮล์มส์ว่า

“พ่อมดโฮล์มส์ พวกค้างคาวเป็นอัมพาตจะคาถาของฉันชั่วคราว คุณจัดการพวกมันด้วยคาถาระเบิดน้ำแข็งต่อที่นะ”

เมื่อได้ยินเสียงเมอร์ลิน สติของโฮล์มส์กกลับมา เขามองเมอร์ลินด้วยแววตาที่ซับซ้อน แม้ว่าเขาจะคิดว่าเมอร์ลินจะไม่มีโอกสเป็นนักเวทย์ระดับหนึ่งแต่ว่าตอนนี้เมอร์ลินแข็งแกร่งที่สุด

เขาจ้องมองไปที่ค้างคาวแวมไพร์ที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เขาได้จัดการร่ายคาถาใส่พวกมัน

*ตูม!ตูม!ตูม!*

พ่อมดโฮล์มส์ร่ายคาถาระเบิดน้ำแข็งสิบกว่าพร้อมกัน ทําให้ฝูงค้างคาวแวมไพร์ระเบิดเป็นชิ้น ๆ และตกลงบนพื้น

“ก๊าซซซ”

เสียงกรีดร้องอันแหลมดังมาจากในถ้ำอีกครั้ง พวกค้างคาวแวมไพร์ที่ไม่ได้โดนข่ายสายฟ้า พวกมันถอยหนีและกลับเข้าไปในถ้ำทันที

เมื่อเห็นว่าพวกมันถอยหนี เมอร์ลินจึงหยุดร่ายคาถาข่ายสายฟ้าทันที เนื่องจากเขาเพิ่งสร้างคาถาได้ไม่นาน แม้จะมีหินธาตุ เขาก็สามารถร่ายได้เพียงยี่สิบครั้งเท่านั้น

ทางด้านพ่อมดโฮล์มส์ เขาได้ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความลังเลว่า

“มันมีทางเข้าถ้ำอยู่สองแห่ง พวกเราควรจะแบ่งทีมเข้าไปข้างใน ฉันกับรีลริสจะเข้าไปทางซ้าย ส่วนคนที่เหลือจะเข้าไปทางขวา”

เมอร์ลินกับโฮล์มส์ไม่ได้มาจากหอคอยเดียวกัน ถ้าไม่ใช่เพราะภารกิจนี้ พวกเขาคงไม่รู้จักกัน ดังนั้นพวกเขาจึงแบ่งทีมกันแบบนี้

เลอแรนก้ากับเมอร์ลินได้สบตากัน จากนั้นก็พยักหน้ารับข้อเสนอของโฮล์มส์

“ถ้าอย่างนั้น พวกเราของนําไปก่อนนะ”

จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปยังถ้ำทางชายทันที ส่วนเมอร์ลินได้เหลือบมองคาเฟซกับ แคทเธอรีนและพูดว่า

“จากตรงนี้ไปมันอันตรายมาก พวกคุณไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ดังนั้นออกไปจากที่นี่เถอะ”

อย่างไรก็ตามแคทเธอรีนตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว่า “ พ่อมดเมอร์ลิน พ่อของฉันอยู่ข้างในนั่น เราจะตามพวกคุณไป เราจะอยู่ที่ด้านหลังและจะไม่สร้างปัญหาให้กับพวกคุณ”

คาเปซที่ตั้งใจจะเฝ้ารออยู่ที่ปากถ้ำแต่แคทเธอรีนยืนกรานจะเข้าไปข้างใน ทําให้เขาไม่มีทางเลือก เขาได้แต่จ้องมองไปที่เมอร์ลินและไม่ได้พูดอะไร

เมอร์ลินรู้สึกปวดหัว เขารู้ว่าที่แคทเธอรีนเข้าไปในถ้ำเพราะความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้นและอีกอย่างทั้งสองไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น เขาเกรงว่าพวกเขาจะสร้างปัญหาให้เขา

“เราอาจเจออันตรายข้างในนั่น แม้ฉันจะช่วยพวกคุณไว้ตั้งสองครั้งแต่ฉันไม่รับประกันว่าจะมีครั้งที่สาม ถ้าหากพวกคุณจะตามมาก็ระวังตัวให้ดี” เมอร์ลินกล่าวอย่างเย็นชา

จากนั้นเมอร์ลินก็เดินเข้าไปโดยไม่สนใจใยดีคาเปซกับแคทเธอรีนอีก

ในส่วนลึกของถ้ำ ภายในบรเวณนั้นกว้างขวางซึ่งมีแท่นบูชาอยู่ใจกลาง มีชายชราผมเงินกําลังยืนอยู่บนแท่นบูชา

ชายชราจ้องมองไปที่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ใต้แท่นบูชา นั่นคือแอ่งเลือดสีแดงสด ส่งกลิ่นคาวเลือดกระจายไปทั่ว ใจกลางของบ่อเลือดนั้นมีอะไรบางอย่างซ่อนตัวอยู่ของในนั้น

“ยังไม่พอ ข้าต้องการเลือดจากมนุษย์อีกหนึ่งพันคน” ชายชราผมสีเงินพึมพําเบา ๆ ทันใดนั้นเขาได้ขมวดคิ้วและเงยหน้าขึ้น ดูเหมือนเขาจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง

“หึ กว่าดินแดนมนต์ดําจะส่งคนมา มันก็สายเกินไป…หลังจากที่ข้าฆ่านักเวทย์พวกนั้น ข้าควรเปลี่ยนสถานที่”

ชายชราพึมพําอีกครั้ง เขาได้เผยรอยยิ้มที่น่าสยดสยองออกมา

ตรงข้างล่างของแท่นพิธีมีคนถูกผูกติดอยู่กับเวา แขนขาของพวกเขาถูกตอกบนเสาหินอย่างโหดร้ายแต่ที่น่าแปลกก็คือไม่มีเลือดออกมาจากบาดแผลแม้แต่หยดเดียว

*หวู่ม!*

นิ้วอันผอมแห่งชองชายชราชี้ไปที่เสาต้นหนึ่ง จากนั้นค้างคาวแวมไพร์ขนาดใหญ่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาและจับคนบนเสาโยนลงไปในบ่อเลือด

“อ๊าก!!”

คนที่ถูกโยนลงไปส่งเสียงร้องออกมาอย่างทรมาน หลังจากนั้นไม่นานเสียงของเขาค่อย ๆ จางหายไปพร้อมกับร่างที่ค่อย ๆ จมลงไปในบ่อเลือด

“ลูก ๆ ของข้า ออกมากันเถอะ ถึงเวลาออกล่าแล้ว” ชายชราพึมพําและขยายพลังจิตลงไปยังบ่อเลือดโดยตรง

*บุ๋ม บุ๋ม*

ในไม่ช้าฟองอากาศได้ปรากฏขึ้นมาบนพื้นผิวของบ่อเลือด จากนั้นก็มีค้างคาวแวมไพร์ขนาดใหญ่สองตัวพุ่งขึ้นจากบ่อเลือด

“ลูกน้อยของข้า ได้เวลาอาหารแล้ว พวกเจ้าจะต้องพึงพอใจอย่างแน่นอน”

ค้างคาวแวมไพร์ทั้งสองตัวส่งเสียงร้องออกมา จากนั้นมันได้บินแยกเข้าไปในถ้ำฝั่งละตัว