60 เป็นเรื่องที่ทำให้หดหู่มากกว่าที่จะสงบใจ
ฮิลเดโทร่าและเรเลียเรดรีบเร่งนั่งลงบนเก้าอี้ ขณะที่ริโนกิสกำลังชงชาให้กับทั้งสองคน พวกเธอก็เริ่มพูดถึงรายละเอียดของงานประลองศิลปะการต่อสู้ที่ทำให้ฉันประหลาดใจในสามวินาที
“……ฮ๊า เข้าใจแล้ว ฮ๊า……”
และทุกครั้งที่ฮิลเดโทร่าพูดด้วยความกระตือรือร้น ความประหลาดใจของฉันก็สงบลงมากขึ้นเรื่อย ๆ
――ก็น๊านสิน๊า ก็ต้องเป็นแบบน๊านอยู่แล้ว
งานประลองศิลปะการต่อสู้
แน่นอนแม้ว่าเสียงของแต่ละคำจะทำให้หัวใจในอกเต้นแรงและกระหายเลือด แต่สาระสำคัญของเรื่องราวนั้นแตกต่างออกไป
เพราะสิ่งสำคัญไม่ใช่การต่อสู้ แต่เป็นการเผยแพร่เมจิกวิชั่น
“คุณหนูคะ กรุณาสำรวมด้วยค่ะ”
ริโนกิสซึ่งเฝ้าสังเกตฉันจากด้านหลัง เข้ามากระซิบเบา ๆ อย่างเป็นกังวล หลังเห็นความหดหู่บนแผ่นหลังของฉัน
ทำใจให้สบาย ไม่เป็นไรหรอก ฉันยังมีสังเวียนใต้ดินอยู่ ยังมีดินแดนแห่งพันธสัญญาอยู่ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องไปผิดหวังในงานประลองศิลปะการต่อสู้ที่ฮิลเดโทร่าคิดขึ้นมาอย่างยินดีปรีดาเลย อ้า ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไรจริง ๆ ฉันยอมรับได้
“คิดว่าเป็นความคิดที่ดีเลยค่ะ”
การพูดคุยนั้นเรียบง่ายพอสมควร ดังนั้นแม้แต่เรเลียเรดก็ดูเหมือนจะสามารถเข้าใจได้
ทุกครั้งที่ฉันได้ยินเรื่องนี้ ฉันรู้สึกหดหู่ใจมากกว่าที่จะสงบใจลงได้ แต่ ม๊า ในเมื่อเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ฉันจึงยอมแพ้ ฉันยังมีดินแดนแห่งพันธสัญญาอยู่ ดังนั้นฉันจึงยอมแพ้ เพราะฉันมีโชคชะตา ……ฮ้า
“อาจจะดีไปเลยก็ได้นะคะ”
ฉันพูดหลังจากรวบรวมสติได้แล้ว
เหมือนที่เรเลียเรดเคยพูดไว้ เธอกำลังคิดเรื่องที่ชาญฉลาด
รวมทั้งเรียบง่ายและเข้าใจได้ง่าย
“การมองเห็นผู้คนได้จากระยะไกล นั่นคือจุดขายที่ใหญ่ที่สุดของเมจิกวิชั่น”
การประลองศิลปะการต่อสู้ที่ฮิลเดโทร่าพยายามจัดขึ้นนั้น จัดขึ้นโดยมีสถาบันการศึกษาเป็นเจ้าภาพ และวางแผนให้เหล่านักเรียนเป็นผู้เข้าร่วม
ในราชอาณาจักรอาร์ตัวร์ เด็กอายุระหว่างหกถึงสิบสองปีมีหน้าที่ต้องเข้าสถาบันการศึกษา
และผู้ที่ไม่สามารถเดินทางไปกลับได้เนื่องจากระยะทางจะต้องเข้าสู่หอพัก และอยู่ห่างไกลจากครอบครัว
แผนสำหรับการประลองศิลปะการต่อสู้มุ่งเน้นไปที่สิ่งนั้น
ระบบการศึกษาภาคบังคับ ในทางปฏิบัติยังคงเป็นของใหม่
นอกจากคนชั้นสูงแล้ว ทุกวันนี้ยังมีผู้ใหญ่สามัญชนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เคยเข้าเรียนมาก่อน ดูเหมือนว่าจะมีความลำบากในหลาย ๆ ด้าน เนื่องจากต้องเสียค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพเอง
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สามัญชนทั่วไปไม่รู้ว่าลูก ๆ ของพวกเขาใช้ชีวิตแบบไหนที่สถาบันการศึกษา
สิ่งที่ฉันคิดขึ้นมาได้เกี่ยวกับงานประลองศิลปะการต่อสู้คือ เพื่อสร้างเข้าใจนัยสำคัญของการ 「เปิดเผยส่วนหนึ่งของชีวิตในสถานศึกษาสู่สาธารณะ」
“ถึงแม้แผ่นคริสตัลเวทมนตร์จะยังไม่แทรกซึมไปทุกซอกทุกมุมของอาณาจักร แต่ตามโรงแรมและร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่ต่างก็มีอย่างน้อยหนึ่งแผ่น จำนวนสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการรับชมเมจิกวิชั่นก็เพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
ต่อให้มีเหตุผล เช่น งาน ที่ทำให้มาเมืองหลวงไม่ได้ แต่ตามกฎแล้ว บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้ามาในสถานศึกษาได้ ช่วงเวลาที่แต่ละครอบครัวจะสามารถเจอหน้าลูก ๆ ได้ก็มีเวลาจำกัดเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวเท่านั้น
เราแน่ใจว่าพ่อแม่หลายคนเป็นห่วงลูกของตัวเอง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม――”
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าลูกของตัวเองซึ่งไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ในสถานศึกษา ต้องการเข้าร่วมการประลองศิลปะการต่อสู้ขึ้นมา?
พ่อแม่จะไม่คิดที่จะอยากเห็นช่วงเวลาที่กล้าหาญของลูก ๆ สักแว๊บอย่างงั้นหรือ――เป็นเรื่องอะไรทำนองนั้น
ใช่ พูดสั้น ๆ เป็นงานที่ไม่มีทางที่ผู้แข็งแกร่งจะปรากฏตัวออกมา เพราะมีแต่เด็ก ๆ ……ฮ้า น่าผิดหวัง
นี่ก็เป็นไปตามความคิดตั้งแต่แรกเริ่ม ในการให้ผู้ชมมีส่วนร่วม
สำหรับผู้ปกครอง คือการได้เห็นคนเกี่ยวข้องที่เรียกว่าลูก ๆ ตราบใดที่ครอบครัวพวกเขาไม่เกิดเรื่องเลวร้าย ก็ต้องอยากดูแน่นอน
“จะบอกว่า กำลังพยายามเพิ่มระดับการรับรู้ตัวตนเมจิกวิชั่นโดยใช้หัวใจของพ่อแม่ที่ห่วงใยลูก ๆ อย่างงั้นหรือคะ? สมกับเป็นฮิลเด้จอมแผนการ”
“เนีย! ระวังคำพูด!”
ไม่มีประโยชน์ที่จะใช้คำสวยหรูในสถานการณ์แบบนี้ ฉันคิดว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ควรสามารถแสดงความคิดเห็นของตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมา
“――ไม่เป็นไรหรอกเรเลีย สิ่งที่เนียพูดมาถูกต้องแล้ว นั่นเป็นเสียงที่ดังขึ้นมาตอนที่ฉันกำลังวางแผนอยู่จริง ๆ สมกับฮิลเด้จัง นางมารน้อย อย่าพูดแบบนั้นกับเด็กอายุแปดขวบสิ จริง ๆ เลย”
ถ้าจะพูดแบบนั้น ฉันไม่คิดว่าจะเป็นสิ่งที่เด็กอายุแปดขวบจะพูดเองเหมือนกัน ……ไม่สิ ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะไปบ่นได้ เพราะยังดีกว่าตัวฉันมาก
“แต่ ไม่เป็นไร เราทำอย่างที่พูด”
ฮิลเดโทร่าจิบน้ำชา แล้วประกาศ
“แล้วนั่นมีปัญหาอะไรงั้นหรือคะ? ……และ”
โอ้ เธอแข็งแกร่งมาก
“ขอแค่ทำเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ แบบนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วจริงไหมคะ?
เราจะเติมแต็มความปรารถนาของเหล่าผู้ปกครองที่อยากเห็นลูกหลาน และใช้เติมเต็มความต้องการในการเผยแพร่เมจิกวิชั่นของพวกเราให้เป็นจริง
เช่นนี้แล้วมีปัญหาอยู่ที่ตรงไหนงั้นหรือคะ?”
……
“ม๊า ถ้าจะมีปัญหาก็คงเป็นสีหน้าชวนหงุดหงิดของฮิลเด้ตอนนี้ล่ะ”
“นั่นสิ ทำไมต้องทำหน้าภูมิใจขนาดนั้นด้วย? ทั้งที่ไปช่วยกันคิดกับพวกผู้ใหญ่ที่สถานีออกอากาศมาแท้ ๆ ไม่ได้คิดเองคนเดียวสักหน่อย แถมแต่แรกแล้วนี่ก็เป็นความคิดของเนียด้วย”
“……พูดอะร๊ายกันค๊า ทั้งสองคน”
ในขณะที่เรเลียเรดกับฉันมองเธอด้วยสายตาดูหมิ่น ฮิลเดโทร่าก็กระแอมคอเปลี่ยนบรรยากาศ
“ม๊า……ม๊า ยังไงก็เถอะค่ะ ตัวโครงการกำลังดำเนินการอยู่ แต่จะไปรอดไหมก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของทุกท่านค่ะ”
เข้าใจล่ะ แผนการเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว
ถ้าอย่างนั้น ต่อให้พวกเราไม่ร่วมมือด้วย การประลองศิลปะการต่อสู้ก็จะยังจัดขึ้นสินะ
“ถ้าอย่างงั้นแล้ว ฉันกับเนียควรทำอะไรเป็นพิเศษอย่างงั้นเหรอคะ?”
ใช่ ยังมีปัญหาอยู่ อย่างน้อยอีกหนึ่ง
“ถ้าต้องมาทำงานฝั่งนี้ระยะยาวเกินไป จะทำให้พวกเราปรับตารางเวลางานยากด้วยน่ะ”
การถ่ายทำได้เริ่มขึ้นแล้วทั้งในดินแดนลิสตันและดินแดนซิลเวอร์
แน่นอนว่าฉันบอกไปแล้วว่าจะให้ความร่วมมือกับฮิลเดโทร่า แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะละเลยการถ่ายทำในดินแดนของตัวเอง
“สิ่งที่เราอยากให้ช่วยทำคือ สิ่งที่เรียกว่าการแนะนำงานค่ะ อย่างเป็นดอกไม้งามประดับทางเข้า ยังไงเสียหากเป็นการประลองศิลปะการตู่สู้ ก็ไม่มีอะไรที่ทั้งสองคนจะทำได้มากกว่านั้นแล้ว”
แน่นอนล่ะนะ
อย่างที่เดาไว้ ไม่คิดให้โอกาสได้เข้าร่วมด้วยซ้ำ แต่ฉันเองก็ไม่สามารถทำตัวเสแสร้งมีรสนิยมแย่ ๆ อย่างการรังแกเด็กแบบที่พวกเด็ก ๆ ชอบทำกัน
แนะนำงานสินะ
หรือก็คือ เป็นงานที่ต้องทำก่อนถึงช่วงที่การประลองเริ่มต้นขึ้นสินะ ต้องทำอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าน่ะ
“แน่ใจเหรอ? ก่อนอื่น――”
――การมาเยือนของฮิลเดโทร่ากับเรเลียเรดอย่างไม่คาดฝัน นำไปสู่การประชุมที่ค่อนข้างจริงจังที่ดำเนินต่อไปจนดึก
ปล.วันนี้แวะกินKFCระหว่างกลับบ้านมา เลยลองกินแซนเดอร์เบอร์เกอร์ดู เรื่องความกรอบยกให้เลย แต่เค็มจัดๆจนเมนูอื่นชิดซ้าย ชนิดทำให้หมดความอยากทันทีทั้งที่หิวจัดๆเลยแท้ๆ ต้องขนที่เหลือกลับบ้าน ยังดื่มไม่คุ้มค่าน้ำรีฟิวเลย ฮา