ตอนที่ 59 สามวินาทีที่หมีได้ยินเสียงโลลิ

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

59 สามวินาทีที่ได้ยิน

 

“เมื่อกี้อะไรนะคะ? กรุณาพูดอีกครั้งด้วยค่ะ”

 

“ฉันจะไปสังเวียนใต้ดิน”

 

“ขอโทษนะคะ ดูเหมือนเมื่อกี้ดิฉันจะได้ยินไม่ชัด กรุณาพูดอีกครั้งด้วยค่ะ”

 

“ฉันจะไปสังเวียนใต้ดิน นี่ก็เป็นรอบที่สามแล้วน๊ะ”

 

“เพื่อเป็นการยืนยัน กรุณาพูดีกครั้งได้ไหมคะ?”

 

“ฉันจะไปสังเวียนใต้ดิน”

 

“คุณหนูจะยอมแพ้ไหมคะ หากดิฉันร้องไห้และขอร้องที่นี่และตอนนี้?”

 

“อย่าคิดว่าจะได้ผลกับฉันทุกครั้งไปล่ะ ไปกันเถอะ สู่สังเวียนใต้ดิน”

 

“ดิฉันจะแจ้งให้ท่านพ่อของคุณหนูทราบค่ะ”

 

“ฉันขอยืนยันว่าไม่ไป”

 

“เลิกเอาแต่ใจได้แล้ว ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะคะ” 

 

“ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ฉันก็เป็นเด็กน๊า”

 

――เป็นการปฏิเสธเสียงแข็ง

 

ฉันคิดอยู่แล้วว่าริโนกิสจะเป็นปราการแรก และเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เธอแสดงการตอบสนองของบาเรียสุดแกร่ง

 

นั่นเป็นสิ่งเดียวที่สามารถหยุดฉันไว้ได้ ตั้งแต่ในตอนที่ฉันพยายามแอบไปที่เกาะลอยฟ้าที่ยังไม่ได้รับการสำรวจ เมื่อลองนึกย้อนกลับไปแล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอร้องไห้และกอดฉันเอาไว้ เมื่อได้ลิ้มรสชาติชัยชนะไปแล้วครั้งหนึ่ง เธอก็เริ่มทำทุกครั้งเมื่ออยากให้ฉันยอมแพ้……

 

แต่ไม่ใช่ในครั้งนี้

ฉันจะไป สู่สังเวียนใต้ดิน

 

 

 

ฉันถอนตัวจากบาร์『ที่พักหนูเงาสนธยา』ของอันเซล แล้วไปรวมตัวกับริโนกิสที่ร้านกาแฟซึ่งเป็นจุดนัดพบ ก่อนกลับมาที่หอพัก

 

ริโนกิสที่กำลังชงชาถามขึ้นมาว่า「ชุดชั้นในลามกเป็นเช่นไรบางคะ? 」และฉันตอบกลับไปว่า「ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะดูน่ารักกว่าที่คิดไว้」――ฉันพยายามพูดแบบสบาย ๆ เหมือนบทสนทนาประจำวัน

 

ฉันต้องการไปที่สังเวียนใต้ดิน

 

และแน่นอนว่าถูกปฏิเสธ

 

“อย่างแรกเลย คุณหนูไปได้ยินเกี่ยวกับ……สังเวียนใต้ดินมาจากที่ไหนกันคะ?”

 

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่ต้องไปสนใจหรอก”

 

“ดิฉันทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกนะคะ แต่ว่า――ม๊า เรื่องนั้นก็ได้ค่ะ”

 

ดีแล้ว อย่าไล่ตามชิ้นส่วนที่จะทำให้เดือดร้อนหากถูกเจอเลย ……คงไม่ใช่ว่าเพราะรู้อยู่แล้วหรอกใช่ไหม?

 

“แต่ สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็คือเป็นไปไม่ได้ จริงไหมคะ?

คุณหนูเป็นคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว และการไปในสถาที่ที่มีอันตรายมากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของคุณหนู และตระกูลลิสตันได้ค่ะ”

 

อันเซลก็บอกฉันแบบนั้น

และ ฉันได้ยินวิธีหลีกเลี่ยงมาแล้ว

 

“และนอกจากนี้ ดิฉันคิดว่าจะมีผลกระทบค่อนข้างมากต่อชุมชนเมจิกวิชั่นด้วยเช่นกันค่ะ คุณหนูเป็นผู้ที่ปรากฎตัวบนเมจิกวิชั่นบ่อยครั้ง จะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องก็เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ”

 

……เอ๊ะ

 

“อย่างงั้นเหรอ? แล้วก็เรื่องนี้เกี่ยวกันด้วยเหรอ?”

 

“ดิฉันคิดว่าตอนนี้ช่องของดินแดนลิสตันอย่างน้อยครึ่งหนึ่งอยู่รอดได้ด้วยความนิยม และชื่อเสียงของคุณหนูค่ะ

หลายคนมองคุณหนูเป็นเด็กที่ซื่อตรง บริสุทธิ์และไร้เดียงสา

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม หากถูกตีแผ่ข้อเท็จจริงที่สร้างความรู้สึกเหมือนถูกทรยศ หรือพฤติกรรมออกนอกลู่นอกทางแม้เพียงน้อยนิด ดิฉันก็คิดว่าจะมีผลกระทบตามมาอย่างมหาศาลเลยค่ะ”

 

นั่น……แย่เลยนา

 

ตระกูลลิสตันมีความสำคัญสูงสุด แต่ประเด็นต่อไปเกี่ยวข้องกับเมจิกวิชั่น

จากนี้ไป หากต้องขายให้ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันไม่สามารถทำอะไรที่ขัดขวางสิ่งนั้นได้

 

และถ้าเรื่องนั้นส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมเมจิกวิชั่น จะเป็นการสร้างปัญหาให้กับเรเลียเรด และฮิลเดโทร่าเช่นกัน

มีโซ่ตรวน อุปสรรค และความเสี่ยงมากเกินไป……

 

――แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉันจะไม่ยอมแพ้เรื่องสังเวียนใต้ดินเด็ดขาด

 

อันเซลยังบอกอีกว่า เหตุผลที่ยอมบอกให้ฉันรู้ก็เป็นเพราะมีข้อเท็จจริงที่ว่า「มีการนำกฎพิเศษมาใช้อย่างกะทันหัน」

 

สังเวียนใต้ดินเปิดเกือบทุกสัปดาห์ และดูเหมือนว่าการต่อสู้ถึงตายจะเกิดขึ้นเป็นประจำ

แล้วในครั้งนี้จะมีการเตรียมกฎพิเศษ และงานจะจัดในสเกลที่ใหญ่ขึ้น

 

สำหรับความหมายของเรื่องนี้――อันเซลบอกว่าเป็นหลักฐานว่าทางนั้น「สามารถเตรียมเบี้ยพิเศษเอาไว้ได้แล้ว」

 

ไม่รู้ว่าที่นั่นครอบครองโดยมาเฟียหรือขุนนาง แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องมักจะมองหาคนที่แข็งแกร่งเพื่อเข้าสู่สังเวียนใต้ดินเพื่อโอ้อวด เพื่อชื่อเสียง เพื่อความสนุก หรือเพื่อเดิมพัน

 

และความจริงที่ว่าครั้งนี้มีการใช้กฎพิเศษสำหรับสิ่งที่จัดขึ้นทุกสัปดาห์ นั่นหมายความว่า――

 

――นั่นคิดได้อย่างเดียวว่าพวกเขาสามารถจัดเตรียมผู้เข้าร่วมพิเศษที่ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ สงสัยจริง ๆ ว่าจะเป็นนักรบสุดแกร่งพิเศษแบบไหนที่จะปรากฎตัวแค่รอบนี้เท่านั้น

 

อันเซลซึ่งเกี่ยวข้องกับโลกใต้ดินยังได้แต่คาดเดา

นั่นคือเหตุผลที่เขาบอกฉัน

 

ถึงเขาจะพูดว่า 「ข้าไม่มีหลักฐาน」 แต่ฉันเชื่อการคาดเดาของเขา

ต่อให้แม้จะไม่มีผู้เข้าร่วมพิเศษ แต่อย่างน้อยถ้ายังได้เห็นคนที่แข็งแกร่งพอประมาณมาแลกหมัดกัน และนองเลือด ฉันก็ยังให้อภัยเขาได้ ยังไงก็ไม่สูญเปล่าแน่นอน

 

ด้วยเหตุผลนั้น จึงเป็นเหตุว่าทำไม ฉันถึงอยากไปสังเวียนใต้ดินในครั้งนี้ให้จงได้ แต่……ดูเหมือนว่าฉันจะไปยากกว่าที่คิด

 

……ช่วยไม่ได้น๊า

 

“เข้าใจแล้ว”

 

“ในที่สุดก็เข้าใจแล้วสินะคะ!”

 

“――จะไม่เข้าร่วมแน่นอน จะแค่ไปดูเท่านั้น”

 

ถือว่าประนีประนอมแล้วจริงไหม!

ยังไงฉันก็คิดจะไปที่นั่นอยู่ดี แต่จะยอมไม่เข้าร่วมแน่นอน!

 

จะเป็นอย่างไรถ้าถูกยั่วยุอย่างรุนแรงเล็กน้อยจากในสนาม และทำให้ดูเหมือนว่าโดนทำให้「ต้องสู้จากฝ่ายตรงข้าม」……ไม่ไม่ ฉันควรหยุดทำแบบนั้นสักพัก

 

โม๊ว ฉันแค่อยากไปจริง ๆ

แค่ได้ดูก็ดีแล้วจริง ๆ

 

“คุณหนูค่ะ เรากำลังพูดถึงสถานที่ที่ผิดกฎหมายอยู่นะคะ ไม่เกี่ยวว่าจะแค่ไปหรือไม่ไป เข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วม”

 

“ถ้าฉันปลอมตัวก็ไม่เป็นไรแล้ว ถ้าไม่รู้ว่าเป็นฉันก็ไม่เป็นไรแล้วจริงไหม”

 

“ต่อให้ปลอมตัวจนห่างจากตัวจริงไปร้อยเท่า แล้วจะแอบเข้าไปยังไงคะ? สมมติว่าปลอมตัวได้แล้ว แต่ที่นั่นก็ไม่ใช่สถานที่ที่เด็กเล็ก ๆ จะสามารถเข้าไปคนเดียวได้

ขอบอกไว้ก่อนนะคะ ว่าดิฉันจะไม่ให้ความร่วมมือเด็ดขาดค่ะ”

 

ใช่แล้ว

นั่นคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุด แต่ฉันได้ยินเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหามาแล้ว

 

“ฉันคิดเรื่องนี้ไว้แล้ว อันที่จริง――”

 

ในช่วงเวลาที่ฉันคิดว่าฉันจะโอ้อวดเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาที่เป็นการโจมตีซึ่ง ๆ หน้า

 

“――เนีย! อยู่ใช่ไหม เนีย!”

 

เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงของเด็ก

 

ผู้มาเยือนในจังหวะนี้ เลือกเวลาได้เลวร้ายมาก

 

――ถึงจะคิดว่าเป็นจังหวะเวลาที่เลวร้าย แต่ในไม่ช้า ความจริงที่ฉันได้พบนั้นเป็นอะไรที่ตรงกันข้าม

 

 

 

หลังจากการสงบศึกชั่วคราว ฉันกับริโนกิสก็เปลี่ยนอารมณ์ให้พร้อมที่จะต้อนรับแขก

 

ดูจากน้ำเสียงและท่าทางแล้ว――

 

“เนีย! ฟังเรานะ!”

 

ทันทีที่ริโนกิสเปิดประตู เจ้าหญิงลำดับที่สาม ฮิลเดโทร่าก็พุ่งเข้ามาด้วยพลังที่ดูไม่เหมือนเจ้าหญิง

นอกจากนี้ ยังมีเรเลียเรดจากตระกูลซิลเวอร์ที่น่าจะถูกบังคับลากจูงมาด้วย และสาวใช้ร่างสูงเช่นกัน

 

“ก่อนอื่น ตอนนี้ใจเย็น ๆ ลงก่อนเถอะ?”

 

ฮิลเดโทร่าเดินเข้ามาหาฉันที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทั้งที่เหงื่อออกเต็มหน้าผาก ฉันยื่นชาให้เธอดื่มเพื่อให้ตั้งสติได้ แม้ว่าจะเป็นชาที่ริโนกิสชงให้กับฉัน แต่เพราะการโต้เถียงเรื่องที่จะไปกับไม่ให้ไปอย่างรุนแรงทำให้ฉันไม่ได้แตะต้องเลยแม้แต่น้อย

 

ถ้าเดาไม่ผิด ที่มาครั้งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องไอเดียของเมจิกวิชั่นที่จะให้ผู้ชมสามารถสามารถมีส่วนร่วมได้หรือไม่ ทั้งเรื่องที่คิดว่าได้ คิดว่าไม่ได้ ที่น่าจะออกมาชัดเจนแล้ว

 

นี่ก็เป็นเวลานานแล้วหลังพบฮิลเดโทร่าครั้งล่าสุด แต่จากรูปการณ์แล้ว ดูเหมือนน่าจะมีแผนดี ๆ

และเดาว่าตอนนี้เธอมาเพื่อประกาศเรื่องนั้น

ถึงได้พาเรเลียเรดมาด้วย

 

เอาล่ะ ฉันสงสัยจริงว่าเธอจะสามารถคิดแผนการที่จะทำให้ฉันประหลาดใจได้หรือเปล่า

ฉันหวังว่าจะเป็นแบบนั้น

 

ฟู๊ว ยังไงก็ตาม ฉันเองก็เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในสื่อเมจิกวิชั่นมาอย่างยาวนาน

บางครั้งต้องทิ้งตัวเอง บางครั้งต้องทิ้งส่วนรวม แล้วทุ่มทั้งใจและเวลาให้ลงไปในการสร้างภาพสะท้อน

 

ฉันเองก็คิดเกี่ยวกับเรื่องการวางแผนมากมาย แม้ว่าจะไม่มาเท่ากับพนักงานที่ฝ่ายวางแผนของสถานีออกอากาศก็ตาม

ฉันสงสัยจังว่าเธอจะสามารถคิดอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันประหลาดใจได้ไหม

 

――อันที่จริง ฉันรู้สึกประหลาดใจภายในสามวินาทีที่ได้ยิน

 

 

 

ฮิลเดโทร่ารับถ้วยชาโดยไม่ลังเล แล้วโชว์การดื่มลงไปรวดเดียวที่ไม่เหมาะสมสำหรับเจ้าหญิง――และพูดต่อโดยไม่ได้สงบสติอารมณ์ลงเลย

 

“มาจัดงานประลองศิลปะการต่อสู้ที่ผู้ชมสามารถเข้าร่วมได้กันเถอะ! แล้วก็ถ่ายทอดสดบนเมจิกวิชั่นด้วย!”

 

…………

 

ว่าไงน๊า!?งานประลองศิลปะการต่อสู้!?

 

 

 

 

 

————————————————————————–

ปล.วันนี้พาญาติไปเจอกันเลยได้กินของแพง แลกกับอาการร้าวชายโครงจาการขับรถที่มีเรื่องให้ลุ้นจนต้องเกร็งบ่อยๆ ฮา

เจอรถบรรทุกแบกรถเกี่ยวข้าววิ่งขวาสุดแล้วกินถนนไปเลยครึ่งมีเหวี่ยงซ้ายขวาให้กระชุ่มใจอีกต่างหาก ดีเจอตอนถนนฝั่งสามเลนเลยแซงได้ ถ้าเจอตอนสองเลยไม่ต้องหวังแซง ฮา

ข้าวกะเพราเนื้อออซซี่ และไข่ข้น 280 แพงแต่อิ่มจริง แต่เชฟจบนอกมาแน่ๆ เล่นใส่ใบมะกรูดด้วย

พานาคอตต้าสตรอเบอรี่ 90 เนื้อแน่นข้น แต่ซอส?สตรอจืดไปหน่อย

รูปเพื่อผู้อ่านยามดึก ฮา