บทที่ 126 หมอผี

เมอร์ลินกับเลอแรนก้าเดินเข้าไปในถ้ำอันมืดมิดต่อ หลังจากเดินไปสักพักในที่สุดพวกเขาก็มองเห็นแสงไฟสลัว ๆ เบื้องหน้าเขา

เมอร์ลินเข้าใจว่าที่ตรงนี้คือจุดสิ้นสุดของถ้ำ เขาไม่แน่ใจว่าข้างหน้าจะมีอันตรายมากเพียงใด ดังนั้นพวกเขาต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น

ทั้งสองค่อย ๆ เดินไปข้างในและได้มองเห็นเสาขนาดมหึมาหลายต้น

โดยเสแต่ละต้นมีนักดาบธาตุจํานวนหนึ่งและนักเวทย์สองคน พวกเขาหายใจรวยรินและถูกตรึงอยู่บนเสาหิน พวกเขาสัมผัสได้ถึงตัวตนของพวกเมอลิน พวกเขาอ้าปากกว้างแต่ไม่มีคําพูดใดหลุดออกมา

เมอร์ลินตกใจมากเพราะเขาคาดเดาตัวตนของพวกเขาได้ พวกเขาน่าจะเป็นพ่อมดปาริโอกับนายพลวอร์ตันที่ถูกส่งมาจากเมืองดอนกลิน เขาไม่คิดว่าพวกเขาจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

*พึ่บ!*

ทันใดนั้นเอง เมอร์ลินสัมผัสได้ถึงพลังจิตอันกล้าแกร่งที่ลอยอยู่ด้านบน ความแข็งแกร่งของพลังจิตมันเทียบเท่ากับคาถาระดับสองเลย

เขารีบเงยหน้าขึ้นมาทองทันทีและได้พบกับแท่นบูชากับชายชราผมสีเงินยืนอยู่ตรงนั้น

นอกจากชายชราจะมีพลังจิตที่แข็งแกร่งแล้ว เมอร์ลินยังรู้สึกได้ถึงอันตรายจากชายชราอีกด้วย

“คุณคือใคร?

เมอร์ลินเข้าใจว่าชายชราคนนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกับค้างคาวแวมไพร์ที่อยู่นอกถ้ำ

ชายชราไม่พูดอะไร ในระหว่างที่เมอร์ลินกําลังจะพูดต่อ อยู่ ๆ ก็มีคนสองคนเดินเข้ามาจากทางเดินด้านข้าง พวกเขาคือพ่อมดโฮล์มส์กับแม่มดรีลลิส

สภาพของทั้งคู่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ผมเผ้าของพวกเขายุ่งเล็กน้อย เสื้อคลุมของโฮล์มส์ได้รับความหายอย่างหนัก ส่วนรีลริสใบหน้าซีดเอดราวกับว่าเธอได้ผ่านการต่อสู้ที่อัตรายถึงชีวิตมา

“หืม? นั่นพ่อมดเมอร์ลินกับแม่มดเลอแรนก้าไม่ใช่เหรอ? พวกคุณก็อยู่ที่นี่ด้วย” โฮล์มส์สังเกตเห็นพวกเมอร์ลิน เขส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวว่า “เมื่อกี้พวกคุณโชคดีมากที่ไม่ได้เลือกทางเดียวกับพวกเรา ที่นั่นมีค้างคาวแวมไพร์ที่กําลังวิวัฒนาการเป็นราชาค้างคาวแวมไพร์ โชคดีที่ฉันมีม้วนคัมภีร์คาถาระดับหนึ่ง ฉันเลยรอดออกมาและจัดการมันได้”

ดูจากแววตาของพ่อมดโฮล์มส์แล้ว เขายังคงรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่

เมอร์ลินได้ตอบกลับอะไรเขาแต่เขาส่งสัญญาณให้โฮล์มส์มองไปที่ด้านบนแท่นบูชา

โฮล์มส์กับรีลลิสได้มองขึ้นไปและได้พบกับชายชราลึกลับนั่นทําให้พวกเขาตื่นตัวทันที

ชายชราผมเงินเหลือบมองไปที่โฮล์มส์กับเมอร์ลินและหัวเราะเยาะเบา ๆ “หึหึ พวกเจ้าบังอาจมากที่ฆ่าลูก ๆ ทั้งสองของข้า อย่างไรก็ตามข้าไม่ได้คาดหวังว่าจะมีนักเวทย์อัจฉริยะจากดินแดนมนต์ดํามาที่นี่ ช่างเหมาะเจาะพอดีเลย ลูกของข้าต้องชอบเลือดและเนื้อของพวกแกอย่างแน่นอน ฮ่าฮ่า” ชายชราหัวเราะราวกับเสียสติไปแล้ว

“สองเหรอ?”

โฮล์มส์ถึงกับสะดุดกับคํานี้แล้วจ้องมองเมอร์ลินอย่างตกใจ เขาอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า “เมื่อกี้คุณก็ได้พบค้างคาวแวมไพร์ที่กําลังจะวิวัฒนาการเป็นราชาค้างคาวแวมไพร์ด้วยงั้นเหรอ”

เลอแรนก้าเข้าใจว่าโฮล์มส์กําลังคิดอะไรอยู่ เธอชําเลืองมองเมอร์ลินด้วยสายตาที่ซับซ้อนแล้วหันไปตอบโฮล์มส์แทนเมอร์ลินว่า

“พวกเราได้พบว่าค้างคาวแวมไพร์ที่แข็งแกร่งเช่นกันแต่พ่อมดเมอร์ลินก็จัดการมันได้”

โฮล์มส์ประหลาดใจ แม้เขาจะรู้ว่าเมอร์ลินมีคาถาห้าธาตุและทรงพลังกว่าเขา อย่างไรก็ตามเมอร์ลินกับเลอแรนก้าสามารถเอาชนะมันโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เวทมนต์อย่างงั้นเหรอ?

โฮล์มส์ต้องการจะถามเรื่องนี้ต่อแต่อยู่ ๆ ชายชราสีเงินได้พึมพําและชี้ไปที่บ่อเลือดใต้แท่นบูชา

“ออกมาเลยลูกรัก อาหารของลูกมาถึงที่แล้ว ฆ่าพวกมันกัดกินเนื้อและสูบเลือดทุกหยดของพวกมันและกลายเป็นราชาค้างคาวแวมไพร์ที่แท้จริงซะ!!”

ทันทีที่ชายชราพูดจบ บ่อเลือดได้เกิดเกิดขึ้นมาทันที จากนั้นก็มีค้างคาวแวมไพร์ที่สูงกว่าเมตร ขึ้นมาจากบ่อเลือดอย่างช้า ๆ มันได้ดูดเลือดไปเกือบครึ่งสระ

สายตาของชายชราได้มองไปที่ค้างคาวแวมไพร์ด้วยแววตาที่หลงใหลและบ้าคลั่ง

ทางด้านเมอร์ลินกับโฮล์มส์สูดหายใจเข้าลึก ๆ และสบตาของกันและกัน พวกเขาสัมผัสได้ถึงออร่าที่เข้มข้นจากตัวมัน มันเข้มข้นยิ่งกว่าค้างคาวแวมไพร์สองตัวที่พวกเขาเจอเมื่อกี้

โดยปกติพวกอสูรธาตุไม่มีออร่าออกมาเพราะพวกมันกําเนิดมาจากพลังธาตุที่เข้มข้นแต่ไม่ใช่สําหรับภูติธาตุ มันสามารถสร้างออร่าออกมาได้ราวกับเป็นสิ่งชีวิต สิ่งมันแสดงให้เห็นว่าค้างคาวแวมไพร์ตัวนี้กลายเป็นราชาค้างคาวแวมไพร์ที่น่าสะพรึงแล้ว!!

ค้างคาวแวมไพร์บินขึ้นจากบ่อเลือดด้วยขนาดของมันทําให้ทุกคนต่างหวาดกลัว อย่างไรก็ตามเมื่อได้เห็นร่างกายทั้งหมดของมัน เมอร์ลินกับโฮล์มส์ได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ที่เป็นแบบนี้เพราะค้างคาวแวมไพร์ต้องนี้ยังไม่ได้พัฒนาเป็นราชาค้างคาวแวมไพร์อย่างสมบูรณ์ กระบวนการการกลายร่างถึงเพียงครึ่งทางเท่านั้น

ถึงแม้มันไม่ได้เป็นราชาค้างคาวแวมไพร์อย่างสมบูรณ์แต่มันก็แข็งแกร่งกว่าค้างคาวแวมไพร์สองตัวก่อนหน้านี้แน่นอน

“คุณคงจะเป็นหมอผีโบราณสินะ คุณสร้างบ่อเลือดและเปลี่ยนอสูรธาตุอย่างค้างคาวแวมไพร์ให้กลายเป็นภูติธาตุ ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นผู้อยู่เบื้องการบุกจู่โจมของเมืองดอนกลิน”

พ่อมดโฮล์มส์เปิดเผยตัวตนของชายชราผมสีเงิน นี่เป็นข้อได้เปรียบที่เขามีในฐานะที่เขาอยู่ในตระกูลนักเวทย์ขนาดใหญ่ทําให้เขามีองค์ความรู้มากมาย

หลังจากได้ยินสิ่งที่โฮล์มส์พูด เมอร์ลินก็นึกถึงตํานานที่เกี่ยวข้องกับหมอผีทันที

หลายแขนง บางคนก็สามารถฝึกสัตว์ร้ายให้เชื่องได้ บางคนก็ก็เก่งในการผลิตน้ำยาแปลก ๆ น้ำยาของนักเวทย์ส่วนใหญ่ใช้องค์ความรู้ที่สืบทอดมาจากแม่มดโบราณ

และยังมีแม่มดโบราณที่ไม่เข้าพวกกับใครนั่นคือหมอผี พวกเธอไม่ได้ฝึกสัตว์ร้ายให้เชื่องหรือผลิตน้ำยาแต่พวกเธอเชี่ยวชาญในเรื่องพิธีกรรมและคําสาป ยิ่งเวลาผ่านไปพลังจิตของเธอเธอก็แข็งแกร่ง ทําให้พวกเธอสามารถควบคุมอสูรธาตุทุกชนิดด้วยพลังจิตที่ทรงพลัง

นอกจากนี้พวกเธอยังมีวิธีการแปลกในการเร่งวิวัฒนาการของอสูรธาตุให้กลายเป็นภูติธาตุ

แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการกําเนิดของนักเวทย์ที่สามารถควบคุมพลังธาตุได้ทุกประเภท ทําให้พวกเขามีพลังมหาศาลจึงทําให้พวกแม่มดโบราณก็ค่อย ๆ หายไป

บางทีชายชราคงค้นพบมรดกของหมอผีโดยบังเอิญ ด้วยเหตุนี้เขาจึงสร้างบ่อเลือดและปล่อยให้ค้างคาวแวมไพร์วิวัฒนาการกลายเป็นราชาค้างคาวแวมไพร์

“ยังมีคนรู้เรื่องหมอผีอยู่ด้วยสินะ หึหึ แต่ถึงพวกเจ้าจะรู้ความจริงไปมันก็เปล่าประโยชน์ ข้าจะฆ่าพวกเจ้าและหนีจากเขตของดินแดนมนต์ดําและรอให้ค้างคาวแวมไพร์พัฒนาร่างอย่างสมบูรณ์ เอาล่ะลูกข้าฆ่าพวกมันซะ!!”

ชายชราผมเงินชี้ไปที่เมอร์ลินกับโฮล์มส์อย่างดุร้าย ในชั่วพริบตา ค้างคาวแวมไพร์ก็จ้องเขม็งไปที่พวกเขาทันที