ตอนที่ 48 งานเลี้ยงกลางคืนในวังหลวง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

บ่าวรับใช้ชายและหญิงชราทั้งห้าคนที่รับเงินมาจากเหลียงอ๋องเพื่อคอยส่งสารเห็นจุดจบของชุนเหยียน ต่างตัวสั่นเทิ้มไม่ เอาแต่โขกศีรษะลงบนพื้นพลางร้องขอชีวิต

ต่งซื่อโมโหชุนเหยียนจนปวดศีรษะ หายใจไม่ทั่วท้อง กัดฟันกล่าวออกมา “พ่อบ้านเหาจัดการตามกฎได้เลย อย่าปล่อยไปเด็ดขาด…”

พ่อบ้านเหารีบเดินไปด้านหน้า ประกาศกร้าวว่าบ่าวทั้งห้าเห็นแก่เงิน สั่งให้คนตีขาจนหักแล้วให้คนค้าทาสนำบ่าวทั้งห้าคนไปขายให้หมด

ใกล้วันสิ้นปี เรื่องที่บ่าวรับใช้ในจวนเจิ้นกั๋วกงเข้าไปพัวพันกับจวนเหลียงอ๋องทำให้ฮูหยินซื่อจื่อแห่งจวนเจิ้นกั๋วกงต้องจัดระเบียบบ่าวรับใช้ในเรือนใหม่ทั้งหมดอีกรอบ มีทั้งลงโทษ ทั้งขายออก แม้กระทั่งผู้ดูแลบางคนยังพลอยโดนหางเร่ไปด้วย

ต่งซื่อจัดระเบียบการดูแลจวนใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะการเฝ้าประตูจวน ยิ่งจัดอย่างรัดกุมหนาแน่นที่สุด

ต่งซื่อรู้ว่าบ่าวในจวนเจิ้นกั๋วกงทุกคนเป็นด่านสำคัญด่านแรก จะปล่อยให้เกิดข้อผิดพลาดมิได้เป็นอันขาด

เหลียงอ๋องรออยู่ที่ประตูหลังจวน ถงจี๋ได้ยินเสียงเอะอะเปลี่ยนคนเฝ้าประตูดังมาจากด้านในจวน จึงเรียกออกไปอย่างทนไม่ไหวแต่กลับไม่มีผู้ใดมาเปิดประตู

ผ่านไปครู่หนึ่ง มีคนมารายงานเหลียงอ๋องว่าจวนเจิ้นกั๋วกงขายบ่าวทาสออกไปจำนวนไม่น้อย มีบางคนถูกหามออกมาโดยเลือดท่วมตัว เหลียงอ๋องสั่นเทิมขึ้นมาทันที รู้ว่าวันนี้คงมิได้พบหน้าไป๋ชิงเหยียนแล้วจึงสั่งให้คนกลับจวน ก่อนจากไปชายหนุ่มกำชับสั่งถงจี๋ “เจ้าอยู่ที่นี่ หาทางติดต่อชุนเหยียนแล้วสืบมาว่าจวนเจิ้นกั๋วกงเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่”

“รับทราบพ่ะย่ะค่ะ!” ถงจี๋พยักหน้า

เมื่อกลับมาถึงจวนเหลียงอ๋องยิ่งนั่งไม่ติด ถงจี๋กลับมารายงานว่าหญิงชราและบ่าวรับใช้ชายที่เฝ้าประตูถูกเปลี่ยนคนหมดแล้ว เขายัดเงินให้พวกนั้นวานให้ไปเรียกชุนเหยียนออกมาพบแต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้ารับ ต่างกล่าวว่าวันนี้ฮูหยินซื่อจื่อจัดระเบียบจวนใหม่ ไม่มีใครกล้าเสี่ยงทำสิ่งใดในตอนนี้ทั้งนั้น

เหลียงอ๋องได้แต่หลับตาลง คิดหาวิธีอื่น

คืนนั้นชุนซิ่งซึ่งมาแทนที่บ่าวใช้ใหญ่อย่างชุนเหยียนยืนอยู่ด้านข้างไป๋ชิงเหยียนอย่างสำรวม เล่าเรื่องที่จวนว่าการจิงจ้าวอิ่นปล่อยตัวเจี่ยงเฝิงชุน ฮูหยินแห่งจวนจงหย่งโหวแล้ว “ผลสรุปคดีออกมาว่าบ่าวใช้ติดตามทั้งห้าคนตายก่อนที่จะยกเลิกสถานะทาส ดังนั้นขณะที่ตายจึงยังเป็นทาสอยู่ ฮูหยินโหวไม่มีความผิดจึงปล่อยตัวนางกลับไปเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนฟังพลางวางหมากลงบนกระดาน พยักหน้าน้อยๆ “ข้ารู้แล้ว เจ้าไปทำงานเถิด!”

ชุนซิ่งพยักหน้ารับคำเมื่อเห็นชุนเถาตาแดงก่ำแหวกม่านเข้ามาด้านในนางจึงออกจากห้องไป

ไป๋ชิงเหยียนถาม “ชุนเหยียนเป็นเช่นไรบ้าง”

ชุนเถาร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาในใจ ละอายใจจนอยากตายเสียตอนนี้ “ท่านหมอบอกว่าพักฟื้นสักครึ่งเดือนก็คงหายดีเจ้าค่ะ หมัวมัวที่ลงโทษโบยเบาเกินไปหน่อย ต่อให้โบยจนนางขาหักก็ถือว่าสมควรแล้ว!”

ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกว่าชุนเถาเป็นแบบนี้ช่างน่าเอ็นดูยิ่งนัก นางลูบไปที่มือของชุนเถาเบาๆ “เอาล่ะ ข้าไม่โกรธแล้ว เจ้าก็อย่าได้หงุดหงิดไปเลย ต่อให้เจ้าไม่ขอร้องเอาไว้ข้าก็ไม่ทำอันใดนางหรอก เก็บชุนเหยียนไว้ยังมีประโยชน์ต่อข้า ดูแลนางให้ดีเรื่องนี้เจ้ารับรู้ไว้เป็นพอ!”

ดวงตาของชุนเถาคลอไปด้วยหยาดน้ำตา เมื่อได้ยินคุณหนูใหญ่กล่าวว่าเก็บชุนเหยียนไว้เพราะยังมีประโยชน์ก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันที รับปากอย่างหนักแน่น “คุณหนูใหญ่วางใจได้เจ้าค่ะ บ่าวจะไม่ทำตัวมีพิรุธให้ชุนเหยียนจับสังเกตได้เจ้าค่ะ”

วันนี้ชุนเถาได้ยินเรื่องที่ชุนเหยียนนำเรื่องส่วนตัวของคุณหนูไปบอกเหลียงอ๋องตั้งมากมาย จึงไม่รู้สึกเห็นใจชุนเหยียนอีกแม้แต่น้อย ไป๋ชิงเหยียนสั่งให้ทำอันใดนางก็จะทำตามนั้นอย่างเคร่งครัด

สองแม่ลูกไป๋ชิงเสวียนที่ขลุกตัวอยู่แต่ในเรือนชิงหมิงได้ยินว่าวันนี้จวนเจิ้นกั๋วกงทำการใหญ่ ขายบ่าวใช้ไปห้าครัวเรือนรวมแล้วกว่าสามสิบเกือบสิบสี่คน

สตรีกลางคนหวาดกลัวมาก เอาแต่ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา “รู้อย่างนี้ใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ที่จวนนอกเสียยังจะดีกว่า อย่างน้อยเราก็เป็นนาย นึกว่าพอมาที่จวนเจิ้นกั๋วกงแล้วจะได้เสพสุข ใครจะไปคิดว่ายังไม่ทันเข้าจวนเจ้าจะโดนโบยจนมีสภาพเช่นนี้แล้ว ตอนนี้ยังให้คนมาเฝ้าเราไว้อีก! ตระกูลที่เอาแต่รบราฆ่าฟันเช่นนี้…”

“พอแล้วแม่ ท่านเลิกพูดเถิด!” ไป๋ชิงเสวียนเจ็บที่บาดแผลวันๆ เอาแต่นอนอยู่บนเตียงก็หงุดหงิดจนแทบทนไม่ไหวแล้ว ดวงตาของเขาส่อแววอาฆาต “รอให้ข้าหายดีก่อนเถิด เราจะได้เห็นดีกัน!”

หลายวันก่อนฮ่องเต้พระราชทานของรางวัลและชื่มชมฉินหล่างอย่างออกนอกหน้า ตรัสว่าฉินหล่างเป็นแบบอย่างที่ดีของบุรุษในตระกูลต่างๆ ตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวงจึงพลอยทำตามโดยกักตัวบุตรชายเสเพลของตนเองให้ร่ำเรียนตาราอยู่แต่ในจวน

หลายวันมานี้กิจการโรงเหล้า โรงน้ำชา หอนางโลม เรือชมเมืองต่างซบเซากันเป็นแถบๆ บรรดาคุณชายเจ้าสำราญที่ถูกกักตัวอยู่แต่ในจวนก็ข่มขื่นไม่ต่างกัน

จนเมื่อถึงงานเลี้ยงสิ้นปีในวังหลวง บรรดาคุณชายเจ้าสำราญจึงได้ออกมาพบปะสังสรรค์กันอย่างโจ่งแจ้งได้เสียที ต่างบ่นปรับทุกข์เรื่องที่ต้องอยู่แต่ในจวนให้กันและกันฟัง ฉินหล่างที่อยู่ในงานเลี้ยงก็โดนบรรดาคุณชายเจ้าสำราญที่มักจะออกไปสังสรรค์ด้วยกันก่นด่าไม่หยุด ฉินหล่างได้แต่ยิ้มโค้งกายขอโทษ และ ดื่มเหล้าไถ่โทษเป็นรายบุคคล

ไป๋ชิงเหยียนโดนองค์หญิงใหญ่รั้งไว้ข้างกาย นั่งอยู่ทางขวามือถัดจากฮ่องเต้และฮองเฮา เบื้องหน้าคือฉีอ๋องและพระชายาเอก ซึ่งกำลังลุกขึ้นทำความเคารพองค์หญิงใหญ่ ไป๋ชิงเหยียนยืนอยู่ด้านหลังองค์หญิงใหญ่ ย่อกายทำความเคารพ

จำได้ว่าเดือนสาม รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบหกซึ่งก็คือปีหน้า ฉีอ๋องได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาทย้ายเข้าไปอยู่ในตำหนักบูรพา เรื่องแรกที่จัดการก็คือคดีก่อกบฏของไป๋เวยถิงแห่งจวนเจิ้นกั๋วกง

มีคำให้การของหลิวฮ่วนจาง อีกทั้งจดหมายเขียนตอบระหว่างเจิ้นกั๋วกงและหนานเยี่ยนจวิ้นอ๋องที่ถูกค้นพบในตระกูลไป๋ ฉีอ๋องจึงเป็นผู้ตัดสินโทษของตระกูลไป๋

ต่อมา ฉีอ๋องซึ่งกลายเป็นรัชทายาทแล้วได้ถวายฎีกาขอร้องให้ฮ่องเต้ลดโทษให้สตรีตระกูลไป๋แต่กลับโดนฮ่องเต้ตำหนิ ถูกกักตัวสำนึกผิดอยู่แต่ในตำหนักบูรพา

ตอนนั้นไป๋ชิงเหยียนโกรธแค้นฉีอ๋องมาก ทว่าเมื่อคิดดูให้ดีแล้วมีหลักฐานแน่นหนาเช่นนั้น ฉีอ๋องในฐานะรัชทายาทเขาก็คงจนปัญญาเช่นกัน

ไป๋ชิงเหยียนประคองให้องค์หญิงใหญ่นั่งลง เงยหน้าขึ้นก็เห็นเซียวหรงเหยียนที่นั่งอยู่ทางด้านหลังเหลียงอ๋อง เซียวหรงเหยี่ยนนั่งอยู่ในท่าทีสงบนิ่งพยักหน้าพลางยิ้มให้นางเล็กน้อย ไป๋ชิงเหยียนกำมือแน่น หลุบสายตาลง นั่งยืดกายตรง ไม่รู้ว่าเซียวหรงเหยี่ยนได้รับสารแล้วหรือไม่

เซียวหรงเหยี่ยนนั่งอยู่ด้านหลังฉีอ๋อง เห็นได้ชัดว่าฉีอ๋องให้ความสำคัญกับชายหนุ่มมากเช่นไร

“ชุนเถา…” ไป๋ชิงเหยียนใช้ผ้าเช็ดหน้าป้องปากเอ่ยถามเสียงเบา “ญาติผู้พี่ของเจ้าส่งจดหมายถึงมือแล้วใช่หรือไม่”

ชุนเถาคุกเข่าอยู่ข้างกายของไป๋ชิงเหยียน เอ่ยตอบเสียงเบา “คุณหนูใจวางใจได้เจ้าค่ะ ญาติผู้พี่ใช้ให้ขอทานไปที่จวนเซียวบอกว่ามีจดหมายมาให้พ่อบ้าน เขาเห็นกับตาว่าขอทานผู้นั้นยื่นจดหมายให้พ่อบ้านถึงมือ! ขอทานเองก็ไม่รู้ฐานะของญาติผู้พี่เจ้าค่ะ”

เฉินชิ่งเซิงเป็นคนจัดการ นางไม่มีสิ่งใดต้องกังวลชาติที่แล้วเซียวหรงเหยี่ยนช่วยนางไว้มาก ครั้งนี้…หวังว่าจะได้ตอบแทนเขาบ้าง

เมื่อได้ยินขันทีตะโกนว่าฮ่องเต้ ฮองเฮา เสด็จมาถึงแล้ว ไป๋ชิงเหยียนข่มความเกลียดชังในใจเอาไว้ พยุงองค์หญิงใหญ่ลุกขึ้นทำความเคารพต้อนรับ

น่าจะเป็นเพราะว่าอาการบาดเจ็บสาหัสของเหลียงอ๋องเริ่มดีขึ้นแล้ว ฮ่องเต้เลยดูอารมณ์ดีมาก

เมื่อนั่งลงเรียบร้อย ไป๋ชิงเหยียนชูแก้วขึ้นดังเช่นคนอื่นๆ ดวงตาสดใสคู่นั้น…จ้องไปที่ฮ่องเต้ที่ชูแก้วรับคำสรรเสริญที่พากันกล่าวว่าราชามีคุณธรรมแผ่นดินจึงสงบสุข แววตาของนางนิ่งขรึม

เซียวหรงเหยี่ยนมองเห็นสายตานิ่งขรึมไม่มีความเคารพแม้แต่น้อยของไป๋ชิงเหยียนที่จ้องไปทางฮ่องเต้ ชายหนุ่มรู้สึกว่าน่าสนใจ หลุบตาลงนึกถึงข้อความที่พ่อบ้านนำมาให้ก่อนเขาจะมาร่วมงานเลี้ยงในวัง

งานเลี้ยงมีกับดัก จวนฉีมีเงื่อนงำ

ชายหนุ่มชูแก้วขึ้นให้ฮ่องเต้แคว้นต้าจิ้นแล้วดื่มจนหมดแก้ว เขาลูบไปที่แก้วเบาๆ เงยหน้าขึ้นก็ประสานตากับฉีอ๋องที่กำลังยิ้มให้เขาพอดี ชายหนุ่มจึงยิ้มตอบกลับ