เป็นธรรมดาที่กุยแกจะไม่เข้าใจว่าเย่เฉินพูดถึงอะไร แม้ว่ากุยแกจะมีความฉลาดเหมือนดั่งปีศาจ แต่เขาก็ไม่สามารถจะรู้ความคิดของเย่เฉินได้

เมื่อเห็นว่ากุยแกกับลังมองเขาด้วยสายตาที่งุนงง เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วพูดว่า:

“เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมากเกี่ยวกับข้า ข้ากำลังคิดเรื่องส่วนตัว สำหรับสาวใช้แค่หาผู้หญิงที่ฉลาดและมีความรับผิดชอบ“

เมื่อกุยแกได้ยินเช่นนี้ เขาก็พยักหน้าทันทีจากนั้นก็โค้งคำนับตอบ: “ครับนายท่าน ข้าจะไปแจ้งรองนายกเทศมนตรี“

“อืมไปเถอะ” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยและกล่าว

กุยแกโค้งคำนับเพื่ออำลาอีกครั้ง แล้วเขาออกจากโรงเตี๊ยมไป

เย่เฉินสูดลมหายใจยาวๆ จากนั้นหันหน้าไปทางคฤหาสน์

คฤหาสน์หลังใหญ่ดูว่างเปล่ามากในขณะนี้ เมื่อพระอาทิตย์ตกดินทำให้มันดูเงียบเหงาไปหน่อย

อย่างไรก็ตามมันก็เลี่ยงไม่ได้ เพราะเมืองหลุนฮุยเพิ่งจะได้รับการอัพเกรดเมื่อไม่นานมานี้จึงยังไม่มีการจัดเตรียมเฟอร์นิเจอร์ใด ๆเข้ามา

เมื่อเขามาถึงคฤหาสน์ด้านหลัง ทันทีที่เย่เฉินเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นเขาก็เห็นเตียวหยูนั่งท้าวคางอยู่บนเก้าอี้

ทันในนั้นเตียวหยูก็เห็นเย่เฉินเช่นกันดวงตาของเธอสว่างขึ้นทันที จากนั้นเธอก็รีบลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้น เธออ้าปากแต่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

หลังจากเงียบไปสักพักใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั้นเธอก็ถามออกมาด้วยความประหม่า:

“ท..ท่านกินอะไรมารึยัง?”

ท่าทางที่เตียวหยูแสดงออกมาในตอนนี้ทำเหมือนกับเย่เฉินเป็นคนแปลกหน้าหรือไม่ก็โกรธจนไม่รู้จะพูดอะไร

แตทางตรงกันข้ามเลยนอกเหนือจากความตื่นเต้นที่เห็นเย่เฉินกลับมาแล้วเตียวหยูก็รู้สึกประหม่าเช่นกัน

อย่าประหม่าไปเลย เย่เฉินกล่าว ก่อนหน้านี้เย่เฉินได้พูดกับเตียวหยูว่าเธอจะเป็นผู้หญิงคนแรกของเขาและเธอจะต้องอาศัยอยู่ที่นี่ในอนาคต

ถ้าเตียวหยูไม่รู้สึกเขินอายและประหม่าก็คงจะแปลก

เมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นกังวลใจและเขินอายเล็กน้อยของเตียวหยู เย่เฉินก็อดก็ยิ้มออกมาจากนั้นเดินไปดึงเตียวหยูมาไว้ในอ้อมแขนและกล่าวเบา ๆ ว่า:

“ข้ายังไม่ได้กินอะไรมา แต่สิ่งที่ข้าต้องการสำหรับมื้อเย็นคือ … “

เมื่อเย่เฉินกล่าวออมา เขาก็ก้มศีรษะและจูบเตียวหยูเบา ๆ แล้วพูดต่อว่า: “เจ้า“

ร่างกายของเตียวหยูนั้นสั่นสะท้านขึ้นทันที จากนั้นก็เอนตัวลงบนอกของเย่เฉินเหมือนคนหมดแรง

เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้ม เขาอุ้มเตียวหยูขึ้นมาแล้วเดินไปยังห้องนอน

ในวันรุ่งขึ้นตอนรุ่งสางเย่เฉินเหลือบมองไปที่จ้าวหยูซึ่งกำลังหน้าแดงอยู่ในอ้อมแขนของเขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วกระซิบ:

“ วันนี้เจ้าไม่ต้องไปเรือนพยาบาลแค่พักผ่อนอยู่บ้านก็พอ”

ทันใดนั้นใบหน้าเล็ก ๆ ของเตียวหยูก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเธอรีบดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมใบหน้าของเธอจากนั้นก็ตอบกลับเบา ๆ ว่า “ได้“

มุมปากของเย่เฉินโค้งงอขึ้น จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นจากที่นอน เตียวหยูรีบออกจากผ้าห่มและพูดว่า “ข้าจะแต่งตัวให้สามีของข้า“

เย่เฉินผงะไปครู่หนึ่งแล้วยิ้ม เขายกมือขึ้นแตะจมูกของเตียวหยูเล็กน้อยและพูดว่า:

“ ข้าไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนักแม้ว่าเจ้าจะต้องการแต่งตัวให้ข้าแต่ก็ไม่ใช่วันนี้ หน้าที่ของเจ้าในวันนี้คือพักผ่อนให้เต็มที่”

“นี่ … ” เตียวหยู่ตอบอย่างลังเล

“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรต้องทำ นี่คือคำสั่งเข้าใจหรือไม่!” เย่เฉินจ้องมองไปที่เตียวหนูจากนั้นก็พูดอย่างจริงจังออกมา

“อืม … ” เตียวหยูยิ้มและตอบกลับอย่างอ่อนหวาน

“วันนี้น่าจะมีสาวใช้มาที่นี่ ถ้าเจ้าต้องการอะไรก็บอกพวกเธอ” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าว

“ ท่านกำลังจะออกจากเมืองหลุนฮุยแล้วหรอ?” เตียวหยูพยักหน้า ทันใดนั้นก็เธอก็จำอะไรบางอย่างได้จึงมองไปที่เย่เฉินและถามออกมา

มันไม่ใช่ว่าเตียวหยูต้องการจะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเย่เฉิน เธอไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับเรื่องบริหารบ้านเมืองได้อยู่แล้วเรื่องนี้เธอเข้าใจดีแต่อย่างไรก็ตามเตียวหยูเพิ่งจะกลายเป็นภรรยาแต่กลับต้องเฝ้าห้องที่ว่างเปล่าคนเดียวเธอจึงรู้สึกผิดหวังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“อืมมีบางอย่างต้องจัดการ ข้าต้องออกไปสองสามวัน แล้วจะรีบกลับมา” เย่เฉินมองไปที่เตียวหยูด้วยสายตารู้สึกผิดแล้วกล่าว

“สามี, ภรรยาของท่านจะรอท่านกลับมา” หลังจากที่ได้เห็นการจ้องมองของเย่เฉินเตียวหยูก็อดไม่ได้ที่จะอบอุ่น จากนั้นก็โน้มตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเย่เฉินและกล่าวออกมาเบา ๆ

“พักผ่อนให้มาก ข้าจะกลับมาโดยเร็วที่สุด” เย่เฉินจูบเตียวหยูจากนั้นหยิบเสื้อคลุมมาสวมให้เธอ จากนั้นก็ออกจากห้องนอนไป

เย่เฉินยังมีเรื่องต้องทำอีกมาก เป็นธรรมดาที่เขาต้องไม่หลงไหลหมกมุ่นกับเรื่องความรักเพียงอย่างเดียว

แน่นอนว่ามีข้อยกเว้นในช่วงระหว่างที่เขาต้องการจะพักผ่อน

เมื่อเขามาถึงสนามหญ้าหน้าบ้าน เย่เฉินที่เพิ่งเปิดประตูออกมาจากก็ผงะ

เตียนอุย กุยแกและทหารอีกหนึ่งพันคนของกองทหารหลุนฮุยถืออาวุธครบมือ ยืนรอเขาอยู่นอกประตูอย่างเป็นระเบียบ

“ตึง“

เสียงคุกเข่าลงบนพื้นดังขึ้นทันที

“ คาระวะท่านลอร์ด!”

เตียนอุยและทหารกองทัพหลุนฮุยตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียง

เย่เฉินยกยิ้มขึ้นทันทีจากนั้นก็มองไปที่กุยแกที่กำลังโค้งคำนับแสดงความเคารพและถามออกไปว่า

“เจ้าเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยหรือยัง?”

“หากท่านลอร์ดพร้อมแล้วและท่านสามารถออกเดินทางได้ทุกเมื่อ” กุยแกกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

เย่เฉินพยักหน้าจากนั้นมองไปที่เตียนอุยและเหล่าทหาร 1,000 ของกองทัพหลุนฮุยและตะโกนเสียงดังลั่น “ไป!”