บทที่ 43 ไม่เอาเปรียบ

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 43 ไม่เอาเปรียบ

บทที่ 43 ไม่เอาเปรียบ

เส้นชีพจรหยินเป็นหนึ่งในแปดเส้นชีพจรพิเศษ และพวกมันเป็นส่วนสำคัญของร่างกายมนุษย์

สำหรับเส้นชีพจรที่บริสุทธิ์ของหญิงสาวนั้นเต็มไปด้วยพลัง เส้นชีพจรพลังงานจะถูกผนึก และพลังหยินล้วนมีความเย็นที่ควบแน่น ทำให้ไม่อาจเชื่อมต่อกับเส้นชีพจรหยางได้ จึงก่อตัวเป็นการไหลเวียนของเลือด

หากจะแก้ปัญหาเส้นชีพจรหยินให้ได้ ก็ต้องขุดเส้นเลือดหยิน แล้วขจัดการอุดตันในจุดชีพจรออก

เมื่อโจวอี้ตรวจสอบชีพจรของซีชิงอิ่งก่อนหน้านี้ เขาก็พบว่าอาการของเธอร้ายแรงมาก มีเส้นชีพจรและจุดที่ถูกปิดกั้นอุดตันอยู่มากมาย ทำให้พลังงานเย็นปกคลุมมากเกินไป ต้องใช้เวลานานกว่าจะรักษาเธอให้หายขาดได้

“คุณหมอเหลียน รบกวนออกไปข้างนอกและสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้ามารบกวนคุณซีได้ การรักษาเธอครั้งนี้ ผมจะให้ใครมาขัดจังหวะไม่ได้” โจวอี้สั่ง

“ฉันจะล็อกประตูห้องไว้ ป้องกันไม่ให้ใครเข้ามาค่ะ” เหลียนซานกล่าวอย่างเร่งรีบ

เธอไม่ต้องการออกไปจากห้อง เพราะต้องการจะดูว่าโจวอี้จะรักษาซีชิงอิ่งอย่างไร? เธอกังวลว่าโจวอี้จะทำอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลขึ้นมา

“ยังไงก็ได้ตามที่คุณต้องการ”

ซีชิงอิ่งถอดเสื้อออก เหลือเพียงชุดชั้นในสีขาวบนร่างกายส่วนบน เผยให้เห็นผิวอันนวลเนียนขาวผ่องราวกับไข่มุก

ชายหนุ่มไม่ได้มัวแต่ชื่นชมมัน เพราะชีพจรหยินนั้นเป็นโรคที่รักษายากที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา

แม้ชายหนุ่มจะมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตัวเอง แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะประมาทระหว่างการรักษา

หลังจากหยิบเข็มเงินออกมาแล้ว โจวอี้ไม่ได้รีบฝังเข็ม เขาวางกล่องไม้ไว้ข้าง ๆ แล้วโคจรพลังปราณเพื่อปิดฝ่ามือของเขา

ชายหนุ่มเริ่มนวดไปตามทางของเส้นลมปราณหยินและตามจุดฝังเข็ม เขาพยายามขับลมปราณหยินที่มีความเย็นควบแน่นในเส้นเลือดหยินออกไป

“อย่าขยับ!”

โจวอี้ตะโกนขึ้นขณะตบหน้าท้องอันแบนราบของซีชิงอิ่ง

ซีชิงอิ่งกำลังนอนราบอยู่บนเตียง

ในขณะที่เธอกำลังประหม่า ก็รู้สึกว่าตัวเองใจกล้ามากขึ้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสวมชุดที่เปิดเผยเรือนร่างมากขนาดนี้ต่อหน้าผู้ชาย

เมื่อได้ยินเสียงของโจวอี้ เธอก็รู้สึกเขินอาย และปลอบตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เขาเป็นหมอ ฉันเป็นคนป่วย เรากำลังรักษาโรค เขาเป็นหมอ ฉันเป็นคนป่วย…”

ในขณะเดียวกัน

เหลียนซานกำลังขมวดคิ้วและมองโจวอี้อย่างไร้ความปรานี เธอไม่เชื่อว่าโจวอี้จะสามารถรักษาโรคประหลาดของซีชิงอิ่งได้ เพราะคุณยายของเธอเคยปรึกษากับซีชิงอิ่งหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีทางที่จะรักษาเธอได้

เหลียนซานจึงไม่เชื่อว่าทักษะทางการแพทย์ของโจวอี้นั้นจะดีกว่าของคุณยาย

ยิ่งไปกว่านั้น เธอพบว่าแม้โจวอี้จะหยิบกล่องไม้ที่บรรจุเข็มเงินออกมา แต่ก็ไม่ได้มีการฝังเข็ม มีเพียงการนวดตามร่างกายเท่านั้น

แพทย์สาวรู้สึกเบื่อหน่ายกับโจวอี้ เพราะเธอรู้ว่าซีชิงอิ่งนั้นเป็นคนสวย และรู้สึกว่าโจวอี้ไม่ได้ปฏิบัติต่อเธออย่างบริสุทธิ์ใจ แต่กลับใช้ประโยชน์จากซีชิงอิ่งในการแอบลวนลามเธอ!

“พลิกตัว!” หลังจากนวดไปราวสองสามนาที โจวอี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ซีชิงอิ่งได้ยินแล้วก็ยังคงทำตาม

โจวอี้นวดต่อราวสองสามนาที จากนั้นก็สั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอีกครั้ง “ถอดกางเกงของคุณด้วย”

“ฮะ?” แก้มของซีชิงอิ่งเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เพราะไม่รู้ว่าจะเชื่อฟังโจวอี้ดีหรือไม่?

“โจวอี้ คุณทำเกินไปแล้ว!” เหลียนซานทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงดุด่าโจวอี้อย่างโกรธเคือง

“หุบปาก! ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าส่งเสียงดังตอนที่ผมกำลังรักษาคนไข้อยู่!” โจวอี้กล่าวอย่างเคร่งขรึม

“นี่คุณ…!” เหลียนซานไม่คิดว่าโจวอี้จะมีอำนาจเหนือกว่าเธอ เพราะคิดว่ารองผู้อำนวยการเพียงแค่จัดให้เธอเข้ามาช่วยเหลือโจวอี้เท่านั้น

ริมฝีปากของเธอบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

“ถอดออก!” โจวอี้ยังคงสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ซีชิงอิ่งได้ยินเสียงทุ้มเยือกเย็นของโจวอี้ และพยายามต้านทานความเขินอายของตัวเอง

และในที่สุด เธอก็ถอดกางเกงออก

ทว่าขณะที่เธอกำลังจะถอดกางเกงในออก โจวอี้ก็ตีมือเธอเบา ๆ

“คุณเป็นผู้หญิง สุภาพหน่อย! กรุณาใส่กลับเข้าไปเหมือนเดิม” โจวอี้พูดอย่างโกรธเคือง

ซีชิงอิ่งได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกโล่งใจ และในขณะเดียวกัน เธอต้องการที่จะหารอยแยกบนพื้น นึกอยากมุดตัวเองหนีไปเพื่อซ่อนความอับอาย

ในขณะที่เหลียนซานเห็นดังนั้นก็รู้สึกรังเกียจโจวอี้น้อยลงบ้างแล้ว

โจวอี้นวดต่อไปโดยเริ่มจากข้อเท้า ไล่มาตามชีพจรหยิน ส่งผลให้ร่างกายของซีชิงอิ่งถึงกับสั่น

“อย่าสั่น ให้อดทนต่ออาการคัน” โจวอี้สั่งเธอ

หกนาทีต่อมา…

ชายหนุ่มหยุดนวด และถามขึ้นว่า “คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?”

“มันอบอุ่นและสบาย” เสียงของซีชิงอิ่งฟังดูสั่น แต่ก็เธอพูดความจริงออกมา

“ต่อไปนี้ผมจะเริ่มฝังเข็มแล้ว มันจะเจ็บนิดหน่อย พยายามอดทนด้วยนะครับ”

“อืม!”

โจวอี้หยิบเข็มเงินออกมาแล้วแทงเข้าไปในจุดชีพจรเท้า

จากนั้นเข็มเงินก็เจาะเข้าไปยังตำแหน่งเก้าจุดชีพจรของ จ้าวห่าย*[1] จุดจงตู*[2] ตี้จี*[3] และยินหลิงเฉวียน *[4] ตามลำดับ

เขาฝังเข็มซ้ำที่ขาทั้งสองข้างอีกสามครั้ง…

ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากที่โจวอี้ดึงเข็มเงินทั้งหมดออก เหงื่อก็ผุดพรายขึ้นมาบนหน้าผากเขา

ชายหนุ่มตบลงบนน่องของซีชิงอิ่ง และเอ่ยด้วยความเหนื่อยล้าเล็กน้อย “โอเค ลุกขึ้นและแต่งตัวได้”

ซีชิงอิ่งลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและสวมเสื้อผ้า จากนั้นก็รู้สึกโล่งใจ…

เวลานี้เธอรู้สึกสบายตัวมาก

ร่างกายของเธอเหมือนมีกระแสน้ำอุ่นที่ไหลเวียนอยู่รอบกาย โดยเฉพาะขาทั้งสองข้างที่ได้รับการฝังเข็ม มันรู้สึกชัดเจนขึ้นราวกับว่าได้ปล่อยความร้อนจากภายในออกสู่ภายนอก

เธอไม่เคยสัมผัสความรู้สึกนี้มาก่อน!

“คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?” โจวอี้ถาม

“ไม่หนาวเลย สบายมาก สบายตัวที่สุดแล้วตั้งแต่จำความได้” สีหน้าของซีชิงอิ่งเต็มไปด้วยความสุข และถามออกไปว่า “ปัญหาชีพจรหยินของฉันได้รับการแก้ไขแล้ว?”

“อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสามเดือนในการรักษาชีพจรหยินอย่างละเอียดถี่ถ้วน ต้องใช้การนวดและการฝังเข็มถึงสิบครั้ง ฟังให้ชัดนะ ‘อย่างน้อย’ ผมหมายถึง ‘อย่างน้อย’” โจวอี้อธิบายอย่างจริงจัง

“ไม่เป็นไร สามเดือนก็คือสามเดือน ตราบใดที่สามารถรักษาให้หายได้ ฉันยินดีที่จะทำ ถึงจะสามปีก็ยังได้!” ซีชิงอิ่งยิ้มทั้งน้ำตา เธอมองโจวอี้ด้วยความซาบซึ้ง

“นี่เป็นความคิดที่ดี ไปจ่ายเงินซะ! เหลียนซาน คุณเขียนใบเสร็จให้เธอสิ” โจวอี้โบกมือออกคำสั่ง

“ฮะ?”

เหลียนซานตื่นจากความสับสน ก่อนจะมองโจวอี้ด้วยสายตาว่างเปล่า

ตอนที่โจวอี้นวดให้ซีชิงอิ่ง เธอคิดว่าชายหนุ่มฉวยโอกาศคุกคามทางเพศ ทว่านับตั้งแต่เห็นการฝังเข็ม หัวใจของเธอก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง

“ทำอะไรอยู่ รีบเขียนใบจ่ายเงินสิ!” โจวอี้ขมวดคิ้ว

“แล้วเราจะจัดการยังไง? โรงพยาบาลของเราไม่มีมาตรฐานการจ่ายเงินสำหรับการรักษาโรคชีพจรหยิน!” เหลียนซานพึมพำ

“ไม่มีเหรอ?!”

โจวอี้ตกตะลึง จากนั้นเขาก็โบกมือและพูดว่า “งั้นไปถามรองผู้อำนวยการเฉิน ผมก็ไม่รู้ว่าจะเรียกเก็บเงินยังไง?”

“โอเค! ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” เหลียนซานตอบรับ แต่ฝีเท้าของเธอยังคงไม่ขยับ

“ไปถามมา!” โจวอี้คิดว่าเหลียนซานมีปัญหา ดูเหมือนว่าเธอไม่มีคุณสมบัติพอที่จะช่วยเขาได้

เหลียนซานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ยอมหันหลังเดินออกไป

ทว่าเมื่อเธอมาถึงประตูห้องก็หันกลับมาอีกครั้ง ราวกับว่าเธอสามารถรวบรวมความกล้าขึ้นมาได้ ก่อนจะถามขึ้นว่า “หมอโจว เทคนิคการฝังเข็มที่คุณใช้คือเก้าเข็มมรณะใช่ไหม?”

“คุณรู้จักเก้าเข็มมรณะด้วยเหรอ?” โจวอี้ถามด้วยความประหลาดใจ

“ใช่ ฉันรู้!” เหลียนซานตอบอย่างกระตือรือร้น

“คุณเคยเห็นที่ไหน?” โจวอี้รู้สึกสงสัยเล็กน้อย เพราะนอกจากอาจารย์ของเขาแล้วก็ดูเหมือนว่าจะมีเพียงลุงของเขาที่หายตัวไปนานหลายสิบปี

“ในเมืองหลวง ตอนที่ฉันอายุประมาณหกหรือเจ็ดขวบ ฉันตามคุณยายไปที่โรงพยาบาลยาจีนในเมืองหลวง ฉันเห็นหมอคนหนึ่งเป็นหมอผี และกำลังช่วยชีวิตคนไข้จากโรคประหลาดด้วยการใช้เก้าเข็มมรณะ” เหลียนซานเล่าออกมา

“คุณมีความจำที่ดีนะ คุณยังคงจำสิ่งต่าง ๆ ได้แม้ตอนที่คุณอายุหกเจ็ดขวบ” โจวอี้แทบอดที่จะกลอกตาไม่ได้

ใครจะไปจำเหตุการณ์เมื่อ ยี่สิบกว่าปีที่แล้วได้บ้าง? เว้นแต่คนที่จำนั้นจะต้องมีความประทับใจอย่างมากต่อสิ่งที่พบ

“แล้วหมอผีนั่นชื่ออะไร?”

“นามสกุลของเขาคือฉู่” เหลียนซานกล่าว “คุณไม่ได้โกหกฉันใช่ไหมเรื่องวิชานี้”

โจวอี้โบกมือและพูดว่า “ผมใช้วิชาเก้าเข็มมรณะ อย่าเพิ่งถามรายละเอียดเลย ตอนนี้ไปถามวิธีการจ่ายเงินมา!”

“โทรไปก็ได้…”

[1] จุดฝังเข็มบริเวณแอ่งขอบล่างของตาตุ่มใน ใช้รักษาอาการ ตาอักเสบ คอแห้ง เจ็บคอ รอบเดือนผิดปกติ ตกขาวปนเลือด มดลูกหย่อน ไส้เลื่อน ปัสสาวะหยด ปัสสาวะไม่ออก และลมชัก

[2] จุดพลังปราณของเส้นตับ อยู่บริเวณขาด้านใน เหนือยอดตาตุ่มใน 7 ชุ่น ตรงกลางกระดูกแข้ง ใช้รักษาอาการไส้เลื่อน ท้องเสีย ปวดท้องน้อยด้านข้าง ประจำเดือนมามาก ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย และน้ำคาวปลาไม่แห้ง

[3] จุดพลังปราณของเส้นม้าม อยู่ที่ขาด้านใน ใต้ยินหลิงเฉฺวียน 3 ชุ่น ตรงขอบหลังของกระดูกแข้ง ใช้รักษาอาการปวดท้อง ท้องเสีย รอบเดือนผิดปกติ และไส้เลื่อน

[4] จุดเหอของเส้นม้าม อยู่บริเวณขาด้านใน ตรงร่องระหว่างรอยต่อแนวขอบล่างของปุ่มด้านในกระดูกหน้าแข้งกับขอบในของกระดูกแข้ง ใช้รักษาอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสีย บวมน้ำ ปวดอวัยวะเพศสตรี ปวดประจำเดือน ปัสสาวะขัด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะรดที่นอน ฝันเปียก ปวดเอว และปวดบวมเข่า