ไป๋ชิงเหยียนเดินผ่านโต๊ะหนังสือ สั่งให้ชุนเถานำเสื้อคลุมขนจิ้งจอกมาให้นาง ชุนเถารีบปาดน้ำตาทิ้ง สวมเสื้อคลุมให้ไป๋ชิงเหยียน เมื่อออกมาจากห้องจึงเอ่ยถามอย่างลังเล

“คุณหนูใหญ่ จะจัดการกับชุนเหยียนอย่างไรหรือเจ้าคะ! หรือว่า…ไล่ออกไปดีหรือไม่เจ้าคะ!”

นางสูดลมหายใจเข้าลึกถึงระงับโทสะที่มีอยู่ในใจได้ ยังไม่ถึงเวลา เก็บชุนเหยียนไว้ยังมีประโยชน์อยู่ นางรู้ความอำมหิตของเหลียงอ๋อง และความร้ายกาจของตู้จือเวยที่ปรึกษาของเหลียงอ๋องดี หากนางไล่ชุนเหยียนออกไป ตู้จือเวยและเหลียงอ๋องต้องหาคนในจวนเจิ้นกั๋วกงคนอื่นมาทำหน้าที่แทนนางแน่ๆ นิสัยคนเป็นสิ่งที่ทดสอบได้ยากที่สุด ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้นางไม่กล้าเสี่ยง

เสียดายที่ชาติที่แล้วนางคิดว่าตัวเองฉลาด นางช่างตาบอดไปจริงๆ ถึงเชื่อว่าบ่าวที่กินบนเรือนขี้รดบนหลังคาอย่างชุนเหยียนหวังดีต่อนางถึงพยายามเอ่ยเรื่องดีๆ ของเหลียงอ๋องให้นางฟังอยู่ตลอดเวลา

ไป๋ชิงเหยียนยืนอยู่ตรงระเบียงทางเดินมือกำเตาผิงแน่น ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้นดวงตาส่อแววเย็นชา “ข้าไม่เอานางถึงตายหรอก เจ้าพานางมาที่เรือนหน้า”

เมื่อชุนเถาได้ยินคำกล่าวเช่นนี้ก็น้ำตาคลอทันที นึกว่าการที่นางขอร้องไว้ครั้งที่แล้วทำให้คุณหนูใหญ่ลำบากใจ นางกล่าวอย่างอึกอัก “คุณหนูใหญ่ บ่าว…”

ไป๋ชิงเหยียนปวดศีรษะเป็นอย่างมาก ความเหนื่อยล้าถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง ไม่ต้องการคิดเรื่องชุนเหยียนอีก กระชับเสื้อคลุมตัวหนาแน่น ตั้งสติเดินตรงไปยังเรือนหน้า

เหลียงอ๋องสั่งให้คนนำป้ายหยกมามอบให้พร้อมสัญญาจะสู่ขอนางไปเป็นชายาเอก จากนั้นก็มาหาถึงจวนทั้งๆ ที่ยังบาดเจ็บสาหัส ดูเหมือนว่าเขาคงไม่มีทางล้มเลิกความคิดที่จะหลอกใช้นางให้ช่วยวางแผนเพื่อให้ได้มาซึ่งจวินกง[1]ง่ายๆ เป็นแน่

ไป๋ชิงเหยียนร่างกายอ่อนแอถึงเพียงนี้ เหลียงอ๋องยังอุตส่าห์เสมอต้นเสมอปลายต่อนางเช่นนี้ นางยอมตายเสียตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า นางไม่มีทางยอมรับใช้ยอมทำทุกอย่างเพื่อเขาอีกครั้งแน่!

เหลียงอ๋องอยากกำจัดนางให้สิ้นซาก แต่เมื่อคนใจอำมหิตโหดเหี้ยมอย่างเหลียงอ๋องเห็นว่าวิธีที่โอนโยนใช้ไม่ได้ผลกับนาง เขาจึงใช้อุบายต่ำช้าทำลายชื่อเสียงของนางเพื่อบังคับให้นางแต่งเข้าตำหนักเหลียงอ๋อง วันนี้นางจะแฉเรื่องที่เหลียงอ๋องซื้อตัวบ่าวในจวนเพื่อนัดนางออกไปพบไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งให้ทุกคนได้รับรู้กันถ้วนหน้าให้ทุกคนได้รับรู้ว่านางรังเกียจขยะแขยงวิธีการของเหลียงอ๋องมากเพียงใด แบบนี้จึงจะสกัดแผนการชั่วร้ายของเหลียงอ๋องเอาไว้ได้ ชายหนุ่มจะได้ไม่กล้าผลีผลามลงมือทำสิ่งใดอีก

รถม้าคันหนึ่งจอดอยู่ข้างต้นไม้ ณ มุมหนึ่งของประตูด้านหลังจวนเจิ้นกั๋วกงภายในรถม้ามีเสียงไอดังออกมาเป็นระยะ

สองมือของถงจี๋ซุกอยู่ในเสื้อ ศีรษะแนบอยู่ที่มุมประตูของจวนเจิ้นกั๋วกง สายตามองลอดช่องแคบๆ ไปยังข้างในจวน เมื่อไม่เห็นผู้ใดออกมาก็ทั้งร้อนใจทั้งหนาวจนต้องย่ำขาอยู่กับที่ไปมา

ในรถม้ามีเสียงไออย่างรุนแรงดังออกมา ถงจี๋รีบกลับขึ้นไปบนรถม้าด้วยความร้อนรนลูบหลังให้เหลียงอ๋องเบาๆ สีหน้าไม่สบอารมณ์ “คุณหนูใหญ่ตระกูลไป๋ช่างไม่เจียมตัวเลยจริงๆ องค์ชายทรงยกตำแหน่งชายาเอกให้คนที่อาจจะไม่มีทายาทเช่นนาง นางยังกล้าปฏิเสธอีก! องค์ชายหากพระองค์ทรงอยากได้คุณหนูใหญ่ไป๋ผู้นี้จริงๆ…ทรงไปขอร้องฮองเฮาให้พระราชทานสมรสแต่งตั้งนางเป็นเช่อเฟยก็สิ้นเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ ท่านบาดเจ็บหนักเช่นนี้ เหตุใดต้องลำบากมาด้วยองค์เองเช่นนี้เล่าพะย่ะค่ะ ยกยอจนนางไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแล้ว!”

เหลียงอ๋องใช้มือหนึ่งป้องปากไออกมาสองสามที กระชับผ้าห่มที่คลุมร่างกายให้แน่นขึ้น ยื่นมืออีกข้างไปอังไฟ เอ่ยเสียงต่ำ “เจ้าจะไปรู้อันใด!”

หากไม่อับจนหนทางจริงๆ เขาคงไม่บังคับให้ไป๋ชิงเหยียนแต่งเข้าจวนเหลียงอ๋องหรอก เขาต้องการความสามารถของไป๋ชิงเหยียนก็ต้องทำให้นางเชื่อฟังเขาอย่างยินยอมพร้อมใจ

เรื่องที่ไป๋ชิงเหยียนจัดการขั้นเด็ดขาดกับบุตรอนุที่ยังไม่ได้มีชื่ออยู่ในจวนเจิ้นกั๋วกงผู้นั้นเมื่อวาน บัดนี้ยังแพร่สะพัดไปทั่วว่าไป๋ชิงเหยียนเข้มแข็ง เด็ดขาดไม่แพ้บุรุษ เขายิ่งไม่อาจละเลยไป๋ชิงเหยียนได้

เมื่อนึกได้ว่าช่วงนี้ไป๋ชิงเหยียนทำตัวเหินห่างกับเขา เหลียงอ๋องยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ ไม่มาพบหน้าหญิงสาวด้วยตัวเองสักครั้งเขาไม่อาจวางใจได้

เหลียงอ๋องยังรออยู่ในรถม้าข้างประตูจวน ผู้ดูแล บ่าวรับใช้ หญิงชรา สาวใช้ทั้งหมดของจวนเจิ้นกั๋วกงที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในเวลาทำงานของตัวเองต่างมารวมตัวกันอยู่ที่เรือนหน้า ไม่เพียงเท่านี้ ที่เรือนหน้ายังเตรียมท่อนไม้เอาไว้อีกด้วย บ่าวไพร่ต่างมองหน้ากันไปมาอย่างหวาดหวั่น ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ ล้วนกระวนกระวายใจไปตามๆ กัน

ผู้ดูแลบางคนเข้าไปถามพ่อบ้าเหา แต่พ่อบ้านเหากลับยืนนิ่งอยู่บนบันไดไม่เอ่ยสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น

ไป๋ชิงเหยียนไม่ปิดบังต่งซื่อเรื่องที่เหลียงอ๋องวานให้บ่าวรับใช้นัดนางออกไปพบที่ประตูหลังหลายครั้งหลายครา รวมถึงเรื่องที่เขามอบป้ายหยกให้แก่นาง ไป๋ชิงเหยียนบอกต่งซื่อหมดทุกเรื่อง

เมื่อต่งซื่อได้ฟังตอนแรกก็ดีใจ แต่เมื่อคิดไตร่ตรองอย่างละเอียดดูแล้ว หากเหลียงอ๋องจริงใจต่อบุตรสาวของนางจริงๆ ก็ควรเข้ามาหาผู้ใหญ่ในจวนเจิ้นกั๋วกงอย่างเปิดเผย เมื่อสอบถามแน่ชัดแล้วว่าไป๋ชิงเหยียนไม่ได้หมั้นหมายกับผู้ใดก็ควรให้แม่สื่อมาหมั้นหมายให้เป็นเรื่องเป็นราว แบบนี้ถึงจะเป็นการให้เกียรติไป๋ชิงเหยียน แต่การที่พระองค์ลอบซื้อตัวบ่าวรับใช้ของจวนเจิ้นกั๋วกงเพื่อแอบนัดบุตรสาวนางไปพบเป็นการส่วนตัวเช่นนี้มันเป็นการดูถูกบุตรสาวของนาง หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปชื่อเสียงของไป๋ชิงเหยียนต้องเสียหายป่นปี้หมดแน่ ต่งซื่อเย็นวาบไปทั้งร่าง

เมื่อนึกถึงเรื่องบ่าวในจวนเจิ้นกั๋วกงในฐานะที่ต่งซื่อเป็นนายหญิงใหญ่ของจวน นางรู้ดีว่ามันสำคัญขนาดไหน แต่ไหนแต่ไรมาหายนะล้วนเกิดจากภายในทั้งนั้น แม้ว่าใกล้จะสิ้นปีแล้วแต่ผู้ใดควรโดนลงโทษก็ต้องลงโทษอย่างสาสม

ต่งซื่อตัดสินใจเด็ดขาดสั่งให้คนไปเชิญคนค้าทาสมาสักสองสามคน จากนั้นจึงเดินไปที่เรือนหน้าพร้อมไป๋ชิงเหยียน

บ่าวรับใช้ คนทำความสะอาด สาวใช้ต่างยืนออกันอยู่เต็มเรือนหน้า เมื่อเห็นฉินหมัวมัวพยุงฮูหยินซื่อจื่อเดินเข้ามา คุณหนูใหญ่ไป๋ชิงเหยียนเดินตามอยู่ทางด้านหลังต่างพากับทำความเคารพด้วยใจที่ไม่สงบ

สายตาคมกริบของต่งซื่อกวาดมองไปยังบรรดาบ่าวรับใช้ สาวใช้ ที่อยู่กันเต็มลานหญ้า นางนั่งลงบนเก้าอี้ตรงระเบียงทางเดิน เอ่ยถาม “คนค้าทาสมาถึงแล้วหรือไม่”

พ่อบ้าเหาก้าวไปข้างหน้าทำความเคารพต่งซื่อ “เรียนฮูหยิน มาถึงแล้วขอรับ”

ต่งซื่อพยักหน้าหันไปสั่งพ่อบ้านเหา “นำตัวเข้ามาได้!”

ไม่นานบ่าวรับใช้ชายที่นำจดหมายไปให้เหลียงอ๋องที่ประตูหลังจวนเหลียงอ๋อง หญิงชราที่นำป้ายหยกมาให้ชุนเหยียนรวมทั้งหญิงชราที่โดนอิ๋นซวงชกสลบเหมือดในวันนี้ โดนจับมัดมือไขว้หลังพาตัวเข้ามา

เมื่อบ่าวรับใช้ชายเห็นสถานการณ์ตรงหน้าก็ตัวสั่นเทา เขาอ่อน รีบทรุดกายลงคุกเข่า ร้องไห้อ้อนวอน

“ฮูหยินซื่อจื่อโปรดเมตตาด้วยขอรับ! บ่าวถูกความโลภครอบงำ นอกจากช่วยส่งข่าวแทนเหลียงอ๋องและแม่นางชุนเหยียนแล้ว บ่าวมิเคยทำสิ่งใดที่เป็นการทำร้ายจวนเจิ้นกั๋วกงเลยนะขอรับ!”

หญิงชราที่ถูกตีจนสลบเมื่อเช้าได้ยินคำกล่าวเช่นนี้ นางรีบโขกศีรษะลงบนพื้นหลายทีจนเกิดเสียง

“บ่าว…บ่าวก็แค่รับเงินจากเหลียงอ๋อง ช่วยส่งข่าวให้แม่นางชุนเหยียนแทนบ่าวรับใช้ชายของเหลียงอ๋องเท่านั้นเจ้าคะ!”

“บ่าวก็แค่ช่วยไปเรียกแม่นางชุนเหยียนไปพบบ่าวรับใช้ชายของเหลียงอ๋องเท่านั้นเจ้าคะ บ่าวเคยไปเรียกแม่นางชุนเหยียนแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเจ้าคะ!” หญิงชราที่นำป้ายหยกมามอบให้ชุนเหยียนคลานไปข้างหน้าสองก้าว “แม่นางชุนเหยียน แม่นางชุนเหยียน เจ้ากล่าวสิ่งใดออกมาบ้างสิ!”

ชุนเหยียนที่ยืนอยู่ข้างไป๋ชิงเหยียนนึกถึงเมื่อครู่ที่ชุนเถาเอ่ยถึงหมิงอวี้ นางเขาอ่อนรีบคุกเข่าลงทันที เหงื่อซึมไปทั่วร่าง “ฮูหยิน คุณหนูใหญ่! บ่าว บ่าว…”

ต่งซื่อถือถ้วยชาที่ฉินหมัวมัวส่งมาให้ดวงตาคู่งามเหลือบมองชุนเหยียนแวบหนึ่ง ในใจเดือดดาลยิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะบุตรสาวขอร้องนางเอาไว้ก่อนมาที่นี่…วันนี้นางจะให้คนลากบ่าวต่ำช้าอย่างชุนเหยียนไปโบยจนตาย

“พวกเจ้าเคยส่งข่าวอันใดให้ชุนเหยียนบ้าง ชุนเหยียนฝากให้พวกเจ้าไปส่งข่าวอันใดที่จวนเหลียงอ๋องบ้าง พวกเจ้าจงบอกออกมาให้หมด” ไป๋ชิงเหยียนไม่มีท่าทีโมโหแต่อย่างใด หญิงสาวค่อยๆ หย่อนกายลงนั่งพลางเอ่ยถาม

[1]จวินกง หมายถึง ความสามารถหรือทักษะทางทหาร คุณงามความดีหรือผลงานของขุนนางทหาร