บทที่ 64 ต่ำช้าไร้ยางอาย

คิงดราก้อน

“คุณถัง ขอโทษนะคะ ฉันไม่อยากเต้นรำค่ะ” เย่หยุนซูเอ่ยพูดอย่างเรียบเฉย

เซียวหยางทานอิ่มดื่มจนพอใจแล้วก็ใช้กระดาษทิชชูเช็ดปาก จากนั้นก็ยิ้มพลางพูดว่า “หยุนซู ฉันจะเต้นรำกับเธอเอง”

เย่หยุนซูส่ายหน้าเล็กน้อย เพื่อบ่งบอกเซียวหยางว่าอย่าหาเรื่อง แต่ปากกลับพูดไปว่า “ที่จริงฉันเต้นรำไม่ค่อยเป็นน่ะ”

“เต้นไม่เป็นฉันสามารถสอนเธอได้” เซียวหยางพูดพลางจูงมือสวย ๆ ของเย่หยุนซูขึ้นมา

ถังเทียนหวาเอ่ยพูดอย่างเย้ยหยัน “พวกเราเต้นแทงโก้ ที่ประเทศได้รับยกย่องว่าเป็นการเต้นรำของชนชั้นสูง ไอสวะอย่างแกจะเต้นเป็นได้ยังไง?”

“หยุนซู ตอนที่ผมเรียนอยู่เมืองนอกเคยได้รับรางวัลใหญ่จากการแข่งขันเต้นแทงโก้ด้วยนะ ให้ผมสอนคุณจะเหมาะสมกว่านะครับ”

ขณะที่พูด เขาก็เดินหน้าเข้าไปเตรียมจะจูงมือขาวนวลดั่งหยกของเย่หยุนซู

“ไม่ต้องรบกวนคุณชายถังหรอกค่ะ” เย่หยุนซูปฏิเสธแบบอ้อม ๆ และไม่ได้ยื่นมือไปหาถังเทียนหวา

ถังเทียนหวาอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ มีแขกคนอื่น ๆ เริ่มมองมาทางนี้แล้ว หากยังพูดต่อ เขาคงหน้าแตกยับแน่นอน จึงได้แต่ยอมแพ้ไป

“อิกะxรี่ อุตส่าห์ไว้หน้าแล้วแต่เสือกไม่สนใจ คอยดูแล้วกันว่าเดี๋ยวกูจะจัดการกับมึงยังไง”

เขาเหลือบมองเย่หยุนซูด้วยสายตาชั่วร้ายแวบหนึ่ง จากนั้นก็ทำเสียงฮึออกมาด้วยความไม่พอใจแล้วจากไป

“ไปกันเถอะ หยุนซู พาเธอไปเต้นรำ”

“เซียวหยาง เลิกทำเป็นเล่นได้แล้ว ฉันเต้นแทงโก้ไม่ค่อยเป็นจริง ๆ จะขายหน้าเอาได้”

เซียวหยางดึงเย่หยุนซูเดินตรงไปยังฟลอร์เต้นรำ เย่หยุนซูรีบร้องโวยวายออกมาเบา ๆ

เห็นใบหน้าสวยงามของเย่หยุนซูดูเคอะเขิน เซียวหยางก็รู้สึกว่าน่ารักมาก

ถึงแม้เธอมาจากตระกูลที่ดี แต่ก็ออกงานสังคมน้อยมาก ใจจดจ่ออยู่กับเรื่องงานเท่านั้น เต้นรำไม่เป็นก็ถือเป็นเรื่องปกติมาก

“ไม่เป็นไร มีฉันอยู่ เต้นตามฉันก็พอ มันง่ายมาก”

ทั้งสองคนมาอยู่ในฟลอร์เต้นรำโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เซียวหยางพลิกมือไปโอบเอวที่อ่อนนุ่มของเย่หยุนซู เผยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์จนน่าหลงใหลออกมา

ร่างที่สวยงามของเย่หยุนซูสั่นไหวเล็กน้อย ใบหน้าสวยงามนั้นแดงระเรื่อ พูดตามตรง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเต้นรำกับเซียวหยางล่ะ

มืออีกข้างหนึ่งของเซียวหยางจับฝ่ามือของเย่หยุนซูไว้ แล้วยื่นขาซ้ายออกมา เชิดคางขึ้น จัดท่วงท่า

จากนั้น ก็พาเย่หยุนซูขยับตัวเต้นรำ

เย่หยุนซูไม่ได้โกหกจริง ๆ เธอไม่เชี่ยวชาญในการเต้นแทงโก้จริง ๆ แม้แต่จัดวางท่าเต้นก็ทำไม่เป็น แต่เธอกลับค่อย ๆ พบว่า แขนขาของตัวเองขยับไปตามการเคลื่อนไหวของเซียวหยางโดยไม่รู้ตัว และเป็นท่วงท่าที่ดูสง่างามทุกอิริยาบถ

ราวกับว่าทุกการลากดึงของเซียวหยาง มีพลังพิเศษบางอย่างส่งมาถึงตัวเธอ จากนั้นก็ขยับท่าทางที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้จักออกมา

ทั้งหมดนี้ ดูคล่องแคล่วลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติมาก

เมื่อเต้นตามจังหวะดนตรีไปเรื่อย ๆ เย่หยุนซูเต้นไปเต้นมา ก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้

ทันใดนั้น ผู้คนมากมายในห้องโถงได้สังเกตเห็นคู่นี้ขึ้นมา ก็ต่างพากันมองด้วยสีหน้าตื่นตาตื่นใจ

ท่าเต้นของเซียวหยาง ไม่มีข้อบกพร่องเลยแม้แต่น้อย เหมือนกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ที่เต้นรำอย่างสง่างาม ส่วนท่าเต้นของเย่หยุนซู ดูมีชีวิตชีวาทุกท่วงท่าเลย

ทั้งคู่สวมชุดราตรี ชุดสูทสีรอยัลบลูของเซียวหยาง เข้าคู่กับชายกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ของเย่หยุนซู ต่างส่งเสริมซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี ขณะที่หมุนตัวนั้น ราวกับผีเสื้อคู่หนึ่งที่กำลังเริงระบำ

ดนตรีที่ไพเราะเสนาะหู การเต้นรำที่งดงาม กับหนุ่มสาวหน้าตาดี!

เรียกได้ว่านี่เป็นงานเลี้ยงฉลองที่ยิ่งใหญ่สวยงามตระการตา สุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์คนอื่น ๆ ที่กำลังเต้นรำอยู่นั้น ดูหม่นหมองไร้สีสันไปในชั่วพริบตา จนต้องค่อย ๆ ถอนตัวออกจากฟลอร์เต้นรำ

ถังเทียนหวาที่ยืนมองฉากนี้อยู่ไกล ๆ ก็บีบแก้วไวน์ที่ถืออยู่ในมือจนแน่น ในแววตามีความเคียดแค้นเผยออกมาให้เห็น

และในตอนนี้ คุณเฟิงก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของถังเทียนหวาโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง

“วางยาพิษเรียบร้อย สองคนนั่นถูกพิษเข้าไปแล้ว ไม่ถึงสิบห้านาที สารพิษก็จะออกฤทธิ์”

ถังเทียนหวายิ้มอย่างเลือดเย็นออกมา เผยให้เห็นสีหน้าที่ทุกอย่างอยู่ในการควบคุม

แม่ง กล้าแย่งผู้หญิงของกู ไม่เจียมตัว อิเย่หยุนซูก็อีกคน อิกะxหรี่ อุตส่าห์ไว้หน้าแล้วแท้ ๆ แต่เสือกไม่รับไว้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกมึงทั้งคู่ก็อย่าหวังจะอยู่เป็นสุขเลย!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ถังเทียนหวาก็หมุนตัวไปที่มุมมุมหนึ่ง คอยสังเกตความเคลื่อนไหวของเซียวหยางกับเย่หยุนซูตลอดเวลา

ทั้งสองคนเต้นรำกันถึงสามเพลง จึงจะกลับไปยังที่นั่งด้วยความรู้สึกที่ยังเต้นได้ไม่ถึงอกถึงใจเลย

เซียวหยางที่กำลังจะเอ่ยพูด จู่ ๆ ก็เอามือกุมท้อง

“อึก…อึก…อึก!”

เซียวหยางขมวดคิ้ว สีหน้าเหยเกขึ้นมา

“เป็นอะไรไป?”

“ไม่……ไม่เป็นไร ฉันไปเข้าห้องน้ำแปบนะ เธอห้ามไปจากตรงนี้เด็ดขาด”

เซียวหยางพูดเสียงต่ำขึ้นมาประโยคหนึ่ง แล้วรีบลุกขึ้น เดินตรงไปยังห้องน้ำ

เย่หยุนซูก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ คิดว่าเมื่อครู่นี้เซียวหยางกินดื่มมากไปจนท้องไส้ปั่นป่วนก็เป็นเรื่องปกติ เลยดื่มไวน์ที่อยู่ในแก้วต่อ

ดื่มไปสักพัก เธอเริ่มรู้สึกเวียนหัวขึ้นมาเล็กน้อย

และในตอนนี้ ถังเทียนหวาได้เดินยิ้มกรุ่มกริ่มเข้ามา แล้วมาพูดข้างหูเย่หยุนซูว่า

“หยุนซู ดูเหมือนคุณไม่ค่อยสบายนะ ผมประคองคุณไปพักผ่อนหน่อยดีกว่า”

“ไม่ต้องหรอก” เย่หยุนซูรีบหลบทันที แล้วปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

“หยุนซู คุณไม่รู้สึกมึนหัวเลยเหรอ?” ถังเทียนหวาถามอย่างมีนัยแฝง

เดิมทีเย่หยุนซูรู้สึกไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่เมื่อเขาพูดออกมาอย่างนี้ ก็รู้สึกเวียนหัวหนักมาก รู้สึกเริ่มง่วงขึ้นมา จนเปลือกตาแทบจะไม่ลืมไม่ได้แล้ว

จู่ ๆ เธอก็รู้สึกถึงอันตรายร้ายแรงขึ้นมา

“ถังเทียนหวา คุณทำอะไรกับฉัน?”

เมื่อพูดประโยคนี้จบ เย่หยุนซูก็ฟุบลงบนโต๊ะอย่างไร้เรี่ยวแรง ดวงตาค่อย ๆ มืดลง แล้วสลบไป

ถังเทียนหวาดีดนิ้วหนึ่งครั้ง บริกรคนหนึ่งก็เดินเข้ามา

“คุณเย่ไม่สบาย ช่วยประคองเธอไปพักผ่อนในห้องหน่อย”

บริกรหญิงรีบตอบตกลง แล้วประคองเย่หยุนซูเดินไปยังห้องรับรองแขกด้านหลัง

ในตอนนี้ เซียวหยางกำลังนั่งยองอยู่ในห้องน้ำ สีหน้าดูแย่มาก

“แม่งเอ้ย เล่นมุกนี้กับกูเลยเหรอ!” ดวงตาของเซียวหยางดูขุ่นเคือง

เมื่อกี้ต้องมีคนวางยาในอาหารแน่นอน

ถ้าหากเป็นยาพิษทั่วไป เซียวหยางต้องรับรู้ได้แน่นอน แต่ถังเทียนหวากลับวางยาถ่ายตัวเอง! ไม่ใช่ยาพิษสักหน่อย!

เดิมทีเขาคิดว่าถังเทียนหวาก็ถือว่าไม่ใช่ธรรมดาทั่วไป หากต้องการจัดการตัวเอง คงไม่เลือกวิธีสถุลแบบนี้แน่นอน

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าไอถังเทียนหวา แม่งเป็นแค่เด็กเปรตคนหนึ่ง

ครั้งนี้ เซียวหยางประมาทเกินไปจริง ๆ

แต่แค่ยาถ่าย เซียวหยางไม่เก็บมาใส่ใจอยู่แล้ว

เขาหยิบถุงเข็มเงินออกมาจากกระเป๋า แล้วเอาเข็มเงินออกมาแปดเล่ม

เข็มเงินมาอยู่ในมือเซียวหยางอย่างรวดเร็ว แล้วถูกแทงลงไปบนจุดฝังเข็มหลายจุด

ผ่านไปไม่ถึงสามนาที ฤทธิ์ยาในตัวเซียวหยางก็ถูกกำจัดออกไปจนหมด ของไม่สะอาดในท้องถูกขับออกนอกร่างกายจนหมดสิ้น จากนั้นเขาก็เดินออกมาจากในห้องน้ำด้วยท่าทางผ่อนคลาย

เพิ่งเดินมาถึงทางเดิน ตรงสุดทางเดินก็มีชายชราผมขาวทั้งหัวคนหนึ่งยืนอยู่ สวมชุดกังฟู รูปร่างเหยียดตรง แน่นิ่งไม่ขยับ ขวางทางเซียวหยางเอาไว้

คุณเฟิงมองเซียวหยางด้วยสีหน้าเฉยชา ในแววตาเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม

เซียวหยางไม่เคยเจอคุณเฟิงมาก่อน แต่มองแค่แวบเดียว ก็รู้ว่าชายชราคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา

ทั้งสองคนได้แต่มองหน้ากันไปมาโดยไม่ได้พูดอะไร เซียวหยางกำลังเป็นห่วงเย่หยุนซู จึงก้าวขาเดินไป

แต่คุณเฟิงกลับยื่นมือไปขวางเซียวหยางไว้

“เจ้าหนุ่ม หยุดตรงนี้ดีกว่า”

ฝีเท้าของเซียวหยางชะงักลง แล้วหันไปมองคุณเฟิงด้วยความสนใจ

“คุณเป็นใคร ทำไมต้องให้ผมหยุดด้วย?”

คุณเฟิงแสยะยิ้มออกมา ไม่เห็นเซียวหยางอยู่ในสายตาเลยสักนิด

“เจ้าหนุ่ม เพราะแกล่วงเกินคนคนหนึ่งไว้ไงล่ะ”

เซียวหยางหัวเราะออกมา “คนที่ผมล่วงเกินมีเยอะแยะไป หลีกทางเถอะ อย่าทำให้ผมโมโห”

คุณเฟิงหรี่ตาทั้งสองข้างลง “จองหองจริงด้วยแหะ แต่การจองหองก็มีราคาที่ต้องจ่าย แกล่วงเกินคุณชายถัง เขาเลยเชิญฉันมาโดยเฉพาะเพื่อให้พาแกไปดูละครที่ดีสักเรื่อง”