61 ศิษย์ที่มีความตั้งใจปฏิเสธอย่างหนักแน่น
เรื่องของสังเวียนใต้ดินที่ถูกขัดจังหวะโดยฮิลเดโทร่านั้นยังไม่ถูกลืม
“――เช่นนั้นคุณหนูคะ เรากลับมาคุยกันเรื่องสังเวียนใต้ดินกันต่อดีไหมคะ”
ท้องฟ้ามืดลงแล้ว และทันทีที่แขกขอตัว การสนทนาหลักก็ดำเนินต่อ
“พักก่อนเถอะ ฉันเหนื่อยที่จะคุยแล้ว”
การประชุมกลายเป็นเรื่องยืดยาวโดยไม่คาดคิด โม๊ว วันนี้พอแล้ว เหนื่อย
――วันที่กำหนดเอาไว้สำหรับจัดการประลองศิลปะการต่อสู้ที่จัดขึ้นที่สถาบันนั้นค่อนข้างเร็ว
เมื่อการเตรียมการสำหรับการประลองเริ่มต้นขึ้นเต็มรูปแบบ การถ่ายทำของพวกเราก็จะเริ่มขึ้นเช่นกัน
ฮิลเดโทร่าก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน และได้จัดตารางไว้แล้วเรียบร้อย เพื่อให้สามารถถ่ายทำได้ในช่วงพักกลางวัน และหลังเลิกเรียน
ถ้าเธอลงมือไปมากขนาดนั้นแล้ว ฉันก็มีแต่ต้องทำ
เพราะเข้าใจดีว่าไม่สามารถเสียสมาธิในการประชุมเตรียมงานได้
ยังไงก็ตาม หากเปลี่ยนไปใช้ภาษากาย ฉันมั่นใจว่าสามารถเคลื่อนไหวได้ตลอดทั้งวัน แต่ฉันใช้หัวไม่เก่ง
ฉันแน่ใจว่าในชาติที่แล้ว ฉันคงยึดมั่นความเชื่อที่ว่า 「ซัดไปก่อนคิดทีหลัง」
นั่นเป็นเหตุผลที่ตอนนี้ฉันเหนื่อยมาก
วันนี้ฉันยังไม่ได้ทำการฝึกตามตาราง เอาไว้ค่อยทำหลังจากนี้ก็แล้วกัน……ฉันอยากพักสักแป๊บ
“ไม่ได้ค่ะ เราควรคุยเรื่องสำคัญจบเรียบร้อยก่อนค่ะ”
ยังไงก็ตาม การตอบสนองของริโนกิสค่อนข้างเย็นชา ดูเหมือนว่าเจตจำนงที่ไม่อยากให้ฉันไปสังเวียนใต้ดินจะแรงกล้า
“ก็ตัดสินใจว่าถ้าไม่มีเรื่องอะไรสำคัญจะไปกันไม่ใช่เหรอ?”
“ดิฉันจำไม่เห็นได้ว่าเคยตอบตกลงไปเลยนะคะ”
ชิ ยัยลูกศิษย์จอมดื้อ……แบบนี้ต้องลองดูสักตั้ง ในฐานะอาจารย์
“――ลูกศิษย์ไม่ควรต่อต้านการตัดสินใจของอาจารย์!”
ฉันเบิกตากล้างและตะโกนใส่เธอ――ดวงตาของริโนกิสก็เบิกกว้างเช่นกัน
“――คุณเป็นบุตรีแห่งตระกูลลิสตันก่อนที่จะเป็นอาจารย์ของดิฉันค่ะ!! ดิฉันไม่สามารถปล่อยให้คุณหนูแห่งตระกูลลิสตันไปยังสถานที่ที่ไม่เหมาะสมได้หรอกนะคะ!!”
……………
นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ฉันจนมุมหมดคำพูด
ข้อโต้แย้งอันชอบธรรมและหนักแน่นทะยานขึ้นราวกับกำแพงที่พุ่งสูงทะลุชั้นเมฆจนมองไม่เห็นยอด
ลูกศิษย์คนนี้แข็งแกร่งมาก……ไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะสามารถหันกลับมาโต้กลับเสียงเกรี้ยวกราดของอาจารย์ได้ในทันที
โม๊ว ฉันไม่รู้สึกว่าจะชนะได้ด้วยคำพูดอีกแล้ว
“ตั้งแต่แรกเลยนะคะ
ต่อจากเรื่องที่แล้วก่อนที่ฮิลเดโทร่าซามะจะเสด็จมา คุณหนูตั้งใจที่จะแอบเข้าในสถานที่ผิดกฎหมายอย่างสังเวียนใต้ดินยังไงไม่ทราบคะ? บอกว่ามีความคิดแล้วใช่ไหมคะ? หรือว่าจะมีผู้ให้ร่วมมือด้วยกันคะ?”
อุมุ……
“ยังไม่มี ฉันกำลังพยายามเกลี้ยมกล่อมใครบางคนอยู่ ――เพราะอย่างงั้น ริโนกิสไปด้วยกันเถอะ”
“ไม่ได้ค่ะ”
“หากการเจรจาเป็นไปด้วยดี ได้โปรดอนุญาตให้ฉันไปที่สังเวียนใต้ดินที”
“ไม่ได้ค่ะ”
“ถ้าการเจรจาเป็นไปได้ไม่ดี ฉันจะยอมล้มเลิกก็ได้ ฉันจะยอมแพ้แน่นอน สัญญาเลย”
“ไม่ได้ค่ะ กรุณาล้มเลิกที่นี่เดี๋ยวนี้ด้วยค่ะ”
“อย่างน้อยก็ฟังสิ่งที่ฉันพูดที! โม๊ว เธอเอาแต่ปฏิเสธก่อนที่จะได้ยินคำพูดของฉันซะอีก!”
“ไม่จำเป็นต้องฟังหรอกค่ะ! บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ค่ะ!”
…………
ไม่สามารถเจาะผ่านได้เลย
ลูกศิษย์คนนี้แข็งแกร่งจริง ๆ ……เธอมีทักษะที่เหนือกว่าแค่การร้องไห้และเกาะขา……
ไป ไป ไม่ ไม่ คืนนั้นจบลงเหมือนการทะเลาะของเด็ก วันต่อมาฉันพูดมากเกินไปจนแทบไม่เหลือเสียง
ฉันไม่คิดว่าเลยว่าทั้งที่อายุหกขวบไปแล้ว และมีความทรงจำจากชาติก่อน จะมีคืนที่เลวร้ายเช่นนี้……ม๊า โม๊ว ยังไงก็ได้
” ――ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ไม่ได้แน่นอน”
ไม่ว่าจะในระหว่างเตรียมตัวในตอนเช้า เตรียมตัวไปเรียน หยิบกระเป๋า ออกจากหอพัก หรือแม้แต่ระหว่างมุ่งหน้าไปยังอาคารเรียน ริโนกิสก็ยังพูดซ้ำ ๆ จากข้างหลังว่า ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้
พูดตามตรง ความมุ่งมั่นของเธอ เริ่มทำให้ฉันรู้สึกเหมือนอยากยอมแพ้แล้ว
จะยอมแพ้ไม่ได้
สำหรับนักสู้ เป็นเรื่องใหญ่หากฉันยอมแพ้
แชมเบอร์เลนได้รับอนุญาตให้ติดตามนักเรียนมาถึงได้แค่นอกอาคารเรียนเท่านั้น ห้ามไม่ให้เข้าไปภายใน
” ――ยังไงก็ไม่ได้แน่นอนค๊า!”
ริโนกิสตะโกนโดยไม่สนใจสายตาของเด็กคนอื่น ๆ ที่กำลังเดินเข้าอาคารเรียนอยู่เช่นกัน ฉันไม่สนใจมันเลยและก้าวเข้าไปในอาคารเรียน
ฉันกลายเป็นจุดสนใจโดดเด่นตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
” ――เกิดอะไรขึ้นเหรอ? มีเรื่องเหรอ?”
ฉันได้ยินเสียงข้างหลังที่ไม่ใช่ริโนกิส ในที่สุดเมื่อฉันหันกลับไป
แน่นอนว่าเป็นเรเลียเรด เด็กสาวผมแดงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่ริโนกิสที่อยู่ในชุดสาวใช้ ดูเหมือนว่าเธอกำลังเดินตามหลังมา และวิ่งเข้ามาหาหลังได้ยินเสียงไล่หลังอันเร่าร้อนของริโนกิส
“ความเห็นต่างกันนิดหน่อยน่ะ”
เด็กหญิงพยักหน้าส่งเสียง「อ้า」หลังจากฉันพูดอย่างขุ่นเคือง
“เข้าใจแล้ว เป็นความผิดของเนียสินะ”
ทำไมถึงกล้าลงความเห็นแบบนั้นกัน ยังไม่ได้เล่าอะไรเลย ……ม๊า ถึงจะมองในแง่ดีแค่ไหน แต่ก็เป็นความผิดของฉันเต็มร้อย
“แต่ก็ดีแล้วที่เจอกัน ฉันมีเรื่องอยากจะขอเรเลียสักหน่อย”
“ฉันไม่ให้ความร่วมมือเรื่องผิด ๆ หรอกนะ”
“ยังไม่ได้พูดอะไรเลย”
“ไม่ว่าจะมองยังไงก็กำลังคิดเรื่องหยาบคายอยู่ใช่ไหมล่ะ? ทำร้ายคน ดูถูกคน ทำเลือดไหล ฉันรู้สึกได้เลย นั่นเป็นเหตุผลที่สาวใช้นั่นบอกว่าไม่ได้ใช่ไหม? ควบคุมตัวเองหน่อยเถอะเธอน่ะ”
ฉันสงสัยจริง ๆ ว่าเธอคิดยังไงกับฉัน ……ม๊า ก็มีบางอย่างที่ฉันยังอดคิดเองไม่ได้เลย แต่ฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นแค่ประมาณหกสิบเปอร์เซ๊นต์ต่อวันเอง
“ฉันแค่อยากเจอกับพี่สาวของเธอเอง”
“พี่สาว? ……หมายถึงลิลิมิเน่ซามะเหรอ?”
“ใช่แล้ว”
ฉันไม่ได้เจอเธออีกเลยนับตั้งแต่วันตรวจร่างกาย แต่หอพัก กับ ตึกเรียนของม.ต้นกับม.ปลายยตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับของชั้นประถม แม้ว่าจะห่างกันเล็กน้อย
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม ไม่ใช่ว่าไปไม่ได้หากอยากเจอ
วันนั้น ฉันไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะพบกัน หลังจากทำลายผู้ช่วยอาจารย์ หลังจากสร้างความสนินสนมกับอาจารย์ของเธอไปแล้ว
“……ม๊า ลิลิมิเน่ซามะก็อยากเจอเนียเหมือนกัน”
“งั้นก็สะดวกเลยสิ!”
“ฉันล่ะเกลียดรอยยิ้มนั้นจริง”
หยาบคาย
“คงไม่คิดที่จะดึงลิลิมิเน่ซามะไปทำเรื่องแย่ ๆ ใช่ไหม? คงไม่คิดถึงขั้นร้ายแรงขนาดนั้นใช่ไหม?”
“ไม่ได้คิดเลยค่ะ”
“จริงเหรอ? ในช่วงเวลาสำคัญก่อนการจัดงานประลองศิลปะการต่อสู้ เธอคงจะไม่สร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นใช่ไหม?”
“ไม่มีแน่นอนค่ะ”
“……ฉันไม่อยากจะไว้ใจเธอเลยจริง ๆ เนีย……”
เสียมารยาทจังน๊า หยาบคายจริง ๆ ไม่สุภาพเอาซะเลย
ยังไงก็ตาม เธอก็เป็นคู่ต่อสู้ที่ง่ายกว่าริโนกิส
เพราะทางนั้นยังไม่ทันได้เริ่มเลย เธอก็เอาแต่ปฏิเสธในระดับที่ไม่สามารถสนทนากันได้ทันที
ตราบใดที่เรายังคุยกันได้ ก็เป็นไปได้ที่จะเกลี้ยกล่อมเรเลียเรด
――ระดับเหมือนบิดมือเด็กไงล่ะ!
ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงใช้เวลามากมายจนถึงหลังเลิกเรียนเพื่อกอดล่อลวงเรเลียเรด
เท่านี้ก็ผ่านด่านแรกไปได้แล้ว
ฉันเข้าใกล้สังเวียนใต้ดินไปอีกหนึ่งก้าว
ปล.อยากใช้เวทมนตร์ช่วยหาเงินง่ายๆกับกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนได้จังน้อ ฮา