บทที่ 75 – พลังย้อนคืนสนอง

 

แน่นอนว่ามิวที่ถูกสร้างหรือคัดลอกแล้ววางใหม่นั้นถูกปรับเปลี่ยน Mind set ใหม่เพื่อให้พวกซินนี่สามารถออกคำสั่งให้จัดการกับมิวตัวจริงได้

ดังนั้นทันทีที่มิวตัวปลอมนั้นปรากฏขึ้นตรงหน้า.. ปากของเธอก็เปิดออกพร้อมกับลมหายใจมังกรก็ถูกเป่าออกมาแทบจะทันที

สีหน้าของมิวเปลี่ยนสี เธอไม่รีรอที่จะรีบหลบตัวออกด้านข้างทันที เพราะลมหายใจมังกรนั้นคงไม่เป็นผลดีต่อเธอสักเท่าไหร่

ลมหายใจมังกรโจมตีไม่โดนตัวมิวอย่างเฉียดฉิว.. มิวไม่มีเวลาให้คิดมากนัก.. แต่เธอก็พอจะเดาได้ว่าไอ้คนดูแลจักรวาลนี้คงไม่มีทางจัดการเธอจริงๆ

ถึงใช้วิธีแบบนี้.. ถึงเธอจะสงสัยว่าถ้าทำได้ทำไมไม่ทำตั้งแต่แรกก็เถอะนะ แต่ก็นั่นแหละข้อมูลร่างกายของสิ่งมีชีวิตจากโลกด้านนอกไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถเข้าใจได้

ดังนั้นซินนี่หรือคนอื่นๆ เองก็คงคาดไม่ถึงว่ามีวิธีแบบนี้อยู่ และต่อให้มิวไม่เคยแสดงท่าออกมา แต่ร่างปลอมนี้ก็คงทำได้เหมือนร่างจริงทุกอย่าง

เพราะมันเป็นข้อมูลที่มีอยู่แล้วนั่นเอง.. ร่างคัดลอกของมิวเมื่อเห็นมิวหลบการโจมตีของตัวเองได้มันก็พุ่งดิ่งเข้ามาที่มิวด้วยความเร็วเทียบเท่ากับมิว

มันเป็นความเร็วที่เร็วเกินกว่าจะมีสิ่งใดตามได้ ดาบในมือของร่างคัดลอกปรากฏขึ้นมันคือดาบเล่มหนึ่ง ไม่ใช่ดาของเอริเนีย

แต่เป็นดาบที่มิวได้มาตอนชั้นสาม และถึงแม้ในตอนนี้มันจะไม่ต่างอะไรจากดาบธรรมดา แต่ถ้าเหวี่ยงด้วยความเร็วขนาดนี้ก็คงจะตัดได้ทุกอย่าง

ทว่าน่าเสียดายเพราะทันทีที่เข้าใกล้เกือบถึงผิวของมิวมันก็หยุดลงกะทันหัน ด้วยความสามารถอัตลักษณ์นิรันดร์ของมิวเอง

ทว่า..แสงสีขาวอาบไปทั่วดาบเล่มดังกล่าวและในพริบตาต่อมาคมดาบนั้นก็ผ่าทะลุทะลวงเข้าไปได้แทบจะทันที

โชคยังดีที่มันไม่ได้เจาะทะลุทะลวงตั้งแต่แรก มิวจึงสามารถใชจังหวะชะงักนั้นหลบออกมาโดยอาศัยแรงปะทะกัน

แน่นอนว่ามิวเองก็ไม่ยอมโดนอัดอยู่ฝ่ายเดียว เพราะจังหวะที่เธอถอยร่นออกมานั้น มือสองข้างของเธอก็ทำท่าคว้าไปยังอากาศเบื้องหน้าของเธอ

เส้นใยบางอย่างที่มองไม่เห็นถูกปล่อยออกมาจากปลายนิ้วของเธอ.. แน่นอนว่าเส้นใยเหล่านี้คือเส้นใยที่ถูกล้อมไว้ด้วยจิตมังกรของเธอที่ปลดปล่อยออกมาในความหนาแน่นพิเศษ

มันหนาแน่นเสียจนพอจะเป็นสิ่งที่มีตัวตนขึ้นมาจริงๆ.. พูดอีกอย่างในตอนนี้มันก็คงไม่ต่างจากเทเลคิเนซิสเท่าไหร่

และภายในเส้นใยที่สร้างจากจิตมังกรนั้นก็คือ.. พลังงานลึกลับที่อยู่ภายในตัวของเธอซึ่งในความจริงควรจะปลดปล่อยออกมาจากทางลมหายใจ

แต่ตอนนี้มันปล่อยออกมาจากปลายนิ้วแถมยังยืดยาวออกจากตัวของตัวเอง.. อันที่จริงมิวนั้นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว

ตั้งแต่ที่เอริเนียสอนวิธีเร่งความเร็วให้.. ว่าพลังลมหายใจมังกรนี้มันคือพลังที่ไม่สามารถทำเหมือนเวทมนตร์หรืออะไรได้

เพราะมันเป็นพลังงานที่อยู่ในรูปแบบตายตัว.. พูดอีกอย่างคือมันไม่มีสถานะอื่นนอกจากสถานะแรกเริ่มของมัน

ไม่ว่ามันจะอยู่ในตัวของมิวหรืออยู่นอกตัวของมิวมันก็จะเป็นพลังงานที่เหมือนเดิม ดังนั้นการที่มิวจะปล่อยมันออกมาจากร่างตัวเอง

พลังงานนี้ก็แค่กลับคืนสู่ธรรมชาติเท่านั้น ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้หากไม่ดูดกลืนมันเข้ามาอีก ส่วนลมหายใจมังกรที่มันไม่หายไปเพราะมันคือการรวบรวมแล้วปลดปล่อยออกมาจากทางปากรวดเดียว

จึงกลายเป็นพลังทำลายล้างที่กวาดล้างทุกอย่างได้ในชั่วพริบตา แต่หากจะปลดปล่อยออกมาในรูปแบบเดียวกับพลังเวทเช่น

ยิงเป็นก้อนพลังงาน หรือใช้พลังพิเศษบางอย่างเปลี่ยนมันกลายเป็นไฟหรืออะไรแบบนั้นตามหลักแล้วจึงเป็นไปไม่ได้

อย่างมากก็แค่อาศัยพลังงานนั้นแล้วควบคุมมันในร่างและปลดปล่อยออกมาแบบเดียวกับที่เจ้าตัวคัดลอกนั่นทำคือเอาพลังงานที่ว่ามาเคลือบดาบ

แต่หลังจากคำพูดเอริเนียนั้นดังเข้ามา.. มิวจึงคิดขึ้นมาได้ว่าถ้าทำให้ด้านนอกกลายเป็นเหมือนภายในตัวของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเธอสามารถควบคุมพลังงานดังกล่าวในโลกด้านนอกได้เหมือนในร่างตัวเองหรือ

และสิ่งที่จะทำให้โลกด้านนอกยังเหมือนภายในตัวของเธอจะมีอะไรได้อีกนอกจากอาณาเขตจิตมังกร แต่นั่นก็ไม่ใช่ภายในตัวของเธอจริงๆ

ใช่แล้ว.. เธอต้องบีบอัดจิตมังกรให้หนาแน่นลง หนาแน่นยิ่งกว่าจิตแบบเรดาร์ หนาแน่นจนเกิดเป็นกำแพงที่พอจะกีดกั้นทุกอย่างจากภายนอกกับภายใน

จนได้ท่านี้ออกมา.. ‘จิตมังกรไร้ลักษณ์’ เส้นดายที่มองไม่เห็นเหล่านี้นั้น สามารถตัดทะลุผ่านได้ทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่อัตลักษณ์นิรันดร์ของเธอ!

มิวดึงนิ้วเข้ามาหาตัว เส้นด้ายที่แทบจะเล็กกว่าเส้นผมหลายสิบเท่านั้นต่างเคลื่อนไหวข้ามผ่านร่างของเจ้าร่างคัดลอก

ก่อนจะถูกดึงให้ตึงพร้อมตัดผ่านอัตลักษณ์นิรันดร์ของมิวเหมือนตัดน้ำเต้าหู้อย่างไรอย่างนั้น

ดวงตาของร่างคัดลอกเบิกขึ้นเลือกงดสีแดงฉานสาดกระจุยกระจายออกรอบทิศ แต่ก็ไม่อาจจะตัดขาดร่างของมันได้เพราะเส้นด้ายของมิวขาดลงเสียก่อน

แน่นอนว่าอัตลักษณ์นิรันดร์มันไม่ได้กระจอกขนาดตัดผ่านกำแพงชั้นนอกได้แล้วจะตัดร่างกายของมิวได้

ไม่งั้นเทพมังกรในอดีตคงตายไปนานแล้ว

“ชิ.. นึกว่าจะได้อยู่แล้วเชียว”

เธอบ่นออกมา ส่วนหนึ่งที่ด้ายขาดเพราะท่าเมื่อสักครู่นี้ต้องใช้สมาธิมากเนื่องจากมันการปลดปล่อยจิตไปควบคุมเส้นด้ายโดยตรง

แต่ทว่าก็สร้างบาดแผลให้มันได้ไม่มากก็น้อ—

ยังไม่ทันให้มิวได้ตกใจนั้นเองร่างกายของมันก็เริ่มฟื้นฟูพร้อมกับหายทันที ระหว่างฟื้นฟูเหมือนกับข้อมูลของมันถูกคัดลอกวางใหม่อีกรอบ

สีหน้ามิวแทบจะเปลี่ยนสีด้วยซ้ำ ต่อให้เธอจะโง่ขนาดไหนถ้ายืนอยู่ตอนนี้ก็คงรู้ เจ้าพวกบ้าผู้ดูแลระบบนั้นใช้ข้อมูลเดิมในอดีตมาเขียนทับซ้ำในร่างปัจจุบัน

เลยทำให้ร่างของเจ้าตัวคัดลอกนั้นถูกรักษา.. ไม่สิ ถ้าจะพูดให้ถูกคือไม่เคยโดนโจมตีมาก่อนเลย

ร่างของเจ้าตัวคัดลอกหายวับไปพร้อมกับการปรากฏตัวที่เกิดขึ้นเร็วจนน่าเหลือเชื่อด้านหลังมิว

มันไม่ได้ใช้ท่าแบบเดียวกับมิวเพราะมันรู้ดีว่าตัวมันในตอนนี้ไม่สามารถควบคุมอะไรที่ละเอียดอ่อนขนาดนั้นได้

ต่อให้ใช้ไปก็ฆ่ามิวไม่ได้ หลักฐานก็คือเธอที่ไม่ตาย.. สู้ใช้ดาบเคลือบพลังงานนี้ตัดใส่คอของมิวอย่างโหดเหี้ยมนั้นง่ายกว่ามากนัก

แต่มิวก็ไม่ใช่คนไร้ประสบการณ์ แม้การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายจะกะทันหันจนตั้งตัวหรือวางตัวแทบไม่ทันเลยก็ตาม

เธอก็เอี้ยวตัวหลบออกไปด้านซ้ายพร้อมกับเหวี่ยงหมัดเข้าใส่ท้องของร่างคัดลอกพร้อมพูดขึ้นว่า

“ถ้าตัดตรงๆ ไม่ขาดก็..”

เส้นด้ายที่มองไม่เห็นเหล่านั้นหมุนวนอยู่รอบหมัดของมิวจนเหมือนสว่านพร้อมกับต่อยเข้าที่ท้องของอีกฝ่ายแทบจะทันที

สว่านนั้นต่อยเข้าที่ท้องจนทะลุไปอีกด้าน เลือดสีแดงสาดกระจายไปทั่ว และอีกฝ่ายราวกับรอจังหวะนี้

เจ้าร่างโคลนมันเปิดปากออกพร้อมกับ

“มังกรคำรามอีกแล้วเหรอ”

มิวตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด แต่นั่นมันก็สายเกินไปแล้วลำแสงสีขาวพ่นใส่ร่างของมิวอย่างจัง ซึ่งแน่นอนว่าต่อให้เป็นมิวและต่อให้เป็นอัตลักษณ์นิรันดร์

ก็ไม่อาจต้านทานต่อลมหายใจนี้ได้.. หากเป็นลมหายใจจากมังกรที่ด้อยกว่าเธอคงไม่เป็นอะไรมาก แต่ลมหายใจนี้มาจากตัวเธอเอง

และพลังนี้มันเคยสะท้อนกลับจนทำลายแขนข้างหนึ่งของเธอไปด้วยซ้ำ วินาทีที่พลังนี้แผดเผาร่างของมิวเธอกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

ในเมื่อไม่มีทางเลือกอื่นแล้วมิวที่กำลังโดนพลังแผดเผา เธอรีบคว้ามืออีกข้างไปจับไหล่ของเจ้าร่างคัดลอกไว้

“มาดูกันว่า ของจริงหรือของปลอมจะตายก่อน”

มิวตะโกนออกมาและ…พลังงานที่ปล่อยออกมาจากปากของมันก็ไหลผ่านร่างของมิวไปยังร่างของมันเช่นเดียวกัน

ใช่แล้ว.. ยังไงซะพลังจากร่างมันก็คือร่างของเธอ แม้อาจจะโดนมันสังหารได้ แต่พลังนี้หากถูกปล่อยกลับคืนไปในรูปแบบของการทำลายล้าง

อีกฝ่ายก็ได้รับดาเมจเหมือนกัน!

พลังนี้ย้อนคืนสนองกลับไปหามันไหลเข้าผ่านไหล่จนร่างมันแตกสลายก่อนที่มิวจะแตกสลายเสียอีก

และมิวอาจจะไม่รู้.. เพราะในทันทีที่มันตายเพราะตัวมันเอง ตัวมันก็ราวกับถูกลบออกไปจากจักรวาลจำลองนี้ตามที่ซินนี่ปรารภนาจะทำกับมิว

ซึ่งผลลัพธ์ก็คือ.. เจ้าร่างคัดลอกนี้ไม่เคยมีตัวตนในจักรวาลจำลองนี้

และ.. บาดแผลทุกอย่างของมิวก็หายไปเช่นเดียวกัน

เพราะมันไม่เคยมีตัวตนมาก่อนนั่นเอง!

 

ในขณะที่มิวกำลังได้พักหายใจนั้นเอง

ซินนี่ที่อยู่โลกด้านนอกเดือดยิ่งกว่าแกนกลางดวงอาทิตย์ไปแล้ว

เธอไม่สนอะไรอีกแล้วเพราะความร้อนลนและหวาดกลัวว่าจักรวาลจำลองตัวเองจะพังทลายลง เธอออกคำสั่งสุดท้ายทันทีว่า…

“คัดลอกอีก คัดลอกอีก สิบตัว.. ยี่สิบตัว ห้าสิบตัว.. ร้อยตัว เอาออกมาให้หมดขอแค่ฆ่ามันได้!!!!!”