ตอนที่ 121 ท่านย่า
“เจ้าหนู นี่คือสูตรลับของโถงราชาเม็ดยา ข้าได้ศึกษามันอยู่หลายปีแต่ก็ไม่ได้ผลกับข้า เจ้าอาจมีวิชาบางอย่าง แต่ไม่มีทางที่เจ้าจะมองทะลุความลี้ลับมันได้แค่แวบแรก”
ป้าเถาส่ายหัวนาง จากนั้นก็หันไปหาฉู่ชิงเฉิง“ยัยหนู เจ้าคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อเขาใช่ไหม?”
แก้มของฉู่ชิงเฉิงแดงก่ําและนางก็ก้มหัวขณะที่เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด ไม่นาน ป้าเถาก็กรีดร้องตกใจ
“อะไรนะ แม้กระทั่งประตูจักรพรรดิก็มา?นี่ต้องเป็นชะตากรรม”
นางร่ําไห้ถึงสวรรค์ ป่าเถาปาดคราบน้ําตาและพึมพํา“ฉู่ฉู่ เจ้าคิดจะทําอะไรต่อ?เจ้าจะปล่อยให้พวกมันทําลายหมู่ตึกฮัวอรี่?หรือเจ้าจะวิงวอนกับปรมาจารย์ให้สู้กับพวกมันจนตัวตาย?”
ปรมาจารย์!
จั๋วฝานเลิกคิ้ว
เจ็ดตระกูลใหญ่ล้วนมีปรมาจารย์ของตน พวกเขาคือผู้บ่มเพาะระดับเซียน แนวป้องกันสุดท้ายของพวกเขา พวกเขาจะไม่มีวันขอให้ปรมาจารย์แทรกแซงเว้นแต่จะเจอกับหายนะ
นี่ยืนยันได้ว่าหมู่ตึกฮัวออับจนหนทางแล้วจริง
ตอนเขาคิดถึงมัน การสู้กันของยอดฝีมือระดับเซียนน่าจะลงเอยด้วยการที่ปรมาจารย์ของประตูจักรพรรดิบาดเจ็บไปหลายสิบปี [ข้าเดาว่ามันคืออีกทางที่จะชะลอการพิชิตของพวกมัน]
“พี่สาวฉู่ ท่านควรขอให้ปรมาจารย์ก้าวเข้ามาแทรกแซงและให้พวกมันรู้ว่าเราจะสู้หลังชนฝา หมู่ตึกฮัวอไม่ใช่สนามเด็กเล่นของพวกมัน” จั๋วฝานเสนอ ยิ่งวุ่นวาย มันยิ่งดีต่อเขา
ฉู่ชิงเฉิงส่ายหัว ดวงตาของนางแน่วแน่”การขอให้ปรมาจารย์ออกมาจะกระตุ้นสงครามท่ามกลางเจ็ดตระกูล จักรวรรดิจะตกอยู่ในสงครามกลางเมืองและคนจะล้มลงด้วยความสิ้นหวัง หัวใจของข้าไม่อาจทนรับ ถ้าหมู่ตึกฮัวอลุ่ม เรา พี่สาว น้องสาวจะต้องแยกทาง แต่ในกรณีสงคราม หมู่ตึกฮัวอวจะแพ้แน่และพี่น้องข้าจะจบสิ้น ในฐานะผู้นํา ข้าไม่อาจเมินเฉยชะตากรรมพวกนางได้”
ในทางกลับกัน จั๋วฝานกลับกลอกตา
ถ้ามันเป็นเขา เขาจะแบ่งแยกและจากนั้นก็พิชิต โจมตีอย่างเปิดเผยและลับๆ กระจายการเข่นฆ่าไปทั่วและพลิกคว่ําจักรวรรดิ นั่นคือโอกาสสําหรับเขา เพื่อผงาดจากความบ้าคลั่งไข้าอยากหันหลังให้กับโลกของข้า แทนที่จะให้โลกหันหลังให้กับข้า!]
วิถีของผู้บ่มเพาะมารนั้นโหดร้ายและทะเยอะทะยาน ทุกคนที่ผ่านตาคือก้าวให้เหยียบ
น่าเสียดาย ฉู่ซิงเฉิงไม่ใช่ผู้บ่มเพาะมาร นางใจดีไม่เหมือนกับจั๋วฝาน!
“และพวกเจ้าหมู่ตึกอื่นๆที่ติดพิษโดยสุนัขเฒ่านั่น..”
ฉู่ชิงเฉิงหันไปมองป้าเถาอย่างเป็นกังวล”นั่นทําให้ข้าอยากขอให้ป้าเถาก้าวออกมาและปกป้องรากโพธิ์! บางทีโอกาสเดียวของเราในการได้รับยาแก้พิษก็คือยอมแลกเปลี่ยนมัน..”
“เจ้าคิดจะทําให้ข้าต้องเผชิญหน้ากับสุนัขเฒ่านั่น?”
ป้าเถาดูเหมือนจะได้ยินตลกร้าย นางหัวเราะเหมือนคนบ้า แต่ในความบ้านั้น มีความทุกข์ซ่อนอยู่
“ชิงเฉิง มองข้า พอเจอกับฝ่ามือเมฆสายรุ้งนั่นไป ตอนนี้ข้าก็ไม่ใช่ทั้งมนุษย์หรือปีศาจ เจ้าคิดว่าฝีมืออ่อนด้อยของข้าจะพอประชันกับเขาได้หรือ?”
หัวใจของนางเจ็บปวด ฉู่ชิงเฉิงกระซิบบางอย่างในหูของป้าเถา
ดวงตาของป้าเถาสว่างวาบและพยักหน้าข้าเข้าใจแล้ว นั่นคือแผนเจ้าสินะ แต่..มันจะได้ผลหรือ?”
ดวงตาของฉู่ชิงเฉิงดูอาลัย แต่นางก็พยักหน้า“งั้นข้าก็จะได้ตายอย่างสมศักดิ์ศรี!”
“เจ้าถึงได้พาเด็กนี่มาสินะ”
ป้าเถาถอนหายใจ ตบไหล่ฉู่ชิงเฉิง จากนั้นก็หันไปมองจั๋วฝานอย่างจริงจัง”เจ้าหนู มานี่ และคํานับท่านย่าผู้นี้สามครั้ง!”
จั๋วฝานงงท่านย่า?อะไร?]
ตามนิ้วนาง เขาพบว่านางกําลังหมายถึงศพมีชีวิต!
เขายังงง แต่คนตายควรได้รับความเคารพ เขาคิดว่านะ ดังนั้นการคํานับจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร และเช่นนั้น จั๋วฝานจึงคุกเข่าและเคาะหัวกับพื้นสามครั้งอย่างสบายๆ
ขระที่เขาทํา เขาก็ตระหนักว่าฉู่ซิงเฉิงกําลังคุกเข่าข้างเขา และคํานับเช่นกัน
“ดี!เสร็จสิ้นพิธี!
จั๋วฝานยังสับสนตอนป้าเถาตะโกนและขอให้เขาคุกเข่าอีก
ครั้งนี้ เขาต่อต้าน ตอนแรกเขาไม่รู้เรื่อง แต่ตอนนี้เขาต้องคุกเข่าให้กับค้างคาวแก่น่ากลัวนี้อีกครั้ง?แต่สายตาทิ่มแทงของฉู่ชิงเฉิงทําให้จั๋วฝานไร้ทางเลือก
[หืม ตอนนี้ข้าคือซ่งอรี่และทําได้แค่คุกเข่า]
ป้าเถากับฉู่ชิงเฉิงสังเกตเห็นดวงตาหยิ่งของเขาและส่ายหัว
ต่อไป ป้าเถาเริ่มท่องคําสอนของบรรพชนหมู่ตึกฮัวอวพร้อมกับประวัติอันยาวนานนับพันปี จั๋วฝานไม่ค่อยพอใจกับการฟังเรื่องไร้สาระ
แต่พอถึงช่วงกลาง จั๋วฝานก็เริ่มสนใจ
มันกลายเป็นว่าหมู่ตึกฮัวอวี่กับโถงราชาเม็ดยาเคยเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้น และมักจะจับคู่ศิษย์ของตนกัน
นอกจากนี้ ฝ่ามือเมฆสายรุ้งของโถงราชาเม็ดยาไม่ได้แข็งแกร่งมากนักในอดีต แต่ต้องขอบคุณหมู่ตึกฮัวอวี่ ที่มอบยาหยกโพธิ์ให้ มันจึงค่อยๆพัฒนา กลายเป็นสิ่งที่เป็นอยู่วันนี้ ความน่ากลัวของเจ็ดตระกูลใหญ่
ต่อมา เพราะคู่รักของโถงราชาเม็ดยาและหมู่ตึกฮัวทะเลาะกัน ซึ่งนําไปสู่การต่อสู้ มันจึงจบลงด้วยฝ่ายสามีใช้ฝ่ามือเมฆสายรุ้งกับภรรยา และภรรยาก็กลับมาหมู่ตึกฮัวอวอย่างโกรธแค้น
หมู่ตึกฮวอรี่ไม่ได้มองมันจริงจังในตอนแรก แค่ใช้ยาหยกโพธิ์รักษานาง แต่พวกนางต้องตกใจที่พบว่ายาหยกโพธิ์ซึ่งสามารถช่วยชีวิตคนใกล้ตายให้ฟื้นคืนได้กลับไร้ผล
นับแต่นั้นมา หมู่ตึกฮัวอวี่ก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ พิษของโถงราชาเม็ดยาไม่อาจควบคุมได้ ดังนั้นพวกนางจึงหยุดให้ยาหยกโพธิ์
โถงราชาเม็ดยาจึงโกรธจัดและกลายเป็นศัตรูกันนับแต่นั้นมา
จนกระทั่งร้อยปีก่อน โถงราชาเม็ดยาคอยรังควานหมู่ตึกฮัวอวี่และสังหารเจ้าหมู่ตึกแปดคนด้วยฝ่ามือเมฆสายรุ้ง แม้กระทั่งผู้นําก็ยังไม่เว้น โดยมีสองผู้นําตกเป็นเหยื่อ
ราชวงศ์ทําเป็นหลับหูหลับตาในความบาดหมางของพวกเขา พวกเขาจะไปทําได้ไง?โถงราชาเม็ดยานั้น คอยจัดหาเม็ดยาให้พวกเขาตลอด
มันจนถึงจุดที่โถงราชาเม็ดยาได้ผลักดันหมู่ตึกฮัวอวจนเกือบจะโดนทําลายล้างอยู่หลายครั้ง!
สิ่งหนึ่งที่จะพูดคือ ที่ไหนมีเจตจํานง ที่นั่นจะมีหนทาง
ในชั่วโมงที่หมู่ตึกฮัวอวี่ต้องการมากสุด หญิงแปลกหน้าได้ก้าวออกมา ฉู่ปี้จุน นางไม่ใช่ใครอื่นนอกจากศพบนน้ําแข็งโบราณ
ไม่เพียงนางจะแข็งแกร่ง นางยังฉลาด ด้านหนึ่ง นางขับไล่การโจมตีของโถงราชาเม็ดยา และอีกด้าน นางยังสร้างสัมพันธ์กับตระกูลอื่นผ่านการแต่งงาน ขยับขยายอํานาจ นี่ทําให้โกงราชาเม็ดยาพ่ายแพ้อยู่หลายครั้ง
ทุกคนในเจ็ดตระกูลใหญ่ชื่นชมฝีมือนาง พวกเขาล้วนตระหนักว่าถ้าไม่มีทาง มันคงไม่มีหมู่ตึกฮวอรี่ในวันนี้
แม้กระทั่งโถงราชาเม็ดยาก็ยังชื่นชมนาง
ผู้คนเรียกนางกันว่าสตรีเหล็ก ขณะที่ศิษย์ของหมู่ตึกฮัวอวี่เรียกนางว่าท่านย่า นางไม่ใช่เจ้าหมู่ตึกใหญ่ แต่นางช่วยเหลือเจ้าหมู่ตึกใหญ่มาถึงสามรุ่น คอยประคับประคองอํานาจของหมู่ตึกฮัวอวี่
มันน่าเสียดายที่สตรีเหล็กต้องลงเอยด้วยการตกหลมพรางศัตร
สิบปีก่อน ราชาเม็ดยาอสูรได้ควบคุมเจ้าหมู่ตึกสามคน พวกนางทรยศตระกูลตัวเองและขอความช่วยเหลือรู่จนเร่งรีบไปช่วย และก็ติดกับศัตรูเข้า
นางโดนฝ่ามือเมฆสายรุ้งจนบาดเจ็บสาหัสและติดพิษ แต่ก็ยังหนีออกวงล้อมมาได้
พวกนางมักคิดว่าโถงราชาเม็ดยาคือผู้อยู่เบื้องหลัง แต่ตอนนี้พวกนางรู้แล้วว่าเป็นประตูจักรพรรดิ
สภาพของนางดร่อแร่ตอนกลับมา ในช่วงเวลาแห่งความตาย นางได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ
เพื่อให้ฉู่ชิงเฉิงเป็นเจ้าหมู่ตึกใหญ่ นางได้ส่งต่อเสื้อคลุมให้เด็กสาวอายุเพียง 13 ปี โดยมีเจ้าหมู่ตึกชิงหัว และมู่ตานคอยเคียงข้าง การตัดสินใจนี้ทําให้เจ้าหมู่ตึกหลายคนไม่พอใจ
แต่พวกนางทําได้แค่เงียบต่อหน้าพลังของท่านย่า เช่านนั้น พันธมิตรที่ฉู่ชิงเฉิงไว้ใจได้มากสุดจึงเป็นเจ้าหมู่ตึกชิงหัวและมู่ตาน
พอเวลาผ่านไป ผู้คนก็เริ่มคิดว่าท่านย่าตายแล้ว แต่จริงๆแล้ว ป้าเถาได้แช่แข็งนางในลมหายใจสุดตายและเปลี่ยนนางเป็นศพมีชีวิต!
นี่คือจุดจบของประวัติอันน่าเศร้าของหมู่ตึกฮวอรี่
ฉู่ชิงเฉิงหวนคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นขณะมองท่านย่า
ป้าเถามองจั๋วฝานอย่างเคร่งขรึม”เจ้าหนู เจ้าได้ยินทั้งหมดแล้วนะ?”
จั๋วฝานพยักหน้า“ขอรับ!”
“ดี ตอนนี้ เจ้าจะเป็นคนต่อไปที่จะส่งต่อมันใหมู่ตึกฮัวอวจะไม่มีวันตาย ตราบเท่าที่มีคนจําได้!”นางหัวเราะและช่วยพยุงจั๋วฝานลุกก่อนจะจับมือของเขาให้แนบชิดกับฉู่ซิงเฉิง
“แค่ไม่กี่วัน…ระวังตัวด้วย!”
ป้าเถาเดินไปที่ผนังถ้ําและทําสมาธิ
จั๋วฝานกําลังจะขอคําชี้แจงแต่ฉู่ชิงเฉิงดึงเขาไปตรงหน้าท่านยาก่อน นางก้มหัวอีกครั้งและออกไปโดยไม่หันกลับ
ด้วยเสียงก้องกังวาน ประตูหินปิดลงและค่ายกลก็ทํางานอีกครั้ง
“พี่สาวฉู่ เกิดอะไรขึ้น?”จั๋วฝานถามอย่างสับสน ไม่เข้าใจว่าทําไมฉู่ซิงเฉิงถึงห้ามไม่ให้เขาพูดและพาไปฟังประวัติ
ฉู่ชิงเฉิงส่ายหัวและแสดงรอยยิ้มหายาก“จากนี้ไป เรียกข้าแค่ฉู่ฉู่หรือฉู่ชิงเฉิง!”
“อ่อ..”
จั๋วฝานกะพริบตาปริบๆ เขาไม่รู้ว่าฉู่ชิงเฉิงหมายถึงอะไร แต่การจ้องของนางทําให้เกิดสิ่งแปลกปลอมในหัวใจเขา
“โง่!”
ฉู่ชิงเฉิงดึงมือเขา “ตอนนี้เจ้าเป็นหนึ่งในพวกเราแล้วมา ข้าจะพาเจ้าไปเจอสมาชิกครอบครัวข้า”