ตอนที่ 72 คุณกำลังล้อผมเล่นใช่ไหม

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

ตอนที่ 72 คุณกำลังล้อผมเล่นใช่ไหม

ขณะที่ทุกคนกำลังยอมรับในตัวไป๋เยี่ยอยู่นั้น จู่ๆ เสียงแจ้งเตือนจากระบบก็ดังขึ้น ทำเอาไป๋เยี่ยนิ่งไปชั่วขณะ มีภารกิจใหม่เหรอ

[ติ๊ง! เริ่มภารกิจท้าทายและรับรางวัลตามระดับความยากของภารกิจ]

[ติ๊ง! ภารกิจขั้นต้น: ทำความเข้าใจสารอาร์เทแอนนิวอินโดยการเข้าหาถูโยว

คำใบ้: ถูโยวเป็นตัวแทนบุคลากรด้านการแพทย์แผนจีนสมัยใหม่ เธอค้นพบอาร์เทแอนนิวอินโดยใช้เทคโนโลยีและวิธีการทดลองที่ทันสมัยโดยอิงตามหลักการรักษาโรคมาลาเรียทางการแพทย์แผนจีนและเผยแพร่ผลการรักษานี้ออกไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ทำให้เธอช่วยชีวิตผู้ป่วยมาลาเรียไว้ได้สองร้อยห้าสิบล้านคน

ภารกิจ: ตีพิมพ์เอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับอาร์เทแอนนิวอินภายระยะเวลาในหนึ่งเดือนนี้ รางวัลขึ้นอยู่กับคุณภาพของงานวิจัยและจำนวนหน้ากระดาษ! (จำกัดเวลาหนึ่งเดือน)]

[ติ๊ง! ภารกิจขั้นต้น: พิชิตใจสมาชิกของกลุ่มทดลองแต่ละกลุ่ม ใช้ความสามารถของคุณพิสูจน์ตนเองโดยไม่ให้พวกเขามองว่าคุณเป็นเพียงเด็กเรียนคนหนึ่ง คุณต้องพิชิตใจพวกเขาด้วยความสามารถและความรู้ ซึ่งนี่ถือเป็นวิถีแห่งเด็กเรียนที่แท้จริง

รางวัลภารกิจ: แต้มสมาชิก 40 แต้ม โอกาสจับรางวัลระดับ 4 ดาวจำนวนหนึ่งครั้ง (จำกัดเวลาหนึ่งเดือน)]

[ติ๊ง! ภารกิจขั้นกลาง: ได้เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการวิจัยขนาดใหญ่ครั้งนี้ (เจ็ดอันดับแรกตามลำดับ)

รางวัลภารกิจ: แต้มสมาชิก 60 แต้ม ค่าประสบการณ์มากมาย และโอกาสจับรางวัลระดับ 4 ดาวจำนวนหนึ่งครั้ง (จำกัดเวลาหนึ่งเดือน)]

[ติ๊ง! ภารกิจขั้นสูง: พัฒนาสารประกอบอาร์เทแอนนิวอินเพื่อยับยั้งการกลายพันธุ์ของพลาสโมเดียมในปัจจุบัน

รางวัลภารกิจ: แต้มสมาชิก 80 แต้ม ค่าประสบการณ์มากมาย และโอกาสจับรางวัลระดับ 4 ดาวจำนวนหนึ่งครั้ง (จำกัดเวลาหนึ่งเดือน)]

[ติ๊ง! ภารกิจขั้นสูงสุด: ทำความเข้าใจแนวคิดและแนวทางการบูรณาการการแพทย์แผนจีนและแผนปัจจุบัน และใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการส่งเสริมความสำเร็จด้านการแพทย์แผนจีนจนได้รับการยอมรับจากทั่วโลก รางวัลจะถูกกำหนดตามอิทธิพลที่ได้รับ

รางวัลภารกิจ: แต้มสมาชิก 100 แต้ม ค่าประสบการณ์มหาศาล และโอกาสจับรางวัลระดับ 5 ดาวจำนวนหนึ่งครั้ง (จำกัดเวลาครึ่งปี)]

ภารกิจจากระบบทำเอาไป๋เยี่ยอยากหลับตาลง นี่มันอะไรวะเนี่ย ใครจะไปทำได้กันวะ!

ภารกิจท้าทายอะไรนี่ต้องท้าทายกันขนาดนี้เลยเหรอ

ให้เป็นเด็กฝึกงานธรรมดาๆ ไม่ได้หรือไง แค่ภารกิจที่ง่ายที่สุดยังให้ตีพิมพ์ธีสิสเรื่องอาร์เทแอนนิวอินคู่กับถูโยวเลย!

คิดว่าธีสิสเป็นแค่การบ้านปิดเทอมของเด็กประถมหรือไง เดินเข้าร้านหนังสือซินหัวก็ได้คำตอบแล้วมั้ง!

ไป๋เยี่ยถอนหายใจ ภารกิจขั้นต่อๆ ไปทำให้ไป๋เยี่ยรู้สึกเขวเล็กน้อย

พิชิตใจนักวิจัยพวกนี้กลุ่มนี้หมายความว่าไง แบบไหนถึงจะเรียกว่าพิชิต ให้คุกเข่าลงแล้วขอให้ใจอ่อนนี่นับไหม! จะให้เด็กป.ตรีอ่อนหัดที่ยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำอย่างเราไปพิชิตใจพวกยอดมนุษย์ที่จบจากมหา’ลัยดังๆ ทั่วโลกเนี่ยนะ เหอะๆๆ…

ส่วนอันสุดท้าย…เป็นเจ็ดอันดับแรกที่ได้เข้าร่วมโครงการ ไป๋เยี่ยอยากจะข้ามข้อนี้ไปเสียจริงๆ เพราะอะไรน่ะเหรอ

คุณรู้เหรอว่ามันคือโครงการอะไร

ก็แหงน่ะสิ คุณไม่รู้หรอก!

เพราะไป๋เยี่ยก็รู้ว่านี่เป็นโครงการวิจัยร่วมของหลายประเทศเกี่ยวกับพลาสโมเดียมที่กลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ซึ่งถูกเรียกว่า: แผน NCKKB!

มันไม่ใช่แค่โครงการวิจัย แต่เป็นแผนการดำเนินงานขององค์การอนามัยโลก!

อยากให้ติดท็อปเจ็ด แต่เคยถามความรู้สึกถูโยวยัง เออ! ไม่เคยหรอก! เหอะๆๆ…

ภารกิจสุดท้ายก็ช่างมันไปแล้วกัน ไป๋เยี่ยปิดหน้าจอโปร่งแสงลงทันที ไม่เห็นก็ไม่หงุดหงิดละ เราเป็นเด็กเรียนก็จริง แต่ก็ไม่ใช่พระเจ้าซะหน่อย ไอ้ระบบนี่…

นี่เหรอภารกิจที่ให้คนทำน่ะ

เฮ้อ… ไป๋เยี่ยถอนหายใจ ให้ใช้การแพทย์สมัยใหม่พิสูจน์ความสำเร็จทางทฤษฎีของการแพทย์แผนจีนภายในเวลาแค่ครึ่งปี แล้วต้องได้รับการยอมรับจากทั่วโลกด้วย!

ไป๋เยี่ยถอนหายใจ เขาหมดคำพูดกับภารกิจเหล่านี้จริงๆ ระบบมันไม่รู้หรือไงว่าเราควรจะเริ่มตั้งเป้าหมายเล็กๆ ให้ตัวเองก่อนน่ะ

อืม! ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ให้กับตัวเองอย่างได้รับรางวัลโนเบลอะไรประมาณนั้นน่ะ!

ค่อยดูสมเหตุสมผลหน่อยไหม

ทว่าบ่นไปก็เท่านั้น เพราะว่าตารางเวลาของไป๋เยี่ยแน่นมาก

วันต่อมา ไป๋เยี่ยแบ่งเวลาของเขาในแต่ละวันออกเป็นส่วน ส่วนละสามชั่วโมง

ตอนเช้าตรู่ เวลาหกโมงถึงเก้าโมง: ให้อาหารหนูทดลอง

ตอนสาย เวลาเก้าโมงถึงเที่ยง: ไปบันทึกผลการทดลองของกลุ่มที่หนึ่ง

ตอนบ่าย เวลาเที่ยงถึงบ่ายสามโมง: ไปที่เก็บอุปกรณ์ทดลองของกลุ่มที่สอง และกลับไปให้อาหารหนูที่กลุ่มที่ห้า

ช่วงเย็น เวลาบ่ายสามโมงถึงหกโมงเย็น: ไปบันทึกผลการทดลองของกลุ่มที่หนึ่งอีกครั้ง

ช่วงค่ำ เวลาหกโมงเย็นถึงสามทุ่ม: ไปบันทึกผลการทดลองของปีที่แล้วกับกลุ่มที่สาม

ส่วนอีกสามชั่วโมงที่เหลือเป็นเวลาของไป๋เยี่ย

ไป๋เยี่ยไม่กล้าทำตัวผ่อนคลาย เพราะว่าเขามีเวลาจำกัดเกินไป กว่าจะบรรลุผลสำเร็จได้ก็ต้องอาศัยทั้งเวลาและความมุ่งมั่น

ไป๋เยี่ยตื่นแต่เช้าไปให้อาหารหนูทดลอง หนูที่ตัวใหญ่ที่สุดมีความยาวเกือบสามสิบเซนติเมตรและมีน้ำหนักประมาณสามร้อยกรัม แถมยังมีหนูตัวอื่นๆ อีกตั้งหลายตัว

อาหารหนูจะถูกผลิตขึ้นเป็นล็อตพิเศษโดยบริษัทยาที่ทางแล็บซื้อไว้ ซึ่งไป๋เยี่ยจะมีเวลาพักผ่อนหลังจากให้อาหารหนูเสร็จพักหนึ่ง

ทันใดนั้น ไป๋เยี่ยก็นึกขึ้นได้ว่าทั้งวิชากายวิภาคศาสตร์และวิชาสรีรวิทยาของเขานั้นขึ้นเลเวลสามแล้วซึ่งแปลว่าเขาอ่าน ‘คู่มือเลี้ยงหนู’ ได้แล้ว!

คิดได้ดังนั้นไป๋เยี่ยก็เปิดหนังสือขึ้นมา ในหนังสือแนะนำหนูทั้งสิบห้าสายพันธุ์ที่นิยมใช้เป็นหนูทดลอง รวมถึงนิสัยการใช้ชีวิตและวิธีลดความแตกต่างระหว่างหนูแต่ละชนิด วิธีให้อาหาร และวิธีสร้างแบบจำลอง

ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือวิธีสร้างแบบจำลอง!

ไป๋เยี่ยหาเวลาว่างอ่านหนังสือเล่มนั้นแล้วจึงไปที่กลุ่มหนึ่งเพื่อบันทึกผลการทดลองในตอนเช้า

การทดลองนี้ถือเป็นงานที่มีความยากและต้องอาศัยความตั้งใจมาก ทำเอาไป๋เยี่ยอดชื่นชมคนกลุ่มนี้ไม่ได้

การจะพัฒนาสารอาร์เทแอนนิวอินจากสารตั้งต้นพื้นฐานโยยึดตามวัตถุประสงค์หลักถือเป็นเรื่องยาก

ก่อนอื่นพวกเขาจำเป็นต้องหาวิธีการแปลงสารอาร์เทแอนนิวอินเป็นโมเลกุลชนิดใหม่ เช่นเดียวกับการแปลงสารไดไฮโดรอาร์เทแอนนิวอิน

กลุ่มที่หนึ่งเริ่มสกัดอาร์เทแอนนิวอินจากต้นโกฐจุฬาลำพา ซึ่งขั้นตอนนี้มีกระบวนการหลายขั้นตอนมาก ขณะเดียวกันก็มีไป๋เยี่ยคอยช่วยบันทึกรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ เช่นคุณสมบัติพิเศษของสารอาร์เทแอนนิวอินคือละลายได้ดีในเอทานอลและอีเทอร์ ละลายได้เล็กน้อยในสารสกัดปิโตรเลียมเย็น และไม่ละลายในน้ำ และเพราะว่าสารชนิดนี้เป็นสารในกลุ่มเปอร์ออกซีที่มีลักษณะพิเศษ จึงทนความร้อนได้ไม่มากและสลายโมเลกุลได้ง่าย

นี่ยังเป็นเพียงก้าวแรกของการทดลองเท่านั้น หนทางของพวกเขายังมีอีกยาวไกล พวกเขาจะต้องประมวลผลส่วนประกอบของสารอาร์เทแอนนิวอินดั้งเดิมเพื่อสังเคราะห์สารอาร์เทแอนนิวอินชนิดเอขึ้นใหม่โดยใช้การสังเคราะห์ทางชีวภาพ

นับเป็นเรื่องยากที่จะทำการสังเคราะห์ทางชีวภาพกับโมเลกุลเชิงซ้อนที่มีปริมาณไม่มากนัก อีกทั้งจะต้องคงคุณสมบัติของสารดั้งเดิมไว้ด้วย ยิ่งหากจะพัฒนาสารอาร์เทแอนนิวอินชนิดเอก็ยิ่งเป็นเรื่องยากเข้าไปใหญ่

พวกเขาทดลองและล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า จนแม้แต่ไป๋เยี่ยเองที่ยืนบันทึกผลการทดลองก็ไม่รู้ตัวว่าตนเองเปลืองกระดาษไปกี่แผ่นแล้ว ไม่รู้แม้แต่ว่าในเครื่องคิดเลขมีประวัติการคำนวณค่าต่างๆ เยอะแค่ไหน

ไป๋เยี่ยไม่พูดอะไรแล้วก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตนเองต่อไปอย่างเงียบๆ เพราะว่าการได้รับความรู้อย่างสม่ำเสมอจะทำให้พัฒนาตนเองได้เร็วยิ่งขึ้น

ไป๋เยี่ยจะจดบันทึกชื่อสารใหม่ๆ ที่เขาเพิ่งเคยได้ยินลงบนกระดาษเสมอ หลังจากเลิกงานในห้องแล็บ เขาจะกลับมาค้นคว้าเอกสารงานวิจัยต่างๆ แม้ว่างานนี้จะค่อนข้างกดดัน แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าตนเองพัฒนาได้ไวมาก!

ต่อไปเขาจะต้องไปทำความสะอาดอุปกรณ์การทดลองที่ถูกใช้งานแล้วกับกลุ่มที่สอง มีอุปกรณ์และวัสดุมากมายที่ต้องทิ้งไปเพราะจะทำให้ผลการทดลองคลาดเคลื่อนได้ แล้วยังมีอุปกรณ์บางประเภทที่ต้องเก็บรักษาให้ดีอีกด้วย โดยไป๋เยี่ยจะต้องเป็นคนเช็กอุปกรณ์ทั้งหมดนั้นอีกที

ส่วนนักวิจัยคนอื่นๆ ก็ต้องเก็บรักษาอุปกรณ์ไว้ให้ดีเช่นกัน

พอตกเย็น ไป๋เยี่ยก็จะรีบไปหาอะไรกินเพราะเขาจะต้องไปบันทึกข้อมูลของปีที่แล้วต่อ ซึ่งมีทั้งแบบสำรวจ ทั้งการวิเคราะห์ย้อนหลัง และผลการทดลองอีกมากมาย

ไป๋เยี่ยจัดหมวดหมู่ข้อมูลเหล่านั้นตามประเภท จัดเก็บเอกสารต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว โดยไป๋เยี่ยจะรวบรวมเอกสารเหล่านั้นไว้ศึกษาและวิเคราะห์ต่อในเวลาว่างด้วย