WS บทที่ 124 ภูติธาตุ PART 1

ทันทีที่เมอร์ลินก้าวเท้าเข้าไปในถ้ำ เขารู้สึกขนลุกตรงสันหลังทันที

แม้ว่าภายในถ้ำจะมืดสนิทแต่มันก็ไม่มีผลกับนักเวทย์มากนัก พวกเขาสามารถใช้พลังจิตมองรอบ ๆ ได้

ในทุก ๆ ฝีก้าวของเขาเต็มไปด้วยความระวังตัว หากเขาพบอะไรที่ผิดปกติเขาก็ผิดเดินทันที หลังจากที่แน่ใจว่าปลอดภัยแล้วเขาจะเดินต่อ

“เดี๋ยวก่อนนั้นเสียงอะไรนะ” เมอร์ลินหยุดและตั้งใจฟังเสียง

“ก๊าซซ”

เสียงมาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ นั่นทําให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนทันที เขารีบหันไปเตือนคนข้างหลังว่า

“ระวังด้วยนั่นอาจเป็นค้างคาวแวมไพร์”

ทันทีที่เขาพูดจบ พวกเขาก็เห็นแสงสีแดงขนาดมหึมาพุ่งตรงมาที่พวกเขา เมอร์ลินร่ายคาถาแช่แข็งสกัดมันไว้แต่ก็ทําอะไรมันไม่ได้เลย

“ก๊าซซ!!”

ตอนนี้พวกเขามองเห็นแสงสีแดงได้อย่างชัดเจน มันคือค้างคาวแวมไพร์แบบเดียวกับที่พวกเขาเคยเห็นแต่ตัวใหญ่กว่ามาก ตัวของมันมีสีแดงราวกับเลือดและรูปร่างที่ใหญ่โตของมัน ใครได้เห็นตก็ต้องสันกลัว

เมื่อมันเห็นพวกเมอร์ลินมันได้ส่งเสียงร้องออกมาและพุ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูง

มันเร็วยิ่งกว่าคาถาลมพายุของเขา เขาทําได้เพียงร่ายคาถาลูกไฟชะลอความเร็วของมันเท่านั้น

*ตูม!*

อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ผล มันไม่สนใจลูกไฟที่พุ่งมาหามัน มันบินผ่านอย่างไม่กลัวเกรง มันได้ปากกว้างและฟนของเหลวสีดําใส่พวกเมอร์ลิน

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เมอร์ลินไม่มีเวลาตอบสนองได้ทัน เขาจึงทําให้เพียงหลบเท่านั้น

เลอแรนก้าที่อยู่ข้างหลัง เธอเห็นท่าไม่ดี เธอรีบหลบไปก่อนหน้านี้แล้วอย่างไรก็ตามพ่อมดแดนเบ้ไม่ได้โชคดีขนาดนั้น เนื่องจากของเหลวสีดํามันเร็วมากและถ้ำก็มืดเกินไป เขาทําได้เพียงร่ายคาถาป้องกันธาตุดินเท่านั้น

กําแพงดินหนาพุ่งขึ้นมาเบื้องหน้าขวางของเหลวสีดํากับพ่อมดแดนเบ้เอาไว้

“ฉ่า ฉ่า*

แต่ของเหลวสีดําของค้างคาวแวมไพร์มีฤทธิ์กัดกร่อน ทําให้มันละลายกําแพงดินอย่างรวดเร็ว พ่อมดแดนเบ้ที่หลบไม่ทันได้โดนของเหลวสีดําเอาเต็ม ๆ

“อ๊าก! นี่มันอะไรกันเนี่ย” พ่อมดแดนเบ้มองร่างกายที่กําลังรู้กัดกร่อนด้วยสายตาที่หวาดกลัว เขากรีดร้องอย่างเจ็บปวด จากนั้นเขาก็ขาดใจตายด้วยสภาพที่น่าสยดสยอง

*ฉ่า*

โชคดีที่เมอร์ลินไม่ได้ร่ายคาถาโล่ปฐพี่ก่อนหน้านี้ แม้ว่าพลังป้องกันของคาถานี้จะไม่ธรรมดา แต่พลังโจมตีของค้างคาวแวมไพร์ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เขาไม่อยากกลายเป็นแบบพ่อมดแดนเบ้ เขาจึงไม่เสี่ยงที่จะใช้มัน

“รีบถอยไปเร็วเข้า!!” เมอร์ลินตะโกนสั่ง เขารู้ว่าค้างตัวนี้ไม่ธรรมดา นอกจากเขาแล้ว คนอื่นๆ ไม่น่าจะรับมือมันได้

“ก๊าซ ก๊าซ”

ค้างคาวแวมไพร์ส่งเสียงแหลมออกมาอีกครั้ง จากนั้นพลังธาตุมืดเริ่มรวมเข้าไปในร่างกายของมัน มันอยู่ในถ้ำที่มืดมิดนี้ทําให้มันได้เปรียบโดยธรรมชาติ

การที่มันรวบรวมพลังธาตุแสดงว่ามันกําลังจะร่ายเวทย์

เมอร์ลินตกใจมาก เขาเพิ่งจะเข้าใจว่าค้างคาวแวมไพร์ตัวนี้ไม่ใช่อสูรธาตุ โดยปกติแล้วพวกอสูรธาตุจะไม่สามารถร่ายเวทย์ได้

“ค้างคาวแวมไพร์ที่สามารถร่ายเวทย์ได้ มีเพียงราชาค้างคาวแวมไพร์เท่านั้น”

ทางเลอแรนก้าเองก็สัมผัสได้ถึงพลังธาตุที่กําลังถูกรวบรวมโดยค้างคาวแวมไพร์ เธอจึงตะโกนออกมาว่า “ไม่ดีแล้ว นี่น่าจะเป็นราชาค้างคาวแวมไพร์!”

ราชาค้างคาวแวมไพร์ มันเทียบได้กับนักเวทย์ระดับสี่แถมยังมีสติปัญญาสูงด้วย ดังนั้นมันจึงไม่ถูกเรียกว่าอสูรธาตุแต่เป็นภูติธาตุ

จากอสูรกลายเป็นภูติ มันเป็นเรื่องปกติที่เกิดตามธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่พวกอสูรธาตุจะมีสติปัญญาต่ำและค่อนข้างอ่อนแอ ทําให้พวกนักเวทย์ขั้นต้นกับนักดาบธาตุขั้นกลางสามารถจัดการได้สบาย ๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อมันกลายเป็นภูติธาตุ มันสามารถควบคุมพลังธาตุได้ดีมากขึ้นและสติปัญญาก็สูงขึ้นด้วย

ดังนั้นมันจึงไม่ต่างจากนักเวทย์ระดับสี่ที่ทรงพลัง

*ครืน*

ค้างคาวแวมไพร์ร่ายเวทย์สีดําที่ผสานกับความผิดของถ้ำทําให้ยากที่จะป้องกัน

นี่มันคาถาลําแสงแห่งความมืดไม่ใช่เหรอ? แถมยังทรงพลังใกล้เคียงกับคาถาระดับหนึ่งอีก นี่ไม่ใช่ราชาค้างคาวแวมไพร์ที่แท้จริง มันอยู่ในช่วงวิวัฒนาการ”

พลังจิตของเมอร์ลินสามารถตรวจจับลําแสงแห่งความมืดได้อย่างรวดเร็ว ทางเลอแรนก้าก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นทั้งสองจึงสามารถหลบมันได้ง่ายดาย

แต่อย่างไม่ก็ตามแคทเธอรีนกับคาเปซไม่ได้โชคดีแบบที่ผ่าน ๆ มา คาเปซที่เป็นนักดาบธาตุระดับสาม เขาจึงสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กําลังเข้ามา เขาจึงชักดาบออกมาป้องกันทันที

*ซูม!*

อย่างไรก็ตามมันก็ไร้ประโยชน์ พลังของลําแสงแห่งความมืดนั้นสามารถเจาะทะลวงได้แม้กระทั้งเหล็กดําที่แข็งแกร่งได้ ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงพวกเหล็กธรรมดา

คาถาลําแสงแห่งความมืดนั้น มันได้รับแรงบันดาลใจจากราชาค้างคาวแวมไพร์ หลังจากผ่านการวิจัยมาอย่างยาวนาน คาถาลําแสงแห่งความืดก็ได้ถือกําเนิดขึ้น

แม้ลําแสงแห่งความมืดจะเจาะทะลุตัวดาบไป ความแรงของมันก็ไม่ได้ลดลงเลย มันได้ทะลุฝ่ามือของคาเปซ ส่วนแคทเธอรีนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็โดยลําแสงยิงทะลุแขนขวาของเธอ อาการบาดเจ็บที่รุนแรงมันแทบจะทําให้เธอหมดสติไปเลย

เมอร์ลินที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่เขาไม่รู้จะช่วยยังไง ทําให้แต่มองเท่านั้น

อย่างที่เขาได้เคยบอกพวกเขาไปแล้วว่า แม้เขาจะช่วยพวกเขาไปสองรั้งแต่มันไม่ได้หมายความว่าจะมีครั้งที่สามแต่ถึงอยากนั้นพวกเราก็ยังโชคดีที่ลําแสงไม่ได้ยิงโดนส่วนสําคัญ จึงทําให้พวกเขารอดตายอย่างหวุดหวิด

เขาหวังว่าประสบการณ์ในครั้งนี้จะเป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่สําหรับเขา

“ก๊าซ!!!”

ค้างคาวแวมไพร์ที่ใกล้จะวิวัฒนาการเป็นราชาค้างคาวแวมไพร์ มันได้ส่งเสียงร้องแหลมสูงออกมา มันกําลังเตรียมพร้อมสําหรับการโจมตีชุดต่อไปที่รุนแรงยิ่งขึ้น เมอร์ลินกับคนอื่น ๆ กําลังตกอยู่ในอันตราย