กุยแกกำลังมองไปที่เย่เฉิน เดิมทีเขาต้องการเกลี้ยกล่อมเย่เฉินอีกซักนิด แต่เขาก็ตกตะลึงไปชั่วขณะจากนั้นก็นิ่งไป:

“ นี่ … เกิดอะไรขึ้น … ทำไม … ทำไม … ”

“หืม … ” เย่เฉินระบายลมหายใจออกเป็นเวลานานแรงกดดันที่ออกมาจากร่างกายของเขาก็หายไปในทันที

” กุยแกมีอะไรหรือ?” เย่เฉินถามด้วยความสงสัยเมื่อเขาเห็นการแสดงออกและสีหน้าของกุยแก

กุยแกได้ยินคำถามของเย่เฉินก็กลับมามีสติอีกครั้งแล้วกล่าวด้วยความประหลาดใจ:

“ ท่านลอร์ดนั้นไม่ธรรมดาอย่าแท้จริง ในตอนนี้ข้าไม่สามารถมองเห็นโชคชะตาของท่านลอร์ดได้เลย … ”

เมื่อได้ยินดังนั้น เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา: “มันไม่สำคัญว่าเจ้าจะสามารถมองเห็นหรือไม่ ประเด็นสำคัญคือเจ้าได้เตือนข้าถึงอันตรายที่อาจจะเกิดกับข้าล่วงหน้า”

“ ท่านลอร์ดของข้า ข้ารู้สึกอับอายที่ไม่สามารถช่วยนายท่านของข้าได้” กุยแกถอนหายใจจากนั้นโค้งคำนับและกล่าวออกมา

“เจ้าทำงานได้ดีมากแล้ว ถ้าไม่มีเจ้าเตือนข้ากลัวว่าข้ายังอยู่ในความมืดมน บางทีข้าอาจจะระวังตัวก็ต่อเมื่อเจอกับมันแล้ว ในตอนนั้นมันก็สายเกินไปแล้ว แต่ตอนนี้ … “ เย่เฉินหยุดพูด , และมองออกไปยังที่ไกลๆด้วยสายตาเย็นชา

หากไม่ใช่คำเตือนของกุยแก เย่เฉินอาจเพิกเฉยต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากผู้เล่นระหว่างการเดินทางไปลกเอี๋ยง

แต่ตอนนี้เย่เฉินตระหนักได้แล้ว

“ ท่านลอร์ดต้องระวังให้มาก” กุยแกถอนหายใจจากนั้นโค้งคำนับและกล่าวเตือนอีกครั้ง

เย่เฉินพยักหน้าแล้วยิ้มและกล่าวว่า “ไปดูรอบ ๆ เลือกสถานที่ที่เจ้าชอบเพื่อให้ช่างฝีมือสามารถสร้างบ้านให้เจ้าได้”

“ท่านลอร์ด ข้าเลือกสถานที่ไว้แล้ว” กุยแกเมื่อได้ยิน ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นจากนั้นเขาก็ตอบออกมา

“หืม เจ้าเลือกที่ไหน” เย่เฉินผงะไปชั่วขณะแล้วถาม

“ ท่านลอร์ด บ้านของข้าสร้างที่ตรงข้ามโรงเตี๊ยมได้หรือไม่?” กุยแกถามอย่างตื่นเต้น

เมื่อเย่เฉินได้ยินความต้องการของกุยแก เขาก็เงียบไปชั่วครู่แล้วกล่าวตอบ :

” เจ้าเข้าใจเลือกสถานที่จริงๆ … ที่ตรงนั้นจะเป็นสถานที่ที่วุ่นวายมากในอนาคต เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าจะเลือกที่นี่ เจ้าอาจจะชอบข้าเข้าใจ แต่ภรรยาของเจ้าล่ะ เธออาจจะไม่ชอบที่นี่ .”

“ไม่เป็นไร ข้าจะทิ้งเธอหากเธอกล้าที่จะพูดมาก อีกอย่างข้ายังไม่ได้แต่งงานนับประสาอะไรกับการอยู่คนเดียวอย่างไร้กังวล” กุยแกกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส

หลังจากได้ยินคำอธิบายของกุยแก เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงจากนั้นก็หัวเราะและพูดว่า “คำพูดของเจ้า ข้ากลัวว่าครึ่งประโยคสุดท้ายนั้นจะมาจากก้นบึ้งของหัวใจเจ้า”

“อะแฮ่ม … สิ่งที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริง!” กุยแกกระแอมออกมาสองสามครั้งเมื่อเขาได้ยินคำพูดของเย่เฉิน

เย่เฉินจ้องมองกุยแกจากนั้นกล่าวว่า:

“ ที่นี่จะเป็นเมืองที่พลุกพล่านในอนาคต มีคนเดินเท้าเข้าออกมากเกินไป และไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย เลือกสถานที่แยกออกไปจะดีกว่า สำหรับความปรารถนาที่จพดื่มของเจ้า อย่างที่ข้าได้กล่าวไปแล้วเจ้าสามารถดื่มได้สามไหต่อวันเมื่อสามารถพัตนาเหล้าให้ดีกว่าตอนนี้ แต่ … หากเจ้ากล้าจะดื่มมากเกินไปข้าจะหักขาของเจ้าจริงๆ”

ในความเป็นจริงเย่เฉินรู้ว่ากุยแกกำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อกุยแกเลือกที่จะสร้างบ้านตรงข้ามโรงเตี๊ยม

หลังจากดื่มเหล้าทุกวัน เขาก็สามารถซื้อเพิ่มได้ ถ้าทำได้ก็จะดื่มให้มากที่สุด ใครกันที่ทำให้กุยแกกลายเป็นคนขี้เมา?

เมื่อกุยแกได้ยินเช่นนี้ใบหน้าของเขาก็แข็งค้างและเขามองไปที่เย่เฉินด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

“กุยแก เพื่อสิ่งที่ดีต่อร่างกายของเจ้า ข้าคิดว่าเจ้าควรตระหนักถึงตัวเองมากกว่านี้ ก่อนที่ข้าจะหาวิธีรักษาเจ้าได้อย่างสมบูรณ์ เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มมากกว่านี้!” เย่เฉินถอนหายใจจากนั้นมองไปที่กุยแกและกล่าวอย่างจริงจังที่สุด

เมื่อกุยแกได้ยินเช่นนี้เขาก็ถึงกับตกตะลึงจากนั้นก็กลับสู่สีหน้าปกติและโค้งคำนับด้วยความจริงใจต่อเย่เฉิน

“นายท่านโรคของข้าเป็นความอิจฉาของสวรรค์ ไม่มียาหรือหินวิเศษชนิดใดที่จะสามารถรักษาให้หายได้และ … “

เย่เฉินขมวดคิ้วยกมือขึ้นเพื่อขัดจังหวะคำพูดของกุยแกและกล่าวออกมาด้วยเสียงทุ้ม: “ถ้าข้าบอกว่ามันสามารถรักษาได้ก็สามารถรักษาให้หายได้ ไม่มีใครสามารถเอาชีวิตผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าไปจากข้าได้แม้ว่ามันจะเป็นสวรรค์ก็ไม่มีทาง!”

หลังจากที่เย่เฉินพูดจบด้วยการเคลื่อนไหวด้วยมือขวาดอกฮั่วหยางก็ปรากฏขึ้นมือเขาทันที

“นี่คือ … ” กุยแกผงะชั่วครู่จากนั้นดวงตาของเขาก็หดลงอย่างรวดเร็วและกล่าวออกมาด้วยความตกใจ

“ดอกฮั่วหยางนี่เป็นทางเลือกสุดท้าย ถ้าข้าหาวิธีรักษาเจ้าไม่ได้จริงๆ ข้าจะไม่มีทางดูเจ้าตาย แม้ว่าเจ้าจะตายข้าก็พาเจ้ากลับมาให้ได้!” เย่เฉินกล่าวออกมาด้วยเสียงจริงจังมาก

“การที่ข้าได้ติดตามท่านลอร์ด ชีวิตนี้ไม่มีอะไรให้เสียใจอีก!” ร่างกายของกุยแกสั่นขึ้นโดยไม่ตั้งใจจากนั้นก็พูดออกมาเสียงดัง

เย่เฉินยิ้มเล็ก กุยแกจึงกล่าวต่อว่า:

“นายท่าน, ถึงดอกฮั่วหยางทำให้ข้ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่แม้ว่าข้าจะฟื้นคืนชีพโดยการกินดอกฮั่วหยาง แต่หลังจากที่ข้าฟื้นขึ้นมาโรคของข้าก็ยังติดตามข้าอยู่มันไม่ได้หายไป ดังนั้นอย่าให้ยานี้เสียเปล่าไปกับข้าเลย”

“เจ้ากำลังพูดถึงอะไรอยู่ หลังจากที่เจ้าฟื้นขึ้นมาแล้วโรคของเจ้าก็ยังไม่หายไปอีกเหรอ?” การแสดงออกของเย่เฉินเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็ถามออกมาด้วยเสียงทุ้ม

“มันเป็นความจริง มันไม่ใช่โรคทั่วไปของมนุษย์และแม้ว่าข้าจะได้รับการตรวจจากหมอเทวดาเขาก็ไม่สามารถคิดวิธีที่จะทำลายมันได้” กุยแกถอนหายใจและพูดออกมาด้วยสีหน้าโศกเศร้า

“เป็นไปไม่ได้! มันต้องมีซักทาง ไม่มีอะไรที่จะแก้ไขไม่ได้!” เย่เฉินขมวดคิ้วแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้ม